วันพุธที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๓ หลังทานกาแฟที่สโมสรเดินทางไปโรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม ของท่าน ผอ.จรัญ ดีงาม เพราะรับขันหมากไว้ก่อนจะป่วยว่าจะไปเปิดงานวันวิชาการให้ ชวนท่านรองฯครรชิต หิรัณยหาดและนางสาววิภาวรรณพึ่งโยธินนักประชาสัมพันธ์ของเขตไปด้วย ก่อนย้ายมาปทุมธานี เขต๑ ได้ยินชื่อโรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคมและโรงเรียนประถมศึกษาธรรมศาสตร์เข้าใจว่าเป็นโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อย้ายมาจึงทราบว่าเป็นโรงเรียนในสังกัดสพท.ปทุมธานีเขต๑ แต่ทั้ง ๒ แห่งตั้งอยู่ติดกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิตได้รับการอุปถัมภ์ค้ำชูจากมหาวิทยาลัยในหลายๆเรื่อง ถึงโรงเรียนเห็นจัดซุ้มนิทรรศการรอบสนาม ก็ใจชื้น เพราะหากต้องขึ้นลงอาคารหลายชั้น สงสัยไข้กลับมาเยือนอีกแน่นอนมีผู้บริหารโรงเรียนมาร่วมพิธีเปิดหลายท่านและได้รับเกียรติอย่างยิ่งจากประธานกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา รองศาสตราจารย์สมชาย วิริยะยุทธการมาร่วมงานด้วย ขึ้นรับคำกล่าวรายงานและทำพิธีเปิดกันบนเวที มีโรงเรียนเอกชนมาร่วมจัดซุ้มแนะแนวหลายแห่งโรงเรียนได้มอบเกียรติบัตรให้ด้วย การแสดงกลางแจ้งมีให้ชมหลายชุดเริ่มจากโขนเรื่องรามเกียรติ์เป็นตอนที่พระลักษณ์ยกทัพรบกับยักษ์ท่านผอ.จรัญ ดีงามเล่าให้ฟังว่าการฝึกแสดงโขนของนักเรียนได้รับนุเคราะห์จากอาจารย์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เป็นผู้ฝึกสอน การแสดงแต่ละครั้งต้องเช่าชุดเป็นหมื่น วันนี้ให้พระลักษณ์เดินเท้าไปรบ ไม่มีราชรถให้นั่งเพราะหากใช้ราชรถต้องจ่ายค่าเช่าอีก๓,๐๐๐ บาท เศรษฐกิจไม่ดีพระรามอนุมัติให้พระลักษณ์เดินทางไปราชการสงครามโดยประหยัดนักเรียนแสดงได้ดีไม่แพ้นักแสดงจากกรมศิลปากร การแสดงท่าทางประกอบเพลงเป็นที่กรี๊ดกร๊าดของของวัยรุ่นมากจบการแสดงได้เดินชมนิทรรศการของนักเรียนนำมาแสดงหลากหลาย ใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมงจึงครบทุกซุ้ม ลาเจ้าภาพกลับมาทานอาหารกลางวันที่ร้านไก่ย่างจักราช ตลาดไท เพราะมีข่าวว่าปากเป็ดทอดเขาอร่อย ลองสั่งมาทานดูเป็นคนละสูตรกับที่ชอบ ของเขาเป็นปากเป็ดชุบแป้งทอด ทำให้เสียรสชาติไป ของอย่างนี้แล้วแต่ความชอบแต่ละคนว่ากันไม่ได้ กลับเข้าสำนักงานมีประชุมคณะกรรมการ สกสค.จังหวัดมีวาระสำคัญคือการคัดเลือกผู้นำด้านการจัดสวัสดิการในหน่วยงานและสถานศึกษาเพื่อทำหน้าที่เครือข่ายเป็นปากเป็นเสียงแสดงความต้องการด้านสวัสดิการของครู ให้สกสค.ดำเนินการให้ หลายโรงเรียนไม่ส่งรายชื่อมา ผมเสนอให้ สกสค.กำหนดให้ผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นผู้นำไปก่อนจะได้ไม่ต้องรอกันนานจนส่งส่วนกลางไม่ทันหลังเลิกประชุมกรรมการจากปทุมธานีเขต ๒ และ ที่ปรึกษากฎหมายมาเยี่ยมห้องสโมสรของเขต วันนี้มีของตกแต่งห้องเพิ่มขึ้นด้วยของที่ระลึกผลงานนักเรียนที่มอบให้เวลาผมไปเปิดงานให้โรงเรียน นำมาจัดแสดงไว้ที่สโมสรได้ประโยชน์ ๒ ทาง ทางสโมสรก็สวยขึ้น ทางโรงเรียนก็ได้โชว์ผลงานนักเรียน
วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๕๘ เช้าไปประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่ศาลากลางจังหวัด ชั้น ๕ มีเรื่องเสนอเพื่อทราบเป็นส่วนใหญ่ ที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการศึกษามีน้อย แต่ก็นั่งฟังจนบ่ายโมง กลับเข้าสำนักงานเขต ทานข้าวกล่องที่เขาแจกจากที่ประชุมมานั่งทานที่สโมสร บ่ายขึ้นประชุมคณะกรรมการติดตามโครงการ sp2 เจ้าหน้าที่ไปประชุมรับแบบติดตามโครงการจากสพฐ.มาชี้แจงวิธีกรอกข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตด้วยเอกสารที่ให้ไว้สำหรับประธานมีไม่ครบถ้วนเพียงพอสำหรับจะนำการประชุม วันนี้จึงเข้าสุภาษิต “รู้น้อยพลอยรำคาญ” ทำให้การประชุมไม่ค่อยราบรื่นเท่าที่ควร คงต้องศึกษาเรื่องนี้ด้วยตนเองให้ลึกกว่านี้ไม่อยากเป็น “ไอ้ตัวโง่งม” ตามสำนวนในนิยายจีนกำลังภายใน จะมีการประชุมชี้แจงระดับโรงเรียนอีก ๑ วัน จึงให้นโยบายไปว่าให้ประชุมครูเท่าที่จำเป็นและควรรวมหลาย ๆ เรื่องมาจัดทำเสียครั้งเดียว เพราะครูมีไว้สอนหนังสือ เชิญมาเขตบ่อย ๆ นักเรียนไม่มีครูสอน ต่อไปการจะเชิญครูมาประชุมจะต้องพิจารณาเป็นพิเศษ ต่างคนต่างเชิญโรงเรียนขนาดเล็กหมดครูพอดี และขอให้พิจารณาว่ามีช่องทางสื่อสารอื่นแทนการเชิญครูมานั่งฟังเราพูดหรือไม่ หากมีก็ควรใช้เลิกประชุมกลับมาทำงานแฟ้มเอกสารจนเย็น
วันศุกร์ที่ ๒๙
มกราคม ๒๕๕๓
เช้าเดินทางไปโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยรังสิต หมู่บ้านศุภาลัยบุรี
คลอง ๔ อำเภอคลองหลวง เพื่อเปิดงาน “เปิดลานวิชาการบ้านสวนฯรังสิต
ครั้งที่ ๑๓” เป็นงานแรกของผู้อำนวยการโรงเรียนคนใหม่ คือ
ผอ.สุภาวดี วงษ์สกุล
จัดเป็นซุ้มนิทรรศการทั้งลานปูนและใต้อาคารเรียน
มีนักเรียนจากโรงเรียนประถมศึกษามาร่วมกิจกรรมหลายโรงเรียน พิธีเปิดทำบนเวทีใต้หลังคาโค้งเอนกประสงค์
มีการแสดงหลายชุด
ที่เป็นจุดเด่นของที่นี่คือการร้องเพลงลูกทุ่งประกอบหางเครื่อง
จนชนะเลิศการประกวดรายการชิงช้าสวรรค์มาแล้ว ได้เดินชมนิทรรศการบางส่วนก็ต้องลาเจ้าภาพเพราะต้องเดินทางไปร่วมประชุมกับท่านผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการนายสุชาติ
วงศ์สุวรรณ ที่สำนักบริหารยุทธศาสตร์และบูรณาการการศึกษา ที่ ๔
วันนี้นัดเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี
พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี
มาพิจารณาแผนพัฒนาการศึกษากลุ่มจังหวัดและจังหวัด
ผมมอบท่านรองฯมานะ พึ่งบัว มาประชุมตั้งแต่เช้า
แม้ไม่ได้ร่วมประชุมก็ต้องคารวะกันตามธรรมเนียม ถึงที่ประชุมได้เวลาอาหารกลางวันพอดี
บ่ายกลับสำนักงานเพื่อประชุมคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา ในเวลา
๑๔.๐๐ น.
ระเบียบวาระการประชุมที่สำคัญมีเรื่องเดียวคือการรับนักเรียนเข้าเรียนประจำปีการศึกษา
๒๕๕๓ ตั้งแต่ระดับก่อนปฐมศึกษาจนถึง ม.ปลาย ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการและ
สพฐ. ได้กำหนดกรอบนโยบายมาให้แล้ว คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
มีหน้าที่พิจารณาความต้องการของโรงเรียนให้อยู่ในกรอบของนโยบายกระทรวง
มีประเด็นที่อภิปรายกันมากคือการรับนักเรียนชั้น ม.๔
ที่กระทรวงกำหนดให้โรงเรียนรับนักเรียนในโรงเรียนให้หมดก่อนรับจากโรงเรียนอื่น
จึงปิดกั้นนักเรียนจากโรงเรียนขยายโอกาส
วันนี้ผู้บริหารโรงเรียนขยายโอกาสได้มายื่นหนังสือให้ทบทวนเรื่องนี้ผ่านเขตและคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา
ไปยังกระทรวงศึกษาธิการ
อีกเรื่องหนึ่งที่คณะกรรมการเขตพื้นที่มีมติเป็นหลักการให้โรงเรียนปฏิบัติ
คือ การรับนักเรียนในเขตพื้นที่บริหารเข้าเรียนชั้น ม.๑
ร้อยละ๕๐ กลุ่มนี้กระทรวงกำหนดให้จับสลากหากมีจำนวนเกินที่นั่ง แต่สำหรับโรงเรียนที่ได้รับความนิยมสูงคณะกรรมการสถานศึกษาจะกำหนดสัดส่วนให้มีการสอบคัดเลือกก็ได้โดยให้คณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาเห็นชอบ ที่ประชุมเห็นชอบในหลักการว่าให้สอบคัดเลือกได้ไม่เกินร้อยละ๒๕
หรือครึ่งหนึ่งของนักเรียนที่รับจากพื้นที่บริการ
นอกนั้นก็เป็นหลักการทั่วไป
มีการแก้ไขเล็กน้อยในเรื่องพื้นที่บริการ
เลิกประชุมกลับมาทำงานแฟ้มเอกสารจนเกือบ ๖ โมงเย็น
ได้รับแจ้งจากผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต ๒
ว่าหนังสือพิมพ์มติชนออนไลน์ได้เสนอข่าวการซื้อหนังสือเรียนภาษาไทย ป.
๓ ของปทุมธานีไม่ระบุเขตว่าแพง กรรมการไม่กล้าตรวจรับ
เลยต้องโทรศัพท์ถามผู้เกี่ยวข้องว่าของปทุมธานี เขต ๑
เป็นอย่างที่เขาว่าหรือเปล่า กรรมการตรวจรับก็บอกว่าปกติดี
ไม่มีเหตุทักท้วงและส่งให้โรงเรียนไปแล้ว
สำหรับเรื่องราคาก็ลดราคาลงจากราคาปก ส่วนลดก็มาเพิ่มเป็นหนังสือ
การเลือกหนังสือก็ตั้งครูมาเลือก
และทุกสำนักพิมพ์ก็ได้รับเลือกในการจัดซื้อครั้งนี้
ก็เบาใจว่าไม่น่าจะเป็นกรณีของเรา
แต่หากว่าเป็นของเราก็ต้องบอกว่าทำกันจนหมดปัญญาแล้วในการผดุงประโยชน์ราชการและเคร่งครัดต่อระเบียบปฏิบัติ
หากอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด
เรื่องร้องเรียนกล่าวหาสมัยก่อนมักเกิดจากคนในองค์การหรือหน่วยงาน
แต่กรณี sp2 เกิดจากผู้ประกอบการที่เข้าแข่งขันจะเอาประโยชน์จากราชการ
เมื่อตัวเองไม่ได้ก็ร้องไว้ก่อน
ข้าราชการผู้ปฏิบัติจะขาดความมั่นใจในตนเองจึงต้องการขวัญและกำลังใจจากผู้บังคับบัญชาเป็นสำคัญ ตัวอย่างเรื่องตลกร้ายเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีบริษัทแห่งหนึ่งร้องเรียนโรงเรียน
๒ แห่งในสพท.ปทุมธานี เขต ๑ ว่า
จัดซื้อ/จัดจ้างไม่เป็นธรรมทำให้บริษัทของเขาซึ่งมีสินค้าดีราคาถูกได้รับความเสียหาย
ทางเขตก็ตรวจสอบไปยังโรงเรียนและแจ้งผลไปให้บริษัททบทวนหนังสือร้องเรียน
เพราะทั้ง ๒
โรงเรียนต่างสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทที่ร้องเรียนสุดท้ายบริษัทก็บอกว่าร้องเรียนพลาดไป
คิดว่าโรงเรียนสั่งซื้อของบริษัทอื่น
แสดงว่าบริษัทนี้แบ่งงานออกเป็น ๒ ส่วน ฝ่ายขายก็ขายไป
ฝ่ายร้องก็ร้องไป อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจ
เมื่อโรงเรียนจัด/ซื้อจัดจ้าง ตามหลักกฎหมายแปลว่า
การจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้ดำเนินการไปในอำนาจหน้าที่ของเลขาธิการ กพฐ.
ที่ได้มอบให้ผู้อำนวยการโรงเรียน
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไม่มีอำนาจไปสั่งยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลง
การจัดซื้อจัดจ้างในอำนาจหน้าที่ของ เลขาธิการ กพฐ. แม้จะมอบให้
ผู้อำนวยการโรงเรียนได้
เพียงแต่แจ้งให้ตรวจสอบทบทวนให้ถูกต้องตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ
ก่อนจากมีนิทานจากเวียดนามเรื่อง The Bird of the Golden Rocks
มาเล่าสู่กันฟัง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ยังมีชายสองคนพี่น้อง
กำพร้าบิดามารดาตั้งแต่เด็ก เขาทั้งสองเติบโตมาตามยะถากรรม
และเมื่อโตเป็นหนุ่มจึงตกลงแบ่งทรัพย์สมบัติเท่าที่มีอยู่กัน
พี่ชายคนโตแบ่งเอาทรัพย์สินที่มีค่าไปหมด
คงเหลือแต่กระท่อมหลังน้อยกับต้นไม้ 2-3
ต้นที่ขึ้นหน้ากระท่อมไว้ให้น้องชาย น้องชายเป็นคนสุภาพอ่อนโยน
เมื่อได้ส่วนแบ่งแล้วก็ไม่ว่ากระไร ตั้งหน้าตั้งตา ทำมาหากิน
และต่อมาก็แต่งงานใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย แต่ก็มีความสุข
วันหนึ่งต้นไม้ที่ปลูกอยู่หน้ากระท่อมก็เริ่มผลิดอก
และออกผลให้ได้ชื่นชม แต่ยังไม่ทันจะได้เก็บผลไม้กิน
ทั้งสองสามีภรรยาก็ต้องผิดหวังเมื่อเห็นนกตัวใหญ่บินมาเกาะที่ต้นไม้
และจิกผลไม้กิน ทั้งสองก็ไม่ว่าอะไรได้แต่ยืนมองนกจึงเอ่ยถามขึ้นว่า
"ทำไมท่านมายืนจ้องมองเราอย่างนั้นเล่า?"
"ต้นไม้นี้เป็นของเรา
เราเฝ้าดูแลเอาใจใส่เพื่อหวังจะได้เก็บกินผลไม้
แต่ทว่าบัดนี้เจ้ากลับมากินมันเสีย" ชายผู้เป็นสามีตอบ
"อย่าวิตกไปเลย ผลไม้ทุกผลที่เรากินไป เราจะตอบแทนท่านเป็นทองคำ
พรุ่งนี้ให้ท่านเตรียมถุงมาใส่นะ" นกตัวใหญ่ตอบ
วันรุ่งขึ้นนกก็มาจิกกินผลไม้ตามปรกติ แล้วก็บินลงมาที่พื้นดิน
บอกให้ชายหนุ่มซึ่งเตรียมกระสอบไว้แล้วเกาะบนหลัง แล้วบินไป
ผ่านหุบเหว ทะเลสีเงินที่ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
และพอถึงที่แห่งหนึ่งเขาก็พบว่าทุกสิ่งรอบตัวล้วนเป็นทองคำ
และเพชรนิลจินดา นกบอกแก่เขาว่า... "เลือกเอาไปให้จุใจท่านเถิด"
เขากลับมาพร้อมกับทอง และของมีค่ามากมาย กลายเป็นคนร่ำรวย
สร้างคฤหาสน์หลังโอ่อ่า อยู่ใกล้ๆกับกระท่อมหลังเก่า
แล้วชวนพี่ชายมาเยี่ยมเยือน
พี่ชายซึ่งหลังจากแบ่งสมบัติกันแล้วก็ไม่เคยเจอกันอีกเลย
ก็เดินทางมาพร้อมกับภรรยา
เมื่อมาถึงก็ตะลึงในความร่ำรวยของน้องชาย
และอิจฉาเมื่อรู้ความจริงที่น้องเล่าให้ฟัง
จึงเอ่ยปากขอแลกบ้านที่ตนมีอยู่กับกระท่อมหลังเก่า
ฝ่ายน้องชายก็ใจดียกให้ฟรีโดยไม่จำเป็นต้องแลกเปลี่ยนพี่ชายและภรรยาเฝ้ามองที่ใต้ในไม้ทุกวันรอว่าเมื่อไหร่นกตัวใหญ่จะมาเกาะ......จนวันหนึ่งนกตัวใหญ่ก็บินมาจิกกินผลไม้อีกครั้ง
นกเอ่ยถามขึ้นว่า "ทำไมท่านมายืนจ้องมองเราอย่างนั้นเล่า?"
ฝ่ายชายจึงตอบนกไปว่า... "ต้นไม้นี้เป็นของเรา
เจ้ามากินผลไม้แล้วก็ควรจะตอบแทนเราบ้าง" "อย่าวิตกไปเลย
ผลไม้ทุกผลที่เรากินไป
เราจะตอบแทนท่านเป็นทองคำพรุ่งนี้ให้ท่านเตรียมถุงมาใส่นะ..." นกตัวใหญ่ตอบแล้วสองสามี
ภรรยา ก็เตรียมกระสอบใบใหญ่พิเศษ 2 ใบ
เพื่อรอการมาของนกในวันพรุ่งนี้
วันรุ่งขึ้นเมื่อนกจิกกินผลไม้แล้วก็พาสามี ภรรยา บินผ่านหุบเหว
ทะเลสีเงินที่ที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
เมื่อถึงดินแดนที่เต็มไปด้วยทองคำ และของมีค่า
ทั้งสองสามีภรรยาก็กอบโกยทุกสิ่งทุกอย่างลงกระสอบ จนไม่รู้จะใส่อะไรไปได้แล้วจึงขึ้นขี่หลังนกเพื่อกลับบ้าน นกใหญ่พาบินมาถึงทะเลสีเงินก็รู้สึกอ่อนแรงลงเนื่องจากทานน้ำหนักไม่ไหว จึงสลัดสองสามีภรรยาทิ้งลงสู่ทะเลตายอย่างน่าสงสารพร้อมกับทองคำ
และของมีค่า
กำจัด คงหนู
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาปทุมธานี เขต ๑
ดีใจที่ท่าน ผอ.กำจัด คงหนู มานำทีมบริหาร สพท.ปท.1
เพราะเคยอ่านข้อมูลเกี่ยวกับท่านในช่วงที่ทำงานอยู่ ณ เมืองเพชร
รู้สึกว่าเอ..ท่าน ผอ.ท่านนี้เข้าท่าดีแฮะ น่าจะมาบริหาร สพท.ปท.1 มั่ง
ไม่น่าเชื่อว่า ...วันหนึ่ง... ท่านก็มาบริหาร ณ สพท.ปท.1
สวัสดีค่ะท่าน ผอ. หายป่วยยังคะ...คงไม่ได้เป็นโรคทันสมัยกับเขานะ...ลูกชายเป็นโรคทันสมัยนอนโรงพยาบาลหลายวัน.......เลยวิ่งไปวิ่งมาระหว่างโรงเรียนกับโรงพยาบาล...ทำไงได้...ทุกอย่างเป็นหน้าที่หมด...ทิ้งสิ่งใด...เพื่อสิ่งหนึ่งก็ไม่ได้...เหนื่อยค่ะ...เข้ามาทักทาย...ระลึกถึงท่านน่ะค่ะ...ชอบนิทานท่านทุกเรื่อง...อยากให้เล่านิทานตอนท้ายอย่างนี้ทุกครั้ง จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านมาก...อยากรู้ว่าท่านอ่านจากหนังสืออะไรจะไปหามาอ่านแล้วเอาไปเล่าให้เด็กฟังบ้าง...อยากถามท่านสักหนึ่งคำถาม...การย้ายเพื่อประโยชน์ของทางราชการ...เขตใช้เกณฑ์อะไร...เหมือนย้ายเพื่อความเหมาะสม....เหมาะของเขต...แต่อาจไม่เหมาะของโรงเรียน...ไม่บังอาจ...ล่วงเกินการตัดสินใจของเขตนะคะ...แค่อยากรู้...แต่คำถามบางคำถาม...คำตอบก็คือ..เรารู้ๆ อยู่...แต่คิดว่าท่านน่าจะตอบข้อข้องใจของทุกคนได้...ด้วยความเคารพจริง ๆ
การย้ายกรณีเพื่อประโยชน์ของทางราชการ ได้แก่
๑ การย้ายเพื่อแก้ปัญหาการบริหารจัดการในหน่วยงานการศึกษา
๒ การย้ายเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ติดตามเรื่องเล่าเจ้าพระยามาตลอด แต่ไม่ได้เข้ามาคุยกับท่านเลยค่ะ ได้ข้อคิดดีดีจากนิทานแต่ละเรื่องและได้รู้ในกิจกรรมต่างๆเหมือนกับได้ไปร่วมกิจกรรมด้วย ขอบคุณที่มีเรื่องดีดีไว้เล่าสู่กันฟังมากๆค่ะ
จากแฟนคลับเรื่องเล่าเจ้าพระยาค่ะ
vip
คิดถึง ผอ. ค่ะ
สวัสดีค่ะท่าน ผอ หนูชอบนิทานที่ท่านเล่าม๊ากมากค่ะ
ได้ข้อคิดดีค่ะ วันจันทร์หนูได้ไปอบรม e-me อาหารอร่อยค่ะ ขนมก็อร่อยค่ะ (อิ่มมากมายค่ะ) อิอิ ด้วยความเคารพ
เรียนท่านผอ.
ผมได้ติดตามอ่านเรื่องเล่าเจ้าพระยามาตลอดขอชื่นชมในการเล่าเรื่องของท่านสู่คนอื่นๆๆให้รับทราบได้ข้อคิดที่ดีมากๆๆครับวันนี้อยากจะเรียนปรึกษากัยท่านดังต่อไปนี้
1.ที่ ร.ร.มีการจัดซื้อจ้ดจ้างพัสดุมีแต่เอกสารแต่ไมมีของเลย
2.เวลาแต่งตั้งกรรมการตรวจรับถ้าเราถามครูพวกนี้ก็จะไม่พอใจ(เป็นขบวนการ4-5 คน)
3.เงินเหลือจากโครงการต่างๆๆๆก็จะซื้อของให้พวกพ้องตัวเอง
4.อยากให้ทางเขตเรียกประชุใลชี้แจงให้พวกนี้รู้การใช้เงินที่ถูกต้องและความผิด
5.ผู้บริหารเคยเรียกว่ากล่าวตักเตือนแล้วก็ยังทำกันอีก(เพราะเป็นเจ้าถิ่น)
6.พวกนี้มีความผิดหรือปล่าว
7.มีวิธีการแก้ไขและจัดการกับพวกนี้อย่างไร
ขอความอนุเคราะห์และการชี้แนะจากท่านด้วย
ขอแสดงความนับถือ
ครูไม่ชอบการทุจริต
คนที่มีหน้าที่โดยตรงคือ ผอ.รร. วิธีจัดการกับพฤติกรรมเหล่านี้กฎหมายบัญญัติไว้แล้วครับ ปลดออกหรือไล่ออกจากราชการเท่านั้น เพราะเป็นกรณีทุจริตต่อหน้าที่ราชการ