พินัยกรรม....ทำแล้วตายไปลูกหลายจะฆ่ากันป่าว


พี่ชายคนโตเรียกประชุมน้องๆบอกว่าแม่ทำพินัยกรรมให้ตนเป็นผู้จัดการมรดก น้องสาวที่ดูแลแม่บอกว่าแม่ก็ให้ตนเป็นผู้จัดการมรดก เป็นเรื่องเลยครับ ต้องการทนายด่วน!

กลับมาตามคำมั่นครับทุกวันอังคาร

พินัยกรรม....ทำแล้วตายไปลูกหลายจะฆ่ากันป่าว

  

ท่านที่พอมีทรัพย์สินและในภายหน้าจะต้องส่งต่อไปยังลูกหลานซึ่งเป็นทายาททั้งหลายเคยคิดถึงเรื่องนี้บ้างไหมครับ

ขณะท่านยังจะพอจัดการทรัพย์สินของท่านได้อยู่เคยคิดที่จะเรียกประชุมลูกหลานเพื่อแจ้งให้เข้าใจและทราบไว้หรือไม่ว่าเมื่อท่านไม่อยู่แล้วทรัพย์สินของท่านที่มีอยู่หรืออาจมีเพิ่มเติมในภายหน้าจะให้จัดการอย่างไร แบ่งปันให้ใครบ้างเพราะเหตุใด ลูกหลานพี่น้องจะได้ไม่ต้องมาผิดใจกัน ท่านได้ทำพินัยกรรมไว้หรือไม่อย่างไรใครเก็บรักษาพินัยกรรมไว้กำหนดให้เปิดอ่านกันเมื่อไหร่ หากมีปัญหากันจะให้ฟังการตัดสินใจของใครเป็นที่สุด โดยไม่ต้องพึ่งพาศาล

 

ผมว่าไว้อย่างนี้เพราะมีคดีอยู่คดีหนึ่งเกิดเหตุเมื่อประมาณ ปี 2531 พี่น้องเกือบจะฆ่ากันเพราะแม่ไปเชื่อคำแนะนำของท่านทะแนะให้ทำพินัยกรรมไว้ก่อนตาย สาเหตุคือก่อนหน้านั้นพ่อตาย ลูกๆต่างเรียกร้องให้แม่แบ่งมรดกของพ่อจนพี่น้องที่มีอยู่ด้วยกัน 6 คนไม่มองหน้ากันมาพักหนึ่ง พี่น้องส่วนหนึ่งรักแม่แล้วแต่แม่ ส่วนหนึ่งรักเมียรักผัวฟังเมียฟังผัวไม่ฟังแม่....เออ...คิดแล้วเศร้าเน้อ

 

เอาหละนะก่อนไปต่อมาทำความเข้าใจเรื่องพินัยกรรมก่อนนี้ผมเคยอธิบายไว้พินัยกรรมมีทั้งหมด 5 แบบ แต่จะไม่อธิบายแบบของพินัยกรรมแล้วนะ ถ้ายากทราบคลิกไปดูที่นี้ครับ   ผมจะอธิบายเฉพาะว่าพินัยกรรมสามารถทำได้กี่ครั้งมีผลเช่นไร

เรื่องพินัยกรรมทำได้กี่ครั้งท่านสงสัยไหมครับ

ไม่มีกฎหมายห้ามครับจะทำกี่ครั้งกี่ฉบับก็ได้ แต่ผลของการทำพินัยกรรมหลายฉบับครับที่กฎหมายกำหนดไว้ว่าฉบับหลังสุดมีผลยกเลิกพินัยกรรมฉบับก่อนหากปรากฏว่าข้อความขัดกันทั้งฉบับ แต่(หลายแต่นะครับ)หากมีข้อความเพียงบางส่วนขัดกันก็ให้ถือเอาข้อความฉบับหลังใช้แทนฉบับก่อนเฉพาะบางส่วนที่ขัดกันแต่ไม่ได้ยกเลิกฉบับก่อนทั้งหมด ทั้งนี้เพราะกฎหมายถือเอาคำสั่งสุดท้าย แต่(แต่อีกแล้ว)ทั้งนี้พินัยกรรมฉบับหลังสุดต้องถูกแบบและไม่ถูกเพิกถอน เออ....อ่านไป...งงไป...นักกฎหมายนี้เป็นไงวะทำอะไร..งง..งง...ฮา..

ที่ผมว่ามานี้ตาม ป.แพ่ง (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์) ตั้งแต่มาตรา 1693 ถึงมาตรา 1697 ครับ จะยกเอาเฉพาะ มาตรา 1697 มาให้ดู  

ม. 1697 ถ้าผู้รับพินัยกรรมมิได้แสดงเจตนาไว้ในพินัยกรรมเป็นอย่างอื่นและปรากฏว่าพินัยกรรมฉบับก่อนกับฉบับหลังขัดกัน ให้ถือว่าพินัยกรรมฉบับก่อนเป็นอันเพิกถอนโดยพินัยกรรมฉบับหลัง เฉพาะในส่วนที่ข้อความขัดกันนั้นเท่านั้น

เอาเท่านี้นะครับอ่านพอให้รู้เรียน มาต่อเรื่องที่จะเล่า

คือครอบครัวนี้ถือว่ามีฐานะพอควร เพราะมีเงินฝากธนาคารและมีที่ดิน สอง แปลง สมัยเมื่อพ่อตาย หลังจัดการงานศพพ่อเสร็จลูกๆทะเลาะกันจะขอให้แม่แบ่งมรดกของพ่อให้ ตอนนั้นจึงตกลงแบ่งกันเฉพาะเงินสดในธนาคาร ลูกๆได้ไปคนละล้าน ที่เหลือเป็นของแม่อีกหลายล้านพร้อมที่ดินอีก สองแปลงกับบ้านพร้อมที่ดินอีกหนึ่งหลังไม่แบ่งยกให้แม่ จากบทเรียนนี้หละครับ บรรดาทะแนะได้ชี้แนะให้แม่จัดทำพินัยกรรมไว้เสียต่อไปจะแบ่งทรัพย์สินให้ใครอย่างไร แม่ก็เห็นดีด้วยไม่ยากให้ลูกๆที่ออกมาจากที่เดียวกัน (ออกจากที่ไหนตรงนี้ผมไม่ทราบต้องเดาเอาเอง...ฮา) มาทะเลาะกันอีก จึงได้ให้ทะแนะช่วยจัดทำพินัยกรรมให้ (ขอยืนยันครับว่าทำถูกต้องตามแบบ) ก็จัดทำขึ้นมีข้อความระบุไว้เสร็จว่าให้ลูกชายคนโตเป็นผู้จัดการมรดกและให้จัดการนำที่ดินแปลง 30 ไร่ มาแบ่งปันกันอย่างไร แต่ได้ไม่เท่ากันครับเพราะแม่กำหนดไว้เสร็จว่าให้แบ่งที่ดินเป็นเจ็ดแปลง ใช้เป็นถนนเสียหนึ่งแปลง อีกหกแปลงแบ่งให้ใครบ้างกำหนดหมายเลขไว้ด้วยแต่ละแปลงไม่เท่ากันถือเอาถนนใหญ่เป็นตัวกำหนดใครได้ใกล้ถนนใหญ่เนื้อที่ดินน้อยลง อยู่ลึกเข้าไปได้ที่ดินมากขึ้นแต่ทุกแปลงต้องผ่านที่ดินส่วนที่แบ่งเป็นถนนออกสู่ถนนใหญ่ได้

เห็นยังครับว่าผู้เป็นแม่ท่านมีใจเป็นธรรมรักลูกๆทุกคนเท่ากัน แม้ที่ดินจะแบ่งให้ไม่เท่ากันในส่วนของเนื้อที่แต่ผมคิดว่าท่านน่าจะประเมินเอาราคาที่ควรจะเป็นมากำหนดเพื่อให้มีมูลค่าของที่ดินเท่าๆกัน แต่ (มีแต่อีกหละ) ในส่วนของที่ดินอีก 45 ไร่ กับเงินสดในธนาคารและบ้านพร้อมที่ดินกับทรัพย์สินอื่นท่านไม่ได้กล่าวไว้ในพินัยกรรมฉบับนี้

เมื่อเวลาผ่านมาไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดท่านผู้เป็นแม่ได้จัดทำพินัยกรรมขึ้นมาใหม่อีกฉบับ (ขอยืนยันว่าถูกต้องตามแบบ) คราวนี้กำหนดให้ลูกคนที่สองซึ่งเป็นลูกสาวเป็นผู้จัดการมรดก ที่ดินแปลง 45 ไร่ กำหนดว่าให้ตัดแบ่งที่ดินให้กับลูกๆทุกคน แต่ไม่ได้กำหนดวิธีการไว้แบบพินัยกรรมฉบับแรก เรื่องเงินในธนาคารไม่กำหนดไว้ แต่ส่วนที่เพิ่มเติมมาคือบ้านพร้อมที่ดินที่แม่อยู่อาศัยยกให้ลูกสาวคนที่เป็นผู้จัดการมรดกเพียงคนเดียว  ทราบว่าเหตุที่ยกให้คนเดียวเพราะเป็นผู้อยู่ดูแลแม่มาตลอดและไม่แต่งงาน

ต่อมาปลายปี 2530 แม่ตาย หลังจัดการงานศพแม่เสร็จ

สงครามเกิด....ฮา....ทนายได้ตังค์อีกแล้ว (คือคิดทำพินัยกรรมนะดีแล้วแต่ขาดความรอบรู้และรอบครอบ)

พี่ชายคนโตเรียกประชุมน้องๆบอกว่าแม่ทำพินัยกรรมให้ตนเป็นผู้จัดการมรดก น้องสาวที่ดูแลแม่บอกว่าแม่ก็ให้ตนเป็นผู้จัดการมรดก เป็นเรื่องเลยครับ ต้องการทนายด่วน!

เมื่อเปิดพินัยกรรมดูแล้วก็ชี้แจงให้ทราบว่า พินัยกรรมทั้งสองฉบับมีผลตามกฎหมายบังคับได้ทั้งสองฉบับเพราะข้อความในพินัยกรรมไม่ได้ขัดกัน แม่กำหนดให้เป็นผู้จัดการมรดกที่ดินกันคนละแปลง ก็ได้เป็นผู้จัดการมรดกทั้งคู่  ส่วนเงินฝากธนาคารแม่ไม่ได้กำหนดไว้ต้องนำมาแบ่งเท่ากันตามสิทธิของทายาทชั้นบุตร หรือผู้สืบสันดาน แต่จะให้ใครเป็นผู้จัดการมรดกส่วนนี้ต้องตกลงกันเอาเองเพราะแม่ไม่ได้กำหนดไว้ในพินัยกรรม ที่ดินแปลงที่พี่ชายคนโตเป็นผู้จัดการมรดกต้องไปจัดแบ่งตามที่กำหนดในพินัยกรรม ส่วนที่ดินที่น้องสาวเป็นผู้จัดการมรดก หากตกลงกันไม่ได้ต้องขายออกไปแล้วเอาเงินมาแบ่งกัน หลังจากชี้แจงและถกเถียงกันไม่เป็นที่ตกลง (ทนายนึกยิ่มรอตังค์...ฮา...)

พักสักหน่อยครับต่อไปเป็นบทบู๊ อาจตกใจฉี่แตก...ฮา....

ไปต่อกันครับ

ปรากฏว่าพี่ชายคนโตชักปืนออกมาวางบนโต๊ะครับ บอกว่า

พี่ชายคนโต.....ใครจะแบ่งอย่างไรกูไม่เอาต้องเอาตามกู

ทนาย..............ใจเย็นท่าน

พี่ชายคนโต.....มึงแหละตัวดี(ว่าทนาย)     แล้วหันไปมองน้องสาวอี....(เรียกชื่อเล่นน้องสาว)มึงไปเรียกมันมาทำไม

ทนาย......(หนาวเลยเราแต่…เพื่อเงินเป็นไงเป็นกันวะ...ฮา) ท่านใจเย็นนะฟังก่อน

พี่ชายคนโต....มึงไม่ต้องมาสั่งกู

น้องๆทุกคน....ฟังทนายก่อนได้ไหม (ช่วยกันห้ามช่วยกันพูดนะ)

พี่ชายคนโต....มึงไม่ต้องห้าม...กูจะเอาแบบของกู

ทนาย......(ทุบโต๊ะ...ตะโกนเสียดัง) จะยิงกันก่อนไหม (แล้วจ้องที่ปืนครับกะแย่งมาก่อนถ้าไม่ทันมองเก้าอี้ไว้แล้วกะทุบเลยเพื่อเงิน...ฮา....ดูทำไปได้ไง)

พี่ชายคนโต....เงียบมองหน้าทนายเฉยๆไม่ขยับไม่พูดอะไรต่อ

ทนาย......(ทีนี้ได้ที..เสร็จเรา....อิ.อิ. ชิงพูดต่อแต่ยังเสียงดังนะ) ที่นี้ฟัง! ที่ดินทั้งสองแปลงต้องแบ่งตามที่บอก เงินในธนาคารต้องแบ่งเท่ากันทุกคนตกลงกันไม่ได้ก็ทั้ง 6 คน เป็นผู้จัดการมรดกร่วมแล้วไปถอนเงินแบ่งกันเลย ไม่ยอมจะฟ้องศาลก็ได้ ผลจะออกมาตามที่บอก ส่วนคุณ(ชี้ไปที่พี่ชายคนโต) ยังรู้จักผมน้อยไปข้องใจตัวผมเชิญ ( แล้วผมลุกเดินออกมาข้างนอกบ้านแต่ตอนนั้นปืนถูกน้องชายคนเล็กเก็บไป.....ผมถึงกล้า....ฮา )

หลังจากน้องสาวและคนอื่นๆลุกตามผมออกมาและมาขอโทษผมแทนพี่ชายตัวเองแล้วผมเลยลากลับ ตังค์ก็ไม่ได้...ฮา... ก่อนกลับผมบอกเพียงว่าพยายามตกลงกันให้ได้หลักการก็ชี้แจงให้ฟังแล้ว คิดถึงคนที่ตายเป็นหลักไว้ (ออกแนวเศร้า เสียดายตังค์....ฮา....)

ผลหรือครับ

พี่ชายคนโตไม่ยอมครับให้ทนายความไปยื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำสั่งตั้งตนเองเป็นผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรม น้องสาวเลยต้องยื่นคำคัดค้าน ก็สู้คดีจนถึงที่สุด ศาลมีคำพิพากษาให้ตั้งทั้งคู่เป็นผู้จัดการมรดกให้แยกไปจัดการที่ดินแต่ละแปลงตามพินัยกรรม ส่วนเงินสดในธนาคารน้องทั้งสี่คนให้ทั้งคู่เป็นผู้จัดการมรดกร่วมกัน แต่คดีนี้กว่าจะจบ และมรดกได้นำมาแบ่งปันกันประมาณ ปี 2542 ครับ ป่านนี้พี่ชายคนโตคงคิดได้แล้วหละว่าถ้าฟังผมด้วยเหตุด้วยผลแล้วไปสอบถามทนายท่านอื่นดู ก็ไม่เสียค่าทนายเพิ่มขึ้นแถมได้ตังค์ไปใช้นานแล้ว

ผมเองที่กล้าแสดงกริยาเช่นนั้น โดยไม่กลัวว่ามีปืนอยู่ข้างหน้าผม เพราะผมมองแล้วว่าเขาไม่กล้ายิงแน่ ถ้าจะยิงก็ต้องยิงทันทีที่ชักปืนออกมาแล้ว และอีกประการหนึ่ง ทำไมผมจะต้องกลัวการข่มขู่ด้วยหละครับ ในเมื่อเขาไม่มีสติ การใช้เหตุผลไม่ได้ผลครับ สิทธิในการบาดเจ็บ หรือไม่หายใจมีได้ทุกคน เออ...เรื่องนี้บู๊หน่อยนะครับ แต่จำเป็นครับเมื่อเรารักที่จะเป็นทนายความ ต้องมีความเป็นธรรมยึดเป็นที่ตั้ง หากกลัวการข่มขู่ยุติธรรมไม่เกิดครับ

ก่อนจบขออธิบายอีกหน่อยครับ

ที่นี้ฟัง!.......ฮา....

ในเรื่องร้องศาลขอจัดการมรดกมีได้สองวิธี

หนึ่ง ยื่นเป็นคำร้องวิธีหนึ่ง

กรณีนี้ จะเรียกผู้ที่ยื่นคำร้องว่า ผู้ร้อง หากมีผู้ใดคัดค้าน ผู้ที่เข้ามาคัดค้านจะเรียกว่า ผู้คัดค้าน

สอง ยื่นเป็นคำฟ้อง อีกวิธีหนึ่ง

กรณีนี้ จะมีผู้จัดการมรดกอยู่แล้ว แต่เพราะทายาทไม่พอใจหรือไม่เห็นชอบด้วยภายหลังที่ศาลมีคำสั่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว ก็ต้องฟ้องขอให้ศาลเพิกถอนแล้วตั้งผู้ที่ฟ้องคดีเป็นผู้จัดการมรดกแทน  เช่นนี้จะเรียกผู้ฟ้องคดีว่าโจทก์ กับเรียกผู้จัดการมรดกว่า จำเลย

เห็นยังครับ บอกแล้วว่า "ยุติธรรมคือศาสตร์"

คราวหน้ามาดูคดีอาญากันบ้างครับ กลัวท่านเบื่อวิชากฎหมายแพ่ง

จะเล่าเรื่อง ความผิดอาญาฐานบุกรุก.....หนุกนะจะบอกให้

หมายเลขบันทึก: 343054เขียนเมื่อ 9 มีนาคม 2010 15:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (31)

แหม คุณทนายแปดฯ เพิ่งทราบนะคะเนี่ย ว่าจะอ่านบันทึก 

แถมมีนัดหมายเปิดศาล พบกันที่เก่า วันอังคาร ซะด้วย ;)

สวัสดีครับคุณ P pooดำอันดามัน

ผมแค่สั่งเปิดศาลครับยังไม่ได้สั่งเปิดมีด

เพราะยังเลือกเครื่องประหารไม่ถูก อิ.อิ.

ที่นี้ฟัง....ฮา....หากมีพี่น้องหลายคนให้พ่อแม่เรียกประชุมลูกๆบอกให้ทราบเสียก่อนนะว่าเขานางหงส์จะยกให้ใครดูแล...ฮา...

ขอบคุณครับที่แวะมารายแรก

สวัสดีค่ะ

มาขอรู้จักท่านเปา(2)..   ดูลาดเลา แอบ ซุ่มดูท่า ลับมีด เอ๊ย..  เปิดมีด   อิ อิ

มีความสุขมากๆ เสมอๆ นะคะ    ()

สวัสดีค่ะ ชาวฝนแปดแดดสี่

อ่านแล้วเข้าใจมากขึ้นค่ะ

มีความรู้เพิ่มมากขึ้น

จะคอยอ่านเรื่อง"ความผิดอาญาฐานบุกรุก"

จะคอยติดตามตอนต่อไปค่ะ

 

สวัสดีครับคุณ P นีนานันท์

ยินดียิ่งที่ได้รู้จักกับคุณนีนานันท์ครับ

ถือว่าเข้ามาอ่านหนุกๆแล้วได้รู้เรียนกฎหมายไปบ้างนะครับ อาจยังประโยชน์ในวันหน้า หรือหากจำต้องใช้บริการทนายความจะได้มีหลักการว่าควรจะถามอะไรหรือให้ทนายอธิบายอะไรให้รับทราบไว้บ้าง

ขอให้มีความสุขพบแต่ความโชคดีชาตินี้อย่าได้ต้องใช้บริการทนายครับ

ขอบคุณที่เข้ามาทักทายแล้วผมจะแวะไปบ้านคุณนีนานันท์ครับ

สวัสดีครับคุณ P ครูจิ๋ว

ขอบพระคุณครับที่เป็นแฟนคลับค่อยติดตามอ่านบทความของผม

คุณครูพักผ่อนมากๆนะครับ เห็นภาระกิจแล้วเหนื่อยแทน

ขอบพระคุณที่ส่งกำลังใจมาให้ครับ

กว่าจะอ่านจบเหนื่อยกับบทเสียงบู๊เลยค่ะ ยังดีหน่อยมีภาพงาม ๆ

อย่างนี้ยุติ ธรรมใช้ศาสตร์ ยุติ เธอ ใช้ ศิลป์ หรือเปล่าคะ ;)

ทำไมใช้เวลานานจังเลยคะกว่าจะแบ่งกันลงตัว ๑๑ ปีแน่ะ

สวัสดีค่ะ

แวะมาอ่าน

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ นะคะ

คืนนี้ฝันดีค่ะ^__^

สวัสดีครับคุณP ปูดำอันดามัน

มีหลายท่านครับที่รู้จักคิดในการฟ้องคดีว่าต้องทำอย่างไรให้ชนะ

แต่คงลืมคำนวณครับว่าต้องเสียเงินเสียเวลาไปมากหรือไม่

เข้าทำนองคิดเป็นคำนวณไม่เป็น หรือประเภทยอมฆ่าวัวเพื่อรักษาลูกแกะ

คนเราเวลาต้องการยากมียากได้เลยลืมคิดระยะทาง ทนายก็สบายไป

แต่สมัยนี้การทำคดีไม่เสียเวลามากแล้วครับ

เพราะใช้ระบบการพิจารณาคดีแบบต่อเนื่อง

คราวนี้มีบทบู๊หน่อย

จะได้รู้ว่าคบทนายนะนอกจากเสียตังค์แล้วยังน่ากลัวด้วยแต่ยังน่ารักนะ...อิ.อิ.

ขอบคุณครับที่แวะให้กำลังรอบที่สอง

สวัสดีครับคุณน้อง P ต้นเฟิร์น

คุณน้องต้นเฟิร์นไม่คิดจะเรียนกฎหมายหรือครับ จบมาต่อ ป.โท แล้วไปสอบเข้าสายอาชีพอัยการ หรือผู้พิพากษา ก็ได้นะมั่นคงทั้งหน้าที่ การงาน การเงิน เกียรติยศ ทุกอย่างพร้อม ลองปรึกษาอาจารย์แนะแนวดูซิครับ อนาคนใกล้นะ

ขอบคุณนะครับที่แวะมาติดตามอ่านบทความ

เล่าให้อ่านได้สนุกค่ะ ทั้งที่เป็นเรื่องเครียด ตรงที่มีคำต่างๆประกอบให้อ่านแล้วต้องอ่านจนจบ ดีค่ะได้ความรู้การแบ่ง มรดก การทะเลาะกัน การแก้ปัญหา การทำให้มีปัญหามากขึ้น  มึครบในบันทึก ขอบคุณค่ะ

               

สวัสดีครับคุณ P กานดา น้ำมันมะพร้าว

ชีวิตทนายมีทุกรสครับ บางเคสไม่นึกว่าจะง่ายกลับจบได้โดยง่ายด้วยคำพูดดีๆเพียงไม่กี่คำ แต่บางเคสเห็นง่ายๆหลักการไม่มีไร ทราบความต้องการของทุกฝ่ายดีแต่ไม่ยอมรับให้นำหลักกฎหมายมาใช้เพื่อยุติโดยเร็ว เอาความต้องการของตนเป็นที่ตั้งเลยยาว อย่างเคสที่เล่านี้หละครับไปๆมาๆกลับที่เดิม แต่ข้อเท็จจริงมีมากกว่าที่เล่าครับ

พี่ชายคนโตไม่ยินยอมเพราะท่านถือว่าเป็นฝ่ายช่วยเหลือคุณพ่อคุณแม่ทำมาหากิน มีส่วนช่วยสร้างควรได้มากกว่าน้องๆ ขณะท่านทำงานช่วยครอบครัว บรรดาน้องๆยังเรียนหนังสืออยู่ อายุท่านกับน้องคนที่สองต่างกัน 11 ปีครับนี้คือเหตุผลของท่าน ผมไม่ได้โกรธท่านตอนทำคดีเสร็จยังเดินไปยกมือไหว้ขอโทษขออภัยที่อาจมีวาจาก้าวล่วงท่านไปบ้าง ท่านเองก็ขอโทษผมแถมยังพูดว่าถ้าฟังผมแต่แรกได้แบ่งกันไปน่านแล้ว นี้เพราะท่านคิดในแนวของท่านหากจะถามว่าแนวคิดท่านถูกต้องหรือไม่ ก็ต้องถือว่าถูกต้องเพราะใครทำมากก็ควรได้มาก แต่คุณแม่ของท่านไม่คิดเช่นท่าน กฎหมายถือเอาคำสั่งและเจตนาของเจ้ามรดกเป็นสำคัญครับ

ใช้ตามคำพระที่คุณกานดานำมามอบให้ "มองแต่แง่ดีเถิด"

ขอบพระคุณครับที่มาให้กำลังใจ 

กว่าจะแบ่งมรดกได้ก็ตั้ง 11 ปีเลยนะค่ะ

นี่ถ้าฟังคุณทนายแต่แรกก็ได้เงินไปใช้นานแล้วจริงๆค่ะ

^_^ เสียดายโอกาสแทนเค้าค่ะ

ขอบคุณสำหรับข้อกฏหมายสนุกๆค่ะ

สวัสดีครับคุณ P PangJung

ขออภัยครับที่เข้ามาตอบคุณแป้งช้าไปหน่อย เพราะติดภาระกิจครับ

อย่าว่าแต่คุณแป้งเลยครับที่เสียดายโอกาส ผมเองก็เช่นกัน

เป็นเพราะพี่ชายคนโตท่านคิดในมุมของท่าน แต่ถ้าท่านคิดต่ออีกหน่อยว่าทำไมแม่ถึงแบ่งให้อย่างนั้น คำสั่งของแม่กฎหมายรับรองให้หรือไม่ หรือเราจะเชื่อฟังคำสั่งสุดท้ายของแม่ด้วยความเคารพจะได้หรือไม่ ผมว่าถ้าคิดเช่นนี้ก็น่าจะตกลงกันได้  จำได้ว่าผมพูดตอนประชุม หากจะทำอะไรให้นึกถึงแม่มากๆ อะไรทำนองนี้แหละครับ ก็ไม่ทราบว่าท่านนำไปคิดหรือเปล่าไม่ทราบ

เรื่องนี้ผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สินเท่านั้นที่จะป้องกันปัญหาได้โดยจัดสรรไว้ในพินัยกรรมให้ชัดแจ้งแล้วบอกกับลูกๆหลานๆให้รับทราบว่าได้ทำพินัยกรรมไว้แล้วเมื่อเปิดพินัยกรรมขอให้เชื่อฟังตามพินัยกรรม ขณะประชุมบอกกล่าวใช้วิธีถ่าย VCD.ไว้ก็ได้เมื่อถึงเวลาเอาออกมาฉายเห็นหลักฐานชัดๆว่าเป็นเจตนาคำสั่งสุดท้ายของเจ้าของทรัพย์สินจริง ศาลเห็นหลักฐานก็ตัดพยานอื่นได้เลยไม่ต้องฟังพยานอื่นอีก หรือหากพี่น้องท่านใดคิดในทางขัดแย้งกับเจ้าของทรัพย์สินก็ไม่มีเหตุผลมาโต้แย้งได้อีก

ขอบคุณครับที่แวะมาให้กำลังใจ

สวัสดีค่ะ

  • วันนี้ยังอ่านไม่ไหวแค่มาบอกว่า  ยังคิดถึงอยู่
  • อีก 2-3 วันจะมาอ่าน  ตอนนี้ต้องไปดูตัวเลขก่อน
  • ตัวเลขที่เป็นความต้องการของนักเรียน 
  • ถ้าพี่ให้ทนายความสัก 3 พันคะแนน
  • ก็คงไม่มีความหมาย  ไปให้คนที่เขาต้องการดีกว่า
  • ไปก่อนนะคะ....

 

                คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

แวะมาเข้าห้องกฏหมายค่ะ...ถึงช้าดีกว่าไม่มา...ใช่หม๊า...

สวัสดีค่ะ คุณทนาย

แบบนี้เงินก็ได้ช้า แถมค่าเสียโอกาสก็ไม่ได้

เดี๋ยวต้องเอาไปเล่าให้ คุณตากะยายฟังแล้ว

เผื่อจะทำพินัยกรรมให้ เพราะหนูเป็นลูกสาวคนโต

กลัวเป็นแบบ ลูกชายคนโต ที่จะเสียโอกาส อิอิ

บุญรักษาค่ะ ^^

เขียนผิดค่ะ หลานสาวคนโต อิอิ

สวัสดีครับคุณครู P ดาวเรือง

พักนี้คุณครูทำงานหนักนะครับ

สำหรับผมคะแนนไม่ต้องขอแค่น้ำใจที่คุณครูมอบให้นี้ก็พอแล้วครับ

พักผ่อนและทานอาหารมากๆนะจะได้เป็นนางฟ้าที่อ้วนน่ารักของศิษย์...อิ.อิ.

ขอบพระคุณครับทั้งที่งานหนักยังแวะมาให้กำลังใจ

สวัสดีครับคุณครู P ปริมปราง 

รูปยังงามเช่นเคยครับคุณครู (ป.ปลา ดูแล้วยังอยู่ครับ...อิ.อิ.)

ไม่สายครับที่จะเข้ามาอ่าน ยิ่งอ่านช้ายิ่งไม่เจอคำผิดเพราะผมจะตรวจทานทุกครั้งที่มีเวลา กัว...คุณครู(เอกภาษาไทย)ทำโทษให้คัดไทยเป็นการบ้าน

ขอบพระคุณครับที่แวะให้กำลังใจเสมอมา

สวัสดีครับคุณ P sOul

เออ..จะถามคุณโซล หลายทีแล้ว รูปแพะหรือแกะครับ ตอนท้ายบันทึกนะมีนัยอะไรป่าว นึกไม่ออกว่าฟันหน้าคล้ายใคร..ฮา.. หากเป็นแพะเดาว่าเป็นปีเกิดป่าว

ดีแลวครับที่คุณโซลจะเอาเรืองนี้ไปเล่าให้คุณตา คุณยายฟัง แต่ต้องออดอ้อนให้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้หลายสาวคนสวยคนเดียวนะ แล้วอย่างลืมส่งตังค์ค่าที่ปรึกษามาให้ด้วยเน่อ....อิ.อิ.

พอดีคุณโซลพูดถึงทรัพย์สินของคุณตาคุณยาย ผมขออธิบายเพิ่มเติมหน่อย

หากมรดกของใครไม่มีพินัยกรรม ก็ต้องนำมาแบ่งปันแก่ทายาทตามที่กฎหมายกำหนดไว้ แต่ถ้ามีพินัยกรรมต้องแบ่งตามพินัยกรรมครับ

กรณีทรัพย์สินของคุณตา คุณยาย คือตัวคุณโซล ทางกฎหมายถือว่าเป็นผู้สืบสันดานตาม ม.1629 (1) เคยอธิบายไว้แล้ว ถ้าจำไม่ได้ คลิกไปดูที่นี้ แต่ตัวคุณโซลยังไม่ถือว่าเป็นชั้นสนิทที่สุด เพราะต้องนับแม่ก่อน หากเข้าใจไม่ผิดคุณแม่ของคุณโซลเป็นลูกของคุณตากับคุณยาย คุณโซลจึงเป็นชั้นหลานเป็นชั้นถัดมา สมมุติว่าต่อไปคุณโซลมีลูกก็ถือเป็นชั้นเหลน สืบต่อๆกันไป ดังนั้นทรัพย์สินของคุณตา คุณยาย ต้องตกได้แก่ลูกก่อนในที่นี้คือแม่ คุณโซลยังไม่มีสิทธิจะได้รับ ต้องให้แม่รับก่อน ส่วนแม่ถ้ามีพี่น้องกี่คนทุกคนก็จะได้รับด้วยเท่าๆกัน เว้นแต่คุณแม่ไม่อยู่แล้วคุณโซลจึงจะมีสิทธิรับแทนในส่วนของแม่เป็นเช่นนี้ต่อๆกันไปจนขาดสาย ทั้งนี้เพราะมีกฎหมายแพ่งว่าไว้ตามนี้ครับ

มาตรา 1631 ในระหว่างผู้สืบสันดานต่างชั้นกันนั้น บุตรของเจ้ามรดกอันอยู่ในชั้นสนิทที่สุดเท่านั้นมีสิทธิรับมรดก ผู้สืบสันดานที่อยู่ในชั้นถัดลงไปจะรับมรดกได้ก็แต่โดยอาศัยสิทธิในการรับมรดกแทนที่

แต่คุณโซลในฐานะหลานหากจะได้รับทรัพย์สินของคุณตา คุณยาย โดยไม่ต้องทำตามมาตราที่ว่านี้คือการได้รับตามพินัยกรรม ดังนั้นรีบไปออดอ้อนคุณตา คุณยาย บ่อยๆครับ แฮ....เอาพอเข้าใจนะครับ

ขอบคุณครับที่แวะมาให้กำลังใจบ่อยๆ

 

 

สวัสดีค่ะ

  • ว่างจากการแบ่งคะแนนให้เด็กๆ  แต่ไม่เท่ากัน   ให้ตามสิทธิพึงมี  คนขยันมาก  สติปัญญาดี ก็เอาไปมาก   ตามลำดับ  เหลือสุดท้ายยกให้คนขี้เกียจเรียน  ขี้เกียจอ่าน    เฝ้าห้องเรียนอีกปี   เสร็จภาระกิจแบ่งสรรปันส่วน  พรุ่งนี้ประกาศ  ไม่ทราบจะมีผู้คัดค้านหรือไม่  (ขอยื้มปืนหน่อย )  5555555555
  • ทีนี้มีเรื่องจะถามตรงนี้ (จะได้ไม่ต้องเสียค่าทนายอีก  ฉลาดคิดนะนี่ )  พ่อกับแม่เลิกกัน (ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) มีลูก 4 คน   พ่อไปมีภรรยาใหม่ (แม่หม้ายลูกติด 1)  จดทะเบียนสมรสกัน   ปู่กับย่า ยกที่ดินริมทะเลให้ 9 ไร่ (สินเดิม) พ่อได้ขาย นำเงินมาซื้อที่ดินริมภูเขา ได้ 20 ไร่  เป็นที่ดินไม่มีโฉนด   ต่อมาที่ดินประกาศให้ทำโฉนด  แม่เลี้ยงได้ดำเนินการเป็นชื่อแม่เลี้ยงเสร็จสรรพ    พ่อได้บอกแม่เลี้ยงว่าถ้าพ่อเป็นอะไรไปให้แบ่งที่ดินให้ลูกทั้ง 4 ด้วย  แม่เลี้ยงตกลง   ตอนนี้ที่ดินมีราคา ไร่ .เป็นล้าน เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว (เกาะสมุย)  มีห้างแมคโคร  บิ๊กซี  สร้างใกล้เคียง
  • อยากถามว่าถ้าพ่อไม่ได้ทำอะไรไว้  ลูกนอกสมรสทั้ง 4 คนจะมีสิทธิในที่ดินนั้นหรือไม่  (พ่อไม่มีลูกกับแม่เลี้ยง)
  • ถ้าแม่เลี้ยงเกิดไปก่อนพ่อ ลูกเลี้ยงคนนั้นมีสิทธิในที่ดินผืนนั้หรือไม่  และลูกทั้ง 4 คน  มีสิทธิหรือไม่ 
  • มีลูกชายคนเล็กของพ่อ เคยไปบอกให้พ่อทำพินัยกรรม  พ่อโกรธหาว่าจะแช่งให้พ่อตาย  หลังจากนั้นไม่มีใครกล้าพูดอีกเลย
  • วันนี้ ถามเท่านี้แหละ   ตอเช้าจะมาถามเล่า  อย่าลืมตอบให้ชัดๆ  ถ้าได้มรดกจะไม่ลืมพระคุณ    จะส่งส่วยไปให้ตอนอยู่บนหวัน  ...555555555555  

                    

สวัสดีครับคุณครู P ดาวเรือง 

เออ...ขอยืมปืนผมไว้กำลังจะส่งไปให้ แต่พออ่านจบ ขึ้นโลโก้ คนไทยไม่ใช้ความรุนแรง แล้วผมจะส่งไปทำหนุมานทำไม...ฮา...ก็งี้แหละเลือดไปลมมา..อิ.อิ.

คุณครูถามผมในแบบไม่ยอมจ่ายตังค์ ก็ขอตอบแบบไม่คิดตังค์

โดยขอตอบ เป็นส่วนๆนะครับเพื่อความเข้าใจ ส่วนที่เล่าแต่ไม่ถามก็จะตอบไม่คิดตังค์...ฮา...

ทีนี้มีเรื่องจะถามตรงนี้ (จะได้ไม่ต้องเสียค่าทนายอีก ฉลาดคิดนะนี่ ) พ่อกับแม่เลิกกัน (ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) มีลูก 4 คน พ่อไปมีภรรยาใหม่ (แม่หม้ายลูกติด 1) จดทะเบียนสมรสกัน ปู่กับย่า ยกที่ดินริมทะเลให้ 9 ไร่ (สินเดิม) พ่อได้ขาย นำเงินมาซื้อที่ดินริมภูเขา ได้ 20 ไร่ เป็นที่ดินไม่มีโฉนดต่อมาที่ดินประกาศให้ทำโฉนด แม่เลี้ยงได้ดำเนินการเป็นชื่อแม่เลี้ยงเสร็จสรรพ พ่อได้บอกแม่เลี้ยงว่า ถ้าพ่อเป็นอะไรไปให้แบ่งที่ดินให้ลูกทั้ง 4 ด้วย แม่เลี้ยงตกลง ตอนนี้ที่ดินมีราคา ไร่ .เป็นล้าน เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว (เกาะสมุย) มีห้างแมคโคร บิ๊กซี สร้างใกล้เคียง

ขออธิบายส่วนนี้ก่อน ที่ดินแปลง 20 ไร่นี้ยังเป็นสินเดิมอยู่เพราะพ่อใช้เงินจากการขายที่ดิน 9 ไร่ ซึ่งเป็นสินเดิมไปซื้อมา แต่ปัญหาคือถ้ามีข้อพิพาทขึ้นการนำเสนอหลักฐานให้ศาลเชื่อว่าเป็นสินเดิมน่าจะยากหน่อย เพราะแม่เลี่ยงไปใส่ชื่อเป็นของตนซึ่งตามกฎหมายสันนิษฐานว่าเป็นสินสมรสไว้ก่อน แต่ก็ยังพอหาหลักฐานได้ครับลองค้นดูจากสำนักงานที่ดินไปดูในสาระบบของที่ดินทั้ง 2 แปลง อาจมีบันทึกไว้ และดูหลักฐานการเงินจากทางธนาคารในช่วงวันเวลาที่ขายที่ดินแปลงเก่าและซื้อที่ดินแปลงใหม่ลองดู ถ้าเจอก็ขอคัดและรับรองสำเนาเก็บไว้ แต่งานนี้หากตกลงกันไม่ได้ทนายได้ตังค์แน่...ฮา...

ก่อนไปต่อขออธิบายเรื่องสินเดิมหน่อย หากมีท่านอื่นเข้ามาอ่านในความเห็นส่วนนี้จะได้เข้าใจ "สินเดิม" กฏหมายเรียกว่า "สินส่วนตัว" หมายถึงทรัพย์สินที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีมาก่อนสมรสไม่ว่าจะเป็น บ้าน ที่ดิน เงิน ทอง หรือ ทรัพย์สินที่เป็นเครื่องใช้สอยส่วนตัว หรือทรัพย์สินที่ฝ่ายใดได้มาในระหว่างสมรสไม่ว่ารับ มรดก หรือรับจากการให้โดยเสน่หาในฐานะส่วนตัวจริงๆ ส่วนทรัพย์สินที่เป็นของหมั้นถือเป็นสินส่วนตัวเฉพาะของฝ่ายหญิง ต่อมาเมื่อถ้าทรัพย์สินดังกล่าวนี้ได้แปรเปลี่ยนสภาพไปเป็นเงินหรือเอาเงินที่ได้มานั้นไปซื้อของอื่น เงินหรือของนั้นก็ยังคงเป็นสินส่วนตัว เช่นกรณีที่ดินแปลง 20 ไร่นี้ ถ้ามีหลักฐานว่าเป็นสินส่วนตัวเมื่อพ่อไม่อยู่แล้ว ที่ดิน 20 ไร่ ต้องนำมาแบ่งเป็น 5 ส่วน แม่เลี้ยงได้ไป 1 ส่วน ลูกนอกสมรสทั้ง 4 คนถ้ามีหลักฐานว่าพ่อรับรองแล้วว่าเป็นบุตรก็ได้ไปคนละ 1 ส่วน แต่ถ้าไม่มีหลักฐานว่าที่ดิน 20 ไร่เป็นสินส่วนตัว ต้องเอามาแบ่งให้แม่เลี้ยงไปครึ่งหนึ่งเสียก่อนเพราะเป็นสินสมรส ที่เหลือถึงจะเป็นมรดกนำมาแบ่งเป็น 5 ส่วน เออ...งง...ยังไม่เข้าใจ คลิกไปอ่านที่นี้ครับ จะได้..งงต่อ ฮา....

คำถามต่อมา

อยากถามว่าถ้าพ่อไม่ได้ทำอะไรไว้ ลูกนอกสมรสทั้ง 4 คนจะมีสิทธิในที่ดินั้นหรือไม่ (พ่อไม่มีลูกกับแม่เลี้ยง)

ข้อนี้ได้ตอบแล้วนะครับ ว่าลูกนอกคอก...ขออภัยพิมพ์ผิด อิ.อิ. ลูกนอกสมรสทั้ง 4 คนจะมีสิทธิในที่ดินก็ต่อเมื่อมีหลักฐานว่าบิดารับรองบุตรแล้วตามที่ตอบข้างต้น ทีนี้การรับรองบุตรนี้รับรองอย่างไร เช่นตอนเรียนหนังสือพ่อไปแจ้งเป็นผู้ปกครองและบอกว่าเป็นพ่อ ในทะเบียนบ้านก็ระบุว่าเป็นพ่อ ในสังคมของพ่อก็บอกกับทุกคนว่าทั้ง 4 คนเป็นลูกอะไรทำนองนี้ครับ คำถามต่อไป ถ้าแม่เลี้ยงเกิดไปก่อนพ่อ ลูกเลี้ยงคนนั้นมีสิทธิในที่ดินผืนนั้นหรือไม่ และลูกทั้ง 4 คน มีสิทธิหรือไม่ ข้อนี้ ถ้าแม่เลี้ยงเกิดไปก่อนพ่อ ลูกเลี้ยง(ที่ติดแม่มา) มีสิทธิในที่ดินเฉพาะสัดส่วนของแม่เลี้องครับ ทางกฎหมายเรียกว่ารับมรดกแทนที่ แต่ถ้าแม่ยังไม่ไปลูกคนนี้ไม่มีสิทธิในที่ดินครับ ไปอ่านในความเห็นที่21 ซึ่งผมตอบคุณโซล ประกอบด้วยจะเข้าใจมากขึ้นในเรื่องรับมรดกแทนที่ ครับส่วน ลูกทั้ง 4 ยังคงสิทธิตามที่ตอบในข้อก่อนแล้ว

ส่วนที่คุณครูบอกว่าลูกชายคนเล็กของพ่อเคยไปบอกให้ทำพินัยกรรมแล้วโกรธไม่ลองหาวิธีเอาเรื่องที่ผมเล่านี้ไปให้คุณพ่อลองอ่านดูซิครับ

ตอบให้ชัดแล้ว ส่งส่วยเลยได้ป่าวผมไม่กล้าขึ้นสวรรค์กลัวเหงา...ฮา....

ขอบคุณครับที่แวะมาให้กำลังใจ

สุดยอดค่ะยุติธรรมคือศาสตร์

ศาสตร์หาคือยุติธรรมเสมอไม่

จะรออ่านเรื่องหน้าวันอังคารนะคะ....ปิดศาล

  • ไม่มีมรดก...
  • เขียนพินัยกรรมได้เปล่า...
  • เอาของคุณทนายให้..ฮา..

ที่บ้านมีแต่หนี้ค่ะ

คงจะฆ่ากันเพราะแย่งหนี้กัน ฮ่าๆๆ

ขอบคุณที่แวะไปทักทายที่ blog ค่ะ

สวัสดีครับคุณครู P กระแต

แฮ...มีนัดสำคัญหรือครับถึงรีบปิดศาล

ครับ "ยุติธรรมคือศาสตร์ "  อยู่ที่ใครจะใช่อย่างไร

ใช้เพื่อปกป้องความดี ก็ โอ.ครับ (โอ.เค.ครับขอใช้ภาษาวัยรุ่นหน่อย อิ.อิ.)

ขอบพระคุณครับที่แวะมาให้กำลังใจ

สวัสดีครับท่าน P เกษตร(อยู่)จังหวัด

พักผ่อนบ้างนะครับท่าน เห็นช่วงนี้งานหนัก

ตกลงครับให้ท่านเขียนพินัยกรรมให้

ยกหนี้บรรดามีของชาวนาให้ท่านหมด รวมหนี้ค่ามือถือของผมด้วย...ฮา..

ขอบคุณครับที่แวะให้กำลังใจเสมอมา

สวัสดีครับคุณ P Ornคนน่ารัก

มรดกหนี้ต้องยกให้ท่านเกษตร (อยู่) จังหวัดครับ ผมยกหนี้ชาวนาให้ท่านไปคนหนึ่งแล้ว ท่านชอบครับ...ฮา..

ขอบคุณครับที่แวะมาให้กำลังใจ

มาเป็นกำลังใจให้นะ

ตอบความคิดเห็นให้แล้วน่ะ

โปรดติ๊ดตาม ต๋อนต่อไป....รู้ได้ไงว่าเราหัวเราะ

ด้วยความสุดคะนึงค่ะ

สวัสดีครับคุณครู P ภัทรานิษฐ์

ขอบพระคุณครับคุณครูจิ๋วที่แวะมาให้กำลังใจ

ขออภัยนะครับที่ไม่ได้เข้ามาตอบตั้งแต่เมื่อคืน เพราะไปติดตามข่าว

ผมเข้าไปดูคำตอบความคิดเห็นแล้วครับ เดิมทราบอยู่ครับว่าชื่อที่ใช้อยู่นี้เป็นชื่อจริงของคุณครู แต่ไม่ทราบควาหมาย เลยหาวิธีถามจากคุณครู    เอาเืรื่องดูดวงมาถามเพราะคาดว่า ผู้หญิงกับการดูดวงนี้จะคู่กัน แต่ถ้าคุณครูไม่ตอบก็คงต้องถามตรงๆว่าชื่อมีความหมายว่าอะไร  

ขอบคุณครับ "ภัทรานิษฐ์ " หมายถึง  "น้องสาวผู้มีความดีงาม "  

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท