ฟอร์เวิร์ดเมล์ ที่อ่านแล้วรันทดจริง ๆ


คนบนโลกใบนี้ที่เปลี่ยนไป

       วันนี้เข้าไปเช็คเมล์พบเมล์ที่เพื่อนฟอร์เวิร์ดมาให้  ตอนแรกแค่จะดูว่าอะไร  แต่อ่านไปแล้ว 2-3 บรรทัด ก็ต้องรีบอ่านต่อจนจบ  เลยขออนุญาต สำเนาภาพและข้อความทั้งหมดในเมล์มาเผยแพร่ที่นี่ เพื่อทุกท่านที่ได้อ่านแล้วจะนำไปเป็นบทเรียนสอนลูกหลานกันต่อไปก็น่าจะดีครับ  ข้อความทั้งหมดตามต้นฉบับในเมล์ครับ 

 -----------------------------------------------------------------------------------------

..... เราย้ายมาอยู่ที่นี่ได้หลายปี เพื่อนบ้านก็ดี มีน้ำใจ ข้างบ้านรั้วติดกันมีคุณลุงคนหนึ่งเป็นข้าราชการบำนาญ เกษียณมาหลายปีแล้ว ภรรยาเสีย

      ตั้งแต่เรายังไม่ย้ายเข้ามา ลูก ๆ ทั้ง 3 คน ต่างก็แต่งงาน มีครอบครัว ไปอยู่ที่จังหวัดอื่น ๆ กันหมด..... ลุงแกก็อยู่บ้านคนเดียวมาเกือบ 10 ปี


      เราได้รู้จักลุง ก็ได้เห็นในน้ำใจไมตรี เป็นคนใจดี อบอุ่น น่ารัก.....มีโรคประจำตัวตามประสาคนแก่ คือ เบาหวาน ความดัน และเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปตามปกติ.....ด้วยความที่อยู่บ้านคนเดียว บางครั้งเจ็บป่วย ก็ลำบากหน่อย เพราะไม่มีลูกหลาน คอยช่วยเหลือ ช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมา เราก็ได้มีโอกาสได้ช่วยเหลือ พาไปหาหมอ พาไปทำธุรต่าง ๆ และถ้าป่วยหนักถึงขั้นต้องนอนโรงพยาบาล ก็จะช่วยโทรตามลูก ๆ ของแกให้..... ลูก ๆ ก็จะมาเยี่ยมบ้างไม่มาบ้าง แล้วแต่โอกาส เรารู้ว่า คุณลุงเหงา .....


....... บ่อยครั้งที่คุณลุงจะบ่นถึงคุณป้า ซึ่งเราไม่เคยเจอตัวจริง ได้เห็นแต่ในรูป เพราะท่านเสียไปหลายปีแล้ว ก่อนที่เราจะได้ย้ายมาอยู่ที่นี่ช่วงเทศกาล ปีใหม่ สงกรานต์ เมื่อบ้านอื่น ๆ เขามีลูก ๆ มาเยี่ยม เราเห็นคุณลุงนั่งเหงาเพียงลำพังเราก็ซื้อของขวัญ ของกิน ของใช้ บางครั้งก็เป็นพวกผลไม้บ้าง เครื่องดื่มบ้าง ไปไหว้


.....ลุงก็ดีใจ ให้ศิลให้พร กันยกใหญ่.....แล้วก็บ่น รำพึง รำพัน ถึงลูก ๆ .....น้ำตาไหล นั่งมองแต่ประตูหน้าบ้านรอว่าเมื่อไร จะมีรถของลูก ๆ กลับมาเยี่ยมบ้าง .....หลายปีมานี้ คุณลุงก็ได้แต่รอ.....เราก็ได้แค่ปลอบว่าลูก ๆ เขาคงติดธุระ วันไหนเขาว่างก็คงมาเยี่ยม ไม่ต้องคิดมาก เสียสุขภาพไปเปล่า ๆ

.....ที่หลังบ้านคุณลุง มีต้นมะม่วงพันธุ์ดีอยู่หลายต้น มีต้นหนึ่งที่ลูกโต หวานอร่อยเป็นนิเศษ เราไปช่วยลุงเก็บเป็นประจำ และคุณลุงก็จะแบ่งมาให้ทุกครั้ง

.......ลุงจะคัดลูกสวย ๆ เก็บใส่กล่องดูแลเป็นพิเศษ..... เก็บไว้รอลูก ๆ อยากให้ลูกได้กินของดี ๆ หลายครั้งหลายหน เราเห็นคุณลุงรอลูก ๆจนมะม่วงเน่าเสียไป ไม่รู้กี่หน ต่อกี่หน

.....หลายปีมานี้ ก็ไม่เคยเห็นลูก ๆ กลับมากินมะม่วงที่พ่อบ่มไว้แม้แต่ครั้งเดียวมีที่แปลงหนึ่งที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ คุณลุงบอกว่าอยากขาย ให้เราช่วยดำเนินการให้หน่อย เราก็เขียนป้ายไปติด แล้วลงประกาศให้ ..... 5 เดือนเศษ ๆ หลังจากประกาศขาย ในที่สุดก็มีผู้สนใจและก็ขายได้ในที่สุด ในราคา 1 ล้านบาท ...เมื่อได้เงินมา สิ่งแรกที่คุณลุงพูดถึงคือ

..... คิดถึงลูก ๆ ถ้ารู้ว่าพ่อขายที่ได้คงดีใจ ลุงบอกว่าจะแบ่งเงินให้ลูกทั้ง 3 คน เท่า ๆ กัน

.....วันรุ่งขึ้น ลุงก็มาหาเราแต่เช้า บอกว่าวันนี้ ขอแรงหน่อย ช่วยพาลุงไปธนาคารที จะไปโอนเงินให้ลูก เราก็พาไป วันนั้นเป็นลูกค้ารายแรกของธนาคาร

.....คุณลุงโอนเงิน ให้ลูกคนละ 3 แสนบาท .....

..... เมื่อกลับมา จอดรถส่งลุงหน้าบ้าน..... ก่อนลงจากรถ คุณลุงหยิบเงิน ในกระเป๋า 1 แสนบาทยื่นส่งให้ บอกว่า.....เอานี่ ลุงให้.......เรารีบ  ปฏิเสธ บอกว่า ไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องให้ผมลุงเก็บไว้ใช้เถอะ ให้ลูก ๆ ไปเกือบหมดแล้ว

..... ลุงบอกว่า เอาไปเถอะ ลุงได้รับบำนาญทุกเดือน ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ที่แปลงนี้ที่ขายได้ ก็เพราะเราต้องรับโทรศัพท์และพาคนไปดูที่ หลายเดือนมานี้ไม่รู้ขับรถไป-กลับกี่รอบแล้ว และอีกอย่าง ตลอดเวลาที่ผ่านมา ลุงก็ได้แต่รบกวน ไม่เคยได้ให้อะไร ตอบแทนบ้างเลยพ่อหนุ่มไม่ใช่ลูก ไม่ใช่หลาน แต่ก็ยังอุตส่าห์เสียเวลาเป็นธุระจัดการเรื่องราวให้สารพัด รับไว้เถอะ ลุงอยากให้จริง ๆ ถ้าไม่รับลุงจะเสียใจนะ

......เราก็ไหว้ ขอบคุณครับลุง กลับมานอนคิด ไตร่ตรอง รู้สึกไม่สบายใจ ดึก ๆ จึงหยิบเงินไปหาลุงอีกรอบ.....แต่ลุงไม่รับคืนและยืนยันว่าตั้งใจจะให้เราจริง ๆ .....อีก 2 วันถัดมา มีรถยนต์มาจอดที่บ้านลุง ลูกสองคน คนเล็กและคนกลางมาเยี่ยมและทวงถามเราถึงเงิน 1 แสนบาท พูดจาประมาณว่า.....เราไปหลอกเอาเงินคนแก่ เรารีบเข้าไปในบ้านหยิบเงิน 1 แสน เดินไปที่บ้านลุง แล้วคืนเงินให้ลุง ลุงปฏิเสธและพยายามอธิบายให้ลูก ๆ ฟัง แต่ทั้งสองคนไม่ยอม เราจึงวางเงินไว้ แล้วเดินออกมา

      ก่อนตะวันตกดิน ได้ยินเสียงรถขับออกไป ..... สักพักลุงก็มาหา เล่าว่าสองคนนั้นแบ่งเงินกันคนละ 5 หมื่นแล้วก็ลากลับไปแล้ว คุณลุงกล่าวคำขอโทษอย่างที่สุด..... ลุงน้ำตาไหล บอกว่าเสียใจ ไม่คิดว่าลูก ๆ จะเป็นไปถึงขนาดนี้ .....ลุงบอกว่าจะเอาเงินบำนาญที่ได้รับทุกเดือนมาทยอยคืนให้ จนกว่าจะครบ 1 แสนบาท.....เราบอกว่าไม่เป็นไรหรอกครับลุง ไม่ต้องทำอย่างนั้น....


..... อีก 3 วัน เกือบ ๆ เที่ยงคืน ลุงมาที่บ้าน พร้อมกับลูกชายคนโต

" เมื่อ 3 วันที่แล้ว พ่อโทรฯ ไปเล่าเรื่องให้ฟัง พี่ก็ไม่สบายใจ.... พอดีที่ทำงานส่งไปสัมมนาหลายวันออกมาไม่ได้ พอเสร็จธุระ ก็รีบขับรถมาเลย มา

ถึงซะดึก....พี่ต้องขอโทษแทนน้อง ๆ สองคนด้วย เสียมารยาทจริง ๆ เดี๋ยวต้องคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวสักครั้ง อายุก็มากแล้วแต่ก็ไม่รู้จักโต แย่จริง ๆ

..... เอาอย่างนี้ ขอเลขบัญชีธนาคารให้พี่ได้ไหม เดี๋ยวกลับไปพี่จะรีบโอนเงินมาคืนให้ "

"ไม่ต้องหรอกครับ ไม่เป็นไร..... เราปฏิเสธไป"


วันถัดมาเมื่อลูกชายคนโตกลับไป ลุงเล่าให้ฟังด้วยความดีใจ

" เจ้าใหญ่มันบอกว่า วางแผนไว้แล้วอีก 5 ปี จะย้ายมาทำงานที่บ้าน จะพาลูกมาเมียมาอยู่ที่นี่ "


เราสังเกตุเห็นแววตาอันสดใส ของคุณลุง...บ่งบอกถึงความ ปิติ ยินดี อย่างที่สุด
ดีใจด้วยครับลุง ต่อไปลุงจะได้ไม่เหงาแล้ว...


ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ เกือบ 4 ปีแล้วซินะ..... ที่ลุงนับวันรอว่าจะมีลูก ๆ กลับมาอยู่ด้วย เราเห็นปฏิทิน ที่คุณลุงขีดฆ่า วันแล้ววันเล่า..... เดือน

แล้วเดือนเล่า..... ปีแล้วปีเล่า.....และสุดท้าย.....


ลุงน่าจะอดทนรออีกนิด .. อีกนิดเดียวเองครับลุง


ในห้องไอซียู เรากับพี่ใหญ่นั่งอยู่คนละข้างเตียงคนไข้.....ช่วงเวลา สุดท้ายของชีวิต
คุณลุงขยับนิ้วมือ เรากับพี่ใหญ่เอื้อมมือไปจับมือลุง.....ดวงตาค่อย ๆ ปิดลงช้า ๆ
คุณลุงจากไปด้วยอาการสงบ ....

 หลังงานศพ เสร็จสิ้น.....
ค่ำคืนนั้น พี่ใหญ่มาหาเราที่บ้าน ยื่นถุงกระดาษส่งให้ บอกว่า.....

"พ่อฝากไว้ให้ พ่อกำชับไว้ตั้งแต่ก่อนตาย ว่าต้องให้เรารับไว้ ไม่งั้นพ่อจะนอนตายตาไม่หลับ"


เราแกะถุงเปิดดูข้างใน มีซองจดหมายทั้งหมด 10 ซอง
จ่าหน้าว่า...
คืนเงินเดือนที่ 1-2-3... ไปจนถึง คืนเงินเดือนที่ 10
ในแต่ละซอง ข้างในมีธนบัตรใบละ 1,000 บาท สิบใบ....ซองสุดท้าย มีข้อความว่า

ถึง...
หลานที่ไม่ใช่สายเลือด แต่ก็เป็นหลานที่ดีกับลุงเหลือเกิน ..... ลุงคืนเงินให้ตามที่เคยสัญญาขอบคุณที่ช่วยเหลือ เป็นธุระให้ ในทุก ๆ เรื่อง และ

เป็นเพื่อนคนแก่มาตลอด
.... ป้ามารอลุงแล้ว..... ลุงต้องไปก่อน.

 อีก 2 วันถัดมาที่บ้านคุณลุง มีคนเข้ามาทำความสะอาด.....เราสังเกตุเห็นปฏิทินที่คุณลุงใช้ขีดฆ่าเพื่อนับวันรอลูก ๆ ถูกทิ้งอยู่ในถังขยะหน้าบ้าน

เดินไปที่ถังขยะหน้าบ้านลุง มองไปที่ประตู มีป้ายประกาศติดไว้

ขายบ้าน ด่วน !

เราไปเก็บปฏิทินมาทำความสะอาด .......นึกถึงภาพคนแก่ ที่หยิบดินสอขีดฆ่าตัวเลขบนปฏิทิน ด้วยอาการมือสั่นเทา ลูก ๆ คงไม่รู้หรอกว่า ภาย

ใต้ปฏิทินเก่า ๆ ไร้ค่าใบนี้
..... มันซ่อนความห่วงหาอาลัยซ่อนความเงียบเหงา ว้าเหว่ ..ซ่อนความเจ็บปวดร้าวลึก ของคนแก่คนหนึ่งที่ต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดียวเพียง

ลำพังมานานกว่า 10 ปี

เราตั้งใจจะเก็บปฏิทินนี้ไว้ เพื่อเป็นที่ระลึก...ตลอดไป...

ขอให้บุญกุศล และคุณงามความดี ทั้งหลายทั้งปวง ที่คุณลุงได้สั่งสมมาตลอดชั่วชีวิต
จงนำพาดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์ของคุณลุง ไปสู่สุคติในดินแดน อันสงบ ร่มเย็น ชั่วนิจนิรันดร์.....


ที่มา : FW mail

--------------------------------------------------------------------------------------

คำสำคัญ (Tags): #บุพการี
หมายเลขบันทึก: 333121เขียนเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2010 20:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

จริยธรรม กำลังหดหาย สิ้นสลาย ไปกับสายลม

อารยธรรมตะวันตก กำลังเคลื่อนย้ายเข้ามา ยึดอำนาจ แทนที่

จะมีภูมิคุ้มกันตัวไหนที่หลงเหลืออยู่ที่พอจะใช้ได้บ้าง

อ่านแล้วก็รู้สึกรันทดกับคุณลุงที่ถูกลูกในไส้ทอดทิ้ง แต่ในอีกมุมหนึ่งก็รู้สึกถึงความมีน้ำใจของเพื่อนบ้านคุณลุง  ทำให้ได้แง่คิดว่าบางครั้งสายเลือดก็ไม่สามารถสร้างความรู้สึกผูกพันผิดชอบชั่วดี  แต่อยู่ที่จริยธรรมที่มีในตัวตนของคนมากกว่า

พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)
  • ความสุขของพ่อแม่คือความรักความเมตตา
  • ความสุขของลูก(บางคน)คือเงินทองกองแก้ว
  • ใช้เงินเป็นตัวตั้ง
  • ใช้ความสุข(จิตใจ)เป็นตัวตั้ง
  • ขอบคุณชายนิรนามที่มีน้ำใจที่แบ่งปันแทนคุณลุงด้วย

สวัสดี  พี่วิทย์

ซึ่งมากๆ คุณลุงให้ข้อคิดดีครับ

ขอบคุณมากครับ

นมัสการ พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

สวัสดีครับ น้อง หนุ่ม ร้อยเกาะ

น้อง มุ่ยฮวง

น้อง เกษตรยะลา

การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นเรื่องน่ากล้ว นั่นคือเปลี่ยนที่จิตใจ ไม่ใช่สิ่งของ

ปัจจุบันคนก็มองวัตถุสิ่งของเป็นเรื่องใหญ่ ความรู้สึกที่ดี ๆ มีคุณธรรม

สู้ความรู้สึกที่ให้ได้มาซึ่งสิ่งของพองโตกว่า เรื่องราวแปลก ๆ จึงเกิดขึ้นให้เห็นเรื่อย ๆ ครับ

ต้นกล้าเกษตรฟาร์มชุมพร

สังคมเปลียนแปลงแต่ไม่อยากให้จิตสำนึกของความเป็นไทยเปรียนไป...รักใดเล่าจะเท่ารักพ่อแม่..ลืมอะไรก้อลืมได้แต่อย่าลืมพระคุณพ่อแม่

  • ขอบคุณค่ะ
  • เป็นบันทึกที่ดีมากค่ะ
  • น่าจะเป็นข้อเขียนที่นำพาให้คิดถึง
  • บุพการีพ่อพระแม่พระ
  • อ่านแล้วคิดถึงท่านทั้งสองจัง
  • รักพ่อแม่ไม่เสื่อมคลายค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท