นายแม่
จิราพร เปี้ยสินธุ fatimar เปี้ยสินธุ

"บันทึกนายแม่"


"มาทำอะไรที่นี่"
   เข้าสู่ปีที่ 9  ของการทำงาน ในสำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยอิสลามยะลา   อาจารย์หลายท่านใน มอย. ลุ้นให้เขียนความเป็นมาของตัวเองออกมาเป็น พอกเกตบุ๊ก แต่ไม่มีแนวโน้มว่าจะลุ้นขึ้นแน่ๆค่ะ  แต่วันนี้รู้สึกว่าอยากจะเล่าบางเสี้ยว บางตอน ของชีวิตการทำงานใน มอย. ว่าเริ่มทำงานที่นี่ ตอนอายุ 25 ปี เมื่อปี 2545 ไม่มีญาติพี่น้อง ในภาคใต้นี้แม้แต่คนเดียว และเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เดินทางมาภาคใต้ ไม่รู้จักแม้แต่ต้นยางพารา ตื่นเต้นเมื่อเห็นต้นลองกอง และมังคุด เวลามันออกลูก มันสวยดี เคยเห็นแต่ ลำใย และสิ่งที่เกินความคาดหมายที่สุดก็คือ ภาษามลายู ทำไม ไม่มีคำไหนคล้ายภาษาไทยเลย ทั้งๆที่ อยู่ในประเทศไทย ก่อนหน้านี้คิดมาตลอดว่า มันต้องฟังรู้เรื่องสิน่า ภาษามันคงเพี้ยนกันแค่สำเนียง ที่ไหนได้ มืดแปดด้านเลย
"แล้วมาทำอะไรที่นี่" เป็นคำถามที่ ทุกคนรอบตัวถาม รวมทั้งตัวเองก็ จะถามตัวเองบ่อยๆว่า "มาทำอะไรที่นี่" และทุกครั้งที่เกิดเหตุการความไม่สงบ จะได้ยินคำถามนี้และเสียงความห่วงใย จาก แม่ เสมอๆ ลงท้ายแม่จะบ่นว่าทำไมต้องมาทนลำบากอยู่ที่นี่ก็ไม่รู้ 
คำตอบก็คือ ที่ต้องมาทำงานเพราะอยากจะยืนอยู่ด้วยตัวเองโดยไม่เป็นภาระของใครที่นี่  ที่ต้องเป็นที่นี่ก็เพื่อ จะได้ใกล้ชิดและเรียนรู้วิถีชีวิตของมุสลิม และที่ต้องทำงานหนักก็เพื่อหวังว่าอัลลอฮ์จะทรงตอบรับการงานที่ทำ  ที่หยิบยกบางเสี้ยวบางตอนของชีวิต มาบันทึกไว้ที่นี่ ก็เพื่ออยากจะเป็นกำลังใจให้กับน้องๆเพื่อน ๆทั้งที่ได้พูดคุยกันในวันนี้และส่งเมลมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่อง การทำงาน และชีวิตครอบครัว   พี่ไม่เคยตกงาน และไม่เคยกลัวตกงาน เพราะไม่เลือกงานที่ทำ พี่ไม่เคยท้อ เพราะเมื่อเจอสิ่งที่ยาก ก็จะกลับไปถามตัวเองว่า "แล้วมาทำอะไรที่นี่" คำตอบที่ได้จะทำให้พี่พยายามสู้ต่อ ลองถามตัวเองกันดูนะค่ะ ว่า "คุณกำลังทำอะไร และทำไปเพื่ออะไร "
หมายเลขบันทึก: 329648เขียนเมื่อ 21 มกราคม 2010 00:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 มีนาคม 2012 04:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

สงสัยเพื่อฟังภาษามลายูไม่เข้าใจกระมัง สุดท้ายเลยต้องมีล่ามประจำตัวไว้หนึ่งคน ฮิฮิ

ใช่ซิเนาะ.. เราะอยู่บนโลกนี้เพื่องาน งานเพื่อเงิน หรือว่าเพื่ออะไร .. ถามตัวเอง แล้วได้ทำตามที่พอใจก็จะมีความสุขใช่ไหมครับ

แวะมาอ่านบันทึกของนายแม่ น่าสนใจแต้ๆจ้าว

ตอนนี้อยากลองสมัครงานบรรณารักษ์แต่ไม่จบทางด้านนี้พี่คิดว่าได้ไหมค่ะ ส่วนใหญ่ถ้าไม่มีคนรู้จักหรือมีเส้นสายก้ต้องมีประสบการณ์การทำงานมาก่อนเพราะเคยสมัครที่สหกรณ์แห่งหนึ่ง สอบข้อเขียนผ่านแต่ตอนสอบสัมภาษณ์เขาให้เราบอกประวัติส่วนตัวทั้งๆที่มีอยู่แล้วในใบสมัครแล้วไม่ถามอะไรอีกไม่รุ้เขาเอาอะไรมาวัดนะเนี้ยเพิ่งรู้ทีหลัง ว่าเขาเอาคนใน (มีคนบอกมาอีกที) เราเลยหมดโอกาสที่จะหาประสบการณ์ จะสมัครที่ไหนหรือแม้แต่จะเรียนต่อโทเขาก็จะดูประสบการณ์การทำงานด้วยมันทำให้น้องรู้สึกน้อยใจและคิดว่าเกียรตินิยมอันดับหนึ่งของน้องมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ยังงัยก็แล้วแต่น้องยากีนเสมอว่าอัลลอฮจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้เราสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้มันเหมาะที่สุดสำหรับเราแม้บางครั้งเราจะรู้สึกแย่ก็ตาม อยากให้ใครบางคนเปิดโอกาสให้เราสักครั้ง อย่าเพิ่งด่วนตัดสิน ถ้าเราทำไม่ได้จริงๆไม่คุ้มกับเงินเดือนที่เขาให้มาเราก็จะเป็นฝ่ายเดินออกไปเอง นี่คือจุดยืนและตัวตนของน้อง ถึงแม้อุดมการณ์มันเป็นสิ่งที่กินไม่ได้แต่มันเสมือนพลังขับเคลื่อนที่จะทำให้เรามุ่งมั่นทำในสิ่งที่เรา เราชอบและเรามีความสุขกับการทำงานนั้นให้สำเร็จถึงแม้จะมีอุปสรรคมากมายแค่ไหนก็ตาม

อ่านบันทึกเพลินเลย อ้าวจบแล้ว อยากให้เล่ายาวกว่านี้ น่ะ น่ะ

สงสัยล่ามจะได้ภาษาไทยซะเองค่ะ อ.จารุวัจน์ ขอบคุณ ทั้ง 2 ผอ. ที่แวะมาอ่านนะค่ะ ความสุขอยู่ที่ใจ ไว้มีโอกาสเหมาะๆจะเก็บสิ่งที่มีประโยชน์มาเล่าให้ฟังอีกนะค่ะ หากมันจะมีประโยชน์กับผู้อื่นบ้าง นุรุลยากีน อย่าเพื่งเครียดไปนะค่ะ กับการสมัครงาน และก็อย่าเหมาเอาประสบการณ์ที่ไม่พึงประสงค์มาตัดสินทิศทางของการสมัครงาน คนหนึ่งคนจะได้งานทำหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัยค่ะ จังหวะ และโอกาส ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง สำหรับงานในตำแหน่งบรรณารักษ์ พี่ก็ยังยืนยันว่า ผู้ที่มีคุณสมบัติ ก็ต้องเรียนมาทางด้านนี้โดยตรง บรรณารักษ์ เป็นวิชาชีพค่ะ งานเบื้องหลังของห้องสมุดมีวิธีการที่ซับซ้อนเฉพาะ คนที่จะทำงานได้ดีต้องเรียนวิธีการมาโดยตรง และก็ไม่จำเป็นต้องเก่งกาจมากมาย แต่ต้องได้เรียนมาค่ะ คนที่ได้ทำงานที่ตนเอง ถนัด มีความรู้ และใจรัก เขาจะทำงานได้ดี แก้ปัญญาได้ดี หรือบางที่อาจจะสนุกไปกับการแก้ปัญหาเลยก็ได้ ส่วนคนที่ได้ทำงานในสิ่งที่ไม่ใช่อย่างที่กล่าวมา เขาจะไม่สนุกกับการทำงาน ชีวิตการงานก็ไม่ก้าวหน้าได้ในอนาคตเพราะไม่ใช่สิ่งที่เขาถนัด บุคคลากรในสำนักวิทยบริการ ที่ทำงานด้านอื่นๆ เช่นงานบริการ เขาไม่จำเป็นต้องจบบรรณารักษ์มา งานวิเคราะห์ก็ไม่จำเป็นต้องจบบรรณารักษ์มา แต่ทุกคนยังต้องเรียนวิชาชีพสารสนเทศกันค่ะ ดังนั้น บรรณารักษ์ ผู้ต้องควบคุมงาน ของห้องสมุด ไม่จบบรรณารักษ์มา แล้วค่อยมาเรียนรู้เอาใหม่จึงเป็นไปได้ยากค่ะ "คนที่ตกปลาเก่งที่สุด ก็อาจไม่ใช่คนที่ทอดปลาอร่อยที่สุด" วิชาชีพ เป็นเรื่องที่สำคัญ ค่ะ เป็นกำลังใจให้นะค่ะ อย่าเพิ่งรีบร้อน มหาลัยฯ มีงานหลายตำแหน่งไม่ใช่แค่ตำแหน่งบรรณารักษ์ค่ะ แต่ถ้ายืนยันว่ารักงานงานนี้ ลองลงเรียนวิชาชีพสารสนเทศดูนะค่ะ เพราะนั้นคือใบเบิกทางในตำแหน่งนี้ค่ะ

อ้าว ลืม Login 555

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท