หนูเป็นคนหนึ่งที่เข้ากับอาจารย์ไม่ค่อยได้
เกรงกลัวไปหมดซะทุกคนและทุกกรณี
ทำให้มีผลเสียกับชีวิตการเรียนของหนู
อย่างแรกที่หนูคิดมาได้เลยคือ...
ไม่กล้าตามไปเซ็นต์ chart ย้อนหลัง
หรือทำงานเสร็จเลยกำหนดส่งไปเพียง 1 วัน แต่ไม่กล้าไปตามไปส่งอีกเลยสำหรับงานชิ้นนั้น ๆ
ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน เพราะร้ายแรงที่สุดน่าจะเป็นการถูกตักเตือนหรือหักคะแนนส่วนนั้นออกไป
แต่ยังทำใจให้เข้ากับอาจารย์ไม่ได้... และสำหรับหนูมันเป็นอุปสรรคสำคัญของชีวิตการเรียนเลยทีเดียว
ปัญหาอาจจะอยู่ที่จิตใจของหนูเองก็ได้ค่ะ
ชีวิตนักศึกษาทันตแพทย์ที่อื่น ๆ เป็นอย่างไรบ้าง
จะทุกข์...เหมือนทีหนูกำลังเป็นอยู่นี้รึเปล่า (บางครั้งก็อยากพาตัวเองไปพบจิตแพทย์เหมือนกันค่ะ)
พิมพ์ไปน้ำตาคลอไป..
ความกลัว น่าจะเกิดจาก ความไม่รู้ หากเรารู้มากขึ้นเราคงจะไม่กลัว
ความกลัวที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง จะทำให้เกิดปัญหาตามมาทีหลังมากมาย ดังนั้น ศิษย์จึงควร "กล้า" ที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง "กล้า"ที่จะสารภาพความผิด อาจารย์เชื่อว่าครูส่วนใหญ่จะให้อภัย
ควรหัดสารภาพกับอาจารย์คนที่มีแนวโน้มจะเข้าใจศิษย์ได้มากก่อน หรืออาจเริ่มจากการปรึกษากับอาจารย์ที่ปรึกษา รองคณบดีฝ่ายกิจการนิสิต นักศึกษา
ที่สำคัญ คือศิษย์จะต้องยอมรับที่จะ "พัฒนาตนเอง" หรือ แก้ไขความบกพร่องนั้นด้วย คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้อภัยใครที่ทำความผิดซ้ำแล้วซ้ำเล่านะครับ
จากความกลัวของน้อง น้องรู้ว่าเกิดจากจิตใจของน้องที่คิดขึ้นมา คงเกิดได้กับทุกคนรวมทั้งพี่ด้วยคะ
กลัวอาจารย์ดุจนไม่กล้าหรืออยากพบอาจารย์ ตอนหลังๆ พยายามเปลี่ยนความคิดตัวเองคะ ความรู้ย่อมเกิดจากความไม่รู้ อาจารย์ดุก็เพราะหวังดีคะ
ทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตถือว่าเป็นบทเรียนคะ อาจจะมีบทเรียนที่เรารู้สึกประทับใจ และไม่ประทับใจบ้าง อย่าพยายาม เอาคำพูดที่ทำให้เรารู้สึกแย่มากดดันตัวเองคะ (พี่ก็พยายามทำและเรียนรู้บทเรียนนี้)
เอลินอร์ รุสเวลต์ เคยกล่าวว่า "ไม่มีใครที่จะทำให้คุณรู้สึกด้อยค่าได้ถ้าตัวคุณไม่ยอมรับเอง"
พี่อยากให้น้อง สู้สู้ ไปพร้อมๆ กันนะคะ และจะได้มีบทเรียนไว้แลกเปลี่ยนกันคะ"
นักศึกษาคนนี้คงกลัวไก่ด้วยแน่นอนค่ะ เพราะเดาจากเรื่องแล้วน่าจะใช่
คงจะบอกว่า คนเรามีความกลัวอยู่ในตัวอย่างแน่นอน แต่อาจจะกลัวไม่เหมือนกัน หรืออาจจะเหมือนกันก็ได้ ไม่มีใครวัดได้ว่ากลัวอะไรที่น่ากลัวกว่ากัน
มีคนหลายคนบอกไว้ว่า ความกลัวคือการหนีจากความจริง ความกลัวมักจะบิดเบือนการกระทำของเรา ทำให้ความคิดบิดเบี้ยวและทำให้วิถีชีวิตผิดพลาด
ความกล้าไม่ใช่การไม่กลัว แต่เป็นการพร้อมเผชิญหน้ากับความกลัวและอยู่กับมันอย่างไม่หลีกหนี แม้จะยังก้าวข้ามไปไม่ได้ก็ตาม
ไม่มีผู้กล้าคนใดที่ไม่รู้จักความกลัว การครุ่นคิดไม่ช่วยให้ข้ามพ้นความกลัว แต่การกระทำช่วยได้
ขอแนะนำว่า ลองเผชิญหน้ากับมัน แล้วจะพบว่าคนที่เรากลัว เค้าพร้อมจะช่วยเหลือเราอยู่แล้ว...รอแค่เรากล้าที่จะทำเท่านั้นแหละค่ะ
อ. กุ๊กไก่
สิ่งที่ดีมากๆตอนนี้คือ หนูรู้จักปัญหาของตัวเอง ว่ามีความกลัวอาจารย์เป็นเรื่องใหญ่ แล้วก็รู้ด้วยว่าถ้าปล่อยให้เกิดความกลัวไปเรื่อยๆจะเกิดปัญหาอะไร
พี่ว่าความกลัวเป็นปัญหาพื้นฐานของชีวิตทั่วไป เราผ่านความกลัวมาหลายสเต็ปตั้งแต่เป็นเด็ก จนถึงทุกวันนี้ เราเคยกลัวผี กลัวความมืด กลัวเพื่อนไม่รัก กลัวสอบตก กลัวสอบเข้ามหาลัยไม่ได้ และนักศึกษาทันตแพทย์ทุกคนก็เคยผ่านความกลัวที่หลากหลายมาตลอดทุกรุ่น
แต่ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่า ความกลัวหลายอย่างตอนเด็กๆ ตอนนี้เราไม่กลัวมันอีกแล้ว หรือกลัวน้อยลง เพราะเราเรียนรู้ว่า เรื่องที่เรากลัวตอนเด็กๆนั้นจริงๆแล้วมันไม่มีอะไรน่ากลัว ในคืนที่เรากลัวอะไรๆในความมืดของคืนนั้นที่สุด เราก็ตื่นเช้ามาเจอวันใหม่เสมอ ความกลัวที่หนักหนาสาหัสก็ไม่เคยดึงชีวิตเราไว้เพียงแค่คืนนั้น การเดินผ่านความกลัวในแต่ละครั้ง จะทำให้เราเก่งขึ้น แกร่งขึ้น และสุขใจขึ้นว่าเราเอาชนะมันได้ ที่สำคัญคือ ชนะใจเราเองที่กลัวจนน้ำตาไหลในคืนนั้นได้ การเรียนรู้จะเกิดขึ้นค่ะ
ชีวิตจะส่งบททดสอบมาให้เราเรื่อยๆค่ะ ชีวิตนักศึกษาทันตแพทย์อาจจะโชคดีที่เจอเร็วกว่าคนอื่น คือถูกทดสอบจากหลายทาง บททดสอบเหล่านี้เป็นบททดสอบที่เราต้องตอบ ต้องทำโจทย์เสียด้วย เพราะถ้าเราไม่ทำ มันจะกลายเป็นโจทย์ของเราไปตลอด ถ้าเราหันหลังให้กับความกลัวอะไรสักอย่าง เราอาจจะต้องหนีมันไปเรื่อยๆ และมันอาจจะทำให้เรากลายเป็นคนแก้ปัญหาอื่นๆด้วยวิธีนั้นอีกซ้ำๆไป
เคยไหมคะ ที่เรากลัวอะไรซักอย่าง กังวลกับอะไรมากๆ แต่พอเผชิญกับเรื่องนั้นจริงๆ กลับไม่มีอะไรเลย แล้วเราก็บอกว่า โถ! กลัวแทบแย่ แต่ก็ไม่มีอะไร ขาดทุนที่กลัวไปตั้งนาน
เพลงเก่าๆสมัยพี่เป็นวัยรุ่นของอัสนี วสันต์ ยังเป็นวรรคที่ใช้ได้เสมอกับชีวิต คือ “ไม่มีอะไรที่มันน่ากลัว เท่ากับตัวเราคิดมากไป” และพี่เก็บประโยคที่หนุ่มเมืองจันทน์ มาบรรยายในงานปัจฉิมนิเทศน์ ของพี่ปีหก และพูดเกี่ยวกับความกลัวว่า “ความมืด ไม่น่ากลัวเท่ากับจินตนาการของเราเกี่ยวกับความมืด” บางทีภาพที่เราวาดไว้เกี่ยวกับอาจารย์อาจจะไม่มีอะไรน่ากลัวจริงๆ อย่างที่เราจินตนาการไว้ก็ได้นะคะ
อย่ากังวลว่าคนอื่นจะคิดกับเราอย่างไร มากกว่าเราคิดว่าเราเป็นอย่างไรนะคะ ถ้าเราเป็นนักเรียนที่ทำตามสิ่งที่ควรทำ อาจจะมีผิดพลาด เราเรียนรู้ ยอมรับแก้ไข ไม่มีครูที่ไหนไม่ยอมรับหรอกค่ะ
คำว่าจิตแพทย์เองก็ไม่ใช่อะไรน่ากลัวนะคะ หมอเขาเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ดี และมีทางช่วยเหลือเราได้เยอะ แวะมาคุยกันหรือฝากเรื่องไว้กับฝ่ายกิจการก็ได้ค่ะ พี่ยินดีรับฟังและช่วยกันแก้ไขค่ะ
ตอนนี้รู้จักความคิดตัวเองแล้ว ลองก้าวออกมานะคะ ทางเดินมีให้เดินหลายทาง อย่าขังตัวเองไว้กับความกลัวในซอกแคบๆอีกต่อไปเลยค่ะ พี่อยากให้หนูมีความสุขค่ะ