โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง เป็นกลุ่มโรคเรื้อรังที่ผู้ป่วยต้องได้รับการดูแลรักษาที่ได้มาตรฐาน ประกอบกับการมีความรู้ความเข้าใจในการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องของผู้ป่วยเอง ผ่านการช่วยเหลือสนับสนุนจากบุคลากรด้านสาธารณสุข แต่การให้ความรู้ในปัจจุบันคงเป็นเหมือนการเอาความรู้ใส่กล่องหนึ่งใบ แต่ด้วยความหลากหลายของผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยบางคนเปิดกล่องและนำความรู้ไปใช้ได้ อีกหลายคนที่เปิดกล่องแล้วไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ และบางส่วนไม่สามารถเปิดกล่อง หรือไม่สนใจกล่องนั้นเลย
โหลดเพลงเบาหวาน เบาใจ (b) เพลงดันสูง ดลใจ (a)
ที่ http://www.thcph.com/download
เหมือนกับการให้ความรู้ในรูปแบบเดิมของศูนย์สุขภาพชุมชนตำบลธาตุพนม ที่ยังมอบกล่องความรู้ใบนั้นให้ผู้ป่วยถือกลับบ้านไป ผ่านการให้ความรู้โดยการสอนในรูปแบบเดิม ๆ ระหว่างรอคอยแพทย์ ซึ่งทำให้ผู้ป่วยที่มาใช้บริการที่คลินิกเบาหวานและความดันโลหิตสูง จำนวนประมาณวันละ 50 ราย ในสถานที่ที่ค่อนข้างคับแคบ ประกอบกับความกังวลเกี่ยวกับโรคที่มีอยู่แล้ว ทำให้ผู้ป่วยเกิดความเครียดสูงระหว่างรอคอย
จึงเกิดแนวคิดในการปรับรูปแบบการให้ความรู้ ให้มีความสนุกสนานภายใต้เนื้อหาสาระ โดยการใช้เพลงที่แต่งขึ้นมาเป็นสื่อกลาง เพื่อให้ผู้ป่วยมีความสนใจ คลายเครียด และเตรียมพร้อมที่จะเรียนรู้ ซึ่งเปรียบเสมือนการสร้างความน่าสนใจให้กับกล่องความรู้ใบเดิมนั่นเอง
รูปแบบการให้ความรู้ที่ศูนย์สุขภาพชุมชนตำบลธาตุพนม มีการนำกิจกรรม “ความรู้คู่บทเพลง” มาใช้ตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2552 โดยใช้เวลาระหว่างรอผลตรวจเลือดและรอพบแพทย์ มาใช้ให้เกิดประโยชน์ เริ่มด้วยเจ้าหน้าที่ดึงดูดความสนใจของผู้ป่วยด้วยเสียงเพลง “เบาหวาน เบาใจ” และเพลง “ดันสูง ดลใจ” ประกอบกับเสียงฉิ่ง กลอง ให้จังหวะที่สนุกสนาน เร้าใจ โดยใช้บริเวณทางเดินขึ้นตึกใกล้ ๆ กับจุดรอตรวจเป็นสถานที่ทำกิจกรรม จัดวางเก้าอี้เป็นครึ่งวงกลม ด้านหน้ามีบอร์ดให้ความรู้ บอร์ดเนื้อเพลง และอุปกรณ์ให้ความรู้ต่าง ๆ เช่น โมเดลอาหาร ตัวอย่างยา รองเท้าและอุปกรณ์ดูแลเท้าผู้ป่วยเบาหวาน
การให้ความรู้คู่บทเพลง เริ่มจากการสอนร้องเพลง ร้องเพลงร่วมกัน อธิบายเนื้อหาสาระของเนื้อเพลง มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันระหว่างกลุ่มผู้ป่วยด้วยกันเอง และระหว่างกลุ่มผู้ป่วยกับเจ้าหน้าที่ผู้ให้ความรู้ โดยใช้หลัก 3 อ. คือ อาหาร อารมณ์ และออกกำลังกาย กระบวนการกลุ่มทั้งหมดใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง และจบด้วยการร้องเพลงร่วมกันอีกครั้ง
กิจกรรมความรู้คู่บทเพลง โดยการใช้เพลงมาเป็นสื่อกลางในการให้ความรู้ในคลินิกเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง สามารถวัดความพึงพอใจในภาพรวมได้ร้อยละ 92.5 โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความพึงพอใจในระดับมากถึงมากที่สุด จากข้อคำถามทั้งหมด รวมถึงในข้อเสนอแนะยังพบว่าผู้ป่วยสามารถนำความรู้ไปปฏิบัติได้จริง มีความสุขที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมเมื่อมารับบริการที่โรงพยาบาล ได้สัมพันธภาพระหว่างเพื่อนที่มารับบริการด้วยกัน รวมทั้งมีความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวเจ้าหน้าที่มากขึ้น นอกจากนี้ผลจากการสังเกตกระบวนการกลุ่ม พบว่า นอกจากการร้องเพลง ยังพบการมีส่วนร่วมของกลุ่มผู้ป่วยด้วยกันเอง ทั้งการร่วมปรบมือ ร่วมฟ้อนรำ ร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยหน้าตาที่สดชื่นแจ่มใส แต่ผลท้ายสุดที่ต้องการ ของการดำเนินงาน คือการที่ผู้ป่วยที่สามารถดำเนินชีวิตกับโรคที่เป็นอยู่อย่างมีความสุข นำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ได้ด้วยตนเอง เป็นแบบอย่างให้กับครอบครัว ชุมชนได้
แหละนี่คือ สิ่งตอบแทนที่พวกเราได้รับจากสิ่งการทำงานที่ออกมาจากหัวใจดวงน้อย ๆ เพื่อผู้รับบริการ
ขอขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงานนวัตกรรมชิ้นนี้ ม๊าก ๆ ครับผม
เป็นกำลังใจให้นะครับ
น้องชาย คนเก่ง
แวะมาให้กำลังใจ..คนทำงานค่ะ
ดีจังนะคุณวัชชิระ วันหลังเอาเนื้อเพลงมาเผยแพร่ด้วยก็ดี เผื่อที่อื่นจะได้เอาไปใช้ด้วย เขียนบันทึกบ่อยๆ นะคะ แทนคุณเอนกที่ไปเรียนต่อ
เก่งมากเลยคะ
พี่เรา
^^
สวัสดีครับ ..ชายอ้อบ
เพิ่งมีโอกาสแวะมา ดู อ่าน กิจกรรมดีๆ สนุกและสร้างสรรค์แบบนี้ ต้องขายไอเดีย ต่อนะจ้ะ อยากฟังเพลงมั่ง..ไว้วันหลังจะแวะไปที่ PCU ธาตุพนม เด้อ
ขอชื่นชมผลงานของอ๊อบค่ะ ขอให้เตรียมผลงานนำเสนอในวันประชุมเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการพยาบาลเขต11 เพื่อคัดเลือกผลงานเป็นตัวแทนของ เขต 11 ณ โรงพยาบาลมุกดาหาร วันที่ 2 ก.ค.53 ค่ะ
พี่ชาย เราเก่งมากเลย เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆ เก่งมาก