มูลนิธิสื่อเพื่อเยาวชน
ว่าที่ร้อยตรี จิรศักดิ์ กรรเจียกพงษ์

สร้อยอักษร อ่อนพฤกษ์ภูมิ : เล่าเรื่องเหล้า...จากพื้นที่ (ตอนที่ 2)


เมื่อวันที่ 27 – 28 พฤษภาคม 2549 สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าร่วมกับสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ เครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ เครือข่ายสหกรณ์สามล้อเครื่องและสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา ได้จัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการว่าด้วยการสร้างแนวร่วมลดปัญหาแอลกอฮอล์ และอุบัติเหตุ โดยใช้ศูนย์พัฒนาบุคลากรกรมทางหลวงเป็นสถานที่จัดประชุม

ทั้งนี้หลักสูตรดังกล่าวประกอบด้วยการให้ข้อมูลความรู้เพื่อการพัฒนาสหกรณ์แท็กซี่และสามล้อเครื่อง ในประเด็น “ สถานการณ์สังคมเมืองไทยในปัจจุบัน “ โดยเภสัชกร สงกรานต์  ภาคโชคดี  ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าเป็นผู้นำเสนอ   อันดับต่อไปคือการเสวนาบทบาทของแท็กซี่และสามล้อเครื่องต่อการช่วยเหลือสังคมไทย  นำการเสวนาโดย นายแพทย์พรหมมินทร์  กัณธิยะ ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ

ขณะเดียวกันก็ยังมีผู้ประสบอุบัติเหตุจากเหตุการณ์ณ์เมาแล้วขับมาบอกเล่าประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองแก่ผู้เข้าร่วมการในครั้งนี้  ส ำหรับกิจกรรมสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่ถือว่าช่วยสร้างความสมานฉันท์ให้แก่ทุกฝ่า ยได้เป็นอย่างดีก็คือ กิจกรรมสันทนาการตลอดจนการเข้าฐานผจญภัยที่สนุกสนานทว่าแฝงไว้ด้วยสาระของกา รร่วมแรงร่วมใจจากการสร้างสรรค์โดยทีม stop drink

และต่อไปนี้คือบทสัมภาษณ์บุคคลผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจกรรมในครั้งนี้…


………………………………………………………………………………………………..

สัมภาษณ์  เภสัชกร สงกรานต์  ภาคโชคดี   ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า

ถ าม…ในฐานะของผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า มองถึงความร่วมมือระหว่างสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าและภาคีสหกรณ์แท็กซ ี่ – สามล้อเครื่องเกี่ยวกับการรณรงค์ต่อต้านแอลกอฮอล์อย่างไรบ้าง

ต อบ…คิดว่าเครือข่ายพลังของคนที่ขับรถสาธารณะเหล่านี้ เป็นพลังที่มีคุณค่ามากในฐานะที่ต้องสัมผัสกับผู้โดยสารหลากหลายทั่วไป แน่นอนว่าตัวผู้ขับขี่เองคงต้องสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้โดยสาร โดยการรักษาสุขภาวะของตัวเอง อย่างน้อยก็เรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็เป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมสำหรับคนที่ขับรถอยู่แล้ว เราจะไม่พูดแค่ว่าเมาไม่ขับเท่านั้น แต่เราอยากให้ผู้ขับขี่ทุกคนนั้นถ้าดื่มแล้วก็ต้องไม่ขับ อันนี้จะเป็นหลักประกันอย่างน้อยเรื่องอุบัติเหตุว่าจะไม่เกิดขึ้น หรือโอกาสที่จะเกิดขึ้นน้อยลงก็เป็นที่คาดหวังอยู่แล้วของผู้โดยสาร แต่ขณะเดียวกันผู้ขับขี่ก็มักจะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้โดยสารอยู่แล้ว ฉะนั้นถ้าเค้าได้ทราบข้อมูลอะไรดีๆ ซึ่งอาจจะเป็นข้อมูลจากเครือข่ายองค์กรงดเหล้าหรือภาพรวมเรื่องสุขภาวะทั้งห ลายก็น่าจะเป็นข้อมูลที่เค้าจะได้นำไปสื่อสารกับผู้โดยสารอย่างมีคุณค่า ดังนั้นคนที่ขึ้นรถแล้วก็ไม่เพียงแต่ได้รับความปลอดภัยเท่านั้นแต่ยังได้รับ รู้ข้อมูลที่ดีๆ อันนี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์ต่อสังคม

ถาม…ทางด้านสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าจะสนับสนุนสิ่งใดบ้างให้กับสหกรณ์แท็กซี่ – สามล้อเครื่องในการขับเคลื่อนเรื่องเหล่านี้

ต อบ…อย่างน้อยเราก็คงมีสื่อและข้อมูลดีๆ อันที่จริงเราอยากจะทำมากกว่านั้น คือเราอยากจะทำให้เครือข่ายนี้เข้มแข็งขึ้น ซึ่งก็จะต้องมีการพูดคุยกันว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีใครบ้าง และจะช่วยกันสร้างให้เค้าเกิดองค์กรที่เข้มแข็งมีพลังเพื่อจะทำงานเพื่อสังค มได้อย่างไร ซึ่งก็รวมทั้งความสมัครใจของเค้า สวัสดิภาพ สวัสดิการของเค้าซึ่งก็ควรจะมีความมั่นคงพอสมควรด้วย  เ ค้าถึงจะมีพลังและมีกำลังใจ เรียกว่าทุกฝ่ายก็คงต้องช่วยกันทำให้ทุกคนอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุข คิดว่าคงจะต้องสนับสนุนกันหลายๆ ด้าน  สำหรับการมาพบ กันในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะพูดคุยแลกเปลี่ยนกันก่อนถึงความต้องการของเค้าว่า อยากจะทำอะไรให้สังคม ต่อไปอาจจะมีการประชุมใหญ่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกหลายๆ องค์กร รวมทั้งสื่อสารมวลชนซึ่งจะเป็นส่วนที่เผยแพร่เรื่องดีๆ อันนี้ก็จะได้คิดกันทั้งภาพใหญ่ว่าจะทำให้เกิดพลังโดยรวมของชาวผู้ที่ขับรถส าธารณะทั้งหลายเพื่อจะเป็นประโยชน์ต่อสังคมได้อย่างไร  น่าจะได้เกิดพลังที่สร้างสรรค์อย่างกว้างขวางมากขึ้น

ถาม…หมายความว่างานนี้คือจิตอาสาใช่หรือไม่

ตอบ…ครับ  ท ั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เราสร้างสุขภาวะ คือตัวเค้าเองถ้าไม่มีเรื่องที่ทำลายสติทำลายสุขภาพแล้ว เค้าเองก็มีความสุข ซึ่งความสุขที่ได้ทำงานเสียสละนั้นก็เป็นเรื่องที่ทำได้ การหาความสุขจากการเป็นผู้ให้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นก็เป็นความสุข ที่ทุกคนทำได้
……………………………………………………………………………………………………

สัมภาษณ์ คุณชาญ  รูปสม   ผู้ประสานงานพื้นที่ สถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา ( แอลดีไอ. )

ถาม…มองบทบาทของแท็กซี่และสามล้อเครื่องในเรื่องบทบาทการรณรงค์ลดแอลกอฮอล์อย่างไรบ้าง


ต อบ…คือผู้ขับขี่รถโดยสารจะได้พบผู้คนมากมายในแต่ละวัน ซึ่งการที่จะชวนผู้โดยสารพูดคุยเราก็สามารถเปิดประเด็นหรือนำเนื้อหาเกี่ยวก ับการต่อต้านแอลกอฮอล์สอดแทรกเข้าไปได้ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพิษภัย รวมถึงสาเหตุของปัญหาต่างๆ ในชีวิตประจำวันที่มาจากแอลกอฮอล์ กับอีกอันหนึ่งก็คือเรื่องของความปลอดภัย เนื่องจากแท็กซี่และสามล้อนั้นในแต่ละวันมีวิ่งเป็นหลายหมื่นคัน อย่างน้อยก็ประมาณสองถึงสามหมื่น เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็เป็นจุดหนึ่ง  ถ ้าจะมีซักยี่สิบถึงสามสิบเปอร์เซ็ฯต์ของรถโดยสารทั้งหมดที่เข้าร่วมก็ถือว่า ค่อนข้างมากในการร่วมสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องเมืองน่าอยู่ในการที่จะช่วยเ หลือซึ่งกันและกัน และก็รวมถึงเรื่องการเฝ้าระวังในเชิงของความปลอดภัย เช่น อาจจะไปเห็นเหตุการณ์ผิดสังเกตตรงไหน อย่างไร ก็สามารถที่จะรายงานกระจายข่าวสารถึงกัน  คิดว่าขณะนี้รถโดยสารเหล่านี้มีบทบาทมากในการผนึกกำลังหรือดูแลกัน ถ้าทำแบบนี้ได้กรุงเทพก็จะน่าอยู่ ความปลอดภัยมันก็จะเกิด  อย่างพวกเราเองก็ใช้บริการรถโดยสารเยอะมาก พอดึกๆ หน่อยก็ไม่ต้องวิตกว่าจะเจอรถที่ไม่น่าไว้วางใจหรือเปล่า

ถาม…มองแนวทางหหรือวิธีการรณรงค์เรื่องนี้ให้เป็นจริงได้ในกลุ่มของแท็กซี่ – สามล้ออย่างไร เพราะนี่คืองานจิตอาสาล้วนๆ ซึ่งอาจจะมีคนท้วงติงขึ้นมาว่างานนี้ไม่มีค่าตอบแทน มันควรจะต้องมีปัจจัยแวดล้อมอย่างไรในการปลุกใจให้กลุ่มเป้าหมายอยากจะลุกขึ ้นมาช่วยกันสร้างสรรค์สังคม

ต อบ…ตรงนี้ต้องดูว่าเราเห็นความสำคัญ เห็นถึงพลังของพวกเค้าหรือเปล่า ถ้าเราเห็นสิ่งเหล่านี้เราก็จะมาผนึกกำลังกันในการสร้างบรรยากาศโดยใช้รถโดย สารมาเป็นพระเอกในการสื่อสารต่อสังคม ขณะเดียวกันหน่วยงานต่างๆ ที่จะเข้าร่วมกันก็คือตัวเร่งปฏิกิริยาที่จะทำให้ความคาดหวังของเรานั้นเป็น ไปได้  อีกอันหนึ่งก็คือเรื่องของการให้คุณค่า  อ ย่างเช่น หลายๆ ครั้งมีแท็กซี่ที่บ่นว่าพอข่าวไม่ดีเกี่ยวกับแท็กซี่ทำไมดูเยอะมาก แต่ข่าวดีๆ กับถูกสื่อออกไปน้อย กับอีกส่วนก็คือเรื่องคุณค่าของอาชีพแท็กซี่เอง ณ ตอนนี้ดูเหมือนว่าอาชีพนี้เป็นงานที่ไม่มั่นคง ใครก็เข้ามาขับได้ ต่อไปควรจะมีการยกระดับให้อาชีพแท็กซี่เป็นวิชาชีพหนึ่งที่มีความสำคัญ นี่คือสิ่งที่ต้องช่วยกันเสริมสร้างว่าเราจะพัฒนาคนทำอาชีพนี้ให้เกิดความภา คภูมิใจในเกียรติในศักดิ์ศรีซึ่งเป็นงานที่มีบทบาทในการช่วยเหลือสังคมต่อไป

…………………………………………………………………………………………………..

สัมภาษณ์ นายแพทย์พรหมมินทร์   กัณธิยะ   ผู้จัดการสำนักงานเครือข่ายลดอุบัติเหตุ

ถาม…สถานการณ์ทางด้านอุบัติเหตุที่มาจากแอลกอฮอล์ของสังคมไทยในปัจจุบันนี้เป็นอย่างไรบ้าง


ตอบ…ถ้าพูดถึงภาพรวมในสภาพที่เรียกว่าปกติ สังคมไทยก็มีการเกิดอุบัติเหตุอยู่เป็นระยะ  ค ่าเฉลี่ยคนไทยมีการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิตชั่วโมงละ 2 ราย จากที่เราประมวลตัวเลขพบว่าสาเหตุที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุเกิน 70 เปอร์เซ็นต์ มาจากการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนที่จะมาขับขี่รถ ในภาพรวมแล้วถือว่าสูงแต่เมื่อเทียบกับเทศกาลต่างๆ อันนี้ถือว่ายิ่งสูงไปกันใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่สำคัญ  อ ย่างปีใหม่หรือสงกรานต์ ตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บค่อนข้างสูง จากการทำงานมาระยะหนึ่งตัวเลขเหล่านี้ก็ลดลงเรื่อยๆ แต่ก็ยังถือว่าสูงอยู่ ในภาพของเทศกาลต่างๆ ปัญหาที่เราคิดว่าเป็นปัญหาใหญ่ก็คือเรื่องของการบริโภคเครื่องดื่มมึนเมาแล ้วก็ไปขับขี่

เ ราทำการวิเคราะห์ตัวเลขตลอดทั้งสองสามปีที่ผ่านมา ปัญหาของการขับรถเร็วกับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นปัญหาที่มาเป็นอั นดับต้นๆ ปัญหาการขับรถเร็วนั้นก็สืบเนื่องมาจากการที่มีการดื่มแอลกอฮอล์ด้วย การบริโภคเรื่องดื่มแอลกอฮอลืแล้วไปขับขับขี่ยานพาหนะแล้วเกิดอุบัติเหตุเสี ยชีวิตนั้นเป็นสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง คือหมายความว่า เมื่อมีคนประสบอุบัติเหตุ 10 ราย 7 รายนี่ใช่เลย  ตรงนี้ถ้าถามว่าแนวโน้มเป็นอย่างไร คิดว่าแนวโน้มมีหลายองค์ประกอบที่มีความสำคัญมาก  ต อนนี้นโยบายรัฐบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย รวมถึงทุกกระทรวงที่ทำงานด้านนี้เค้าก็ให้ความสำคัญ มาตรการต่างๆ ที่คิดว่าเป็นประโยชน์ทำให้ลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุถูกนำมาใช้ มาตรการ 5 อี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย เรื่องการปรับปรุงสภาพสิ่งแวดล้อม เรื่องการให้ความรู้อะไรต่างๆ ก็ถูกดำเนินงานอย่างเข้มงวด ขณะเดียวกันที่ทำอยู่ตอนนี้ก็คือ สสส.  ได้มีแนวนโยบายที่จะช่วยผลักดันให้ชุมชนในท้องถิ่นได้เข้ามามีส่วนร่วม  ถ ้าถามว่าแนวโน้มเป็นยังไง แนวโน้มของคนทำงานป้องกันนั้น มีแนวโน้มว่าจะมีภาคีแนวร่วมมากขึ้น แต่ถามว่าปัญหาการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะเป็นอย่างไรในอนาคต ผมมองว่ายังมีอุปสรรคอยู่ค่อนข้างมาก เนื่องจากนโยบายรัฐบาลในส่วนหนึ่งเน้นการป้องกันก็จริง  แ ต่ว่านโยบายในการควบคุมและการป้องกันการบริโภคยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร ยิ่งตอนนี้ภาคธุรกิจมีความเข้มแข็ง เช่น การผลิตก็มีขนาดมีพรรคพวกมากขึ้น มีโรงงานขนาดใหญ่และความพยายามที่จะแทรกเอาผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข ้าสู่ทุกวาระโอกาสทางสังคม จนกระทั่งตอนนี้เราพบว่างานประเพณีไทยจำนวนไม่น้อยได้รับผลกระทบ  ทำให้เราได้ประเพณีที่มีเครื่องดื่มมึนเมาเข้ามาเกี่ยวข้องเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะขึ้นบ้านใหม่  งานศพ เหล่านี้…น่าเป็นห่วง  ถ ้าจะแก้ที่ต้นเหตุจริงๆ เราก็จะต้องช่วยกันให้ประเพณีไทยปลอดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือว่ามีแอลกอฮอล์เกี่ยวข้องให้น้อยที่สุดหรือไม่มีได้ยิ่งดี และจะทำให้อุบัติเหตุในภาพรวมมันลดลงมีความยั่งยืนและมีความต่อเนื่อง

……………………………………………………………………………………………………..

สัมภาษณ์ คุณภัทรพันธ์  กฤษณา   อาสาสมัครมูลนิธิเมาไม่ขับ  เ หยื่อจากอุบัติเหตุกรณีคนเมาขับรถสิบล้อ เข้ามาพุ่งชนรถคันที่คุณภัทรพันธ์โดยสารอยู่ เมื่อ 17 ปีก่อน ส่งผลให้ ปัจจุบันต้องเป็นผู้พิการอัมพาตครึ่งตัวท่อนล่าง

ถ าม…ภายหลังจากได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุในระยะแรกๆ ได้มีความคาดหวังต่อสังคมไทยเกี่ยวกับมาตรการป้องกันอุบัติภัยบนท้องถนนที่เ กิดจากกรณีเมาแล้วขับรถอย่างไรบ้างหรือไม่

ต อบ…ในช่วง 13 ปีแรก ผมไม่เคยคิดถึงมาตรการของรัฐบาลในเรื่องอุบัติเหตุจราจร เพราะขนาดตัวเราเองประสบอุบัติเหตุ ยังคิดว่ามันเป็นเรื่องของโชคลาง จนมีโอกาสได้มาทำงานร่วมกับทางมูลนิธิเมาไม่ขับ ถึงได้ย้อนกลับไปดูอดีตที่ผ่านมา คือระหว่างที่พิการอยู่ก็มีเพื่อนฝูงมารับไปเที่ยวประจำแล้วเค้ากินเหล้าเมา ก็ยังนั่งรถไปกับเค้า โดยไม่ได้คิดถึงผลกระทบหรือว่าภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้น พอมาทำงานถึงได้รู้ว่าจริงๆ แล้วอุบัติเหตุหรือที่เราพิการมันมีสาเหตุเพราะว่าเป็นอุบัติเหตุทางการจราจ รแล้วก็มีปัจจัยแทรกหลายๆ อย่าง  ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ของถนน ที่เราต้องใช้รถใช้ถนนร่วมกับคนที่เมาแล้วขับ ตอนนี้ก็เลยเริ่มที่จะหันมามองแล้วก็ได้ไปรวบรวมเพื่อนๆ พี่น้องที่พิการจากอุบัติเหตุจราจรเหมือนกัน พยายามมองให้ถึงปัญหาต่างๆ แล้วก็มาตรการแก้ไขของรัฐบาล คือพอมาทำงานถึงได้คาดหวังว่ารัฐบาลน่าจะมีมาตรการอะไรที่เข้มงวดในเรื่องขอ งการบังคับใช้กฎหมายซึ่งเป็นกลไกที่สำคัญที่สุดในการที่จะป้องกันการเกิดอุบ ัติเหตุ เช่น การเพิ่มบทลงโทษคนเมาแล้วขับ การได้มาซึ่งใบขับขี่ให้มันยากขึ้น เนื่องจากถ้าได้มาง่ายจะยึดไปก็ไม่ใช่ปัญหา ถ้ามันได้มายากเย็นกว่าจะสอบได้หรือกว่าจะผ่านขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ก็ทำให้คนที่ขับขี่เกรงกลัวการถูกยึดใบขับขี่มากขึ้น อันนี้ก็อยู่ที่เรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย การสร้างกระแส การรณรงค์  ซ ึ่งอย่างที่ตัวผมเองเจอผมเองไม่เคยคิดถึงตรงนี้ พอผมได้มาเจอกระแสการรณรงค์ หรือการได้เข้ามาร่วมงานถึงได้ฉุกคิดว่าจริงๆ แล้วเราพิการมันเพราะอุบัติเหตุ ขณะที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้สนใจคิดถึงเรื่องการป้องกัน

ถ าม…มองว่าปัจจุบันมาตรการต่างๆ เกี่ยวกับการร่วมแรงร่วมใจผนึกกำลังของภาครัฐและเอกชน ตลอดจนการดูแลและป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนนดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนหรือไม่ อย่างไร  

ตอบ…การที่มีโอกาสได้ทำงานตรงนี้มานานพอสมควรคือประมาณ 6 – 7 ปี ก็ต้องยอมรับว่าประมาณ 4 – 5 ปีหลังมานี่เรามีการตื่นตัวมากขึ้น องค์กรภาคีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐหรือเอกชนเห็นความสำคัญตรงนี้ แล้วก็พยายามทำเรื่องนี้ให้เป็นกระแสโดยชี้ว่าอุบัติเหตุสามารถเกิดขึ้นได้ก ับทุกคนและทุกเวลา สำคัญที่สุดคือเท่าที่เรายังพบเห็นอยู่ คนที่ใช้รถใช้ถนนโดยทั่วไปยังคิดว่าอุบัติเหตุทางจราจรหรือการเมาแล้วขับไม่ ได้เป็นเรื่องของทุกๆ คนในสังคม แต่เป็นเรื่องของคนใดคนหนึ่ง บางคนคิดว่าตัวเองอาจจะไม่เกิดเพราะไม่เคยดื่มเหล้าขับรถไปดีๆ ตามกฎจราจร ก็ไม่น่าจะพิการหรือต้องเสียชีวิตจากเรื่องนี้ แต่จริงๆ แล้วถ้าเรายังไม่ตื่นตัวด้วยกันทั้งหมดทั้งสังคม โดยการทำให้รู้ว่าจริงๆ แล้วเรื่องนี้เป็นเรื่องของทุกคน เพราะว่าถ้าเรายังปล่อยให้คนที่ไม่มีความรับผิดชอบเรื่องการใช้รถใช้ถนนมาใช ้ถนนร่วมกับเราอยู่โอกาสที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตหรือพิการมันก็มี ได้ตลอดเวลา อันนี้ก็ถือว่ามันเป็นเรื่องของการร่วมมือของทั้งภาครัฐและเอกชนที่ตื่นตัวอ ย่างมากทำให้สถานการณ์ปัจจุบันค่อนข้างดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งหมดก็ยังติดขัดเรื่องของการออกกฎหมายและการบังคั บใช้ซึ่งบางอย่างมองเป็นเรื่องยากกว่าจะผ่านกระบวนการต่างๆ มันก็เลยทำให้มันยังช้าอยู่ ดังนั้นอะไรที่ทำได้ก็ควรทำก่อน

ถาม…กำลังใจในการดำเนินชีวิตมาจากไหน

ต อบ…ต้องสร้างจากตัวเอง แต่ส่วนหนึ่งก็มาจากคุณพ่อคุณแม่ เพื่อนฝูง แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด มันขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าการมีกำลังใจของเรา เราต้องสร้างจุดมุ่งหมายหรือเป้าหมายของตัวเราเองว่าเราจะทำอะไร สำหรับผมได้มีโอกาสมาร่วมงานตรงนี้ได้ทำเพื่อสังคมก็รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่ าแทนที่จะถูกมองว่าเป็นภาระต่อสังคมหรือเป็นภาระต่อคนในครอบครัว ก็ถือว่าเรามีคุณค่าในชีวิตมากขึ้นที่จะได้ออกมาทำประโยชน์ให้สังคมทำให้มีก ำลังใจ เมื่องานที่เราทำมันบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
……………………………………………………………………………………………………..

ที่มา :: http://www.stopdrink.com/webboard/public/view.php?id=249


หมายเลขบันทึก: 32945เขียนเมื่อ 2 มิถุนายน 2006 15:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 เมษายน 2014 13:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท