พักสักหน่อยครับต่อไปเป็นบทบู๊ อาจตกใจฉี่แตก...ฮา....
ไปต่อกันครับ
แหม คุณทนายแปดฯ เพิ่งทราบนะคะเนี่ย ว่าจะอ่านบันทึก
แถมมีนัดหมายเปิดศาล พบกันที่เก่า วันอังคาร ซะด้วย ;)
สวัสดีค่ะ
มาขอรู้จักท่านเปา(2).. ดูลาดเลา แอบ ซุ่มดูท่า ลับมีด เอ๊ย.. เปิดมีด อิ อิ
มีความสุขมากๆ เสมอๆ นะคะ (◡‿◡✿)
สวัสดีค่ะ ชาวฝนแปดแดดสี่
อ่านแล้วเข้าใจมากขึ้นค่ะ
มีความรู้เพิ่มมากขึ้น
จะคอยอ่านเรื่อง"ความผิดอาญาฐานบุกรุก"
จะคอยติดตามตอนต่อไปค่ะ
ยินดียิ่งที่ได้รู้จักกับคุณนีนานันท์ครับ
ถือว่าเข้ามาอ่านหนุกๆแล้วได้รู้เรียนกฎหมายไปบ้างนะครับ อาจยังประโยชน์ในวันหน้า หรือหากจำต้องใช้บริการทนายความจะได้มีหลักการว่าควรจะถามอะไรหรือให้ทนายอธิบายอะไรให้รับทราบไว้บ้าง
ขอให้มีความสุขพบแต่ความโชคดีชาตินี้อย่าได้ต้องใช้บริการทนายครับ
ขอบคุณที่เข้ามาทักทายแล้วผมจะแวะไปบ้านคุณนีนานันท์ครับ
กว่าจะอ่านจบเหนื่อยกับบทเสียงบู๊เลยค่ะ ยังดีหน่อยมีภาพงาม ๆ
อย่างนี้ยุติ ธรรมใช้ศาสตร์ ยุติ เธอ ใช้ ศิลป์ หรือเปล่าคะ ;)
ทำไมใช้เวลานานจังเลยคะกว่าจะแบ่งกันลงตัว ๑๑ ปีแน่ะ
สวัสดีค่ะ
แวะมาอ่าน
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆ นะคะ
คืนนี้ฝันดีค่ะ^__^
มีหลายท่านครับที่รู้จักคิดในการฟ้องคดีว่าต้องทำอย่างไรให้ชนะ
แต่คงลืมคำนวณครับว่าต้องเสียเงินเสียเวลาไปมากหรือไม่
เข้าทำนองคิดเป็นคำนวณไม่เป็น หรือประเภทยอมฆ่าวัวเพื่อรักษาลูกแกะ
คนเราเวลาต้องการยากมียากได้เลยลืมคิดระยะทาง ทนายก็สบายไป
แต่สมัยนี้การทำคดีไม่เสียเวลามากแล้วครับ
เพราะใช้ระบบการพิจารณาคดีแบบต่อเนื่อง
คราวนี้มีบทบู๊หน่อย
จะได้รู้ว่าคบทนายนะนอกจากเสียตังค์แล้วยังน่ากลัวด้วยแต่ยังน่ารักนะ...อิ.อิ.
ขอบคุณครับที่แวะให้กำลังรอบที่สอง
เล่าให้อ่านได้สนุกค่ะ ทั้งที่เป็นเรื่องเครียด ตรงที่มีคำต่างๆประกอบให้อ่านแล้วต้องอ่านจนจบ ดีค่ะได้ความรู้การแบ่ง มรดก การทะเลาะกัน การแก้ปัญหา การทำให้มีปัญหามากขึ้น มึครบในบันทึก ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับคุณ กานดา น้ำมันมะพร้าว
ชีวิตทนายมีทุกรสครับ บางเคสไม่นึกว่าจะง่ายกลับจบได้โดยง่ายด้วยคำพูดดีๆเพียงไม่กี่คำ แต่บางเคสเห็นง่ายๆหลักการไม่มีไร ทราบความต้องการของทุกฝ่ายดีแต่ไม่ยอมรับให้นำหลักกฎหมายมาใช้เพื่อยุติโดยเร็ว เอาความต้องการของตนเป็นที่ตั้งเลยยาว อย่างเคสที่เล่านี้หละครับไปๆมาๆกลับที่เดิม แต่ข้อเท็จจริงมีมากกว่าที่เล่าครับ
พี่ชายคนโตไม่ยินยอมเพราะท่านถือว่าเป็นฝ่ายช่วยเหลือคุณพ่อคุณแม่ทำมาหากิน มีส่วนช่วยสร้างควรได้มากกว่าน้องๆ ขณะท่านทำงานช่วยครอบครัว บรรดาน้องๆยังเรียนหนังสืออยู่ อายุท่านกับน้องคนที่สองต่างกัน 11 ปีครับนี้คือเหตุผลของท่าน ผมไม่ได้โกรธท่านตอนทำคดีเสร็จยังเดินไปยกมือไหว้ขอโทษขออภัยที่อาจมีวาจาก้าวล่วงท่านไปบ้าง ท่านเองก็ขอโทษผมแถมยังพูดว่าถ้าฟังผมแต่แรกได้แบ่งกันไปน่านแล้ว นี้เพราะท่านคิดในแนวของท่านหากจะถามว่าแนวคิดท่านถูกต้องหรือไม่ ก็ต้องถือว่าถูกต้องเพราะใครทำมากก็ควรได้มาก แต่คุณแม่ของท่านไม่คิดเช่นท่าน กฎหมายถือเอาคำสั่งและเจตนาของเจ้ามรดกเป็นสำคัญครับ
ใช้ตามคำพระที่คุณกานดานำมามอบให้ "มองแต่แง่ดีเถิด"
ขอบพระคุณครับที่มาให้กำลังใจ
กว่าจะแบ่งมรดกได้ก็ตั้ง 11 ปีเลยนะค่ะ
นี่ถ้าฟังคุณทนายแต่แรกก็ได้เงินไปใช้นานแล้วจริงๆค่ะ
^_^ เสียดายโอกาสแทนเค้าค่ะ
ขอบคุณสำหรับข้อกฏหมายสนุกๆค่ะ
ขออภัยครับที่เข้ามาตอบคุณแป้งช้าไปหน่อย เพราะติดภาระกิจครับ
อย่าว่าแต่คุณแป้งเลยครับที่เสียดายโอกาส ผมเองก็เช่นกัน
เป็นเพราะพี่ชายคนโตท่านคิดในมุมของท่าน แต่ถ้าท่านคิดต่ออีกหน่อยว่าทำไมแม่ถึงแบ่งให้อย่างนั้น คำสั่งของแม่กฎหมายรับรองให้หรือไม่ หรือเราจะเชื่อฟังคำสั่งสุดท้ายของแม่ด้วยความเคารพจะได้หรือไม่ ผมว่าถ้าคิดเช่นนี้ก็น่าจะตกลงกันได้ จำได้ว่าผมพูดตอนประชุม หากจะทำอะไรให้นึกถึงแม่มากๆ อะไรทำนองนี้แหละครับ ก็ไม่ทราบว่าท่านนำไปคิดหรือเปล่าไม่ทราบ
เรื่องนี้ผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สินเท่านั้นที่จะป้องกันปัญหาได้โดยจัดสรรไว้ในพินัยกรรมให้ชัดแจ้งแล้วบอกกับลูกๆหลานๆให้รับทราบว่าได้ทำพินัยกรรมไว้แล้วเมื่อเปิดพินัยกรรมขอให้เชื่อฟังตามพินัยกรรม ขณะประชุมบอกกล่าวใช้วิธีถ่าย VCD.ไว้ก็ได้เมื่อถึงเวลาเอาออกมาฉายเห็นหลักฐานชัดๆว่าเป็นเจตนาคำสั่งสุดท้ายของเจ้าของทรัพย์สินจริง ศาลเห็นหลักฐานก็ตัดพยานอื่นได้เลยไม่ต้องฟังพยานอื่นอีก หรือหากพี่น้องท่านใดคิดในทางขัดแย้งกับเจ้าของทรัพย์สินก็ไม่มีเหตุผลมาโต้แย้งได้อีก
ขอบคุณครับที่แวะมาให้กำลังใจ
แวะมาเข้าห้องกฏหมายค่ะ...ถึงช้าดีกว่าไม่มา...ใช่หม๊า...
สวัสดีค่ะ คุณทนาย
แบบนี้เงินก็ได้ช้า แถมค่าเสียโอกาสก็ไม่ได้
เดี๋ยวต้องเอาไปเล่าให้ คุณตากะยายฟังแล้ว
เผื่อจะทำพินัยกรรมให้ เพราะหนูเป็นลูกสาวคนโต
กลัวเป็นแบบ ลูกชายคนโต ที่จะเสียโอกาส อิอิ
บุญรักษาค่ะ ^^
เขียนผิดค่ะ หลานสาวคนโต อิอิ
เออ..จะถามคุณโซล หลายทีแล้ว รูปแพะหรือแกะครับ ตอนท้ายบันทึกนะมีนัยอะไรป่าว นึกไม่ออกว่าฟันหน้าคล้ายใคร..ฮา.. หากเป็นแพะเดาว่าเป็นปีเกิดป่าว
ดีแลวครับที่คุณโซลจะเอาเรืองนี้ไปเล่าให้คุณตา คุณยายฟัง แต่ต้องออดอ้อนให้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้หลายสาวคนสวยคนเดียวนะ แล้วอย่างลืมส่งตังค์ค่าที่ปรึกษามาให้ด้วยเน่อ....อิ.อิ.
พอดีคุณโซลพูดถึงทรัพย์สินของคุณตาคุณยาย ผมขออธิบายเพิ่มเติมหน่อย
หากมรดกของใครไม่มีพินัยกรรม ก็ต้องนำมาแบ่งปันแก่ทายาทตามที่กฎหมายกำหนดไว้ แต่ถ้ามีพินัยกรรมต้องแบ่งตามพินัยกรรมครับ
กรณีทรัพย์สินของคุณตา คุณยาย คือตัวคุณโซล ทางกฎหมายถือว่าเป็นผู้สืบสันดานตาม ม.1629 (1) เคยอธิบายไว้แล้ว ถ้าจำไม่ได้ คลิกไปดูที่นี้ แต่ตัวคุณโซลยังไม่ถือว่าเป็นชั้นสนิทที่สุด เพราะต้องนับแม่ก่อน หากเข้าใจไม่ผิดคุณแม่ของคุณโซลเป็นลูกของคุณตากับคุณยาย คุณโซลจึงเป็นชั้นหลานเป็นชั้นถัดมา สมมุติว่าต่อไปคุณโซลมีลูกก็ถือเป็นชั้นเหลน สืบต่อๆกันไป ดังนั้นทรัพย์สินของคุณตา คุณยาย ต้องตกได้แก่ลูกก่อนในที่นี้คือแม่ คุณโซลยังไม่มีสิทธิจะได้รับ ต้องให้แม่รับก่อน ส่วนแม่ถ้ามีพี่น้องกี่คนทุกคนก็จะได้รับด้วยเท่าๆกัน เว้นแต่คุณแม่ไม่อยู่แล้วคุณโซลจึงจะมีสิทธิรับแทนในส่วนของแม่เป็นเช่นนี้ต่อๆกันไปจนขาดสาย ทั้งนี้เพราะมีกฎหมายแพ่งว่าไว้ตามนี้ครับ
มาตรา 1631 ในระหว่างผู้สืบสันดานต่างชั้นกันนั้น บุตรของเจ้ามรดกอันอยู่ในชั้นสนิทที่สุดเท่านั้นมีสิทธิรับมรดก ผู้สืบสันดานที่อยู่ในชั้นถัดลงไปจะรับมรดกได้ก็แต่โดยอาศัยสิทธิในการรับมรดกแทนที่
แต่คุณโซลในฐานะหลานหากจะได้รับทรัพย์สินของคุณตา คุณยาย โดยไม่ต้องทำตามมาตราที่ว่านี้คือการได้รับตามพินัยกรรม ดังนั้นรีบไปออดอ้อนคุณตา คุณยาย บ่อยๆครับ แฮ....เอาพอเข้าใจนะครับ
ขอบคุณครับที่แวะมาให้กำลังใจบ่อยๆ
สวัสดีค่ะ
เออ...ขอยืมปืนผมไว้กำลังจะส่งไปให้ แต่พออ่านจบ ขึ้นโลโก้ คนไทยไม่ใช้ความรุนแรง แล้วผมจะส่งไปทำหนุมานทำไม...ฮา...ก็งี้แหละเลือดไปลมมา..อิ.อิ.
คุณครูถามผมในแบบไม่ยอมจ่ายตังค์ ก็ขอตอบแบบไม่คิดตังค์
โดยขอตอบ เป็นส่วนๆนะครับเพื่อความเข้าใจ ส่วนที่เล่าแต่ไม่ถามก็จะตอบไม่คิดตังค์...ฮา...
ทีนี้มีเรื่องจะถามตรงนี้ (จะได้ไม่ต้องเสียค่าทนายอีก ฉลาดคิดนะนี่ ) พ่อกับแม่เลิกกัน (ไม่ได้จดทะเบียนสมรส) มีลูก 4 คน พ่อไปมีภรรยาใหม่ (แม่หม้ายลูกติด 1) จดทะเบียนสมรสกัน ปู่กับย่า ยกที่ดินริมทะเลให้ 9 ไร่ (สินเดิม) พ่อได้ขาย นำเงินมาซื้อที่ดินริมภูเขา ได้ 20 ไร่ เป็นที่ดินไม่มีโฉนดต่อมาที่ดินประกาศให้ทำโฉนด แม่เลี้ยงได้ดำเนินการเป็นชื่อแม่เลี้ยงเสร็จสรรพ พ่อได้บอกแม่เลี้ยงว่า ถ้าพ่อเป็นอะไรไปให้แบ่งที่ดินให้ลูกทั้ง 4 ด้วย แม่เลี้ยงตกลง ตอนนี้ที่ดินมีราคา ไร่ .เป็นล้าน เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว (เกาะสมุย) มีห้างแมคโคร บิ๊กซี สร้างใกล้เคียง
ขออธิบายส่วนนี้ก่อน ที่ดินแปลง 20 ไร่นี้ยังเป็นสินเดิมอยู่เพราะพ่อใช้เงินจากการขายที่ดิน 9 ไร่ ซึ่งเป็นสินเดิมไปซื้อมา แต่ปัญหาคือถ้ามีข้อพิพาทขึ้นการนำเสนอหลักฐานให้ศาลเชื่อว่าเป็นสินเดิมน่าจะยากหน่อย เพราะแม่เลี่ยงไปใส่ชื่อเป็นของตนซึ่งตามกฎหมายสันนิษฐานว่าเป็นสินสมรสไว้ก่อน แต่ก็ยังพอหาหลักฐานได้ครับลองค้นดูจากสำนักงานที่ดินไปดูในสาระบบของที่ดินทั้ง 2 แปลง อาจมีบันทึกไว้ และดูหลักฐานการเงินจากทางธนาคารในช่วงวันเวลาที่ขายที่ดินแปลงเก่าและซื้อที่ดินแปลงใหม่ลองดู ถ้าเจอก็ขอคัดและรับรองสำเนาเก็บไว้ แต่งานนี้หากตกลงกันไม่ได้ทนายได้ตังค์แน่...ฮา...
ก่อนไปต่อขออธิบายเรื่องสินเดิมหน่อย หากมีท่านอื่นเข้ามาอ่านในความเห็นส่วนนี้จะได้เข้าใจ "สินเดิม" กฏหมายเรียกว่า "สินส่วนตัว" หมายถึงทรัพย์สินที่คู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีมาก่อนสมรสไม่ว่าจะเป็น บ้าน ที่ดิน เงิน ทอง หรือ ทรัพย์สินที่เป็นเครื่องใช้สอยส่วนตัว หรือทรัพย์สินที่ฝ่ายใดได้มาในระหว่างสมรสไม่ว่ารับ มรดก หรือรับจากการให้โดยเสน่หาในฐานะส่วนตัวจริงๆ ส่วนทรัพย์สินที่เป็นของหมั้นถือเป็นสินส่วนตัวเฉพาะของฝ่ายหญิง ต่อมาเมื่อถ้าทรัพย์สินดังกล่าวนี้ได้แปรเปลี่ยนสภาพไปเป็นเงินหรือเอาเงินที่ได้มานั้นไปซื้อของอื่น เงินหรือของนั้นก็ยังคงเป็นสินส่วนตัว เช่นกรณีที่ดินแปลง 20 ไร่นี้ ถ้ามีหลักฐานว่าเป็นสินส่วนตัวเมื่อพ่อไม่อยู่แล้ว ที่ดิน 20 ไร่ ต้องนำมาแบ่งเป็น 5 ส่วน แม่เลี้ยงได้ไป 1 ส่วน ลูกนอกสมรสทั้ง 4 คนถ้ามีหลักฐานว่าพ่อรับรองแล้วว่าเป็นบุตรก็ได้ไปคนละ 1 ส่วน แต่ถ้าไม่มีหลักฐานว่าที่ดิน 20 ไร่เป็นสินส่วนตัว ต้องเอามาแบ่งให้แม่เลี้ยงไปครึ่งหนึ่งเสียก่อนเพราะเป็นสินสมรส ที่เหลือถึงจะเป็นมรดกนำมาแบ่งเป็น 5 ส่วน เออ...งง...ยังไม่เข้าใจ คลิกไปอ่านที่นี้ครับ จะได้..งงต่อ ฮา....
คำถามต่อมา
อยากถามว่าถ้าพ่อไม่ได้ทำอะไรไว้ ลูกนอกสมรสทั้ง 4 คนจะมีสิทธิในที่ดินั้นหรือไม่ (พ่อไม่มีลูกกับแม่เลี้ยง)
ข้อนี้ได้ตอบแล้วนะครับ ว่าลูกนอกคอก...ขออภัยพิมพ์ผิด อิ.อิ. ลูกนอกสมรสทั้ง 4 คนจะมีสิทธิในที่ดินก็ต่อเมื่อมีหลักฐานว่าบิดารับรองบุตรแล้วตามที่ตอบข้างต้น ทีนี้การรับรองบุตรนี้รับรองอย่างไร เช่นตอนเรียนหนังสือพ่อไปแจ้งเป็นผู้ปกครองและบอกว่าเป็นพ่อ ในทะเบียนบ้านก็ระบุว่าเป็นพ่อ ในสังคมของพ่อก็บอกกับทุกคนว่าทั้ง 4 คนเป็นลูกอะไรทำนองนี้ครับ คำถามต่อไป ถ้าแม่เลี้ยงเกิดไปก่อนพ่อ ลูกเลี้ยงคนนั้นมีสิทธิในที่ดินผืนนั้นหรือไม่ และลูกทั้ง 4 คน มีสิทธิหรือไม่ ข้อนี้ ถ้าแม่เลี้ยงเกิดไปก่อนพ่อ ลูกเลี้ยง(ที่ติดแม่มา) มีสิทธิในที่ดินเฉพาะสัดส่วนของแม่เลี้องครับ ทางกฎหมายเรียกว่ารับมรดกแทนที่ แต่ถ้าแม่ยังไม่ไปลูกคนนี้ไม่มีสิทธิในที่ดินครับ ไปอ่านในความเห็นที่21 ซึ่งผมตอบคุณโซล ประกอบด้วยจะเข้าใจมากขึ้นในเรื่องรับมรดกแทนที่ ครับส่วน ลูกทั้ง 4 ยังคงสิทธิตามที่ตอบในข้อก่อนแล้ว
ส่วนที่คุณครูบอกว่าลูกชายคนเล็กของพ่อเคยไปบอกให้ทำพินัยกรรมแล้วโกรธไม่ลองหาวิธีเอาเรื่องที่ผมเล่านี้ไปให้คุณพ่อลองอ่านดูซิครับ
ตอบให้ชัดแล้ว ส่งส่วยเลยได้ป่าวผมไม่กล้าขึ้นสวรรค์กลัวเหงา...ฮา....
ขอบคุณครับที่แวะมาให้กำลังใจ
สุดยอดค่ะยุติธรรมคือศาสตร์
ศาสตร์หาคือยุติธรรมเสมอไม่
จะรออ่านเรื่องหน้าวันอังคารนะคะ....ปิดศาล
ที่บ้านมีแต่หนี้ค่ะ
คงจะฆ่ากันเพราะแย่งหนี้กัน ฮ่าๆๆ
ขอบคุณที่แวะไปทักทายที่ blog ค่ะ
มาเป็นกำลังใจให้นะ
ตอบความคิดเห็นให้แล้วน่ะ
โปรดติ๊ดตาม ต๋อนต่อไป....รู้ได้ไงว่าเราหัวเราะ
ด้วยความสุดคะนึงค่ะ
ขอบพระคุณครับคุณครูจิ๋วที่แวะมาให้กำลังใจ
ขออภัยนะครับที่ไม่ได้เข้ามาตอบตั้งแต่เมื่อคืน เพราะไปติดตามข่าว
ผมเข้าไปดูคำตอบความคิดเห็นแล้วครับ เดิมทราบอยู่ครับว่าชื่อที่ใช้อยู่นี้เป็นชื่อจริงของคุณครู แต่ไม่ทราบควาหมาย เลยหาวิธีถามจากคุณครู เอาเืรื่องดูดวงมาถามเพราะคาดว่า ผู้หญิงกับการดูดวงนี้จะคู่กัน แต่ถ้าคุณครูไม่ตอบก็คงต้องถามตรงๆว่าชื่อมีความหมายว่าอะไร
ขอบคุณครับ "ภัทรานิษฐ์ " หมายถึง "น้องสาวผู้มีความดีงาม "