เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปกราบ พระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า และ พระอรหันตธาตุของพระสาวก เช่น พระอานนท์ พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ พระควัมปติ และ พระอรหันต์อีกหลายองค์ที่ พระบรมธาตุเจดีย์มหาจักรีพิพัฒน์ วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร จ.ชลบุรี การเดินทางสามารถมาได้ ๒ ทางครับ
ถ้ามาทางเส้นสุขุมวิท ก็มาทางพัทยาขับเลยพัทยาใต้ ถึงประมาณกม.ที่
๑๖๐
ให้คอยมองหาป้ายเพื่อเลี้ยวซ้ายไปยังวัดญาณสังวรารามซึ่งอยู่ไม่ไกลนักกับ
วัดเขาชีจรรย์ ที่วัดเขาชีจรรย์จะมี "พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา "
ซึ่งเป็นพระพทุธปฏิมากรณ์องค์ใหญ่แกะสลักอยู่บนภูเขาหิน
มีความหมายว่า "พระพุทธเจ้าทรงเป็นศาสดาที่รุ่งเรื่องสว่างประเสริฐ
ดุจดังมหาวชิระ"
พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา วัดเขาชีจรรย์
ทางที่สอง คือ ถ้ามาทางสายบายพาส เส้น ๓๖ ก็ขับเลยสนามแข่งรถพีระเซอร์กิตมาไม่ไกล แล้วจะเจอสะพานข้ามขนาดใหญ่ให้กลับรถเพื่อมุ่งหน้าสู่สัตหีบ ถนนเส้นนี้จะเป็นถนนสาย ๓๓๑ ขับรถอีกประมาณ ๑๕ นาทีจะเจอป้ายให้เลี้ยวขวา ไปตามทางเรื่อยๆก็จะเจอวัดญาณสังวรารามครับ
วัดญาณสังวรารามจัดเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหารและน่าจะเป็น ๑ ใน ๓ วัดประจำรัชกาลที่ ๙ ด้วย วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ในพระบรมราชูปถัมภ์ตั้งอยู่ที่ ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอ บางละมุง จังหวัดชลบุรี ชื่อของวัดนี้ตั้งตามสมณศักดิ์ เจ้าพระคุณสมเด็จญาณสังวรซึ่งเป็นสมณศักดิ์ในครั้งนั้น ของเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งเป็นสมณศักดิ์ในครั้งนั้นของพระคุณสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก องค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ซุ้มประตูวัดญาณสังวราราม
การกำหนดแบ่งชนิดต่างๆ ของพระอารามหลวงเริ่มมีขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช ๒๔๕๗ ดังนี้
ราชวรวิหาร
ได้แก่พระอารามที่พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินี หรือสมเด็จพระยุพราช
ทรงสร้างหรือปฏิสังขรณ์เป็นการส่วนพระองค์
วรวิหาร
ได้แก่พระอารามที่พระมหากษัตริย์ สมเด็จพระราชินี หรือสมเด็จพระยุพราช
ทรงสร้างหรือปฏิสังขรณ์พระราชทานเป็นเกียรติยศแก่ผู้ต่ำศักดิ์ลงมา
หรือแก่วัดเอง รวมทั้งวัดที่ประชาชนสร้างหรือปฏิสังขรณ์
และทรงรับไว้เป็นพระอารามหลวงควรยกเป็นเกียรติยศ
จัดว่าเป็นวัดมีเกียรติ
ราชวรมหาวิหาร
ได้แก่พระอารามชนิดราชวรวิหารที่เป็นพระอารามใหญ่โต
และมีสิ่งก่อสร้างใหญ่โต
วรมหาวิหาร
ได้แก่พระอารามชนิดวรวิหารที่เป็นพระอารามใหญ่โตและมีสิ่งก่อสร้างใหญ่โต
สามัญ
ได้แก่พระอารามหลวงที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว
เป็นวัดที่ไม่มีสร้อยต่อท้าย
พระอารามหลวงหรือวัดหลวงที่มีฐานะสูงสุด คือ ชั้นเอกพิเศษ ชนิดราชวรมหาวิหาร มีทั้งหมด ๖ วัด อยู่ในกรุงเทพมหานคร ๔ วัด คือ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม, วัดอรุณราชวราราม, วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ และวัดสุทัศนเทพวราราม ส่วนที่เหลืออีก ๒ วัดนั้นอยู่ต่างจังหวัด คือ วัดพระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม และวัดพระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี
ราชวรมหาวิหารชั้นโท มีเพียง ๒ วัด คือ วัดชนะสงคราม และวัดสระเกศ
สำหรับวัดประจำรัชกาลต่างๆมีดังนี้
วัดประจำรัชกาลที่ ๑ คือ
วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)
วัดประจำรัชกาลที่ ๒ คือ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร
(วัดแจ้ง)
วัดประจำรัชกาลที่ ๓ คือ วัดราชโอรสาราม ราชวรวิหาร
วัดประจำรัชกาลที่ ๔ คือ วัดราชประดิษฐ์สถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร
วัดประจำรัชกาลที่ ๕ คือ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร
วัดประจำรัชกาลที่ ๖ คือ วัดบวรนิเวศวิหาร ราชวรวิหาร
วัดประจำรัชกาลที่ ๗ คือ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร
วัดประจำรัชกาลที่ ๘ คือ วัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร
วัดประจำรัชกาลที่ ๙ น่าจะเป็นหนึ่งในสามวัดนี้คือ วัดโสธรวราราม
วรวิหาร จ.ฉะเชิงเทรา, วัดญาณสังวราราม วรมหาวิหาร จ.ชลบุรี
และวัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก กรุงเทพฯ
เจดีย์พุทธคยา วัดญาณสังวราราม
ประวัติความเป็นมา ของวัดญาณสังวราราม
นายแพทย์ขจร และคุณหญิง นิธิวดี อ้นตระกูล ต.จ. เป็นผู้ถวายที่ดิน จำนวน ๕๐๐ ไร่เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๙ โดยการนำของ นางวิราณี องคสิงห์ ซึ่งถึงแก่กรรมแล้ว และนายสนิท และนางปรียา ฉิมโฉม อดีตผู้อำนวยการผังเมือง หรืออธิบดีหญิงคนแรกของประเทศไทยเป็นสถาปนิกผู้วางผังวัด และออกแบบคุมการก่อสร้างอาคารสำคัญทั้งหมดโดยมีพิธีวางศิลาฤกษ์พระอุโบสถเมื่อ พ.ศ.๒๕๑๒ สมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาปริณายก ดำรงตำแหน่งสมณศักดิ์ที่สมเด็จพระญาณสังวร ทรงเป็นประธานการสร้างฝ่ายบรรพชิต และพลอากาศโท ไสว ช่วงสุวนิช ขณะที่กำลังอยู่ในตำแหน่งผู้ว่าการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย เป็นประธานฝ่านคฤหัสถ์ ในครั้งนั้นคุณหญิงละมูน มีนะนันท์ ท.จ. ได้บริจาคเงินเป็นรายแรกจำนวน ห้าแสนบาท...
วัดแห่งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมหากรุณายกให้เป็นพระอารามหลวง ชั้นเอกชนิดวรมหาวิหาร และทรงมีพระราชศรัทธารับไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ และทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาติให้สร้าง ล้อคเก็ตพระบรมฉายาลักษณ์พร้อมพระราชทานพระปรมาภิไธย ภูมิพลอดุลย์เดช ปร. สำหรับตอบแทนน้ำใจผู้ร่วมสร้างวัดโดย สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถและพระราชโอรสและพระธิดาทุกพระองค์ทรงโดยเสด็จด้วยตลอดมา และอีกทั้งพระองค์ยังพระราชทานทรัพย์ในทางต่างๆเป็นอันมาก
พระบรมธาตุเจดีย์มหาจักรีพิพัฒน์
วัดญาณสังวรารามที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และ
พระอรหันตธาตุ
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระราชทานพระมหากรุณาธิคุณเป็นพิเศษ ทรงรับบริจาคสร้างวัดนี้ด้วยพระองค์เอง และยังทรงรับล้อคเก็ตพระบรมฉายาลักษณ์ไปพระราชทานด้วยพระหัตถ์ และพระองค์ทรงปั้นพระพุทธรูปองค์น้อย เพื่อพระราชทานแก่ผู้ที่บริจาคเงินสมทบในการสร้างวัดนี้อีกด้วย และเมื่อพระอุโบสถเสร็จเรียบร้อยแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินเป็นครั้งแรกเพื่อทรงตัดลูกนิมิตและทรงพระราชดำรัสกับเจ้าพระคุณสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในครั้งที่ท่านสมเด็จพระสังฆราช ยังทรงดำรงสมณศักดิ์ที่สมเด็จพระญาณสังวร ทรงรับสั่งในขณะนั้นว่า " ควรเป็นวัดสำหรับผู้ไปปฎิบัติ เพราะอยู่ใกล้กรุงเทพดี " ทรงมีพระราชดำรัสเช่นนี้เนื่องจากได้ทอดพระเนตรเห็นว่าวัดญาณเป็นวัดที่สงบงดงามด้วยแมกไม้และขุนเขาเหมาะกับผู้ที่ต้องการปฎิบัติธรรมและระยะทางไม่ไกลเท่าใดนัก
พระอาราม วัดญาณสังวราราม
วัดญาณสังวราราม ความจริงมีเนื้อที่เพียง ๓๖๖ ไร่ ๒ งาน ๑๑ ตารางวา กว้างใหญ่ไพศาลด้วยโครงการพระราชดำริที่ล้อมรอบกว่าอีกสองพันไร่อาทิ เช่น
วิหารพระศรีอริยเมตไตรย ซึ่งเป็นแบบศิลปไทยแท้อันปราณีตบรรจงเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธปฎิมาใหญ่งดงาม ซึ่งพระองค์ทรงได้รับน้อมเกล้าถวายจากคณะผู้สร้างและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดเกล้าอัญเชิญพระพุทธปฎิมานี้ให้ไปประดิษฐานใน วิหารพระศรีอริยเมตไตรยแห่งนี้
พระบรมธาตุเจดีย์ มหาจักรีพิพัฒน์ เป็นเจดีย์ใหญ่สีขาวสะดุดตา ที่ภายในของเจดีย์ได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันตธาตุ ซึ่งประดิษฐานอยู่ด้านบนสุดของเจดีย์บริเวณชั้นบนที่เป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุนั้น อนุญาติให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปสักการะบูชาเท่านั้น แต่ห้ามมิให้ทำการบันทึกภาพใดๆของพระธาตุ
อริยาคาร เป็นที่แสดงหุ่นขี้ผึ้งรูปเหมือนของ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่เป็นที่เคารพบูชาและให้ความนับถือของคนไทยทุกองค์ตั้งแต่สมัยในอดีต เช่น หลวงพ่อโต, หลวงปู่มั่น, หรือหลวงปู่แหวน อยู่ในท่านั่งวิปัสนากัมฐานให้ได้ชมกัน
พระปกเกล้าอริยเขต พระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
ผู้ทรงพระราชทานประชาธิปไตยให้กับแผ่นดินไทยทรงประทับนั่ง และ
พระบรมรูปของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ป้ายธรรมสอนใจ วัดญาณสังวราราม
ข้อมูลประวัติวัดญาณสังวรารามจาก http://www.sattahipbeach.com/
ข้อมูลพระอารามหลวง และ วัดประจำรัชกาล จากเว็บไซต์ ลานธรรมจักร
สวัสดีค่ะ
สวัสดีค่ะ
สวัสดีคุณครูแป๋มครับ
วัดนี้อยู่ไม่ไกลจากบ้านผม
แต่ก็เพิ่งมีโอกาสได้ไปครั้งแรกครับ
สวัสดีพี่ครูคิมครับ
วัดนี้สวยงามมากครับ
แต่นักท่องเที่ยวก็ค่อนข้างเยอะ
คนต่างชาติเยอะครับ
สวัสดีครับ
ในบริเวณวัดญาณฯ มีสถานศึกษาสังกัด กศน. อยู่แห่งหนึ่งครับ ชื่อว่า ศูนย์ฝึกและพัฒนาอาชีพเกษตรกรรมวัดญาณสังวรามวรมหาวิหารอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีหน้าที่ให้การฝึกอบรมด้านเกษตรกับเกษตรกรในละแวกนั้น ในศูนย์ฯฝึก มีสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง น่าสนใจมากครับ
สวัสดีค่ะ
เคยไปเยี่ยมชมและกราบนมัสการที่วัดนี้แล้ว งดงามยิ่งใหญ่สมดังคำร่ำลือค่ะ
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ ที่รวบรวมาให้ได้รับทราบนะคะ
(^___^)
สวัสดีคุณ สมนึก โทณผลิน
ที่มาเยี่ยมนะครับ...
ขอบพระคุณสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมนะครับ
สวัสดีคุณ คนไม่มีราก เช่นกันครับ
ที่แวะมาเยี่ยม...
สวัสดีค่ะ คุณPhornphon
แวะมาทักทายค่ะ แหม ๆ ๆอิ่มบุญไปเลยล่ะค่ะ
เคยไปวัดวัดเขาชีจรรย์ สวยดี
อีกอย่างชอบเข้าวัด เพราะรู้สึกเย็นสบาย อิอิ
บุญรักษาค่ะ ^_^
สวัสดีคุณ Soul ครับ
ธรรมรักษาเช่นกันนะครับ...
สวัสดีครับคุณphornphon
ที่ได้นำภาพเกี่ยวกับวัดประจำรัชกาลและป้ายธรรมสอนใจมาให้ดู ขอบคุณครับ
สวัสดีคุณปรีชาที่มาเยี่ยมนะครับ...
พอดีเพิ่งกลับจากไปปฏิบัติธรรมบวชพราหมณี ที่วัดญาณฯ มาคุ่ะ (เป็นครั้งแรก) ได้ความรู้สึกที่ดีมากๆ ค่ะ
สถานที่สงบมาก ที่ประทับใจมากคือได้ฟังท่านเจ้าคุณสุชาติเทศน์ตอนทำบุญตอนเช้า และหลวงตาท่านเทศน์ตอนทำวัตรเย็นแล้วโดนใจ คือเรื่อง ความเพียร ท่านบอกว่า อะไรก็แล้วแต่ สำเร็จที่ใจ ใจต้องมีความเพียร มีวิริยะ ตั้งไว้ ให้แน่วแน่ในการปฏิบัติ (เรารู้ว่าตัวเองไม่ค่อยมีความตั้งใจที่จะทำอะไรจริงๆจังๆ เท่าไหร่ เหมือนท่านรู้ใจเรา เสียงท่านเทศน์ฟังชัดเจน และย้ำพวกเราให้จำเอาไว้ให้ดี ประมาณว่าตอนนี้ให้ตั้งความเพียรก่อน แล้วค่อยก้าวไปสู่ขั้นสูงขึ้นไป อิอิ ก็จริงแหละ เรานะเสาะหาอ่านวิธีทำสมาธิ วิธีนู่นนี่ สำนักโน้นดี สำนักนั้นดี แตุู่ไม่เคยลงมือปฏิบัติจริงจังซักที) และยังมีพระอาจารย์ทวีที่เทศน์ได้อย่างเห็นภาพจินตนาการชัดเจน เรื่อง การปลงอสุภะ สรุปว่าประทับใจมากๆ ค่ะ ถ้ามีโอกาสก็จะหาเวลาไปอีกค่ะ
ขอบพระคุณ คุณศนิที่มาเยี่ยมครับ