น้ำหมักชีวภาพ เรารวบรวม ความหมาย วิธีการทำ น้ำหมักชีวภาพ หลากหลาย มีทั้ง น้ำหมักชีวภาพ สำหรับข้าว สำหรับข้าวโพด สำหรับ ไม้ผล ซึ่ง น้ำหมักชีวภาพ นั้นมี 3 ชนิดด้วยกัน ไปศึกษากันได้ ปัจจุบันมีการนำปุ๋ยเคมีมาใช้ในการเกษตรเป็นอย่างมาก ซึ่งทำให้ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ ทำลายดินให้เสื่อมโทรม ทำให้ได้พืชผลทางการเกษตรที่น้อยลงและด้อยคุณภาพ จึงมีการรณรงค์ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพให้มากขึ้น น้ำสกัดชีวภาพ หรือที่เรียกว่า น้ำหมักชีวภาพ เป็นอีกทางเลือก ที่เกษตรกรสามารถนำมาใช้เป็นปุ๋ย และป้องกันกำจัดศัตรูพืช แทนปุ๋ยเคมีและสารเคมีกำจัดศัตรูพืชได้ ซึ่งปัจจุบันเกษตรกร มีการหันมาใช้น้ำสกัดชีวภาพมากขึ้น ความหมายของน้ำสกัดชีวภาพ น้ำสกัดชีวภาพ หรือ น้ำหมักชีวภาพ หรือ ปุ๋ยอินทรีย์ เป็นคำที่มีความหมายเดียวกัน คือ เป็นสารละลายเข้มข้นที่ได้จากการหมักแศษพืช หรือสัตว์ ย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ สารละลายเข้มข้นที่ได้จะมีสีน้ำตาล ประโยชน์ของน้ำสกัดชีวภาพ น้ำสกัดชีวภาพประกอบด้วยสารอินทรีย์ต่างๆ หลากหลายชนิด เช่น เอนไซม์ฮอร์โมน และธาตุอาหารต่างๆ เอนไซม์บางชนิดจะทำหน้าที่ย่อยสลายอินทรียวัตถุให้เป็นอาหารของจุลินทรีย์และเป็นอาหารของต้นพืช ฮอร์โมนหลายชนิดที่จุลินทรีย์สร้างขึ้นก็เป็นประโยชน์ต่อพืชถ้าให้ปริมาณเล็กน้อย แต่จะมีโทษถ้าให้ในปริมาณที่เข้มข้นเกินไป ฉะนั้น ในการใช้น้ำสกัดชีวภาพในพืชจำเป็นต้องให้ในอัตราเจือจาง สารอินทรีย์บางชนิดในน้ำสกัดชีวภาพเป็นสารเพิ่มความต้านทานให้แก่พืชที่ทำให้พืชมีความต้านทานต่อโรคและแมลง และทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ชนิดน้ำหมักชีวภาพ จำแนกได้ 3 ประเภทหลักๆดังนี้ 1. น้ำหมักชีวภาพสูตรบำรุงใบลำต้นเป็นน้ำหมักที่ได้จากการหมักพืชเศษอาหารสัตว์และหอยต่างๆ 2. น้ำหมักชีวภาพสูตรฮอร์โมน จะบำรุงดอก ผล เป็นน้ำหมักที่ได้จากการหมักผลไม้สุกต่างๆ 3. น้ำหมักชีวภาพสูตรสมุนไพรป้องกันกำจัดศัตรูพืช เป็นน้ำหมักที่ได้จากการหมักพืชสมุนไพรต่างๆ จากการจัดการความรู้ (KM) ในอำเภอพระนครศรีอยุธยา เกษตรกรมีการตื่นตัวและสนใจในการทำ
การทำน้ำหมักชีวภาพของเกษตรที่ใช้ในแปลงข้าว การทำน้ำหมักชีวภาพของเกษตรกรในอำเภอพระนครศรีอยุธยา เกษตรกรจะทำน้ำหมักชีวภาพโดยการหาวัตถุดิบจากท้องถิ่นพื้นที่ตำบล น้ำหมักชีวภาพ สูตรที่ 1 มีส่วนผสม ดังนี้ (ผู้เล่า : นายอุดมศักดิ์ ถารีพันธ์ ต.สำเภาล่ม) 1. ผักบุ้ง 1 ส่วน 2. หัวปลาหรือหอยเชอรี่ 1 ส่วน 3. ผลไม้สุก 1 ส่วน 4. ผักชนิดต่าง ๆ 1 ส่วน 5. กากน้ำตาล 1 ส่วน 6. พ.ด. 2 โดยเกษตรกรจะหมักทิ้งไว้ 1 เดือน แล้วนำมาใช้กับแปลงนาปี โดยผสมไปตามรางน้ำที่นำน้ำเข้านา น้ำหมักชีวภาพ สูตรที่ 2 มีส่วนผสม ดังนี้ (ผู้เล่า : นายปลิว ไตรลึก ต.บ้านป้อม) 1. ผักบุ้ง 1 ส่วน 2. หัวปลาหรือหอยเชอรี่ 1 ส่วน 3. น้ำมะพร้าว 1 ส่วน 4. ผลไม้สุก 1 ส่วน 5. ผักชนิดต่าง ๆ 1 ส่วน 6. กากน้ำตาล 1 ส่วน 7. พ.ด. 2 โดยเกษตรกรจะหมักทิ้งไว้ 1 เดือน แล้วนำมาใช้กับแปลงนาปี โดยผสมไปตามรางน้ำที่นำน้ำเข้านา น้ำหมักชีวภาพ สูตรที่ 2 มีส่วนผสม ดังนี้ (ผู้เล่า : นายลี ไกรทัต ต.คลองตะเคียน) 1. ผักบุ้ง 1 ส่วน 2. กากสัปปะรด 1 ส่วน 3. ปลา (หรือหอยเชอรี่) 1 ส่วน 4. กากน้ำตาล 1 ส่วน 5. นมเปรี้ยวหรือโยเกิร์ต 100 ซีซี เกษตรกรจะหมักทิ้งไว้ 1 เดือน แล้วนำมาใช้โดยการฉีดพ่นลงในแปลงนาปรัง วิธีการปลูกข้าวนาปรังที่ใช้น้ำหมักชีวภาพ มีขั้นตอน ดังนี้ 1. ไถหมักฟางข้าว 15 วัน 2. หว่านข้าว จำนวน 2 ถังครึ่ง/ไร่ 3. ใส่น้ำหมักชีวภาพตามรางน้ำ 1 ครั้ง เมื่อข้าวอายุได้ 25 วัน 4. เมื่อข้าวอายุได้ 50 วัน ใส่น้ำสกัดชีวภาพตามรางน้ำอีก 1 ครั้ง ร่วมกับการใช้ปุ๋ยเคมี 16-20-0 5. เมื่อข้าวตั้งท้องใช้ยาฮอร์โมน 10 ซีซี/น้ำ 1 ปี๊ป 6. เมื่อข้าวอายุ 95 วัน เก็บเกี่ยวโดยจ้างรถเกี่ยว 7. ไถหมักฟางข้าว เกษตรกรจะไม่เผาฟางข้าว แต่จะไถหมักฟางข้าวลงไปในแปลงนา ซึ่งเป็นการบำรุงรักษาดินผลของการใช้น้ำหมักชีวภาพ เกษตรกรสามารถลดรายจ่ายจากการซื้อปุ๋ยเคมี โดยก่อนใช้ปุ๋ยน้ำหมักได้ผลผลิต จำนวน 70 ถัง/ไร่ หลังจากที่ใช้น้ำหมักชีวภาพได้ผลผลิต 100 ถัง/ไร่ สูตรที่ 2 มีส่วนผสม ดังนี้ (ผู้เล่า : นายพรต สุขสมนิตย์ ต.ปากกราน) 1. มะละกอ 1 ส่วน 2. กล้วยหอม 1 ส่วน 3. เปลือกสัปปะรด 1 ส่วน 4. หอยเชอรี่ 1 ส่วน 5. ไข่ขาว 1 ส่วน 6. ผักต่าง ๆ 1 ส่วน 7. กากน้ำตาล 1 ส่วน 8. พ.ด. 2 โดยเกษตรกรจะหมักในโอ่ง ทิ้งไว้นาน 1 เดือน นำมาฉีดพ่นลงในแปลงนาปรังในอัตรา 1 :500 น้ำหมักชีวภาพ สูตรที่ 3 มีส่วนผสม ดังนี้ (ผู้เล่า : นายสมควร สุขสมศรี ต.ปากกราน) 1. ปลาหรือหอยเชอรี่ 1 ส่วน 2. สัปปะรด 1 ส่วน 3. กากน้ำตาล 1 ส่วน 4. พ.ด. 2 โดยเกษตรกรจะหมักในโอ่ง ทิ้งไว้นาน 1 เดือน นำมาฉีดพ่นลงในแปลงนาปรังในอัตรา 1 :500 เกษตรรายนี้มีวิธีการปลูกข้าวนาปรังโดยการใช้ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ ดังนี้ 1. ไถพรวน 2. พลิกดินและหว่าน 3. เมื่อข้าวอายุได้ 12 – 15 วัน พ่นยาฆ่าหญ้ากับน้ำหมักชีวภาพ 4. ขึ้นน้ำมิดหญ้า เพื่อให้หญ้าตาย 5. เมื่อข้าวอายุได้ 18 วัน ใส่ปุ๋ย 16-20-0 6. เมื่อข้าวอายุ 45 , 60 วัน ฉีดน้ำหมักชีวภาพร่วมกับฮอร์โมน 7. เก็บเกี่ยว โดยใช้เครื่องจักรเก็บเกี่ยว ไถหมักฟางข้าว
การใช้น้ำหมักชีวภาพในแปลงข้าวโพด สูตรที่ 1 (ผู้เล่า : นางเฉลิม กลมปล้อง ต.ปากกราน) 1. มะละกอ 1 ส่วน 2. กล้วยหอม 1 ส่วน 3. เปลือกสัปปะรด 1 ส่วน 4. น้ำมะพร้าว 1 ส่วน 5. หอยเชอรี่ 1 ส่วน 6. ไข่ขาว 1 ส่วน 7. ผักต่าง ๆ 1 ส่วน 8. กากน้ำตาล 1 ส่วน 9. พ.ด. 2 โดยเกษตรกรจะหมักในโอ่ง ทิ้งไว้นาน 1 เดือน นำมาฉีดพ่นลงในแปลงข้าวโพดในอัตรา 1 :500 สูตรที่ 2 (ผู้เล่า : นายประยูร ยันนาคี ต.บ้านเกาะ) 1. ผักหรือผลไม้ที่หาได้ในตำบล 1 ส่วน 2. กากน้ำตาล 1 ส่วน 3. พ.ด.2 โดยเกษตรกรจะหมักในภาชนะพลาสติก ทิ้งไว้นาน 1 เดือน นำมาใช้โดยคลุกเมล็ดข้าวโพดก่อนหยอดหลุม และนำมาฉีดพ่นลงในแปลงข้าวโพดใน อัตรา 1 :500 วิธีการปลูกข้าวโพดโดยการใช้ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ ดังนี้ 1. ไถพลิกหน้าดิน ให้ดินร่วนซุย 2. ไถร่อง และโรยเมล็ดข้าวโพดตามร่อง 3. ฉีดน้ำหมักชีวภาพ โดยจะฉีดเมื่อข้าวโพดมีอายุ 10 วัน เป็นต้นไป โดยจะฉีด 7 วัน/ครั้ง 4. เมื่อข้าวโพดอยู่ในระยะออกดอก จะฉีดน้ำหมักชีวภาพ 5 วัน/ครั้ง 5. เมื่อข้าวโพดอายุได้ 2 เดือน เก็บเกี่ยว โดยที่เกษตรกรจะต้มขายเอง เกษตรกรสามารถลดค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยเคมีได้มาก และได้ข้าวโพดที่ปลอดภัยต่อผู้บริโภค และดินที่ใช้ปลูกข้าวโพดร่วนซุย ส่งผลให้พืชงอกงามดี การใช้น้ำหมักชีวภาพ ในแปลงผักและไม้ผล สูตรที่ 1 มีส่วนผสม ดังนี้ (ผู้เล่า : นายชนินทร์ เอื้อราษฎร์ ต.ปากกราน) 1. ผลไม้สุก 1 ส่วน 2. หอยเชอรี่ 1 ส่วน 3. ปลา 1 ส่วน 4. กากน้ำตาล 1 ส่วน 5. พ.ด.2 สูตรที่ 2 มีส่วนผสม ดังนี้ (ผู้เล่า : นายเล็ก ศุขศรีไพศาล ต.บ้านรุน) 1. เศษผักต่าง ๆ 1 ส่วน 2. หอยเชอรี่ 1 ส่วน 3. ปลา 1 ส่วน 4. ผลไม้สุก 1 ส่วน 5. กากน้ำตาล 1 ส่วน 6. พ.ด.2
สูตรที่ 3 มีส่วนผสม ดังนี้ (ผู้เล่า : นางสมถวิล ภาคเกษี ต.เกาะเรียน) 1. ผักบุ้ง 1 ส่วน 2. กากสัปปะรด 1 ส่วน 3. เศษผักต่างๆ 1 ส่วน 4. กากน้ำตาล 1 ส่วน 5. พ.ด. 2 เกษตรกรจะหมักในถัง 200 ลิตร และทิ้งไว้ 30 วัน แล้วนำมาใช้ในอัตราส่วน 1 : 500 โดยการฉีดพ่นลงในแปลงผักสวนครัวและไม้ผล โดยจะฉีดพ่น 7 วัน/ครั้ง สรุปผลของการใช้ปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ 1. เกษตรกรลดค่าใช้จ่ายในการใช้ปุ๋ยเคมี 2. ปลูกพืชงอกงาม และให้ผลผลิต 3. ช่วยปรับสภาพของดินให้ดีขึ้น ทำให้ดินโปร่ง ร่วนซุย และลดการเสื่อมสภาพของดิน 4. ช่วยในการย่อยสลายอินทรีย์สารได้ดี และเร็วขึ้น |
ประโยชน์น้ำหมักชีวภาพ
ขอบคุณ ท่านอาจารย์สะอาด นะครับที่ได้แนะนำเรื่องราวดีดี ผ่านเวบบล็อกแห่งนี้ครับ
สุดยอดครับ บันทึกเรื่อยๆนะเครับจะรออ่านครับ