ในหนังในละครสมัยก่อน นางเอกมักแกล้งพระเอกด้วยการเอาหมามุ่ยหรือสุไปโรยใส่เสื้อผ้า เครื่องใช้ให้พระเอกคันเล่น เพราะหมามุ่ยซึ่งเป็นพืชชนิดหนึ่งที่ฝักของมันจะมีขนเล็ก ๆใครไปถูกโดนเข้าก็จะคันคะเยยซึ่งก็เหมือนกับบุ้งที่มีขนที่ตัวทำให้คันเช่นกัน สำหรับวิธีแก้ซึ่งก็คือวิธีถอนขนของมันออกจากผิวหนังนั่นเอง ทำได้โดยหาเทียนไขหรือเทียนขี้ผึ้งมาครึงตรงบริเวณที่คันขนบุ้งจะหลุดติดเทียนมาได้อีกวิธีหนึ่งก็คือนำข้าวเหนียวมาสักกำมือหนึ่งคลึงที่รอยผื่นแดง ขนของบุ้งหรือหมามุ่ยก็จะหลุดติดข้าวเหนียวออกมาจนหายคันได้
อาการหูอื้อ หูตึง ส่วนหนึ่งเกิดจากขี้หูอุดตันอยู่ภายในโพรงหู และเมื่ออุดตันนานวันเข้าขี้หูก็จะจับตัวเป็นก้อนแข็งจนทำให้เกิดปัญหาในการรับฟังเสียงพูดที่จะได้ยินไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ถ้าหากไปพบแพทย์ หู ตา คอ จมูก ทางแพทย์ก็จะใช้เครื่องมือดูดขี้หูออกมา แต่สำหรับสูตรของไทยโบราณซึ่งได้รับการถ่ายทอดและพิสูจน์กันมาแล้วเห็นว่าได้ผลดีมากก็คือให้นำกระเทียมที่ปลอกเปลือกแล้วมาโขลกและคั้นเอาแต่น้ำมาหยอดหูจะทำให้ได้ยินเสียงการสนทนาได้ชัดเจนขึ้น
บางครั้งไปนั่งกินน้ำแข็งก้อนในร้านอาหารบางร้านก้อนน้ำแข็งใสแจ๋วดูสะอาดสะอ้านน่าดื่มกินแต่บางร้านก็ขุ่นพลอย ทำให้น้ำเปล่าในแก้วไม่ใสไปด้วย ความแตกต่างของก้อนน้ำแข็งต่างกันเพราะขบวนการทำ ถ้าใช้น้ำร้อนทำน้ำแข็ง น้ำแข็งจะใสกว่าใช้น้ำเย็นแต่การใช้น้ำเย็นก็จะทำให้น้ำแข็งเป็นก้อนเร็วกว่าน้ำร้อน
วิธีทำให้เทียนไหม้ช้าลงเพื่อให้ใช้เทียนได้นานขึ้นควรแช่เทียนไว้ในตู้เย็นสัก 2-3 ชั่วโมงก่อนใช้ หรือไม่เช่นนั้นก็ให้โรยเกลือลงไป
ใช้ปลาสดทำอาหารจึงจะไม่มีกลิ่นคาวปลา แต่ในความเป็นจริงลองถ้าไม่ใช่ลูกทะเล บ้านใกล้น้ำจริง ๆแล้วก็อย่าหวังเลยว่าจะได้กินปลาสด ๆได้ง่าย ๆ เคล็ดลับวิธีแก้กลิ่นคาวปลาไม่สดซึ่งเป็นสูตรที่ร้านอาหารต่าง ๆใช้กัน นำปลาที่สับแล้วไปล้างให้สะอาดและแช่ในน้ำแกว่งสารส้มสัก 15 นาที นำขึ้นล้างอีกครั้ง ลงทำต้มยำ ทำแกง สุดแล้วแต่ชอบเพียงเท่านี้ก็จะได้กินปลาไม่เหม็นคาวราวกับกินปลาสดอยู่ริมทะเลเลยทีเดียว
โรคร้อนในหรือโรคปากเปื่อยซึ่งมักจะเกิดในคนที่นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ร่างกายอ่อนแอขาดภูมิคุ้มกันเชื้อโรคในช่องปากโรคนี้เป็นโรคที่อาจจะดูไม่ร้ายแรง แต่ทำให้เกิดความทุกข์ทรมารแก่ผู้เป็นได้ไม่น้อย เพราะกินดื่มอะไรก็ไม่สะดวก ปวดแสบปวดร้อนตรงแผลบริเวณแผลที่พองอยู่ตลอดเวลา วิธีแก้ลองเอาเกลือป่นอมไว้ในปากสัก 10 นาที ทำอย่างนี้ทั้งเช้าและเย็น เกลือจะสมานแผลและฆ่าเชื้อโรคได้ดี อาการปากเปื่อยแผลพุพองจะทุเลาเร็วขึ้น
ผมแตกปลายไม่ต้องตัดทิ้ง มีสูตรยาโบราณที่ทำให้ผมเงางามและไม่แตกปลายซึ่งทำจากน้ำตะไคร้ โดยตัดตะไคร้มาสัก 3-4 ต้น ถ้าเป็นตะไคร้สดจากต้นเลยจะดีมาก นำมาล้างให้สะอาดตัดเป็นท่อนเล็ก ๆก่อนจะนำไปตำให้ละเอียด หรือถ้าเอาไปบดกับเครื่องบดอาหารด้วยก็จะดีมาก ใส้น้ำสะอาดลงไปและกลองเอาน้ำตะไคร้ออกมา ไม่ต้องใส่น้ำมากนัก เอาแค่แทนเป็นครีมนวด นวดทั่วศรีษะได้ เพื่อให้ได้สูตรน้ำตะไคร้เข้มข้นหลังจากสระผมตามปกติแล้วให้เอาน้ำตะไคร้ที่ได้มานวดทิ้งไว้สัก 10 นาทีแล้ว จึงล้างออก นวดผมด้วยครีมนวดน้ำตะไคร้นี้สัก 2 เดือนก็จะเห็นผล
การซื้อผักชีสมัยนี้บางครั้งจะถูกบังคับให้ซื้อคราวละหลาย ๆต้น เช่นการซื้อในร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตตามห้างสรรพสินค้า หากผู้ปรุงอาหารใช้จำนวนผักชีจริง ๆแค่ นิดเดียว ถึงแม้จะใส่ถุงแช่ตู้เย็นเก็บไว้ไม่กี่วันก็เหี่ยว ทั้งที่น่าจะเก็บไว้ใช้ได้อีก ทางที่ดีคือให้เก็บผักชีไว้ในกล่องพลาสติกที่มีฝาปิดและพรมน้ำทุกวัน วิธธีนี้จะช่วยให้เก็บผักชีได้อีกหลายวัน ผักชีไม่เหี่ยวเฉาแถมยังมีสีสด ถ้าเก็บไว้ในตู้เย็นก็จะเก็บได้เป็นอาทิตย์ แต่ถ้าไม่ได้เก็บไว้ในตู้เย็น วิธีนี้จะทำให้เก็บผักชีได้ถึง 3 วัน
อาหารที่เป็นของทอด คนโบราณสอนเคล็ดลับการทอด กุ้ง ปู ปลา ชุบแป้งไม่ให้อมน้ำมันไว้หลากหลายวิธี เพราะการทอดอาหารอมน้ำมันไม่ว่าจะเป็นเพราะใช้น้ำมัน ไม่ ร้อนพอหรือเหตุใดก็ตามจะทำให้อาหารทอดดูไม่น่ากิน ทั้งยังทำให้มีไขมันมาก มีผลสำหรับผู้ที่ต้องการลดความอ้วนด้วย สูตรการทอดอาหารไม่ให้อมน้ำมันอีกสูตรหนึ่งนี้เป็นสูตรแปลกยังไม่เคยได้ยินที่ไหนแต่ทดลองใช้แล้วได้ผลดี โดยให้ใส่น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะลงไปผสมกับน้ำมันที่ใช้ ทอดอาหารของทอดจะไม่อมน้ำมันเมื่อทอดเสร็จแล้ว
ในช่วงที่อากาศเริ่มจะเปลี่ยน คนที่ทำงานมาก พักผ่อนไม่เพียงพอจะเป็นโรคไข้หัวลม หรือเป็นไข้ที่เกิดจากอากาศเปลี่ยนฤดูได้ง่าย ๆการกินยาพาราเซตามอล ลดไข้ก็รักษาได้แต่กินมาก ๆก็จะไม่ดีเท่าไหร่นัก ลองลดความร้อนด้วยการกินดอกแคต้มจิ้มน้ำพริกดู ดอกแคมีวิตามินซีสูง กินแล้วแก้ไข้ได้ชะงัดนักแต่ถ้าไม่ชอบความขมของดอกแคให้เด็ด เอาเกสรของดอกแคออกให้หมดเพราะดอกแคที่ขมจะขมตรงเกสรเท่านั้น
กรดวิตามินเอหรือบางครั้งเราจะคุ้นเคยกับคำว่า AHA ซึ่งสกัดจากกรดผลไม้ มีส่วนช่วยลดรอยเหี่ยวย่นและจุดด่างดำจากการถูกแสงแดดได้จริง โดยทำหน้าที่กระตุ้นเซลล์ผิวให้แบ่งตัวเร็วขึ้นทำให้เลือดมาล่อเลี้ยงผิวหนังมากขึ้นและทำให้มีการสร้างคอลลาเจนใหม่ใต้ชั้นผิวหนังทำให้ผิวหน้าเต่งตึง และทำให้รอยด่างดำเจือจางลงได้
ต้มแกงจืดใส่ฟักหรือฟักเขียวน้ำแกงจะหวาน ทั้งเนื้อฟักยังกินง่าย จะรับประทานทั้งเป็นชิ้นพอคำหรือบดให้เด็กกินก็กินง่าย อร่อย แต่เวลาซื้อฟักมาต้มกินบางครั้งซื้อลูกหนึ่งแล้วใช้ไม่หมดในครั้งเดียวเพราะลูกฟักลูกโตเกินไป ส่วนที่เหลือถ้าอยากจะให้เก็บไว้ได้นานขึ้นให้ลองเอาปูนแดงที่กินกับหมากคนแก่มาทาตรงรอยที่ตัดฟักชิ้นนั้นก็จะเก็บไว้กินได้อีกนานหลายวันไม่ต้องทิ้งทั้งลูกให้เสียของ
ทำอาหารไฟแรงๆกระทะร้อนๆอาหารอร่อยๆ แต่กระทะยิ่งร้อนน้ำมันยิ่งกระเด็น บางทีกระเด็นลวกมือไม้เป็นจุดแดงทำเอาเด็กๆหรือพวกสาวๆไม่กล้าเข้าใกล้เตา เพราะกลัวน้ำมันกระเด็นโดนเป็นรอยแผล วิธีทำอาหารไม่ให้น้ำมันกระเด็น ต้องใส่เกลือป่นลงไปสักหยิบมือ พอเห็นไฟแรงน้ำมันกระเด็นก็หยิบใส่เลย ทอดปลาก็เช่นกันแทนที่จะนำปลาคลุกน้ำปลา หรือซอสให้เค็มก็หมักเกลือแทน นอกจากจะทำให้เวลาทอด น้ำมันไม่กระเด็นแล้วยังไม่ทำให้เนื้อปลาติดกระทะจนหนังปลาถลอกปอกเปิกเวลากลับปลาด้วย
สำหรับคุณแม่ที่มีลูกรู้ดีว่าพวกเขาต้องระมัดระวังในการล้าง ขวดน้ำขวดนมให้สะอาดขนาดไหนเพื่อไม่ให้มีเชื้อโรค เชื้อรา ซึ่งอาจจะเกิดจากการล้างน้ำนมค้างบูดในขวดไม่หมดจนอาจไหลเข้าสู่ทางเดินอาหารของลูก เกิดอาการท้องร่วง ท้องเดินหรือ โชคร้ายก็อาจจะมีผลถึงชีวิต ดังนั้นการล้างขวดนมให้สะอาดจึงสำคัญมากซึ่งโดยปกติแล้วคุณแม่จะเอาขวดนมไปต้มควบคู่ไปกับการล้างน้ำด้วย แต่ขั้นตอนนั้นก็ยุ่งยากไม่สามารถทำได้ ทุกวัน มีเคล็ดลับง่ายๆอีกวิธีหนึ่งคือให้ใส่ใบชาที่ชงแล้วลงในขวดนม ในขนะที่ทำการล้างขวดนมจะใสสะอาดหมดจด เนื่องจากใบชามีฤทธิ์เป็นด่าง จะสามารถเจือจางกรดที่เกิดภายในขวดนมได้
อาการของเด็กที่กินข้าวคำ น้ำคำ ส่วนใหญ่เกิดจากเด็กไม่ชอบกินอาหารหรืออาหารไม่ถูกปากจึงใช้วิธีกินข้าวคำหนึ่งแล้วดื่มน้ำ ให้ข้าวไหลลงคอโดยไม่ต้องเคี้ยวมาก พ่อแม่ก็จะว่าไม่ให้ทำเช่นนั้นเพราะกลัวลูกจะอิ่มน้ำ ไม่ได้กินข้าวสักเท่าไหร่ แท้ทีจริงนอก เหนือจากสาเหตุดังกล่าว การดื่มน้ำมากๆหลังจากกินข้าวก็มีผลเสียต่อร่างกายเพราะน้ำจะไปเจือจางน้ำย่อยภายในทีมีลักษณะเป็นกรดสำหรับย่อยอาหาร ดังนั้นเมื่ออาหารไม่ย่อยก็จะเกิดอาการท้องอืดเฟ้อ เรอเปรี้ยว ทางที่ดีหลังอาหารควรดื่มน้ำแต่พอควร รอให้น้ำย่อยทำหน้าที่ของมันสักระยะหนึ่งแล้วจึงดื่มน้ำให้มากๆตามที่ร่างกายต้องการจะได้ผลดีมากในภายหลัง
อาการเคล็ดขัดยอก เช่น นิ้วซ้น ขาเคล็ด ส่วนใหญ่จะเกิดกับนักกีฬา กระนั้นนักกีฬาเขาก็จะรู้วิธีปฐมพยาบาลที่ถูกวิธี แต่คนที่ไม่ใช่นักกีฬาบางครั้งเกิดอุบัติเหตุ เช่นใส่รองเท้าส้นสูง ส้นตึก แล้วขาพลิก ปวดจนหาที่เปรียบไม่ได้ บางคนบอกเอาน้ำร้อน ประคบ บางคนบอกเอายาเย็นๆทา ไม่รู้ว่าวิธีไหนถูกต้องกันแน่ แท้ที่จริงหากเกิดอาการปวดเคล็ด ช้ำบวม ควรบำบัดโดยการหยุดเคลื่อนไหวส่วนที่ได้รับบาดเจ็บทันที รีบนำน้ำแข็งห่อใส่ ผ้าประคบเบาๆจนกว่าอาการจะทุเลา แต่ถ้าเกิดตรงบริเวณเท้า ข้อเท้า หัวเข่า มือ ข้อมือ หรือข้อศอก ควรพันด้วยผ้ายืดที่สะอาดสักประมาณ 1 วัน หลังจากนั้นค่อยใช้น้ำอุ่น ยาหม่องหรือยาน้ำมันระกำทาเพื่อให้ความร้อนกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
ผื่นคัน แมลงกัดต่อย ลมพิษ เป็นอาการที่ไม่ร้ายแรง แต่สร้าง ความรำคาญกับผู้มีอาการเป็นอย่างมาก เนื่องจากพอคันขึ้นมาก็นึกอยากเกา แต่ยิ่งเกาก็จะยิ่งคัน ทั้งเมื่อเกามาก ๆยังอาจจะเป็นแผลเป็น เกิดริ้วรอยกระดำกระด่าง สำหรับผู้หญิงแล้วเป็นเรื่องใหญ่ในการรักษารอยแผลเหล่านั้นในเวลาต่อมาอย่างแน่นอน ถ้าเกิดอาการคันลองใช้สูตรยาแบบชาวบ้านโดยหาเปลือกกล้วยน้ำว้ามาทาลงบนรอยแผลหรือเม็ดตุ่มที่คัน ทาไปแล้วจะ หายคันทันที ทั้งยังทำให้แผลเย็นอาการดีขึ้น มีคนเคยลองเอา ปลือกกล้วยหอม กล้วยไข่มาทาก็ว่าไม่หายเร็วเท่ากล้วยน้ำว้า หลังกินลูกได้วิตามินแล้วเปลือกนำมาทาแก้คันหายชะงัดนัก
ถ้าคุณสามีเมาเหล้าพูดจาไม่รู้เรื่อง ถามว่าไปที่ไหนมาก็ตอบไม่ได้ ไปกับใครยิ่งทำไม่รู้เรื่องใหญ่ เมาหัวจะทิ่มบ่ออย่างเดียว วิธีแก้ฤทธิ์เหล้าให้สร่างเมาสักทีก็โดยการให้อมน้ำตาลทรายหรือจะชงน้ำตาลทรายใส่น้ำร้อนก็ได้ แอลกอฮอล์ทำให้ร่างกายขาดน้ำตาลทรายในเลือดเพราะฉะนั้นควรเพิ่มน้ำตาลในเลือดด้วยการกินของหวาน ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ก็ได้ทั้งนั้น แต่ถ้าหากยื่นเล็บมือนางให้คุณสามีคงผวาหน่อยๆด้วยระวัง !!
คนฝรั่งมองคนไทยว่ามีวิธีแกะกระเทียมที่แปลก นั่นคือเราจะไม่ปอกเปลือกกระเทียม พ่อครัว แม่ครัวที่ทำกับข้าวระดับมืออาชีพจะทุบกระเทียมให้ติดเปลือกแล้วก็เอาลงไปผัดลงในกระทะเลย ฝรั่งบางคนนึกว่าพ่อครัวแม่ครัวเหล่านั้นขี้เกียจจึงทุบกระเทียม ใส่ไปทั้งเปลือก แต่การผัดกระเทียมลงไปทั้งเปลือกเวลาผัดจะมีกลิ่นหอม หากถ้าจะเจียวกระเทียมจะตรงข้ามกัน เวลาเจียวกระเทียมต้องปลอกเปลือกออกให้หมด
เราทราบกันดีว่าถ้าร่างกายขาดแคลเซี่ยมจะทำให้เป็นโรคกระดูกกร่อน ในยามแก่ตัวลงใครเป็นโรคนี้แล้วไม่ตายทันที แต่กลับทรมาน ปวดหลัง ไหล่ ไขกระดูก นักโภชนาการแนะนำว่าให้ดื่มนมเยอะ ๆตั้งแต่ยังเป็นสาว เพราะนมมีแคลเซี่ยมสูง แต่นมก็ทำให้อ้วนอีก มีอีกวิธีหนึ่งโดยแพทย์แนะนำว่าควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ คนที่ทำงานนั่งเก้าอี้วันๆไม่ได้เดินไปไหนจะสูญเสียแคลเซี่ยมมากกว่าคนที่ลุกเดินไปเดินมาบ้าง ดังนั้นหลังจากเลิกงานแล้วลองออกกำลังกายด้วยการเดินรอบบริเวณบ้านหรือที่ทำงานสักวันละ 30 นาทีจะช่วยให้ระดับแคลเซี่ยมในร่างกายเพิ่มสูงขึ้นได้มาก
ถ้าบันมะเร็งแห่งชาติ เคยเปิดเผยว่าคนไทยเราตายด้วยโรคมะเร็งเป็นอันดับรองลงมาจากอุบัติเหตุและโรคหัวใจ ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นชาวอีสานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งสันนิษฐานว่าเกิด จากสาเหตุของการกินอาหารไม่ถูกสุขลักษณะ ก่อนหน้านี้เราคิดว่า มะเร็งเป็นโรคที่มีโอกาสเป็นได้ยาก คราวนี้ควรต้องกลับมาคิดใหม่ มะเร็งเป็นโรคที่ใกล้ตัวกว่าที่เราคิดมีอันตรายร้ายแรงเพราะรักษาไม่ค่อยหาย หรือถ้ารักษาหายก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก ไม่เช่นนั้นก็รอวันตายสถานเดียว อีกทั้งคนไทยเราเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งมากกว่าชนชาติอื่น ๆเพราะเรามีอุปนิสัยการกินที่ไม่ดี ชอบกินของ สุก ๆดิบ ๆและไหม้ ๆใช้น้ำมันเก่าทอดอาหาร อีกทั้งมลภาวะที่เป็นพิษก็จะเป็นการกระตุ้นเชื้อมะเร็งในร่างกายให้ก่อตัวได้ง่ายอีกด้วย
โบราณบอกว่าถ้าไม่อยากให้รองเท้าที่ซื้อมาใหม่กัดก็ให้กัดมันก่อน แต่การแก้เคล็ดด้วยวิธีนี้ฟังดูไม่สมเหตุสมผลและคงไม่ดีเท่าไหร่แน่ เพราะรองเท้าก่อนที่จะถูกเราซื้อมามีลูกค้าลองสวมกันมาไม่รู้กี่เท้า มีทั้งเชื้อโรคและสิ่งสกปรกมากมาย ลองใช้สูตรที่ช่างทำรองเท้าทำกันดีกว่า นั่นคือนำน้ำมันสนหรือน้ำมันวาสลินหรือน้ำมันใส่ผม ของผู้ชายแบบมัน ๆทาตรงหนังที่เราคิดว่าจะกัด ใช้ค้อนทุบให้หนังนิ่ม และทาเทียนไขซ้ำ หนังรองเท้าก็จะนิ่มขึ้นไม่กัดเท้า
อาหารประเภทถั่วถือว่ามีประโยชน์มาก แต่การเก็บถั่วไว้นานจนขึ้นราก็มีโทษมหันต์จนถึงกับทำให้เสียชีวิตอย่างเฉียบพลันได้ ในประเทศอังกฤษไก่งวงถึงแสนตัวเคยติดเชื้อจากราในถั่วที่ชื่อ แอฟพล่า ทำให้ตับถูกทำลายจนตาย และในประเทศออสเตรเลีย เคยสั่งเก็บผลิตภัณฑ์อาหารประเภทถั่วของบริษัทผลิตอาหารชื่อดังออกจากชั้นวางสินค้าของห้างสรรพสินค้าทั่วประเทศเพราะตรวจพบผู้ป่วยได้รับพิษจากการกิน ถั่วเนยของบริษัทดังกล่าวซึ่งถั่วที่นำมาปรุงผลิตภัณฑ์มีเชื้อรา
สวัสดีจ๊ะน้องบี้
ได้เกล็ดความรู้มาอีกตรึมเลยค่ะ...
ขอบคุณบันทึกดีๆมีประโยชน์นะคะ
พี่กระเเต
โห!เกร็ดความรู้เพียบเลยน้อง
ยินดีที่รู้จักนะคะ
บันทึกนี้มีประโยชน์ดีมากค่ะ
ครูจาขออนุญาตนำเข้าแพลนเน็ตนะคะ
มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งครับ
โอโฮ...วันนี้รับความรู้ยาวเหยียด
ความรู้ล้นจอเลยครับ... สุดยอดจริงๆ ^^
เป็นการใช้ภูมิปัญญาชาว(ไทย)บ้านที่มีประโยชน์มากๆ ครับ
ผมได้ความรู้ไว้ประดับตัวอีกแระ หุหุ
"ขอบคุณความรู้ดีๆ ครับ"
ขออ่านวันละ๑ ข้อได้มั๊ยคะ แหมก็อยากมาเยี่ยมคุณบี๋ทุกวันไงละ ขอบคุณ..เคล็ดไม่ลับมากมาย ของคุณบี๋นะคะ
รักใจใสใส
สวัสดีค่ะ แวะมาทักทาย
ขอบคุณนะคะ สำหรับสาระ
เพิ่มความรู้หลายเรื่องเลย
บุญรักษาค่ะ ^_^
โอ้โห ภูมิปัญญาชาวบ้านสมัยก่อนปัจจุบันก็ยังใช้ได้ดีอยู่ค่ะ ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะ.....คุณบี้
ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ....ขอบคุณสำหรับการแบ่งปันค่ะ
อ้อ.......ลืมบอกไป....ชื่อปิ๋วนะค่ะ....
สวัสดีค่ะ
วันนี้มาดึกค่ะ กลางวันไม่ว่างเลย เพราะค่ายอบรมและแข่งขันหุ่นยนต์ไมโครคอลโทรเลอร์ ครั้งที่ 3 17-19 ค่ะ....จัดร่วมกับ สถาบันเทคโนโลยีราชมงคลปทุมวัน เด็ก ม.ปลาย และ ปวช. พึ่งเสร็จกิจกรรมภาคค่ำ นันทนาการเล็ก ๆ น้อยๆ แล้วก็ทานข้าวต้มรอบดึกกัน....เลยเข้าบล็อก แต่ก็ง่วงแย่แล้ว เพราะเพลีย สมองล้ามาทั้งวัน เดี๋ยวต้องไปดูแล และนอนกับลูกศิษย์แล้ว
แวะมาทักทายด้วยความระลึกถึงค่ะ
ราตรีสวัสดิ์นะคะ
โห...เพียบเลย
ขอ copy ไปไว้ในเครื่องหน่อยนะครับ
สวัสดีค่ะ
มีประโยชน์มากมายจริงๆ
ขออนุญาตคัดลอกไปแปะข้างฝาบ้านนะคะ
เวลามีปัญหาจะได้หาง่ายๆหน่อย
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับคุณบี๋
ภูมิปัญญาของคนยุคคุณทวดใช้ได้ผลดีครับ หลายวิธีผมนำมาใช้อยู่
แต่หลายวิธีก็ลืมไปแล้ว ความรู้นี้ทรงคุณค่าครับ
คุณย่าบี๋เก่งจังยังจำวิธีได้ครบถ้วน อิ.อิ.
ขอบคุณครับคุณย่าบี๋
สวัสดีค่ะ
เป็นเคล็ดไม่ลับที่น่าสนใจมากคะ
ขอบคุณเคนล็ดลับ สูตรเด็ด หลายเรื่องเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมานาน
ขอบคุณที่นำสิ่งดีๆสู่ชีวิตครับ
สวัสดีครับ แวะขอบคุณที่ไปเยี่ยมโลกของคนรักเห็ดครับ
สบายดีนะครับ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณค่ะที่เข้าแวะชมบล็อกเมื่อวานนี้ เข้ามาทักทาย อ่านแล้วมีความรู้ สาระดีค่ะ ชอบมาก