ก้านกล้วย ก้านเกี้ยว


ถ้าต่างคนต่างเลือกทำหน้าที่ของตนเองให้สมบูรณ์ โดยไม่คิดว่าจะต้องเป็นหน้าที่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ความสุขย่อมเกิดขึ้นได้ในครอบครัวเสมอ
วันนี้ นับเป็นครั้งที่ 3 ที่พาลูก ๆ ทั้งสองคน ไปดูก้านกล้วย หลังจากที่โดนโรคเลื่อนไม่มีกำหนดมาแล้วสองครั้ง และโดนลูกสาวคนเล็กต่อว่า หาว่าคุณแม่โกหกไปแล้วสองครั้ง หวังว่าครั้งนี้เด็ก ๆ คงจะสมหวังซะที เด็ก ๆ ตื่นเต้นเป็นพิเศษตั้งแต่คืนวันศุกร์ ต่างคนต่างเลือกชุดที่ตัวเองจะใส่เพื่อไปดูหนังในวันรุ่งขึ้น วันนี้ลูกสาวทั้งสองคน ตื่นเช้าเป็นพิเศษ (รวมทั้งคุณพ่อบ้านด้วย) คุณแม่ตื่นหลังสุด เพราะรู้สึกไม่ค่อยสบายตั้งแต่เมื่อคืน แต่เช้านี้จำเป็นต้องตื่น เพราะรับปากลูก ๆ ไว้แล้วว่าจะพาไปดูหนังก้านกล้วย  ส่วนคุณพ่อติดงานด่วนที่บริษัท เมื่อตื่นมาก็พบว่า ลูก ๆ อาบน้ำ แต่งตัว และทานข้าวเรียบร้อยแล้ว พร้อมแล้วสำหรับการเดินทาง เช้าวันนี้ ไม่รู้ว่าเป็นวันนัดรวมพลเพื่อน ๆ ได้อย่างไร เพื่อนที่สงขลา ก็โทรมาแต่เช้าว่าจะพาลูกมาดูด้วย ฝากให้เราจองตั๋วให้ด้วย  นอกจากนี้ คุณ Pam สาวสวยคนเก่งแห่ง Gotoknow ก็โทรมาหาแต่เช้าเหมือนกัน บอกว่าจะไปดูหนังเรื่องนี้ด้วย ก็เลยนัดหมายกันสามครอบครัว ซึ่งได้แก่ แม่ ๆ สามคน และลูก ๆ ทั้ง 5 คน (น้องฟาง น้องฟ้า น้องพิม น้องปลา และน้องแปม) ของสามแม่ รวม 8 ชีวิต เป้าหมายเราคือ โรงภาพยนตร์ไดอาน่า หลังจากได้รอบที่เหมาะสมที่สุดทั้งในเรื่องของเวลา และเรื่องของการเลือกได้ที่นั่งชมที่เหมาะสม นั่นคือ รอบเที่ยงตรง  วันนี้  โรงภาพยนตร์ไดอาน่า คลาคร่ำ ไปด้วยบรรดาเด็ก ๆ ที่มาพร้อมคุณพ่อ คุณแม่ บางครอบครัว พ่วงอาม่า อากง มาด้วย  ทำให้บรรยากาศในวันนี้ดูอบอุ่น สัมผัสได้ถึงความเป็นครอบครัว  ในขณะที่นั่งมองพวกเราทั้งสามครอบครัว ซึ่งมาเฉพาะแม่ แม่ แต่ถามว่าความรู้สึก ณ ตอนนั้น แตกต่างจากครอบครัวคนอื่นๆ  หรือไม่  ขอตอบว่า ไม่ต่างกันเลย เด็ก ๆ ทุกคนต่างรู้ว่า คุณพ่อ ของเขามีภารกิจ มีบทบาทหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบ เพียงแต่คนใดคนหนึ่ง ทำหน้าที่ของตนเองให้สมบูรณ์ โดยไม่คิดว่าจะต้องเป็นหน้าที่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ความสุขย่อมเกิดขึ้นในครอบครัวได้เสมอ เมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดติดภารกิจ อีกฝ่ายหนึ่งต้องสามารถทำหน้าที่ทดแทนกันได้ และคิดว่า เรา ซึ่งเป็นคุณแม่ ทั้งสามคน ก็คงมีความรู้สึกที่เป็นสุข ไม่แตกต่างจากครอบครัวอื่น  ความรู้สึก ที่ทำให้ลูก ๆ ของเราเป็นสุข หันไปมองแววตาของเด็ก ๆ ทั้ง 5 คู่  ต่างฉายแววแห่งความปิติ โดยที่ไม่มีการเสแสร้งเลย หลังจากหนังจบในวันนั้น ถึงแม้จะใช้เวลาไม่ถึงสองชั่วโมง แค่คิดว่าความสุขที่เด็ก ๆ ทั้งห้าคนได้รับ คงจะอยู่ในใจของพวกเขาไปอีกนาน โดยเฉพาะน้องฟ้า บ่นเสียดาย ที่หนังฉายแค่รอบเดียว เขาอยากให้หนังฉายสองรอบติดกันเลย เขาจะได้ดูได้นาน ๆ  ในขณะที่พี่ฟาง ลูกสาวคนโต บอกว่า ไม่นึกเลยว่า ถึงแม้พ่อจะไม่ได้มาด้วย เราก็มีความสุขได้
คำสำคัญ (Tags): #สัพเพเหระ
หมายเลขบันทึก: 33099เขียนเมื่อ 3 มิถุนายน 2006 17:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • ครอบครัวอบอุ่นมากนะครับ
  • รออ่านเรื่องต่อไปครับผม

ถ้าหลานฟาง รู้ว่า น้าฝอยทองของเขา เข้ามา comment ในบันทึกที่แม่เขียนเกี่ยวกับเรื่องราวของครอบครัว หลานฟาง คงดีใจมาก และอยากบอกคุณน้าฝอยทอง ไว้ล่วงหน้าเลยนะคะ ว่าไว้คอยติดตามอ่านบันทึกที่เขียนโดยหลานฟางนะคะ คงไม่นานเกินรอ รับรองว่า มีเรื่องเล่าไม่แพ้คุณแม่แน่ เพราะหลานฟาง เป็นเด็กชอบอ่านหนังสือมาก และอ่านได้ทุกประเภท แต่ตอนนี้ อดใจรออีกนิดเดียวเพราะตอนนี้ คุณแม่ยังไม่มีเวลาเปิด blog ใหม่ ให้ลูกเลยค่ะ โดนลูกทวงทุกวัน ว่าอยากเขียนแล้ว โชคดีที่ช่วงนั้น web ปิดปรับปรุง เลยขออาศัยเป็นข้ออ้างที่ไม่ได้ ก่อนนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท