20 กุมภาพันธ์ 2553 ที่ผ่านมา เด็กดีพัฒนาได้มีโอกาสไปเรียนรู้ กิจกรรม ของศูนย์เรียนรู้ภูฟ่า ม. 3 ตำบลตะโหมด อำเภอตะโหมด จังหวัดพัทลุง เพื่อ ให้กลุ่มเด็กดีพัฒนา และ เด็ก ศูนย์เรียนรู้ภูฟ่า ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กิจกรรมกิจกรรม ซึ่งกันและกัน และ เพื่อให้กลุ่มเด็กดีพัฒนาได้เรียนรู้กิจกรรมการละเล่นพื้นบ้าน ของศูนย์เรียนรู้ภูฟ่าโดยนายอภัย สุวรรณจินดา(พี่ภัย)ผู้ริเริ่มก่อตั้งศูนย์ และ ก้ามปู จึงได้ทราบว่าที่มาของชื่อ คือน้องภู และน้องฟ่า ลูกชายสุดที่รักของพี่ภัยเองคะ สถานที่ของศูนย์เรียนรู้ตั้งอยู่หน้าบ้านพี่ภัยเอง ด้านหลังศูนย์เรียนรู้ เป็นคลอง น้ำไม่ลึกมาก เหมาะที่จะให้เด็กๆ ลงไปเล่นน้ำได้ ตั้งอยู่ห่างจากวัดตะโหมด ประมาณ 500 เมตร เหมาะที่จะให้เด็กๆ ที่มารวมกลุ่มกันเดินทางไปเรียนรู้ การละเล่นประเภท ลานได้เป็นอย่างดี
จากการเรียนรู้ครั้งนี้ทำให้เราได้ทราบว่า การละเล่นพื้นบ้าน และ วัฒนธรรมพื้นบ้าน มีเนื้อหา คติ การสอนแฝงอยู่ด้านในมากมาย เช่น
การสร้างความสัมพันธ์ความผูกพันในผู้เล่น วงเวียน เป็นการละเล่นกลุ่มใหญ่ ผู้เล่นต้องปิดตา เพื่อที่จะทายคนอื่นๆ ว่าเป็นใคร สามารถจำเอกลักษณ์ของเพื่อนๆ ได้ มีคำกล่าวที่ไพเราะ คล้องจองกัน “วงเวียนมาเวียนกินกุ้ง เข้ล่องไปวงเวียนล่องมา เจ้าไร่เห่อ ขอไม้ไผ่สักลำ ปลุกเสาหนำทำโรงวงเวียน” ซึ่งผู้เล่นต้องช่วยกันร้องพร้อมๆ กัน
การแสดงความกตัญญู เช่นการทำขนมโค นอกจากเด็กๆ ได้เรียนรู้ว่าทำอย่างไร และ ง่ายกว่าที่คิดไว้มากมาย ผู้สอนยังสื่อให้เด็กๆเยาวชนได้ทราบว่าเป็นการสื่อถึงความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ เพราะขนมโคนิยมนำมาบนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิขอให้เราได้ในสิ่งที่ต้องการ เมื่อได้แล้วก็จะนั่งทำขนมโคกันเพื่อที่จะแสดงหรือรำลึกถึงการมีพระคุณ และ สื่อให้เห็นว่าเราต้องรำลึกถึงผู้มีพระคุณเสมอๆ ทำให้เด็กเยาวชน นึกไปถึง พ่อแม่ ครู อาจารย์ เพื่อนฝึกการวางแผน เช่นหมากรุก หมากขุม กีฬาประเภทลาน ฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เป็นต้น
ได้เรียนรู้ว่า การที่เยาวชนรุ่นใหม่ไม่ได้นำการละเล่น หรือ อาหารพื้นบ้านมาใช้ เนื่องจากเยาวชนไม่มีต้นแบบ หรือแบบอย่าง ในการปฏิบัติและ ไม่มีแหล่งเรียนรู้ และ ไม่รู้จักกิจกรรมเหล่านั้น เราผู้ใหญ่ ได้สร้างแบบไว้ให้กับเด็กๆ บ้างหรือยัง
ดูจากกิจกรรมแล้ว ไม่มีใครมีความสุขและสนุกเกินเด็กๆ แล้วค่ะ
เป้นกิจกรรมที่ดีมากๆๆ ขอชื่นชมค่ะ :-)
สวัสดีคะ
สวัสดีครับคุณหมอก้ามปู
สวัสดีครับ...คุณหมอปู...