ล่องแพ ต่อเพลง ความสนุกสนานครื้นเครงที่ประทับใจ


     กิจกรรมหนึ่งของการเข้าค่ายโครงการศิลป์ “ภาษา สังคม คือศิลป์” ที่ สวนเพชรริเวอร์วิวรีสอร์ท  อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ ๑๐-๑๒ มกราคม ๒๕๕๓ ก็คือการล่องแพ  ที่เลือกกิจกรรมนี้เพราะ  ได้เห็นสภาพของแม่น้ำเพชรที่โอบล้อมรีสอร์ทแล้วว่า  น้ำตื้นและเขาบังคับเรื่องการใช้อุปกรณ์ชูชีพ   จำนวนคนต่อแพ  ตลอดจนผู้ดูแล

 

    หลังจากสอบถามความสมัครใจ  มีนักเรียนที่ไม่ขอลงน้ำ๑ คน  ที่เหลือขอล่องแพหาประสบการณ์  โดยมีหนุ่มๆที่บึกบึนขอลงแพเล็ก  ๙  คน หนุ่มหวาน ๒ คน  และสาวห้าว ๑ คน  แพเล็กจะนั่งแพละ ๓ คน พายกันเอง   แพนางนพมาศ   ๕ คน (ครูป้าภาทิพ ครูพี่เมย์   นักเรียนผู้หญิง ๒ คน และนักเรียนผู้ฉิง  อีก ๑ คน  มีผู้ดูแลคอยช่วยเหลือ หัวท้าย  ที่เหลือทั้งผู้หญิงและผู้ฉิง  ลงแพรวม มีผู้ดูแลหัวท้าย 

 

      ก่อนลงทุกคนต้องนั่งฟังคำแนะนำจากเจ้าของรีสอร์ท  และต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด   จากนั้นรถจะนำพวกเราเดินทางมายังต้นน้ำ  ๓ กม.  ที่นั่นจะมีคนงานจัดแพรอท่าอยู่   ทุกคนก็กระจายตามที่ได้ตกลงมา   ทุกคนตื่นเต้นส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว  ไม่ฟังคำบอกใดๆ จากผู้ดูแลเลย พอเริ่มออกแพของสามหนุ่มสามมุมล่ำบึกก็คว่ำไม่เป็นท่า   แพที่มีสาวห้าวซะอีกที่ประคองแพได้ดีมาก

 

 

สภาพของน้ำส่วนใหญ่จะตื้นหยั่งถึง  แต่น้ำเชี่ยวแรง   พื้นล่างเป็นก้อนหินก้อนโต  สองฝั่งบางช่วงก็สวยงามดี   บางช่วงก็ธรรมดา   เป็นป่าพงอ้อ  กอไผ่

 

         ความสนุกและเสน่ห์ของการเล่นน้ำที่นี่   สำหรับแพรวม  พวกเขาและเธอจะอยู่หลังสุด  เสียงดังมาก   พายไป  โผออกจากแพไปเล่นน้ำ  โผมาเกาะแพ  ล่องน้ำไป  แพนี้จะทิ้งช่วงห่างจากแพหน้ามากๆ    ขณะที่แพเล็กรวมทั้งแพครูภาทิพ   ทิ้งระยะกันไม่มาก  พอจะส่งเสียงบอกต่อกันได้ก็เล่นต่อเพลงกัน   จากแพหนึ่งส่งอักษรมายังแพสอง  แพสองส่งอักษรมายังแพสาม  แพสามบอกต่อมายังแพสี่   และรับคำจากแพสี่ตะโกนไปยังแพหนึ่ง    ขณะที่เด็กๆ ต่อเพลงสมัยใหม่นั้น  ครูภาทิพเองปัจจุบันก็ฟังแต่เพลงวัยรุ่นแต่จำเนื้อเพลงไม่ได้    จึงไม่เคยมีโอกาสได้ช่วยสมาชิกซักที   มามีโอกาสก็ต่อเมื่อ  แพสองส่งอักษร  ศ  ศาลา  มาให้  เด็กและครูพี่เมย์นึกไม่ออก   ครูป้า อย่างครูภาทิพจึงได้มีโอกาสงัดเอาเพลงสมัย ป.๔ มาร้องต่อก็คือ  “โศกา  โศกา   โศกาเสียจนน้ำตาตกใน  โศกาเสียจนน้ำตาไม่ไหล   ใครเล่าใครเขาจะเห็นใจโศกี”  เด็กๆดีใจที่มีตัวช่วย แต่ครูภาทิพอายจัง   เพราะเป็นคนร้องเพลงไม่เป็น  ชอบฟังอย่างเดียว 

 

     การควบคุมดูแลนักเรียนขณะล่องแพ   แพครูภาทิพอยู่ตรงกลาง  ต้องคอยพะวงหน้าพะวงหลัง   แพหน้าก็รีบซะเหลือเกิน   ขณะแพหลังก็เผลอไม่ได้    ชั่วขณะเดียวที่ครูภาทิพไม่หันมามอง

เมื่อหันกลับไปมองที่แพสามหนุ่มล่ำบึ๊กพบว่ามีสาวมาเกาะที่แพนั้นถึง ๗ คน  ซึ่งมันรับน้ำหนักไม่ได้   ต้องตะโกนเตือนกติกามารยาทให้สาวๆกลับแพตัวเอง    ขณะเดียวกันก็เรียกสามหนุ่มล่ำบึ๊กให้พายมาอยู่ในสายตาของครูภาทิพ   ก็มีเสียงโวยวายปนอ้อนของเจ้าหนุ่มมาบ้าง

 

            ในการล่องแพครั้งนี้ท่ามกลางความสนุกสนานของเด็กๆ  ครูก็มีหวั่นๆ บ้างเหมือนกันนะ  หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา   ฉันจะทำอย่างไรนะนี่   ตลอดระยะเวลาที่นั่งบนแพ  จึงนั่งเหมือนนางนพมาศ  ไม่ได้โผจากแพมาแล่นน้ำเหมือนพวกเด็กๆ เลย   ได้แต่นั่งอธิษฐานสวดมนต์ภาวนา ให้คุ้มครองเด็ก ๆ  ให้รอดปลอดภัย

หมายเลขบันทึก: 329357เขียนเมื่อ 20 มกราคม 2010 00:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

น่าสนุกดีนะครับ

คงเป็นความทรงจำที่ดีมากๆแน่เลย ^^

ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ  ค่ะเป็นความทรงจำที่ดีมาก  แต่ก็หวาดเสียวต่อการเกิดอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นกับเด็กๆ  

P
สวัสดีค่ะอาจารย์ภาทิพ
* กิจกรรมการเข้าค่ายโครงการศิลป์ “ภาษา สังคม คือศิลป์”  น่าสนุกมาก เห็นแล้วอยากทำกิจกรรมแบบนี้บ้าง  เด็กๆ คงสนุกสนานกันมากเลยนะ....
* มีผู้ดูแลดี และเด็กปฏิบัติตัวตามกฎข้อบังคับ คงไม่เกิดเหตุหรอกค่ะ
* ไม่ได้เจอ อาจารย์ภาทิพ นานมากเลย เพราะหากันไม่เจอ... นี่ตามมาจากบันทึกของ อาจารย์แป๊ว กัลยาณีค่ะ
* ขอบคุณบันทึกความทรงจำที่งดงามค่ะ

ขอบคุณที่แวะมา และครูภาทิพก็ตามไปแล้ว ชอบอักษรทุกตัวของครูใจดี

ใจดีสมชื่อ  อักษรมีชีวิตชีวามากๆค่ะ

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท