ก่อนส่งท้ายปีเก่า…ไปเที่ยวอินเดีย…
สำหรับเราการไปเที่ยวอินเดียเป็นการไปเพื่อระลึกถึงศาสดาของศาสนาพุทธและไปเพื่อศึกษาตามรอยพระพุทธเจ้า ที่เป็นผู้ค้นพบอริยสัจสี่และความจริงแท้ ที่กล่าวไว้ว่าสิ่งที่แน่นอนที่สุดคือความไม่แน่นอนหรือคือการเปลี่ยนแปลง ความแน่นอนที่สุดคือความตาย…ไปเพื่อตามรู้ตามดูธาตุสี่ ขันธ์ห้าตัวตนของเราเอง ไปเพื่อดูกิเลสของตนเอง เพื่ออโหสิกรรม เพื่อระลึกรู้ เพื่อฝึกในสถานที่ที่เป็นความเพียรพยายาม มานะ อุตสาหะ ความอดทน เพื่อดูไตรลักษณ์…การตามรอยพระพุทธเจ้าเมื่ออดีตเหมือนเป็นการตามรอยมรดกโลกของประเทศอินเดียในปัจจุบัน…พอลงเครื่องเหยียบแผ่นดินอินเดียที่สนามบินโกลกะตา รัฐเบงกอล ก็ฝึกกันเลย ฝึกช่วยเหลือธาตุสี่ ขันธ์ห้า เพื่อให้เกิดความสมดุลในการเดินทางโดยรถบัสปรับอากาศ กิน นอน บนรถ ขับถ่ายกลางทุ่ง แต่ชำระร่างกายในสถานที่พักที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้ อาหารการกินก็ง่ายๆเป็นผักสด กรอบ ใหม่ ไร้เนื้อสัตว์ ที่ไร้เนื้อสัตว์เพราะความเชื่อที่พวกเขาเชื่อว่าสัตว์ส่วนใหญ่เป็นพระเจ้าของพวกเขา…ฝึกการปรุงแต่ง การรับรู้อายัตนะ ฝึกเพื่อให้จิตนำทางได้…ไม่ทุกข์ ไม่สุข เนื่องจากเหตุเป็นเช่นนั้นปัจจัยจึงเป็นเช่นนี้…10 วันที่อยู่ที่นี่ได้เห็นถึงปัญญาญาณและปาฏิหาริย์ของพระองค์ที่ทรงเดินทางสั่งสอนผู้คน สรรพสิ่งและสรรพสัตว์เพราะแต่ละที่ไกลกันเหลือเกิน…ความเพียร ความวิริยะอุตสาหะ ของพระองค์หาที่เปรียบไม่ได้จริงๆ…ความแน่นอนคือการเปลี่ยนแปลงเป็นความจริงแท้ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนได้ แล้วดวงจิตล่ะ…การจัดการอยู่ที่ปัญญาญาณของแต่ละบุคคลแล้วว่าจะจัดการให้เกิดความพิสุทธิ์ของจิตกันอย่างไร…สวัสดีปี2552 และ 2553 กล่าวอย่างสมมุติก็บอกว่าลาทีปีวัวเพื่อเข้าสู่ปีเสือ จร้าๆๆ…มีรูปมาฝากด้วย…
วัดไทยมคธพุทธวิปัสสนา
วัดนานาชาติวัดจีน วัดญี่ปุ่น วัดธิเบต วัดภูฐาน พระพุทธรูปศิลาแลง
ศิลปะญี่ปุ่นแบบมหายานที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย
สถานที่ก่อนเสด็จสู่ต้นพระศรีมหาโพธิ์ บ้านนางสุชาดา สถานที่ทรงรับข้าวมธุปายาส ที่ทรงรับหญ้าคาจากโสตถิยมานพ ที่ทรงอธิฐานลอยถาด…แม่น้ำเนรัญชราซึ่งปัจจุบันเป็นทะเลทรายไปแล้ว
สถานที่ตรัสรู้ สถานที่พระมหาบุรุษได้สำเร็จเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ.ภายใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ สหชาติ
กรุงราชคฤห์ :รอยเกวียนโบราณ
ทางเดินไปคันธกุฏิที่พระพุทธเจ้าประทับบนยอดเขาคิฌชกูฎ
วัดเวฬุวันมหาวิหารวัดแรกในพระพุทธศาสนาเป็นที่เกิดของวันมาฆะบูชาเป็นบริเวณที่พระพุทธเจ้าประทับนั่งแสดงโอวาทปาติโมกข์แด่พระอรหันต์เอหิภิกขุฯ1250รูป
ธารน้ำร้อนตโปธารชาวฮินดูจะคลาคล่ำมาอาบน้ำโดยแบ่งกันอาบตามวรรณะบริเวณนี้ไม่ได้เก็บรูปเนื่องจากเกิดความเศร้าอย่างมาก…เดินทางต่อถึงมหาวิทยาลัยนาลันทาเก่า เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์แห่งแรกของโลก
ระหว่างทางมีร้านค้าแบบง่ายๆขายของ…และการเดินทางไปบูชาหลวงพ่อองค์ดำ พระพุทธรูปหินสีดำที่เก่าแก่ที่ศักดิ์สิทธิ์อยู่หลังมหาวิทยาลัยนาลันทาความเชื่อคือให้นำน้ำมันที่ตัวองค์พระบริเวณไหนก็ได้มาลูบบริเวณที่ปวดจะหายได้
ระหว่างทางก่อนถึงวัดไทยนาลันทา เห็นประเพณีอาบน้ำของชาวฮินดูด้วย ส่วนบริเวณวัด สวย บรรยากาศดีเด็กที่มาขอเงินก็นั่งเป็นระเบียบเรียบร้อย
วัดไทยไพสาลีพระเณรสวดเป็นทำนององคุลีมารมันสะเทือนไปถึงขั้วหัวใจ ใจไหลไปเลย หันกลับมาตามลมแทบไม่ทัน…
ปาวาลเจดียสถานที่พระพุทธองค์ทรงปลงพระชนมายุสังขารและสระมงคลอภิเษกปุสสะกรณีย์และเสาพระเจ้าอโศก
วัดกูฎาคารสาลา ป่ามหาวันเป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้พระนางมหาปชาบดีโคตรมีพระน้านางอุปสมบทเป็นภิกษุณีรูปแรก
สถานที่ดับขันธปรินิพพานสาลวโนทยานเมืองกุสินาราพระมหาเจดีย์ที่ประดิษฐานพระแท่นเป็นที่ปรินิพพานอยู่ด้านหลัง สถูปเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทับอนุฏไสยาสน์ และมกุฎพันธนเจดียสถานที่ถวายพระเพลิง
วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ กำลังทำนุบำรุงพระอุโบสถคาดว่าจะเสร็จประมาณ 12 สิงหาคม2553 ร่วมกันทำบุญได้จ้า…
พุทธวิหารสาลวโนทยาน960
ด่านเสาโนลี ตรวจเอกสารออกจากอินเดียสู่ประเทศเนปาล
ลุมพินีแดนประสูติ : อาสภิวาจา”เราจะเป็นผู้เลิศที่สุดในโลก เราจะเป็นผู้เจริญที่สุดในโลก เราจะเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในโลก การเกิดของเรานี้เป็นชาติสุดท้าย บัดนี้จะไม่มีภพใหม่อีก” วิหารมายาเทวีที่ประดิษฐานหินแกะสลักปางประสูติ สถานที่ประสูติ เสาหินที่พระเจ้าอโศกสร้างไว้ตรงที่ประสูติ สระที่สรงสนานหลังประสูติ
วัดพุทธเนปาล วัดไทยลุมพินีและ Baby Buddha
ออกจากวัดไทยพุทธเนปาลไปกรุงสาวัตถี สถานที่ที่พระพุทธองค์ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ จุดที่พระเทวทัตต์และนางจิญจมาณวิกาถูกแผ่นดินสูบ คฤหาสน์อนาถปิณฑิกเศรษฐี บ้านปุโรหิตบิดาพระองคุลีมาร แดนมหามงคลดำเนินงานโดยพระแม่บงกชพระแม่ในแดนธรรม เป็นศาสนสถานทางพระพุทธศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศอินเดียในยุคนี้ พระเชตะวันมหาวิหารที่ๆพระองค์จำพรรษานานถึง 19 พรรษา ศาลสงฆ์พระอรหันต์ 8ทิศ กุฏิพระอรหันต์ อานันทโพธิ์ที่พระมหากัสสปะนำมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ตรัสรู้ คันธกุฎีที่พระองค์ทรงประทับ บ่อน้ำที่พระพุทธองค์ทรงสรง
เดินทางต่อมาเมืองพาราณสี พักที่วัดไทยสารนารถ
และไปสถานที่ทรงแสดงธรรมจักรกับปวัตตนสูตร ณ.ป่าอิสิปตตนมฤคทายวัน ธรรมิกสถูป จุดที่พระพุทธองค์ประทับนั่งแสดงปฐมเทศนา มีพระรัตนตรัยเกิดขึ้นครบเป็นครั้งแรกในวันเพ็ญเดือนแปดก่อนพุทธศก.45 ปี เป็นสถานที่เกิดวันอาสาฬหบูชา เจาวคานธีสถูป สถานที่พระพุทธเจ้าทรงพบเบญจวัคคีย์ พิพิธภัณฑ์ พระคันธกุฎีสถานที่ทรงโปรดยสกุลบุตร สวนกวาง มูลคันธกุฎี ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พิพิธภัณฑ์สารนาถ วัดไทยมฤคทายวัน
ท่าน้ำคงคาเป็นท่าน้ำที่รวมทุกสรรพสิ่งไว้ด้วยกัน...สายน้ำไม่เคยหยุดไหลตราบนิรันดร์
ท้ายสุดและสุดท้าย....
ลุมพินีวัน:สถานที่ประสูติ ได้ชีวิตดี มีหลักประกัน ได้ความเป็นเลิศ ประเสริฐสุด ได้ความก้าวหน้า ยอดเจริญ
พุทธคยา : สถานที่ตรัสรู้ ได้ปัญญาเป็นอาวุธ ได้รับความรู้แจ้งแทงตลอด ได้ชัยชนะด้วยบารมีไม่มีแพ้
พาราณสี : สถานที่แสดงปฐมเทศนา ได้บริวาร เปิดมิตร ปิดศัรตรู ได้ความไม่วุ่นวาย ไม่ขัดข้อง ได้ดวงตาเห็นธรรมล้ำเลิศ
กุสินารา : สถานที่ปรินิพพาน ได้อายุยืนยาว ป่วยหาย หน่ายรัก ได้มรดก ยกฐานะ มีทรัพย์นับไม่ถ้วน ได้พ้นจากเครื่องเสียดแทงการทำร้าย
…สังขารคือสรรพสิ่งซึ่งเปลี่ยนแปร มีเกิดแก่เจ็บตายไม่อาจฝืน ใครเล่าจักต้านทานวันและคืน อย่าประมาทขัดขืนกาลเวลา…
เดินทางกลับโกลกะตารัฐเบงกอล สนามบินนานาชาติเดินทางโดยKing Fisher Airline ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ…
พระพุทธเจ้าตรัสตอบพระอานนท์ว่า”อานนท์ สังเวชนียสถาน 4 ตำบลนี้ คือ”
สถานที่ที่เราตถาคตเจ้าบังเกิดแล้ว คือที่ประสูติจากพระครรภ์1(ลุมพินี)
สถานที่ที่เราตถาคตตรัสรู้อนุตตรสัมโพธิญาณ1 (พุทธคยา)
สถานที่ที่เราตถาคตแสดงธรรมจักร1(พาราณสี)
สถานที่ที่เราตถาคต ปรินิพพาน1 (กุสินารา)
สถานที่ทั้งสี่ตำบลนี้แล ควรเป็นที่พุทธบริษัทคือ ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ผู้มีความเชื่อ ความเลื่อมใสในพระตถาคตเจ้า จะดู จะเห็น และควรจะให้เกิดธรรมสังเวชทั่วกัน…อานนท์ ชนทั้งหลายเหล่าใดเหล่าหนึ่งได้เที่ยวไปยังเจดีย์สังเวชนียสถานเหล่านี้ด้วยความเลื่อมใส ชนเหล่านั้น ครั้นทำกาลกิริยาลง จักเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์
อยากให้ลงรูปวัดเขาคีรีวงกตให้ดูบ้างคะ