ผศ.ดร.วศิน เหลี่ยมปรีชา
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. วศิน เหลี่ยมปรีชา

เรียน ป. เอก: สิ่งที่เขาไม่ได้บอกไว้


เรียน ป. เอก: สิ่งที่เขาไม่ได้บอกไว้

ได้ฤกษ์เขียนบล็อก สำหรับปีนี้ ซักที ที่ผ่านมาให้เวลากับการเขียนวิทยานิพนธ์เต็มที่ ได้ผลเป็นที่น่ายินดี 99% แล้ว เย้! ดีใจมาก :)

ใช้เวลาไปกับการเรียนสามปีกว่าไปแล้วกับการนั่งในห้องสมุดหรือห้องทำงานคนเดียว จนผมหงอก หน้าดำ คิ้วตก 555 ดีที่ไม่มีหาง ไม่อย่างนั้นละก็ เหมือนกันเลย

เข้าเรื่องดีกว่า...

มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่มีคนบอก คนเล่าว่า คนที่เรียน ป. เอกต้องทำอะไรบ้าง โดยเฉพาะปีแรก หัวหมุน เครียด กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เขาเรียกว่า โรคนอนไม่หลับเชิงปรัชญา "philosophical insomniacs" น่ะ 

มีอะไรที่เขาไม่ได้บอกหรือสอนเราบ้างล่ะ

เรื่องแรก การบริหารเวลา (Time management) ไม่มีคนมาตะโกนบอกเราว่า...เฮ้ยจัดสรรเวลาเรียน...เวลาเขียน...เวลาส่วนตัวได้แล้ว จัดอย่างไร...ตรงนี้ต้องจัดการเองหมด  ต้องวางแผนและลงมือทำ เหมือนเป็นงานประจำ (work routine) ชัดเจน...ชีวิตของคนเรียนแบบนี้ ต้องมี แรงขับหรือแรงจูงใจของตัวเอง...สร้างอย่างไร... ต้องหาเอาเอง....เช่น หารางวัลให้กับตัวเอง ทุกครั้งที่งานเสร็จ ทำอะไรเสร็จแล้วบ้าง...ใช้เวลาไปเท่าไหร่...ได้งานมาก ได้รางวัลมาก... หนึ่งชิ้นงาน หนึ่งรางวัล หรือสองรางวัล หนึ่งชิ้นงาน (งานสุรินทร์)...ได้ยิ่งดี...เรื่องนี้ ขึ้นอยู่กับแรงศัทธาน่ะ

เรื่องที่สอง ติวเตอร์ (Tutors) แบ่งเป็นสามประเภท (1) บอกว่า ให้เราไปทำมาก่อนแล้วมีปัญหาก็มาปรึกษา (2) เมื่อมีปัญหา กลับมาปรึกษาแล้ว...จะได้คำตอบว่า ...บอกไม่ได้หรอก...แต่จะบอกก็ได้นะ เพราะมันเป็นความลับ เหยียบไว้เลยนะ  และสุดท้าย (3) ความลับนี้ที่จะบอกก็ได้นะ...ว่า... ฉันก็ไม่เคยได้รับคำปรึกษาหรือความช่วยเหลือแบบนี้จากใครเลย...ตัวคุณก็เช่นกัน....แล้วจะเป็นติวเตอร์ทำไมละเนี่ย 555

เรื่องที่สาม ห้องสมุด (Library) เป็นที่ที่เราจะเจอคนแปลกหน้ามากมาย เจอได้บ่อยๆด้วย โดยเฉพาะพวกเรียนเหมือนเรา หน้าตาเครียด วุ่นๆกับอะไรก็ไม่รู้ เดี๋ยวเดินขึ้นเดินลง เรื่องห้องสมุดไม่มีใครมาบอกว่าวิธีการค้นหนังสือ ค้นเปเปอร์ อะไรที่ใช้อ้างอิงได้ อะไรใช้ไม่ได้บ้าง อะไรยืมได้ ยืมไม่ได้ ไม่มีเลย....ต้องใช้ปากเป็นสื่อ ถามๆๆๆๆๆๆ ก็จะได้คำตอบๆๆๆๆมา....ใช้ปากเก่งขึ้นเยอะเลย

สุดท้าย นิสิต ป.เอกด้วยกัน (Other PhD students) ไม่มีใครบอกอีกว่า...ไม่มีสิ่งใดที่จะน่ารำคาญไปกว่า นิสิตป.เอกด้วยกัน แล้ว...เพราะอะไร....ทุกคนก็อยากไปสู่ฝั่งฝัน....สิ่งของเอย ความคิดเอย...ความต้องการเอย...ก็เลยคล้ายๆ กันไปหมด...เมื่อ ความต้องการเหมือนกัน...ความคิดเหมือนกัน... แต่ดีมานด์มีน้อย...ก็เกิดการยื้อแย่งกัน  บางคนมี อ.ที่ปรึกษาคนเดียวกัน...ความคิดก็เลยจูนเข้าหากัน...บางคนก็เอาความคิดเราไป เราก็เอาความคิดเขามา...วุ่นดีจัง...บางครั้งคุยกันเหมือนอยู่กันคนละโลก (แต่จริงๆอยู่โลกเดียวกัน) เอะอะ โวยวาย ถ้าใครได้ห้องหนึ่งห้องใหญ่ แต่มีพาทิชั่นกั้นละก็ สุดยอดเลยล่ะ จะทำอย่างไรดีละ ก็ต้องหลีกเลี่ยงไปที่อื่นบ้าง เป็นนักโกหกบ้าง (จำเป็นมั้กๆๆ) หรือแกล้งเป็นซอมบี้เลยยิ่งดี เห็นมาเยอะแล้ว

แต่ก็อย่าไปตกหลุมพรางพวกนี้นะ บางครั้งอาจเจอคนดีก็ได้ พยายามมองโลกในแง่ดี มีทัศนคติดี แล้วยังไม่เจอ แนะนำให้หา บล็อกคนเรียน ป.เอกด้วยกัน แล้วเขียนอะไรคุยกัน จะช่วยได้เยอะเลยล่ะ

สรุป คิดกันให้ดีก่อนจะมาเรียน ป.เอก แต่ถ้าเรียนกันแล้ว ก็ขอให้โชคดี กลับมาเป็นผู้เป็นคนเหมือนเดิมนะครับ

หมายเลขบันทึก: 330267เขียนเมื่อ 23 มกราคม 2010 13:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 20:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)
  • ขอบคุณมากค่ะ  ครูอ้อย ด้อย ทั้ง 4 อย่าง มีแต่ประสบการณ์ เพียบ
  • กำลังจะไม่เป็นผู้เป็นคนแล้ว  หรือ อาจจะเสียคน หรือ อาจจะได้คน ฮา.......

ขอบคุณ พี่คุณครูอ้อย ครับที่แวะมาเยี่ยมเยียน

ประสบการณ์เพียบ ดีเลยครับ พี่คุณครูอ้อย

สามปีผ่านมา ตกหลุมบ่อยเหลือเกินครับ โดยเฉพาะตกหลุมรัก (งานวิจัย) เข้าเลยล่ะครับ 555

สำหรับ ครูอ้อย ตกหลุมดำ มึดมิด เกือบเอาชีวิตไม่รอด  ตอนนี้ก็ ผุดขึ้น ผุดจม ในน้ำอยู่ค่ะ แงแง

  • เป็นกำลังใจให้ครับอาจารย์ จบเร็วๆ นะครับ
  • ผมค่อนข้างจะพลาดเรื่องการควบคุมตัวเองและเวลาครับ ทำงานไปเรียนไปชีวิตก็จะเป็นอีกแบบหนึ่ง บางทีตั้งใจจะเขียน สุดท้ายงานก็เข้ามาแทรก เป็นปกติของชีวิตไปแล้วครับ ฮิฮิ
  • ห้องสมุดไม่ค่อยได้เข้า เลยต้องใช้วิธีการหาบทความออนไลน์เป็นส่วนใหญ่ เก็บบทความไว้เยอะ แต่สุดท้ายก็ใช้ได้นิดหน่อย (ไม่มีเวลาอ่านอีก)
  • อาจารย์ที่ปรึกษาก็ไม่ค่อยได้ไปหาครับ เพราะคิดว่าไม่ควรไปถามปัญหากับอาจารย์ แต่ควรใช้เพื่อการตัดสินใจสำคัญๆ และสำหรับตัดสินคุณภาพงานก็พอแล้ว 
  • คุณภาพงาน อ่านเองยังไม่เป็นที่พอใจครับ เลยคิดว่าเส้นทางสำหรับผมอีกยาวไกลสักนิดหนึ่ง
  • คำชม คำแนะนำจากอาจารย์มีคุณค่ามากๆ ทางสติปัญญาและจิตใจ
  • ผมอาจจะดีตรงที่ได้คุยกับเพื่อนอาจารย์ที่สาขาวิชาครับ (เพราะทำงานไปด้วย) หลายๆ ทางออกจึงได้จากเพื่อนร่วมงาน
  • เพื่อนที่เรียนด้วยกัน (ซึ่งมีกันในรุ่นเพียง 3 คน) มักจะทำให้ได้รับรู้เรื่องทางเทคนิค เช่น ถึงเวลาต้องทำอะไรได้แล้ว ติดต่อใครเรื่องอะไร 

ขอบพระคุณท่าน อาจารย์จารุวัจน์ ที่กรุณาให้ความรู้เพิ่มเติมครับ ในความเป็นจริงๆก็ไม่ได้เลวร้ายไปซักเท่าไรหรอกครับ เพียงแต่ว่าโดนหลอกมาสองครั้งแล้ว เข็ดครับ ไม่อยากเจอเป็นครั้งที่สาม เพราะความใจดีของเราเนี่ยล่ะครับ เลยต้องระวังตัวก่อนครับ จริงๆต้องขอบคุณเขาด้วยซ้ำไปที่ทำให้เราได้ความรู้อีกด้านหนึ่งเหมือนกันครับ

อ.ได้เพื่อนดีจริงๆครับ ขอเป็นกำลังใจให้ อ. จารุวัจน์ เช่นกันครับ

ขอบคุณพี่วศินมากๆๆคะที่ให้คำแนะนำอยากให้แม่หายคะอุตส่าห์ดูแลตั้งแต่ผ่าตัดมาใหม่ๆตอนนั้นเดินก็ไม่ได้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้จนกระทั้งทุกวันนี้ทุกอย่างเหมือนคนปกติยกเว้นสมองเท่านั้นเหนื่อยเหมือนกันนะแต่ยังไงก็ขอบคุณพี่วศินมากคะที่ให้คำแนะนำ พิมขอเป็นกำลังให้พี่นะคะขอให้จบเร็วๆๆนะคะมีข่าวดีอะไรเกี่ยวกับแม่พิมส่งข่าวมาบอกบ้างนะคะพี่

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท