ประกาย~natachoei ที่~natadee
นาง ประกาย ประกาย~natachoei ที่~natadee พิทักษ์

จะหยุดหรือให้บริการต่อดี


       เมื่อเช้าได้รับคำถามให้ประสานงานเรื่องจะหยุดหรือให้บริการฉีดวัคซีนต่อดี และให้รายงานผู้บริหารต่อไป   จากข่าวที่เกิดขึ้น ทำให้เกิดความกังวลใจกับผู้ให้บริการวัคซีนไข้หวัดใหญ่ H1N1 โดยเฉพาะในหญิงตั้งครรภ์ ซึ่งการฉีดวัคซีนให้มีมาตรการการคัดกรอง การตรวจสุขภาพ การให้ข้อมูลกับผู้ป่วย แล้วให้ผู้ป่วยตัดสินใจเอง

       บทเรียนจากการให้บริการวัคซีน และการติดตามอาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้น ต้องเน้นในเรื่องการสื่อสาร ซึ่งโชคดีที่เทคโนโลยี่ ดีมากขึ้น โรงพยาบาลมีระบบโทรมือถือให้ฟรี  ผู้ป่วยมีโทรศัพท์ให้ติดตามถามข่าว บุคลากรที่มีไข้หลังจากให้วัคซีนแล้ว ก็มีการติดตาม ถามข่าวแจ้งข่าวคราวที่เป็นข่าวลือบ้าง จริงบ้าง ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจน ถูกต้องว่าเป็นจริงก่อนรายงาน ขณะกำลังอยู่ในระหว่างการจัดเก็บและรายงานข้อมูล ให้นายทราบเป็นระยะ งานเข้า ๆ 

       จะต้องทำหน้าที่ติดตามข่าวจากการแถลงข่าวของกระทรวงสธ.และหนังสือสั่งการ ต่าง ๆและประสานผู้เกี่ยวข้องด้วย

      การติดต่อสื่อสารกันระหว่างทีมที่ให้บริการในโรงพยาบาลต่าง ๆของเขตจังหวัดขอนแก่น  งานเข้ามาอีกแล้ว งานนี้ห้ามลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้านเด็ดขาด

     เมื่อวานลืมโทรศัพท์ที่บ้าน มีสายที่ไม่ได้รับเกือบสิบสาย ต้องโทรกลับไปตามเบอร์ที่ไม่ได้รับ ซึ่งไม่ใช่โปรโมรชั่นที่ขอไว้ว่าโทรฟรี ช่วงกลางวัน  ค่าโทรคงเพิ่มขึ้นอีกหลายบาท  กำลังคิดว่าจะหาโปรโมชั่นใดดี โทรฟรีทั้งกลางวัน กลางคืน 

 

ทนอ่านข่าวยาว ๆ ไปก่อนนะคะ โดยไม่มีรูปภาพสวย ๆ  เพื่อประโยชน์ของท่านและคนในครอบครัว เพื่อเตรียมตัวรับการระบาดของไข้หวัดใหญ่ระลอกที่สอง ขอบคุณข้อมูลจากสสจ.ขอนแก่น

สธ.เผยพบเด็กตายในครรภ์ หลังแม่รับวัคซีน 2009-รอพิสูจน์สาเหตุ รู้ผลอีก 1 สัปดาห์

       สธ.เผย พบเด็กตายในครรภ์ 1 ราย ที่ จ.สตูล หลังแม่รับวัคซีนหวัด 2009 รอผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตาย รู้ผลอีก 1 สัปดาห์ พร้อมสั่งชะลอการให้วัคซีนแล้ว ส่วนอีกรายชัดเจนแม่หกล้มเลือดออกในสมอง ไม่เกี่ยวกับวัคซีน อาการยังน่าห่วงทั้งแม่และลูก ขณะที่หญิงท้องพัทลุงต้องส่งตัวด่วนไป มอ.เหตุปอดอักเสบหลังรับวัคซีน 2-3 วัน “รองอธิบดีกรมควบคุมโรค” เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบวันที่ 29 ม.ค. แพทย์ ย้ำหญิงตั้งครรภ์ยังจำเป็นต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน

       วันที่ 28 มกราคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัด สธ. นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัด สธ. และนพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุม ร่วมแถลงข่าวกรณีหญิงตั้งครรภ์ 2 ราย ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่โรงพยาบาลทุ่งหว้า จังหวัดสตูล เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2553 หลังฉีดได้ 1-2 วัน ทารกในครรภ์เสียชีวิต
       
       นพ.ไพจิตร์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นของกรมควบคุมโรค พบว่า ราย แรกที่เป็นหญิงอายุ 39 ปี อายุครรภ์ 29 สัปดาห์ หลังได้รับการฉีดวัคซีน 1 วัน แม่รู้สึกเด็กดิ้นน้อยลง มาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทุ่งหว้าและส่งต่อมายังโรงพยาบาลสตูล ตรวจสอบพบว่าเด็กเสียชีวิตแล้ว ขณะนี้กำลังทำคลอดโดยให้ยากระตุ้น เมื่อสามารถนำเด็กออกมาจากท้องแล้วจะต้องส่งไปตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลสงขลา นครินทร์เพื่อหาสาเหตุในการเสียชีวิต คาดว่าจะทราบผลในอีก 1 สัปดาห์
       
       นพ.ไพจิตร์ กล่าวอีกว่า ส่วนรายที่2 หญิง อายุ 32 ปี ตั้งครรภ์ 33 สัปดาห์ มีความชัดเจนแล้วว่าทารกไม่ได้เสียชีวิตจากการได้รับวัคซีน แม้จะได้รับวัคซีนมาก่อน 1 วันก็ตามและไม่เกี่ยวข้องกับการที่เกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ แต่พบว่าแม่มาโรงพยาบาลเพราะหกล้ม มีบาดเจ็บที่ศรีษะ ญาตินำส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่ แพทย์พบว่ามีเลือดออกในสมอง ได้ทำการผ่าตัดสมองเพื่อช่วยชีวิต ขณะเดียวกันก็จำเป็นต้องผ่าตัดเอาเด็กออกทางหน้าท้องเพื่อช่วยชีวิตเด็ก ขณะนี้แม่และเด็กอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด เชื่อว่าจะปลอดภัยทั้งแม่และลูก
       
       
“ก่อน หน้านี้มีกรณีหญิงตั้งครรภ์ซึ่งเข้ารับวัคซีนที่โรงพยาบาลวชิระและต่อมาทารก เสียชีวิตในครรภ์ 1 รายนั้น ผลการตรวจพิสูจน์ศพทารกเบื้องต้น พบว่า ทารกไม่ได้เสียชีวิตจากการติดเชื้อ แต่เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น รกไม่แข็งแรง เป็นต้น”นพ.ไพจิตร์กล่าว
       
       นพ.ไพจิตร์ กล่าวด้วยว่า
ตน ได้สั่งการให้จ.สตูลเพียงจังหวัดเดียวชะลอการฉีดวัคซีนเฉพาะกลุ่มหญิงตั้ง ครรภ์ไปก่อนจนกว่าจะได้ข้อมูลเบื้องต้นจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการพิจารณาผลข้างเคียงหรือเหตุข้างเคียงที่อาจ เกี่ยวพันกับวัคซีน ที่มี พญ.สุจิตรา นิมมานิตย์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีเป็นประธานในวันที่ 29 ม.ค.นี้ จากนั้นจะมีการตัดสินใจร่วมกันอีกครั้งว่าจะให้จ.สตูลดำเนินการฉีดวัคซีนให้ กับหญิงตั้งครรภ์หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความสบายใจให้กับประชาชนในจ.สตูล
       
       ปลัด สธ.กล่าวอีกด้วยว่า จากการติดตามสถานการณ์ทั่วโลก ยังไม่มีประเทศใดมีรายงานว่าหญิงตั้งครรภ์ที่ได้รับวัคซีนส่งผลให้เกิดอัตรา เด็กเสียชีวิตสูงกว่าหญิงตั้งครรภ์ปกติที่มีโอกาสแท้งและคลอดก่อนกำหนดอยู่ แล้ว และก่อนที่ประเทศไทยจะนำเข้าวัคซีนชนิดเชื้อตายเข้ามาให้บริการกับ ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ได้มีการพิจารณาคัดเลือกอย่างรอบคอบแล้ว เมื่อฉีดให้กับประชาชนก็มีขั้นตอนการเฝ้าระวังติดตามมากกว่าการฉีดวัคซีน ป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ตามฤดูกาลและวัคซีนทั่วไป
       
       นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตามปกติที่ไม่มีการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 2009ให้กับหญิงตั้งครรภ์จะมีอัตราเด็กเสียชีวิตในครรภ์ 7 รายต่อการเกิดพันราย และในแต่ละปีประเทศไทยมีเด็กเกิดใหม่ประมาณ 8 แสนราย มีการแท้งประมาณ 80,000 ราย และเด็กเสียชีวิตในครรภ์ประมาณ 3,375 ราย สิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องปกติ และภายหลังการเริ่มฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์เมื่อวันที่ 11 ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่าอัตราการแท้งและเด็กเสียชีวิตในครรภ์ยังไม่ได้สูงกว่าภาวะปกติจนต้อง ระงับการให้วัคซีน โดยขณะนี้ดำเนินการฉีดวัคซีนนี้ให้กับหญิงตั้งครรภ์ทั่วประเทศไปแล้ว 6 พันราย และเกิดผลข้างเคียงเพียง 2 รายเท่านั้น
       
       นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นกับหญิงตั้งครรภ์ไม่ควรด่วนสรุปว่าเกิดจากการรับวัคซีนต้อง รอผลการสรุปจากพยาธิแพทย์และผู้เชี่ยวชาญก่อน และสธ.มีระบบการติดตามและเฝ้าระวังผลข้างเคียงภายหลังการฉีดวัคซีนที่ดี หากพบว่าวัคซีนล็อตใดมีปัญหาจะเก็บและเรียกคืนทันที จึงขอยืนยันและเชิญชวนหญิงตั้งครรภ์ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนดีกว่าจะปล่อยให้ เกิดป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งในการให้บริการฉีดวัคซีนกับประชาชนกลุ่มเสี่ยงในส่วนของหญิงตั้งครรภ์ ที่มีอายุครรภ์เกิน 3 เดือนตั้งเป้าฉีดประมาณ 5 แสนคน
       
       ด้าน นพพร ชื่นกลิ่น รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ล่าสุดได้รับรายงานว่ามีหญิงตั้งครรภ์ในจ.พัทลุง มีอาการปอดอักเสบภายหลังได้รับการฉีดวัคซีนนี้ประมาณ 2-3 วัน และจากการตรวจหาเชื้อของโรงพยาบาลพัทลุงไม่พบเชื้อชนิดใดที่ให้ผลเป็นพวกแม้ แต่โรคฉี่หนู ขณะนี้ได้ส่งตัวไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เบื้องต้นสงสัยว่าน่าจะเกิดจากโรคแพ้ภูมิตนเองหรือโรคเอสแอลอี
       
        นพ.คำนวณ อึ้งชูศักดิ์ ผู้ทรงคุณวุฒิระดับ 10 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า อุบัติการณ์ทารกตายในครรภ์ อยู่ที่ 5-10 คนต่อหญิงตั้งครรภ์ 100 คน ซึ่งมีปัจจัยและความเสี่ยงจำนวนมากที่สามารถเกิดขึ้นได้กับหญิงตั้งครรภ์ ส่วนการฉีดวัคซีนอาจเป็นเพียงเหตุคล้องจองเท่านั้น จึงจำเป็นต้องชันสูตรหาสาเหตุที่แท้จริงคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจกับประชาชน คณะอนุกรรมการที่ปรึกษาวิชาการยุทธศาสตร์ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งมีนพ.ประเสริฐ ทองเจริญ เป็นประธาน เพื่อหารือว่าต้องมีการเปลี่ยนแปลงคำแนะนำในการฉีดวัคซีนหรือไม่ ซึ่งอาจจะต้องพิจารณาระยะเวลาในการฉีดช่วงเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์โดยจะ มีการประชุมกรณีพิเศษในวันที่ 29 ม.ค.นี้ จากเดิมที่จะมีการประชุมวาระปกติในวันที่ 9 ก.พ.
       
       “สธ.ไม่ ได้บังคับให้ประชาชนฉีดวัคซีน เป็นเพียงคำแนะนำเท่านั้น ต่อจากนี้แพทย์จำเป็นต้องแนะนำประชาชนอย่างละเอียดเพื่อสร้างความมั่นใจ ซึ่งในขณะนี้ สธ.ได้แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์หลัง 3 เดือนจนถึงก่อนคลอดเข้ารับวัคซีน เพราะถือเป็นกลุ่มเสี่ยงเช่นกัน โดยจะเร่งพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ให้ชัดเจนเพื่อให้ประชาชนสบายใจที่จะเข้ามา รับวัคซีน” นพ.คำนวณ กล่าว
       
       นพ.คำนวณ กล่าวว่า กรณีดังกล่าวมีเกิดขึ้นในต่างประเทศเช่นกัน โดยพบที่ประเทศไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำลังมีการศึกษาและทบทวนอยู่เช่นกัน แต่ยังไม่มีการยกเลิกการฉีดวัคซีนแต่อย่างใด สำหรับการชันสูตร จะมีการตรว0ชิ้นเนื้อ เพาะเชื้อ และดูความผิดปกติทางพันธุกรรม โดยจะมีการตัดสาเหตุอื่นในการเสียชีวิตออกจนหมดก่อน แล้วจึงจะสามารถสรุปได้ว่า เกิดขึ้นจากวัคซีน เพื่อที่จะดำเนินการทบทวนมาตรการการฉีดวัคซีนต่อไป อย่างไรก็ตาม จากการประเมินทางวิชาการ หากมีการฉีดวัคซีนได้ครบ 2 ล้านโดสจะลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ได้ประมาณ 100 คน และลดผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการรักษาได้ประมาณ 1 หมื่นคน


Epidemiology Section,
Khon Kaen Provincial Health Office,
A. Muang, Khon Kaen province,
THAILAND
40000

  

   

หมายเลขบันทึก: 332101เขียนเมื่อ 29 มกราคม 2010 19:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:52 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

แต่ข่าวได้แพร่สะพัดไปทำให้ไม่มีใครกล้ามาฉีดวัคซีนต่อ

เป็นรายงานข่าวจากทีวีเมื่อสักครู่นี้

เสียดายที่ทำให้การทดลองผลพบอุปสรรค

สวัสดีครับ

“สธ.ไม่ ได้บังคับให้ประชาชนฉีดวัคซีน เป็นเพียงคำแนะนำเท่านั้น ต่อจากนี้แพทย์จำเป็นต้องแนะนำประชาชนอย่างละเอียดเพื่อสร้างความมั่นใจ ซึ่งในขณะนี้ สธ.ได้แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์หลัง 3 เดือนจนถึงก่อนคลอดเข้ารับวัคซีน เพราะถือเป็นกลุ่มเสี่ยงเช่นกัน โดยจะเร่งพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ให้ชัดเจนเพื่อให้ประชาชนสบายใจที่จะเข้ามา รับวัคซีน”

กรณีวัคซีนถือว่าปลอดภัย 100% หรือไม่ครับ..วัคซีนนี้นำเข้ามาหรือไม่ครับ

ขอบคุณครับ

มาติดตามข่าวค่ะไก่

คนส่วนใหญ่ฉีดแล้วก็ไม่เป็นอะไร

พอมีข่าวก็กลัว

1.

P
สันติ หมื่นไวย
เมื่อ ศ. 29 ม.ค. 2553 @

สวัสดีคะอาจารย์

ขอบคุณนะคะที่ติดตามข่าว โอกาสเกิดการแพ้จะน้อยมาก ผู้ให้บริการก็ต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน แต่ใจก็หวั่น ๆวิตกกังวลเหมือนกันคะ

3.

สวัสดีคะนาง

ส่วนมากอาการที่เกิดจากวัคซีนจะน้อยมาก เมื่อมีข่าวก็ทำให้กลัวกัน ตอนนี้ต้องรีบรวบรวมข้อมูลอาการภายหลังฉีดวัคซีน และโทรถามถามข่าวหญิงตั้งครรภ์นะคะ

สวัสดีคะ

ติดตามข่าวและรอหนังสือสั่งการ แต่ตอนนี้ก็ทำตามขั้นตอนและมาตรฐานอย่างเคร่งครัด

สวัสดีค่ะอาจารย์

  • วันก่อนหนูอ่านในอนุทิน ที่สมาชิก g2k ท่านหนึ่งเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ 2009 ค่ะ
  • ผลระบุว่าอาการทั่วไปปกติดี ไม่มีแพ้ ไม่มีไข้ใดๆ
  • ก็รู้สึกยินดีและลุ้นว่าอย่าได้เกิดอาการข้างเคียงใดๆค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

7.

สวัสดีคะน้องซิลเวีย

พี่ประกายลุ้นทุกวันคะว่าอย่ามีใครเป็นอะไรที่รุนแรงเลยคะ

วัคซีนตัวนี้นำเข้าคะ ไม่ได้ผลิตเอง ความปลอดภัยสูงมากนะคะ

เท่าที่พี่เขี้ยวรู้

ไม่เห็นมาใครมีอาการข้างเคียงเลย

ช่วยน้องลุ้นด้วยคนค่ะ

9.

P
มนัญญา ~ natachoei ( หน้าตาเฉย)
เมื่อ ศ. 29 ม.ค. 2553 @ 23:27

สวัสดีคะพี่เขี้ยว

ไก่ขอบคุณคะที่ช่วยลุ้น 

อยากไปกาดอนามัยมาก ๆ แต่ติดไปนำเสนองานที่เมืองนนท์ วันที่ 3 -5 กพ.นะคะ

พี่เขี้ยวสบายดีนะคะ พักผ่อนมากๆนะคะ แม่ค้าจะได้สดใสมีแฮงขายสินค้า

สวัสดีครับพี่ไก่

พักนี้ผมทำตัวแบบนินจาครับ เข้า G2K แบบไปเร็มมาเร็ว

ตอนนี้ผมอยู่ที่ดอยมูเซอ จ.ตาก ครับ มาดูแลการก่อสร้างที่พัก ยุ่งเอาการครับ

ผมใช้อินเตอร์ได้ก็ต่อเมื่อขึ้นไปอยู่บนหลังคาบ้าน แล้วต่อด้วยมือถือครับ ยุ่งยากเอาการ

แต่เพราะใจรักยากแค่ไหนก็ยอมครับ

เรื่องในบันทึกพี่ไก่ผมตามข่าวอยู่บ้างครับ แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร

พี่ไก่สบายดีนะครับ

ว่าง ๆ จะแวะมาเยี่ยมใหม่ครับ

11.

P
หนานเกียรติ
เมื่อ ส. 30 ม.ค. 2553 @ 11:15
#1827698 [ ลบ ]

สวัสดีคะคุณหนานเกียรติ

 

ยอมรับน้ำใจนะคะขึ้นไปต่อinternetที่หลังคาบ้าน

พี่ยอมรับนับถือน้ำใจมาก ๆ

ในบันทึกจะอ่านแล้วเข้าใจง่ายสำหรับคนวงในการที่เป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการให้บริการวัคซีน H1N1นะคะ

ในกลุ่มเครือข่ายจะต้องติดตามข่าวและแจ้งข่าวกันทาง mail แบบวันต่อวัน ชั่วโมงต่อชั่วโมงนะคะ ว่าเกิดอะไรขึ้น มีปัญหาการให้บริการวัคซีน ใครมีอาการรุนแรงเกิดขึ้น

หรือว่าขณะนี้มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ เพิ่มขึ้นกี่ราย แนวโน้มน่าจะเกิดการระบาดระลอกที่สองในพื้นที่ใดบ้าง

พี่ต้องขอโทษที่ไม่ได้สกัดออกคำพูดออกมาบันทึกแบบง่าย ๆ ให้ได้อ่านอย่างเข้าใจ จากปัญหาความเร่งรีบด้วยและกลัวว่าจะถ่ายทอดไม่คบ จะเกิดประเด็นข่าวอีกนะคะ เลยนำมาให้อ่านจนครบ ใครพูดว่าอย่างไร ทำอะไร

ถ้าฟังข่าวอย่างเดียวจากทีวีแล้วจะกลัวนะคะ

พี่ไก่สบายดีคะ  พี่เหนื่อยเพิ่มขึ้นจากภาระงานที่ค้าง ส่วนพ่อพี่อาการน่าจะบอกว่าหายแล้ว เหลือแต่บำรุงร่างกาย ฟื้นฟูให้แข็งแรงเหมือนเดิมนะคะ

ดูแลสุขภาพนะคะ

ว่าจะไปฉีด สุดท้ายผมก็ไม่ได้ฉีดครับ

คิดว่าจะรอเป็นวัคซีนรวมกับหวัดใหญ่ประจำปี แล้วค่อยฉีดทีเดียวปีหน้า

13.

สวัสดีคะอาจารย์หมอเต็มศักดิ์

พี่ก็ยังไม่ได้ฉีดคะ วัคซีนยังเหลือ แต่พี่ป่วยไปแล้วคะต้องแต่รอบแรก เสียดายไม่มีผลตรวจยืนยัน ตามข้อกำหนดอย่างไรก็ต้องฉีด คงให้บริการคนอื่นไปก่อน  

  • น้องประกายคะ พี่ยังไม่ได้ฉีดเลย ลืมไปแล้วว่าต้องฉีด เพราะเข้าคุณสมบัติ 2 ข้อ คือ เป็นบุคลากร และ มีโรคหอบหืดประจำตัว
  • ตั้งแต่ระบาดรอบก่อน พี่คาดหน้ากากอนามัยเวลาไปทำงาน และ ล้างมือจนติด  กลายเป็นนิสัย (ใหม่) ที่สร้างได้สำเร็จ เลยไม่ค่อยกลัว
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท