ปัญหาสังคมที่เกิดจากเทคโนโลยีสารสนเทศ
เช่น การที่มนุษย์ใช้โทรศัพท์มือถือ ได้ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือไม่มีความจำเป็นจะต้องทำการจดจำหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ที่ต้องการติดต่อด้วยอีกต่อไป
เช่น การใช้แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ จะส่งผลต่อความสามารถในการเขียนตัวหนังสือของมนุษย์
มุมมองว่าเทคโนโลยีสารสนเทศและสังคมต่างก็มีผลกระทบซึ่งกันและกัน
เช่น ระบบอินเทอร์เน็ตทำให้รูปแบบการติดต่อสื่อสารของสังคมเปลี่ยนแปลงไป ผู้คนจำนวนมากจะติดต่อกันด้วยอีเมล
แทนการเขียนจดหมาย มีการติดต่อซื้อขายผ่านระบบอินเทอร์เน็ตมากขึ้น มีการใช้ล่อลวงกันโดยใช้อินเทอร์เน็ตเป็นสื่อมากขึ้น
มุมมองว่าเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นกลไกในการดำรงชีวิตของมนุษย์
เช่น จากการที่มีเทคโนโลยีเข้ามาใช้มากขึ้นทำให้มีการสืบค้นข้อมูลหรือมีการเก็บข้อมูลประจำตัวของมนุษย์เข้ามาใช้มากขึ้น
การดำรงชีวิตของมนุษย์ก็ง่ายขึ้นแค่เพียงมีแค่ข้อมูลจะถูกเก็บเป็นฐานข้อมูลเฉพาะบุคคลก็เป็นสิ่งง่ายขึ้นแต่เนื่องด้วยจากการที่เราใช้เทคโนโลยีเพื่อความสะดวกมากขึ้นบางครั้งก็
ทำให้มีผลเสียตามมาในหลายๆเรื่อง บางทีการใช้เทคโนโลยีมากเกินไปก็อาจจะมีผลเสียต่อตัวเรามากขึ้นเช่นกัน
แนวทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาสังคมที่เกิดจากเทคโนโลยีสารสนเทศ
1.ใช้แนวทางสร้างจริยธรรม (Ethic) ในตัวผู้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ แนวทางนี้มีหลักอยู่ว่าผู้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ จะระมัดระวังไม่สร้างความเดือดร้อนเสียหายต่อผู้อื่น
2.สร้างความเข้มแข็งให้กับตนเอง ผู้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศพึงรำลึกอยู่เสมอว่า ในสังคมของเราทุกวันนี้ยังมีคนไม่ดีปะปนอยู่มากพอสมควร
3.ใช้แนวทางการควบคุมสังคมโดยใช้วัฒนธรรมที่ดี แนวทางนี้มีหลักอยู่ว่าวัฒนธรรมที่ดีนั้นสามารถควบคุมและแก้ปัญหาสังคมได้ การดำรงอยู่และส่งเสริมวัฒนธรรมที่ดีไว้ เป็นสิ่งจำเป็นในยุคสารสนเทศ ยกตัวอย่างเช่น การให้เกียรติซึ่งกันและกัน ยกย่องในผลงานของผู้อื่น เป็นวัฒนธรรมที่ดีและ
4.การสร้างความเข้มแข็งให้กับสังคมชุมชน ผู้รับผิดชอบในการจัดการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและสมาชิกของสังคม พึงตระหนักถึงภัยอันตรายที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสารสนเทศ และหาการป้องกัน
5.ใช้แนวทางการเข้าสู่มาตรฐานการบริหารจัดการการให้บริการเทคโนโลยีสารสนเทศ ในปัจจุบันองค์กรต่างๆ
6.ใช้แนวทางการบังคับให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย และบทลงโทษของการละเมิด เป็นสิ่งจำเป็น ผู้บริหารระบบสารสนเทศจะต้องระบุข้อกำหนดทางด้านกฎ ระเบียบ
การใช้กฎหมายเพื่อแก้ปัญหาสังคมที่เกิดจากเทคโนโลยีสารสนเทศ
โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC)
มีกรอบสาระของกฎหมายในเรื่องต่างๆ ดังนี้
ก. กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Law)
การคุ้มครองสิทธิในความเป็นส่วนตัว ไม่ให้มีการนำข้อมูลของบุคคลไปใช้ในทางมิชอบ
ข. กฎหมายอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ (Computer Relate Crime)
คุ้มครองสังคมจากความผิดที่เกี่ยวกับข้อมูลข่าวสาร
ค. กฎหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Commerce)
คุ้มครองการทำธุรกรรมผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ง. กฎหมายการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange : EDI)
เพื่ออำนวยการให้มีการทำนิติกรรมสัญญาทางอิเล็กทรอนิกส์ได้
จ. กฎหมายลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signature Law)
เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่คู่กรณีในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการลงลายมือชื่อ
ฉ. กฎหมายการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Funds Transfer)
เพื่อให้การคุ้มครองผู้บริโภคด้านการโอนเงิน
ช. กฎหมายโทรคมนาคม (Telecommunication Law)
เพื่อจัดการเปิดเสรีให้มีการแข่งขันที่เป็นธรรม และมีประสิทธิภาพ
อนุญาติให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการโทรคมนาคมได้อย่างทั่วถึง
ซ. กฎหมายระหว่างประเทศ องค์การระหว่างประเทศ และการค้าระหว่างประเทศที่เกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
ฌ. กฎหมายที่เกี่ยวเนื่องกับระบบอินเทอร์เน็ต
ญ. กฎหมายพัฒนาเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์
ในส่วนของกรณีของกฎหมายในปัจจุบันได้มีการทำพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ร.บ.ฉบับนี้ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษาไปเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2550 และจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2550 สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ ที่ลิงค์ตามที่อ้างอิง
http://www.etcommission.go.th/documents/laws/20070618_CC_Final.pdf
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
http://51533316.exteen.com/20080921/entry
ไม่มีความเห็น