กล้วยหอมหวีโต ๆ ที่หนูซื้อมาติดห้อง ตั้งใจกับตนเองว่าส่วนหนึ่งจะเอาไว้ใส่บาตร ส่วนหนึ่งแบ่งไปที่ห้องทำงาน ส่วนหนึ่งเก็บไว้ทานเอง
ทุกอย่างลงตัวอย่างตั้งใจ ตอนเช้าหนูเตรียมของไปใส่บาตรพระ น้อมกราบบูชาพระพุทธ พระธรรมและพระสงฆ์ แล้วก็วิ่งออกกำลังกายต่อ สาย ๆมาหอบหิ้วกล้วยหอมจัดวางใส่จานบนโต๊ะของว่าง เพื่อนร่วมงานได้หยิบฉวยทานยามหิวอย่างอิ่มหนำ
การมีโอกาสหยิบยื่นสิ่งเล็กน้อย ในชีวิตประจำวันให้กับคนที่เราสามารถให้ได้นี่เป็นพลังอุ่นให้ใจได้ดีจังเลยนะคะ
ขอบคุณบันทึกดีๆค่ะ...แล้วจะลองทำมั่งนะคะ
ยินดีค่ะคุณ มาตายี การมีโอกาสได้ทบทวนสิ่งดี ๆ ที่เราได้ทำในแต่ละวันก็เป็นอะไรที่ทำให้ใจสบายดีนะคะ
เคยสังเกตตนเองเช่นนี้ไหม?
จากการที่เราได้นำกล้วยหอมไปวางไว้เช่นนี้เราได้เรียนรู้อะไรบ้าง
"ใจ" ของเรานั้นเป็นเช่นไรเหรอ?
แฮะ ๆ ๆ ("^_^) ไม่ค่อยได้สังเกตค่ะ อืม งั้นขอโอกาสทบทวนนะคะ ก่อนเอาไปวางก็นึกขึ้นมาว่าวางยังดี
ตอนแรกเช้า ๆ หนูเร่งรีบก็เลยวางไว้ที่มุมกาแฟข้าง ๆ ตู้เย็น แต่ก็เดินมาบอกทุกคนว่ากล้วยหอมทานได้นะคะ แล้วก็ไปทำงาน สาย ๆ หน่อยแต่ละคนเริ่มหิว พี่หัวหน้าเดินมาพลางยิ้ม ๆ แล้วบอกว่า "กล้วยติ๋วใช่ปะ" หนูยิ้มดีใจแล้วตอบว่า "ค่ะ ทานได้เลยค่ะ" พี่ท่านตอบขำ ๆ ว่า "เรียบร้อยแล้ว" ด้วยน้ำเสียงเบิกบาน เรียกเสียงหัวเราะได้รอบห้อง หนูรู้สึกดีค่ะที่มีโอกาสให้บ้างแม้เพียงเล็กน้อย แล้วพอมีคนรับยิ่งรู้สึกประทับใจมากขึ้นค่ะ สักพักหนูจึงเดินไปหยิบมาใส่จานวางไว้บนโต๊ะที่เราทานของว่างกัน แล้วหนูก็ฉวยติดมือมาอีกหนึ่งลูก หอมหวานทีเดียวค่ะ หลังจากวาง ณ จุดที่เหมาะมือและใกล้เวลาอาหาร แต่ละคนก็หยิบฉวย ไม่นานก็หมดเกลี้ยงค่ะหมดตั้งแต่ก่อนเที่ยง ใจหนูรู้สึกเบิกบาน อ๋อ มีส่วนหนึ่งที่หนูแบ่งไปให้ป้าอบทาน ไม่รู้ซิค่ะครู ป้าอบเป็นอีกคนหนึ่ง ที่มีอะไร หนูมักจะระลึกถึงท่านเสมอ ๆค่ะ