เรื่องเล่าจากผู้เฒ่า


เรื่องเล่าจากผู้เฒ่า

วันนี้ได้ยินข่าวการบ้านการเมืองแล้วนึกใจหาย ว่าทำไม่ถึงได้มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในบ้านเมืองได้ขนาดนี้ เลยทำให้นึกถึงผู้เฒ่าคนหนึ่งที่เคยได้เล่าเรื่องของความรักชาติที่เกิดขึ้นที่จังหวัดอุทัยธานี เมื่อนานมาแล้วว่า ครั้งหนึ่งได้มีกองทัพพม่าได้ยกทัพมาถึงอุทัยธานี เป็นทัพที่ใหญ่มาก เดินทางเข้ามาเพื่อแสดงอำนาจ ส่วนทัพไทยที่มีอยู่มีขนาดเล็กกว่าจึงใช้วิธีการต่อรองกับกองทัพพม่าเพื่อไม่ให้เสียเลือดเสียเนื้อ และเสียดินแดนบางส่วนไป ข้อการต่อรองก็คือ จะให้ทหารทั้งสองฝ่ายดำน้ำแข่งกัน ถ้าฝ่ายพม่าโผล่หัวขึ้นจากน้ำก่อนก็จะยกทัพไปทางอื่นและไม่สู้รบกับฝ่ายไทย แต่ถ้าฝ่ายไทยโผล่หัวขึ้นจากน้ำมาก่อนจะต้องเสียดินแดนบางส่วนให้แก่ฝ่ายพม่า  ว่าแล้วต่างฝ่ายก็ให้ฝ่ายตนหาผู้ที่สามารถดำน้ำได้นานออกมายืนนอกแถว  ฝ่ายพม่าได้ทหารรูปร่างใหญ่แข็งแรง ฝ่ายไทยก็ได้มีทหารออกมาหลายคนแต่ไม่แน่ใจว่าตนเองจะดำน้ำได้นานหรือไม่ จึงได้ตระเวนหาผู้ที่ดำน้ำได้นาน ก็ได้มีชาวบ้านบอกต่อๆกันว่ามี ผู้เฒ่าคนหนึ่งมีความสามารถในการดำน้ำได้นานจึงได้ไปนำตัวผู้เฒ่ามา ซึ่งผู้เฒ่าก็มีความยินดีที่จะแข่งขันกับพม่าเพื่อชาติไทย แล้วเวลาของการแข่งขันก็มาถึงต่างฝ่ายก็ให้กำลังใจกันอย่างเต็มที่เพื่อศักดิ์ศรีของทัพตนเอง เมื่อถึงเวลาทหารพม่าและผู้เฒ่าก็ดำน้ำลงพร้อมกัน ตลอดระยะเวลาก็จะมีฟองผุดขึ้นมาจากน้ำอยู่ตลอด เวลาผ่านไปก็มีคนโผล่ขึ้นมาก่อน นั่นคือทหารพม่า โผล่หัวขึ้นมาด้วยความเสียดายว่าตนเองนั้นได้พ่ายแพ้แก่ผู้เฒ่าเสียแล้ว เวลาผ่านไปนานแล้วนานเล่าก็มีแต่ฟอกอากาศผุดขึ้นมาบนผิวน้ำ  เมื่อเวลาผ่านพ้นไปฟองน้ำดังกล่าวได้หายไปมีแต่เสียงเงียบงันเข้ามาแทน ด้วยความสงสัยของทหารทั้งสองฝ่ายว่าทำไมผู้เฒ่าจึงไม่โผล่หัวขึ้นมาบนน้ำเสียที  จึงได้ให้ทหารดำน้ำลงไปดู ภาพที่เห็นก็คือผู้เฒ่าใช้ผ้าขาวม้ามัดตนเองกับตอไม้ใต้น้ำ ด้วยบริเวณที่ดำน้ำนั้นผู้เฒ่าได้ลงไปหาปลาเป็นประจำ จึงได้ทราบว่ามีตอไม้อยู่ ดังนั้นก่อนที่จะแข่งดำน้ำผู้เฒ่าคงต้องเข้าใจแล้วว่าการแข่งขันในครั้งนี้เป็นการทำงานเพื่อชาติเพื่อแผ่นดิน จึงได้ตัดสินใจใช้ผ้าขาวม้าผูกมัดกับตอไม้ใต้น้ำจนสิ้นใจตายนั่นเอง จากความกล้าหาญของผู้เฒ่าเหล่าทหารพม่าและทหารไทยได้ร่วมกันตั้งศาลให้แก่ผู้เฒ่าและให้ผู้คนทั่วไปได้กราบไหว้ซึ่งในปัจจุบันศาลดังกล่าวตั้งอยู่ตรงข้ามกับศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี ถ้าได้ไปจังหวัดอุทัยธานีอย่าลืมเข้าไปกราบไหว้ท่านผู้เฒ่าบ้างน่ะครับ ตัวผมเองได้ฟังเรื่องนี้มานานกว่าสิบปี และเป็นเรื่องที่อยู่ในใจมาโดยตลอด  แถมยังได้ไปไหว้ศาลที่อยู่ตรงข้ามหน้าศาลากลางจังหวัดอุทัยธานีมาแล้วเมื่อสมัยตอนหนุ่มๆ เสียดายว่าตอนนั้นยังไม่มีกล้องถ่ายรูป เลยไม่มีภาพมาให้ดู แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าจะต้องได้ไปไหว้อีกแน่นอน แต่ถ้าข้อมูลที่ข้าพเจ้าได้เล่าหากมีความคลาดเคลื่อน ก็ขอให้ท่านผู้รู้ช่วยต่อเติมให้สมบูรณ์ด้วยจักขอบคุณยิ่ง หรือถ้าท่านผู้ใดมีลูกหลานก็ขอให้เด็กเหล่านั้นได้อ่านบทความนี้ เพื่อให้เด็กๆเหล่านั้นเขาทราบว่าครั้งหนึ่งยังมีผู้เฒ่าที่ไม่ได้มีเงินทอง ไม่ได้ต้องการความก้าวหน้า ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ของตนเอง ได้พลีชีพเพื่อประเทศชาติ โดยไม่เสียดายชีวิต

 

หมายเลขบันทึก: 337137เขียนเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2010 20:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:26 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

***มาเยี่ยมตอนดึก

*** ราตรสวัสดิ์นะคะ

  • สวัสดีค่ะ คุณสามารถ
  • แวะมาชื่นชมท่านผู้เฒ่าด้วยคนค่ะ ถ้าคนไทยยังขาดความรัก ความสามัคคี ประเทศชาติมีแต่บอบช้ำ  ในฐานะคนไทยคนหนึ่งก็รู้สึกหดหู่ใจอย่างบอกไม่ถูกเช่นกัน แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่าคำว่า "เสียใจ"
  • คุณสามารถหายปวดฟันแล้วนะค่ะ หายหน้าไปนานทีเดียวแฟนคลับบ่นคิดถึงค่ะ (5555)
  • โชคดีค่ะ

อึ้งในวีรกรรมของผู้เฒ่า ช่วงนี้งานยุ่งไหมครับ ไม่พบกันเลย

  • สวัสดีค่ะ คุณสามารถ
  • แหมพอพูดเรื่องการเมืองซีเรียสเลยนะเพื่อน นาน ๆ จะเห็นคนสามารถจะเครียดกับเค้าสักที อย่าจริงจังกับการเมืองมากนัก อย่างเรา ๆ ก็ได้แต่นั่งมองแบบปลง ๆ  "น่าสงสารประเทศไทยจริง ๆ"
  • อย่าเครียดเดี๋ยวปวดฟันขึ้นมาอีก ได้ข่าวว่ายังไม่ได้ถอนซี่ที่เจ็บทิ้งเลย.....5555
  • สวัสดีค่ะ

    มาเยี่ยมค่ะ.. มาอ่านเรื่องเล่าจากผู้เฒ่ารักชาติ..  อย่าเครียดเดี๋ยวปวดฟันขึ้นมาอีก..  ใช่เลย อิ อิ     มีความสุขนะคะ..             

    • สวัสดีค่ะ
    • ใครหนอจะลืมคงสุ 1000 ได้ลงคอ อยากรู้เหมือนกันใครลืมใครก่อน  5555
    • ขอบคุณค่ะ

     ค่ะน่าสรรเสริญ ที่สุด แล้วคนไทยบางกลุ่มในปัจจุบัน กำลังจะทำประเทศเราเสียหายขึ้นทุกวัน ไม่มองผลกระทบส่วนรวมเลย เห็นข่าวแล้วเศร้าใจ คนไทยส่วนรวมก็ทำอะไรไม่ได้อีก ได้แค่ฟัง แค่มอง และห่วง เท่านั้นเองหรือ

              อาหารข้าวของ น้ำมันก็แพงขึ้นเรื่อยๆอย่างมากมาย ทำไปทำมาอยู่ชนบท ทำอาหารธรรมชาติ ประหยัดปลอดภัย คนในเมือง แพงอย่างไรก็ต้องจ่ายเงิน พอเพียงอย่างชนบท ดีที่สุดนะคะ      

             

      

    ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาทักทายกันน่ะครับ คิดถึงทุกๆท่านครับ

    *คนสมัยโบราณเขาไม่รักชาติแต่ปาก..เขาแสดงด้วยการกระทำที่กล้าหาญ..

    *ขอบคุณมากที่พาเจ้าชิโร พร้อมดอกไม้ไหวๆสดชื่น มาเยี่ยมโครงการเยาวชนจิตอาสา เพื่อคุณธรรมแห่งความเมตตาธรรมค้ำจุนโลกค่ะ..ขอให้เจ้าพ่อมะนาวสวนมีความสุขมากๆค่ะ..

       

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท