เคยไปเยี่ยมเพื่อนที่ NY นานมาแล้ว จำได้ว่าแขกขับ Cabby มันถามว่า "where to?. " แต่ผมฟังไม่เข้าใจ ไม่รู้มันพูดอะไร ห้วนๆสั้นๆ 555 .. เลยอธิบายกันซะเมื่อยมือ (อย่างว่าครับ เรียนกันแต่ภาษาแบบ standard)
ครั้งหนึ่งเอาพระเหรียญให้เพื่อนญี่ปุ่น ก่อนเขากลับบ้านครับ เจออีกที มันเอาไปทำเป็นพวงกุญแจเฉยเลย เลยต้องอธิบายกันใหม่ นี่อุตส่าห์เห็นมาเป็นพุทธเหมือนกันนะเนี่ย
สาธุ
น่าสนใจ
ดูเหมือนว่าง่าย
แต่ยาก
เข้าใจ
เหมือนกัน
ห้อยหรือใส่ไว้แล้ว อุ่นใจ เพราะผู้ใส่นับถือและศรัทธาท่าน เป็นสิ่งหนึ่งที่สร้างความมั่นใจ สบายใจ ได้อย่างหนึ่ง น้องจ๋า เห็นภาพนี้บ้างหรือยัง แม่ชีน้อย น่ารักมาก
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
เป็นตัวแทนชาวพุทธตอบฝรั่งได้ดีมากจ้ะ
สวัสดีครับ น้อง จ๋า
พระอยู่ที่ใจครับ
วันนี้ไม่มีนิทานครับ
บังเอิญผ่านมา
ดีใจที่ได้เข้ามาอ่านบันทึกนี้ค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ ^^
ตอนสมัยเป็นเด็ก ก็ห้อยพระติดตัวตลอดนะคะ แต่พอโตมาจึงเริ่มสงสัยว่า ทำไมต้องห้อยพระ
ถ้าห้อยแล้วพระถึงจะคุ้มครองหรอ ..ก็เลยไปถามคุณแม่มา "ทำไมพระถึงไม่ห้อยพระหล่ะคะ"
คุณแม่ก็ตอบว่า "ท่านมีธรรมะสูง ก็เลยไม่จำเป็นต้องห้อย"
แต่ตัวเองก็ไม่เข้าใจอยู่ดี จนปัจจุบันก็ไม่ค่อยห้อย ถ้าไม่อยู่ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยง
แต่ส่วนใหญ่ถ้าเจอเรื่อง(เหมือนจะ)ไม่ดี ก็จะท่อง "พุทโธ ธัมโม สังโฆ" แทนค่ะ
เอ๊ะ พูดไปพูดมาก็งง งั้นหยุดพูดก่อนดีกว่า ^_^
แต่ก็ยังสงสัยอีกอยู่ดีว่าทำไมฝรั่งถึงต้องห้อยไม้กางเขน
เขาจะรู้สึกเหมือนกับคนที่ห้อยพระหรือป่าว
ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่เอาเรื่องราวดีๆมาแบ่งปัน
ยินดีที่ได้รู้จักน่ะค่ะ
เก่งจัง ปลื้มค่ะ ทำบันทึกออกมาแบบนี้ดีค่ะ
บันทึกนี้เท่ห์มาก ๆ เลยค่ะ
มีทั้งบรรยากาศของเพื่อนไทยและฝรั่งคุยกัน
มีทั้งบรรยากาศของความเป็นพุทธ
และความเข้าใจที่แตกต่างมาคุยกัน ยังกับได้เห็นสองคนพูดกัน
อีกอย่างมีไทยมีอังกฤษให้ด้วยสองภาษา
กออ่านแต่ภาษาไทย เพราะภาษาอังกฤษเค้าไม่ชอบกอ อิอิ ไม่ใช่ค่ะ กอต่างหากพูดเขียนอังกฤษไม่ได้
สวัสดีคุณฝนแสนห่า
เรื่องพูดภาษาอังกฤษจนเมื่อยมือนี่ก็เป็นอยู่บ่อยๆค่ะ :) อยากสารภาพความผิดว่าตอนแรกอ่านชื่อคุณเป็น ฝนเสน่หา ค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ ขอประทานโทษ เพราะมันคนละ mood กันเลย :) คุณฝนแสนห่ามีเพื่อนมากมายหลากหลายวัฒนธรรมให้ได้เรียนรู้เช่นกัน ชื่อแน่ว่าคงได้พบเรื่องทั้งเรื่องสนุก รวมทั้งโอกาสดีในการแลกเปลี่ยนความคิด
จ๋า :)
นมัสการ พระจาตุรงค์ ชูศรี ค่ะ
ได้ค้นพบหลายครั้งว่าคำถามจากคนจากต่างวัฒนธรรมช่วยให้เราได้ฉุกคิด และย้อนคิดถึงเหตุผลหลายๆ อย่างที่อยู่เบื้องหลังสิ่งเคยชินคุ้นตาที่เรามีอยู่ค่ะ
จ๋า
พี่ดาที่รัก
แม่ชีน้อยน่ารักมากจริงๆ เคยอ่านเรื่องของแม่ชีจากที่ไหนสักแห่งรู้สึกประทับใจ พี่ดาเคยเห็นแม่ชีพม่าไหม ชุดเค้าออกสีชมพูอ่อนๆ (อ่อนจางมากๆ) แปลกตา เพราะพอคิดถึงแม่ชีก็ต้องสีขาวนำมานะค่ะ
จ๋า :)
สวัสดีค่ะครูอ้อย แซ่เฮ
ดีใจมากที่ครูอ้อยสนุกกับการอ่านบันทึกนี้ค่ะ เข้าไปแอบเยี่ยม blog ของครูอ้อยมา :) เลยรู้ว่าเจอตัวจริงเข้าให้แล้ว ต้องฝากเนื้อฝากตัวกับคุณครูสอนภาษาด้วยค่ะ โอว ลืมไป ฝากหัวด้วยค่ะ อิอิอิ
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
จ๋า \(^-^)/
ตามเข้ามาเรียนภาษาอังกฤษ เล่าเรื่องสนุกมากค่ะ
เดิมไม่ห้อยพระเพราะขี้ลืม แต่เพื่อนให้พระ พร้อมบอกว่าห้อยเถอะเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
สวัสดีค่ะคุณมนัสนันท์
เวลาที่ต้องตอบคำถามจากเพื่อนต่างชาติ มักจะบอกเค้าว่า อย่าลืมว่านี่เป็นเพียงความคิดเห็นหนึ่ง ถ้าผิดก็ผิดที่เราคนเดียวค่ะ ห้ามมาเหมาว่าบ้านเรา ยิ่งมาอยู่ไกลบ้านแบบนี้ ทนให้ใครมาว่าประเทศไทยไม่ได้เลยค่ะ จะต่อสู้สุดชีวิติ เพื่อนๆที่นี่ก็เป็นเหมือนกัน :)
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
จ๋า \(^.^)/
ผู้อ่านก็เคยมีประสบการณ์ตรงกับการสื่อสารเพื่อนชาวฝรั่งน่ะค่ะ ลองแวะเข้าไปอ่านใน www.gotoknow.org/blog/niparat/toc น่ะค่ะ
ก้อได้ใจเพื่อนฝรั่งคนนี้มามากมาย เพราะเราพยายามจะสื่อสารเขาทุกรูปแบบ ใช้ทั้งมือและอุปกรณ์รอบกายในการสื่อสารค่ะ ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดี ๆ ที่แบ่งปันให้น่ะค่ะ
เรียนท่านลุงบังวอญ่า
ใช่แล้วสิ่งยึดเหนี่ยวทั้งหลายพยายามเก็บไว้ที่ใจ ไม่มีทางสูญหายค่ะ นิทานแสนสนุกทุกเรื่องก็เก็บไว้แล้วเหมือนกัน
รักษาสุขภาพค่ะ
จ๋า :))
สวัสดีค่ะคุณอ้อยเล็ก
ฝรั่งที่ช่างซักก็ดีต่อเราอย่างนี้เองค่ะ :) จากแรกๆที่อึดอัดขัดใจพูดไม่ออกบอกไม่ถูก เราก็ต้องพยายาม พยายามเข้าไป เพราะทนไม่ได้ที่เป็นตัวแทนประเทศเถียงแพ้ฝรั่งค่ะ ยังกับเป็นนางสาวไทยยังไงยังงั้น ฮ่าๆๆๆๆ แล้วจะมาเล่าให้ฟังอีกบ่อยๆ ค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
จ๋า ;)
สวัสดีคุณ Hana
Hana แปลว่า ดอกไม้ ปล่าวคะ ดีใจที่สนุกกับบันทึกนี้ค่ะ โดยส่วนตัวได้พบเจอคำถามมากมายที่แปลกๆ และล่อแหลมต่อความรู้สึกโกรธ แต่ส่วนใหญ่ก็รู้สึกได้ว่าเพื่อนถามมาด้วยบริสุทธิ์ใจและอยากรู้จริงๆ ก็พยายามตอบอย่างเต็มที่ค่ะ เพราะตัวเองก็ยิงคำถามประหลาดกว่าเป็นร้อยเท่าใส่เพื่อนอยู่บ่อยๆค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
จ๋า :P
สวัสดีค่ะคุณ JTom
คิดว่าสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของแต่ละคนก็มีรูปแบบต่างกันไปค่ะ สำหรับผู้เขียนนอกจากจะได้จากความศรัทธาในพระแล้วก็ยังคิดไปถึงน้ำใจ ความรักความห่วงใยจากผู้ที่มอบให้มาด้วยค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
จ๋า ^^
สวัสดีค่ะคุณสุดสายป่่าน
เพื่อนทำให้ได้มุมมองแปลกใหม่ดีค่ะ เพราะคนอื่นอาจไม่กล้าถามมาก ชอบฉบับภาษาไทยมากกว่าอังกฤษหรือคะ :) ที่จริงมีภาษามือประกอบด้วยแต่ไม่ได้แสดงไว้ค่ะ 55555
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
จ๋า ^^
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณค่ะที่แบ่งปันประสบการณ์และความรู้ภาษาอังกฤษ เรื่องที่คุณจ๋านำมาเล่านี้มีค่ามากค่ะ คิดว่าใครก็ตามที่ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันก็สามารถ สอนผ่านประสบการณ์ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้รู้ภาษาอังกฤษเป็นหลักเป็นการอะไร ความรู้แบบนี้ไม่มีใครที่ไหนเขาสอนค่ะ ขอชื่นชมคุณจ๋าที่นำมาเล่าอย่างละเอียดค่ะ
^_^
สวัสดีค่ะ
สวัสดีคุณ Natee Suwan
ขี้ลืมเหมือนกันค่ะ แล้วต้องทำงานที่ต้องใส่ถุงมือ ล้างมือบ่อยมากเลยไม่ใส่อะไรเลยหมดเรื่อง เลยไม่ใส่สร้อยไปด้วยทั้งที่ไม่ต้องล้างคอนะคะ 5555
ถึงคุณครูน้อง
ตามไปอ่านแล้วค่ะ!!!! สนุกมาก ! ครูน้องคิดได้ไงเนี่ย BBQ people die !!! ดีนะคุณเพื่อนฝรั่งไม่ขอหนึ่งจาน ขอชื่นชมทั้งครูน้องและเพื่อนค่ะ ในบันทึกครูน้องบอกว่าตอนนี้คุยกันคล่องแคล่วแล้ว แต่เพื่อนต้องคิดถึงครูน้องฉบับ BBQ แน่นอน เพราะซ่าและฮากว่ากันเยอะ :)
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
จ๋า ^.^
มาขอโทษคุณ Naree Suwan ที่เขียนชื่อผิดเป็น Natee ค่ะ แหะๆๆ ขอปลอบใจด้วย Post card จากญี่ปุ่น แวะไปดูที่ blog มาทราบว่าชอบ Post cards
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
จ๋า :))
Hi Aj.Aom,
Thanks for your encouraging words :) It's my honour to share interesting experiences here... and I'm even more honoured to recieve all these stimulating comments and feedbacks. ^^
Best,
Jaa :)
สวัสดีค่ะครูดาวเรือง
ตั้งแต่มาเรียนก็ไม่เคยเจอใครมาพูดจาไม่ดี แต่เมื่อวานนี้เพื่อนเจอเข้าอย่างจะๆ ไปกินอาหารจีนกัน มีเสียงข้ามโต๊ะมาว่า "Open your eyes !" "ลืมตาเซ่ !! "คือเพื่อนเป็นอาหมวยตาเรียวเล็กค่ะ กะจะลุยลัมโต้ะแต่ก็อ่อนใจเพราะเจ้าคนปากเปราะอายุสี่ขวบเห็นจะได้ค่ะ เฺฮ้อ มันซ่าตอนแม่มันไม่อยู่เดินไปตักอาหาร ไม่งั้นเราคงได้พูดอะไรกับแม่เด็กซักคำสองคำให้ดูลูกดีๆหน่อย
จ๋า ^^
เฮ้ย น้องเณรทามาสคาร่าสีฟ้าาาาาาาาา น่ารัก คล้ายๆ ละม้ายๆ อิกคิวซัง นะจ๋าว่า
จ๋า ^^
พระอยู่ที่ใจ
ห้อยพระมากไปแต่ใจยัง...
ก็เอวังด้วยประการฉะนี้
สวัสดีคะ เถียงกับเพื่อนหรั่งบ่อย ๆนะ
คนมาอ่านจะได้เก่งภาษาด้วย
จะได้ไม่ต้องยิ้มสยามอย่างเดียว
เวลามีชาวต่างชาติมาคุยด้วย(อุ ๆๆๆ)
สวัสดีจ้าคุณ ปีตานามาจิตต์
ชื่อย้าว ยาว นะเนี่ย ขอเรียกคุณปิ ได้ปล่าวคะ อิอิ อย่าลืมอ่านด้วยความระมัดระวัง ที่เขียนมาอาจมีผิดแกรมมา เพราะไม่ได้จดทันทีเวลาคุยกับเพื่อน เกรงใจ ขืนคุยไปจดไปเพื่อนคงหวาดระแวงแย่ พอมาเขียนเป็นบันทึกก็ต้องมาคิดย้อนไปว่าเค้าและเราพูดว่าอะไร คุณปิตานามาจิตต์ ไม่ต้องกลัวเวลาคุยกับหรั่ง มีอาจารย์หรั่งเคยบอกว่า It might matter a bit "how" you talk but "what" you are talking about that really makes people come to know the real you.
จ๋า :)
เรื่องเครื่องรางของขลัง
เรื่องเครื่องรางของขลัง หรือวัตถุมงคล ที่พวกเราเสาะแสวงหา มาไว้ครอบครองนั้น หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ท่านให้ความเห็นดังนี้ :-
หลวงปู่พูดอยู่เสมอว่า คนเรานี้แปลก เอาของจริงคือธรรมะให้ไม่ชอบ ไปชอบเอาวัตถุภาย นอกกันเสียหมด ที่พึ่งที่ประเสริฐ คือพระรัตนตรัย นั้นประเสริฐอยู่แล้ว แต่กลับไม่สนใจ พากันไป สนใจแต่วัตถุภายนอก
จึงอาจกล่าวได้ว่า เมื่อคนเราไม่สามารถจะเอาคุณพระรัตนตรัยมาเป็นที่พึ่งของตนได้ เพราะอินทรีย์ยังอ่อนอบรมมา ยังไม่เข้าถึงเหตุผล จะถือเอาวัตถุภายนอก เช่นพระเหรียญ ซึ่งเป็น รูปเหรียญรูปแทนของพระพุทธเจ้า นั้นก็ดีเหมือนกัน ถ้าผู้นั้นรู้ความหมายของวัตถุนั้นๆ
หลวงปู่ท่านให้ข้อคิดในทางธรรมะว่า วัตถุมงคลเหล่านั้นหากจะนำไปป้องกันตัว ถ้ากรรมมา ตัดตอนแล้ว ป้องกันไม่ได้ ไม่ว่าสิ่งไหนจะไปต้านทานอำนาจกรรมนั้นไม่มี
แต่ถ้าผู้นั้นรู้ความหมายในวัตถุนั้นๆ ว่า เขาสร้างขึ้นมาส่วนมาก เขาใช้สัญลักษณ์ของผู้ที่ ทำแต่ความดี
การมีวัตถุมงคลไว้ติดตัว ก็มีไว้เป็นเครื่องเตือนสติปัญญาของตนเองไม่ให้ประมาทในการ กระทำของตน ต้องทำแต่ความดีเสมอ เพราะโลกเขาบูชานับถือแต่คนดี
เรามีของดีอยู่กับตัว ก็ต้องทำแต่ความดีอย่างนี้แล้ว ก็นับว่าผู้นั้นได้ประโยชน์จากวัตถุมงคล นั้นๆ
จาก
http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/lp-wan/lp-wan-hist-014.htm
สวัสดีคุณ mr.easy
คำสอนของหลวงปู่แหวนมีคุณค่าทางจิตใจมาก กระจ่างแจ้ง ขอน้อมรับไปอธิบายต่อผู้อื่นต่อไปยามโอกาสมาเยือน ขอบคุณมากค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
Jaa :)