เทศกาล ปากพาจน และจิตวิทยาการขอ
สวัสดีครับ... พี่น้องชาว G2K ทุกท่าน ^^
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ไงก็ดูแลสุขภาพกันด้วยนะครับ
วันนี้มาดึกนิดส์นึง พอดีแอบหลับเพราะเหนื่อยจากการเดินทางครับ
ว่าแล้วก็เข้าเรื่องของวันนี้กันดีกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของเพื่อนสาวของผมครับ
ไม่ใช่ใครที่ไหนชาว G2K น่าจะรู้จักเธอกันมาบ้างแล้ว และน่าจะเคยอ่านงานดีๆของเธอด้วย
ครับ... เธอคนนี้คือ "แป้งจัง" นั้นเอง แป้งทำ AI เรื่อง Female Marketing อยุ่ครับ
ใครสนใจอ่านงานของแป้งก็ >>> คลิกตรงนี้ได้เลยครับ <<< และก็ขอบคุณแป้งสำหรับเคสนี้ด้วยนะจ๊ะ ^^
เรื่องมีอยู่ว่า... วันนั้นเราก็ไปหา อ.ภิญโญ กันที่ห้องสมุดคณะกับเพื่อนๆอีก 3-4 คนครับ แป้งเลยเล่าเคสนี้ให้ฟัง
แป้งเล่าว่า "ตอนนั้นใกล้เทศกาลตรุษจีน ก็มีพนักงานของธนาคารชื่อดังแห่งหนึ่ง เข้ามาพบปะลูกค้า เพื่อที่จะ
อวยพร พร้อมกับเสนอบริการใหม่ของทางธนาคารให้กับคนทั่วไปทราบ ทีนี้พนักงานคนหนึ่งก็เข้ามาที่ร้านของแป้ง
พร้อมกับพูดว่า "ไม่ทราบว่าคุณเป็นลูกค้าของธนาคารเราหรือป่าวครับ... ถ้าเป็นเราจะอวยพรให้" แป้งแบบว่า งง มาก
ทีนี้ป๊าก็เดินมาบ่นกับแป้งว่า "ทำไมเขาพูดแบบนี้" พร้อมกับโยนโบชัวใบนั้นทิ้งลงถังขยะทันที ทั้งที่ยังไม่ทันได้อะไรเปิดดูด้วยซ้ำ"
ตัดมาที่จุดนี้ครับ... มาดูกันครับว่า เคสนี้ให้อะไรกับเราบ้าง... ตามผมมาครับ ^^
จะเห็นได้ว่า... สิ่งที่ทำให้พ่อของแป้งไม่พอใจก็คือ "คำพูดที่พนักงานคนดังกล่าวใช้" โดยเฉพาะคำว่า "เรา...จะ...อวยพร"
จุดนี้บอกได้คำเดียวครับว่า"พลาดจริงๆ"สำหรับพนักงานท่านนี้ คำพูดของเขาได้ทำการ"ไล่"คนที่อาจจะเป็นลูกค้าในอนาคตไปซะแล้ว
สังเกตได้จากใบโบชัวที่ลงสู่ถังขยะทันทีที่พ่อของแป้งได้รับ (ดีที่ไม่ทิ้งต่อหน้า) แล้วผมมั่นใจเลยครับ ว่าพ่อของแป้งไม่มีวันเข้าไป
ใช้บริการของธนาคารแห่งนี้แน่นอน แทนที่การลงพื้นที่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกดีกับธนาคาร กลายเป็นทำให้ลูกค้ารู้สึกแย่ถึงขนาดที่ว่า
จะไม่ใช้บริการแน่ๆซะอย่างงั้น เหนือยฟรี ลูกค้าหาย เพราะปากแท้ๆ แบบนี้คงตรงกับสุถาษิตไทยที่ว่า "ปากพาจน" นั้นละครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ... กับ "การขอด้วยคำพูด" แบบเคสนี้ ความรู้สึกด้านลบคงแก้ยากครับ แต่... สิ่งที่พนักงานท่านนี้ควรทำรวมถึง
ทีมที่ออกพื้นที่คือ"ต้องระมัดระวังคำพูด"ครับ... ลองคิดดูครับว่า ถ้าเขาเปลี่ยนคำพูดจาก "...คุณเป็นลูกค้าของธนาคารเราหรือป่าว
ถ้าเป็นเราจะอวยพรให้" มาเป็น "ธนาคารของเรา ขออวยพรท่านในเทศกาลตรุษจีนนี้ วันนี้เรามีบริการใหม่มานำเสนอครับ...."
เอิร์ทว่าพ่อแป้งคงจะรู้สึกดีที่ว่า อยู่ดีๆใครก็ไม่รู้มาอวยพรให้ และท่านน่าจะให้โอกาสธนาคารแห่งนี้ครับ ท่านคงจะพูดกับแป้งว่า
"ไหนเอาโบชัวมาดูซิ ธนาคารนี้เขาทำอะไรใหม่เหรอ เผื่อจะได้ใช้บริการบ้าง" ลองนำไปปรับใช้กันดูครับ... "การขอด้วยคำพูด"
เป็นสิ่งสำคัญ และต้องระมัดระวังให้มากครับ เพราะลูกค้าจะมองเราในแง่ดี หรือร้าย มันอยู่ที่คำพูดที่เขาได้ยินทั้งนั้น... จริงไหมครับ
แล้วคุณละคิดยังไง ^^
ท่านที่สนใจจะอ่านเคส"จิตวิทยาการขอ"ที่เกี่ยวกับ ธุรกิจเพิ่มเติ่ม
สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ >>> AI-Positive Psychology For Business ( จิตวิทยาการขอสำหรับธุรกิจ ) <<<
ใน AI-The Psychology of Persuasion For Business ( จิตวิทยาการสร้างแรงจูงใจสำหรับธุรกิจ )
ความเห็น (11)
ถ้าเป็น จะ อวยพรให้
ถ้าผมเจอเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าผมเป็นลูกค้าจริง ผมก็แทบไม่อยากบอกเขาเลยครับ ความรู้สึกมันบอกว่า
1. เขาไม่ให้เกียรติเรา
2. เขาทำงานแบบมั่วๆ
3. เขามีแต่จะเอา
ประมาณนั้น ครับ
อยู่ที่การใช้คำพูดจริงๆค่ะ (ไม่งั้นเราจะต้องเรียนวิชาภาษาไทยไปทำไมอ่ะค้า เนอะ)
คิดก่อนพูดดีที่สุดค่ะ ^^
"อยู่คนเดียว ให้ระวังความคิด อยู่หลายคนให้ระวังคำพูด"
คำพูดเพียงคำเดียว บางครั้งอาจฆ่าผู้อื่นได้ และบางทีก็อาจฆ่าตัวเองได้เช่นกันค่ะ ^^
สวัสดีครับคุณเอิร์ท
ผมชอบอ่านจิตวิทยาการขอที่คุณเขียน บางทีผู้บริหารต้องเรียงร้อยคำพูดให้เป็น แทนที่จะสั่งกลับเปลี่ยนเป็นขอร้อง
น่าจะได้ผลกว่า จะติดตามอ่านครับ
สวัสดีครับอาจารย์ small_man
ใช่ครับ... นี้ขนาดอาจารย์คิดว่าเป็นลูกค้าของเขานะ ยังคิดขนาดนี้ แต่พ่อของแป้งไม่ได้เป็นนี้ซิครับ ความรู้สึกคงจะยากที่จะบรรยาย ^^
สวัสดีครับพี่หนึ่ง
ถูกเลยครับที่หนึ่ง เอิร์ทชอบประโยคนี้ของพี่หนึ่งมากๆ "คำพูดเพียงคำเดียว บางครั้งอาจฆ่าผู้อื่นได้ และบางทีก็อาจฆ่าตัวเองได้เช่นกัน" เคสนี้ทั้งฆ่าตัวเอง และก็ฆ่าบริษัทเลยครับ เจ็บปวดจริงๆ ^^
สวัสดีครับอาจารย์พรชัย
ขอบคุณอาจารย์มากครับที่ชอบงานของผม คำพูดคำจาสำคัญจริงๆครับ เปลี่ยนจากสั่งเป็นขอรองจะเวิร์คมากๆกับผู้ชายครับ
ส่วนผู้หญฺงการสั่งจะไม่ทำให้ผลที่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร แต่ต้องแนะแนวทางให้ชัดเจนครับ ไม่ใช่สั่งแบบคลุมเคลือ ไม่งั้น
พวกเธอจะไม่พอใจคำสั่งของท่านอย่างแน่นอนครับ อันนี้ต้องระวังนิดส์นึงครับ ^^
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาครับ แสดงความเห็น/แชร์ประสบการณ์กันได้เต็มที่เลยนะครับ ^^
- แค่คำพูดคำเดียวคือคำว่า "จะ"
- ก็ทำให้ความน่าฟังของประโยคนี่เปลี่ยนแปลงไปเลยนะค่ะ
- หลังจากโยนทิ้งลงขยะก็ได้เกิดการสนทนากันระหว่าง ป๊า กับ ม๊า ค่ะ
- ใจความเป็นแง่ไหนก็คงรู้ๆกันอยู่นะค่ะ ^_^
- ขอบคุณที่ให้ เครดิตค่ะ
สวัสดีค่ะ
ภาษาไทย มันดิ้นกระดุ๊กกระดิ๊ก... ใช้ผิดที่ผิดทาง ผิดคน ผิดจังหวะ และเวลา ความหมายก็เปลี่ยนไปเลย ต้องระมัดระวังอย่างที่คุณไพรัชช์ กล่าวไว้....
ดังนั้น ก่อนที่จะพูดอะไรออกไป ต้องคิดก่อน และต้องคิดอย่างรอบคอบ มิฉะนั้นอาจเกิดความผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง....
และขอขอบคุณ คุณเอิร์ท ที่ให้เกีบรติเข้าไปทักทายครูใจดี และเป็นกำลังใจให้ลูกศิษย์ของครูใจดีอีกด้วย ยินดีที่ได้รู้จัก และดีใจที่ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ค่ะ
ใช่ครับ
แต่ที่ข้อเสียในเรื่องการสื่อสารของพนักงานธนาคารคนนั้น ก็ทำให้เราเกิด AI นิครับ
หมายความว่า ถ้าคุณเอิร์ทกับบคุณแป้ง หรือทุกคน ศึกษากันต่อเรื่องการขอด้วยการพูด (การพูดดีในการเรียกลูกค้า)
เราก็จะสามารถอยู่ในใจลูกค้าได้ไม่ยากครับ
ถ้าเพียงแต่พนักงานคนนั้น คิดก่อนพูด และ แคร์ความรู้สึกของคนฟัง
อะไรๆน่าจะดีกว่านี้คะ
สวัสดีแป้ง
ไม่เป็นไรจ้า... ต้องขอบคุณแป้งมากกว่าที่ให้เคสดีๆแบบนี้มาลง ^^
สวัสดีคุณครูใจดี
ยินดี เหมือนกันครับ... ที่คุณครูใจดีแวะมาคอมเม้นให้ผมแบบนี้ ว่างๆก็แวะมาทักทายกันอีกนะครับ ^^
สวัสดีพี่จ๊อบ
ถูกครับ พี่... เคสนี้ถ้ามองเป็น AI ก็คือ การพูดครั้งไหนที่ทำให้เรารู้สึกดีแล้วตัดสินใจซื้อสินค้าทันที ขอบคุณที่แนะนำครับพี่ ^^
สวัสดีหนิง
ใช่เลยหนิง... เหมือนพูดไม่คอ่ยได้คิดไตรตรองอะไรก่อนหนะ ผลเลยออกมาแย่แบบนี้ คำนี้สำคัญจริงๆ ^^
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขอบ คุณทุกท่านที่แวะมาครับ แสดงความเห็น/แชร์ประสบการณ์กันได้เต็มที่เลยนะครับ ^^
โอ้ว...ฟังแล้วสยอง
ดับอนาคตของธนาคารไปเยอะเลยนะเนี่ย
สวัสดีชาม
ใช่ๆ ธนาคารนั้นอนาคตดับวูบเชียวละ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาครับ แสดงความเห็น/แชร์ประสบการณ์กันได้เต็มที่เลยนะครับ ^^