หลังจากติดคุกทางความคิด(อย่างจำเป็น) อยู่กับวิทยานิพนธ์อยู่ ๒ วันเมื่อวานเป็นวันที่ถือเป็นโอกาสดีอย่างมากได้ออกจากคุกกลับเข้าสู่มหาวิทยาลัยด้วยกับการได้รับการทาบทามเข้าร่วมโครงการของสาขาภาษาอังกฤษเรื่องเทคนิคการเขียนตำราและเอกสารประกอบการสอน ตัดสินใจเดินทางเข้ามหาวิทยาลัยตั้งแต่เช้าไปตระเวนเยี่ยมเยียนเพื่อนอาจารย์ที่อยากเจอมากมายเท่าที่จะทำได้ก็อัลฮัมดุลิลละฮฺได้เจอทุกคนมีสองท่านที่ผมคิดว่าผมน่าจะเจอท่านได้ที่มัสยิด คือ Ibm ครูปอเนาะ กับท่าน อ.จารุวัจน์ แต่แล้วผมก็พลาดการเจออาจารย์ท่านหลังในช่วงแรกเพราะการเข้าร่วมโครงการในช่วงเช้ามีเรื่องมากมายที่ต้องพูดคุยกันแต่ผมก็จับประเด็นของการพูดคุยกันไม่ได้ในเรื่องเทคนิคการเข้าร่วมโครงการในครั้งนี้ ได้ยินประกาศการพัฒนาโจทย์วิจัยในช่วงบ่ายก็ตัดสินใจอยู่ต่อเพื่อเข้าร่วม
(มัสยิดฮารอมัยน์ มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา)
หลังการประชุมรอบเช้านัดเพื่อนอาจารย์ไปทานข้าวเพื่อพูดคุยในหลายประเด็นก็อัลฮัมดุลิลละฮฺซาบซึ้งในบรรยากาศเก่าๆครับในความรู้สึกนั่งพูดคุยกับอาจารย์ที่มัสยิดที่สร้างองค์ความรู้อะไรมากมายหลังละหมาดสักพักก็ได้พบเจอ อ.Ibm ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบและพูดคุยแลกเปลี่ยนนิดหน่อยประทับใจท่านมากครับที่บอกให้นั่งพูดคุยตรงบันไดทางขึ้นมัสยิดเลย (เป็นถึงผู้หลักผู้ใหญ่ครับแต่ไม่เคยถือตัวเลย) เสร็จก็เข้าร่วมโครงการพัฒนาโจทย์วิจัยในรอบบ่าย ดังรูป (ขอบคุณภาพจากท่าน อ.จารุวัจน์ สองเมือง)
ผมชวนเพื่อนอาจารย์รุ่นพี่เข้าร่วมเพื่อเห็นแนวทางอะไรบางอย่างเพราะผมเชื่อว่าอาจารย์ท่านหนึ่งจะมาและท่านก็มาจริงๆแถมเป็นผู้ดำเนินรายการซะด้วย(นึกแล้วไม่มีผอด อิอิ) ที่ชวนเพื่อนอาจารย์รุ่นพี่เข้าร่วมเพราะผมคิดว่าท่านมีความรู้อะไรมากพอกับเวทีกับการไปใช้ชีวิตในต่างประเทศ แต่พอเข้าไปก็เห็นทุกคนเตรียมโครงการกันมาเลยกระซิบกันว่าสงสัยเรามาผิดงานแต่ก็ไหนๆมาแล้วก็ไม่เสียเที่ยวแน่(คิดอย่างนั้น) ก็อัลฮัมดุลิลละฮฺครับชอบบรรยากาศอย่างมากครับ ชอบการขับเคลื่อนแบบนี้มากครับเหตุและผลตัวตนของพื้นฐานของแต่ละคนที่ิิเราจะร่วมกันช่วยกันทำให้มันดีที่สุดเพื่อมหาวิทยาลัยของเราทุกคนผมอมยิ้มอยู่ในใจตลอดกับการเข้าร่วมประชุมในรอบบ่าย นั่งฟังอย่างพยายามคิดอะไรบางอย่างแต่ฐานข้อมูลที่บรรจุในสมองตัวเองมันมั่วกันไปหมดเลยจัดระบบใหม่อยู่สักพักตั้งหลักความคิดแล้วตัดสินใจแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนที่เข้าร่วมประชุม อัลฮัมดุลิลละฮฺ...ได้ทำในสิ่งที่คิดว่าควรทำจนได้
ประทับใจเวทีนี้มากตรงที่เราไม่มีคำว่า "ผู้บริหาร" เราไม่มีคำว่า "ดร." แต่เรามีแต่คำว่า "เรากับเรา" แลกเปลี่ยนเรียนรู้เสร็จสนใจประเด็นโจทย์แต่ละท่านของเพื่อนอาจารย์มากครับ(อิอิ...ศักยภาพ ณ ตอนนี้แค่ร่วมด้วยช่วยกันได้ครับแต่ให้เป็นหลักในการเดินเห็นทีหลายคนคงต้องมาติดคุกกับผมเป็นแน่ ฮ่า) เพียงแต่ประเด็นบางอย่างร่วมกันพัฒนาอีกสักนิดน่าจะไปได้ไกลอีก (อินชาอัลลอฮฺ) ผมเชื่ออย่างนั้นตกค่ำได้รับอีเมล์จากท่าน อ.ดร.อิดริส ซึ่งความจริงเพิ่งมาทราบทีหลังว่าเป็นญาติฝ่ายพ่อนี่เอง อิอิ
การออกจากคุกหลังที่ยอมโดนขังเข้าสู่มหาวิทยาลัยอิสลามยะลาแห่งนี้ การกลับไปอย่างตั้งใจมุ่งมั่นเคลียร์ตัวเองเป็นการกลับไปอย่างมีความสุขในหนึ่งวันที่คุ้มค่ามากๆๆ การได้รับรู้เรื่องราวต่างๆมากมาย ผมกลับต้องทบทวนตัวเองในหลายๆเรื่องข้อชวนคิดที่เคยพูดไว้หลายครั้ง "สุดท้ายทุกคนต้องกลับบ้าน" มันใช่เวลานี้หรือปล่าว? แต่ผมเองก็ไม่แน่ใจ ณ วันนี้ว่าจะช่วยอะไรได้มากกว่านี้อีกหรือปล่าวเพราะอยากหลุดให้พ้นคุกรอบนี้สักทีติดคุกรอบนี้ได้สมการเลยครับว่า "อารมณ์+อดทน=วิทยานิพนธ์" ฮ่าๆๆ
ขอพระเจ้าโปรดชี้นำแนวทางด้วยความหวังและดุอาอฺ(การขอพรจากพระเจ้า)
อารมณ์+อดทน=วิทยานิพนธ์ ;) ขนาดนั้นเลยนะคะ เป็นกำลังใจค่ะคุณน้องเสียงเล็กๆ ...
ไม่ว่าตอนไหน เวลาไหน ยินดีต้อนรับการกลับมาของอาจารย์ทุกเมื่อครับ
ดูแลสุขภาพด้วยครับ
อัลลอฮฺคุ้มครองครับ
ขอบคุณมากครับแบซุลฯ
ซุลกอรนัยน์
การกลับไปหรือไม่กลับไปสำหรับผมไม่ใช่ประเด็นแต่การกลับไปเมื่อไหร่ตอนไหนนี่แหละครับประเด็นที่ผมคิดทบทวนมากกว่าครับ ดุอาอฺให้ด้วยนะครับ
ดูแลสุขภาพและอัลลอฮฺคุ้มครองเช่นกันครับ
สวัสดีค่ะ
มาส่งกำลังใจค่ะ
ดีใจนะคะที่น้องฟูอ๊าดเข้มแข็ง
ความหวังรออยู่ ขอให้ไปถึงฝันนะคะ
ชมคนอื่นไปแล้ว ก็ได้เวลารับวิจัยเพิ่มอีกสักหัวข้อมัย(ค่ะ)ครับ ฮิฮิ
ขอบคุณมากครับอาจารย์
ให้ช่วยได้ครับแต่หากต้องเดินนำเห็นทีต้องคิดหนักครับ...ขอให้ทุกๆการงานของเราได้รับการชี้นำและได้รับการตอบรับจากอัลลอฮฺครับ
เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ขับเคลื่อนครับ