หลังจากที่ผ่านตอนที่ 1 มาแล้วครับก็มาถึงตอนที่ 2 เรื่องของการเลือกใช้เทคโนโลยี และการใช้หลักการต่างๆ ดังนี้
-
PHP เนื่องจากเป็นภาษาที่ถนัดและมีผู้ใช้มาก Community ใหญ่มักๆ และที่สำคัญฟรี
- แต่ถ้าจะเขียนแบบ structure คงไม่ไหวมันเก่าแล้วและก็ไม่ใช่มืออาชีพ เลยต้องมาเขียนแบบ OOP (Object Oriented Programming)
- ถ้าเขียนแบบ OOP ต้องหืดขึ้นคอแน่ เลยหาตัวช่วยโดยใช้ Framework
- มาลงเอยที่ CakePHP เป็น Framework คู่ใจในการพัฒนาระบบนี้ต้องมาเรียนรู้การเขียนแบบ CakePHP อีกยกใหญ่ แล้วมันดียังไง ดีตรงที่เรามีธรรมเนียมการเขียนแบบเดียวกันใครรู้จัก CakePHP ก็มาเขียนต่อได้หรือนำไปต่อยอดได้ ไม่เหมือนการเขียนแบบเก่าซึ่งคนใหม่ต้องไปเรียนรู้คนเก่าว่าเขียนยังไง แก้ไขยากมากๆๆๆ
- ใช้หลักการ วิเคราะห์และออกแบบระบบ ในการออกแบบระบบนี้
- ใช้ UML ออกแบบ Use Case และ Activity Diagram ของโปรแกรม (2 ส่วนนี้ก็คงพอเนื่องจากอยากดูภาพรวมของระบบและเงื่อนไขการทำงานระหว่างผู้ใช้กับระบบเท่านั้น)
-
MySQL เป็น RDBMS (Relational Database Management System) หรือ ระบบจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ สำหรับจัดเก็บและจัดการฐานข้อมูลของโปรแกรม
-
WAMP Server เป็นโปรแกรมจำลองเครื่องให้เป็น Web + Database server โดยมี Apache, PHP, MySQL และ phpMyAdmin รวมให้ด้วยแบบสำเร็จรูป
-
DBDesigner ใช้ในการออกแบบ ER (Entiy Relationship) หรือเรียกว่าออกแบบความสัมพันธ์ระหว่างตารางในฐานข้อมูล
-
Eclipse ใช้ PHPEclipse เดี๋ยวนี้มี Eclipse เวอร์ชั่นของ PHP แล้วครับมี Auto Complete ให้ด้วย เจ๋งแฮะ(ต้องตั้งค่าเพิ่มเติม)
-
CSS ใช้เพื่อจัดการ Layout ของโปรแกรมให้มีการแสดงผลที่สวยๆ
-
Inkscape ในการออกแบบเรื่อง Graphic
ทั้งหลายทั้งปวงที่เขียนมาล้วนเป็น OpenSource Program ทั้งสิ้นไม่ต้องเสียเงินเลยสักแดงเดียว โอ้ มันขนาดนั้นเลยเหรอ ใช้เพียงหนึ่งสมองและสองมือในการพัฒนา (ของฟรียังมีในโลก)