ปัญหาเด็กแก้ไม่ค่อยได้ เพราะผู้ใหญ่ I in me


ปัญหาเด็กเกิดจากผู้ใหญ่ไม่ค่อยเข้าใจและยอมรับเด็ก

      เช้านี้ ผมไปติดตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนในโรงเรียนมาครับ   ไปมา 4   โรงเรียน   ไปพบทั้ง ผู้บริหาร  คุณครู    ผู้ปกครอง และ เด็กนักเรียน   เพื่อไปติดตามปัญหาของนักเรียนบางคน

 

       คำตอบส่วนใหญ่ในเรื่องระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน    ผมว่าปัญหาเด็กบางคนที่แก้ไม่ได้ เพราะการสื่อสารของผู้ใหญ่กับเด็ก   อยู่ในระดับ I  in me  ครับ    นั่นคือ มักจะโทษว่าเพราะนักเรียน   "เป็นคนสร้างปัญหา"  และ  บอกว่า  "ผู้ใหญ่ทำดีที่สุดแล้ว"   โดย ไม่เคยฟังความรู้สึกและอารมณ์ของเด็ก

 

      ในขณะเดียวกัน   ที่ผมสอบถามเด็ก   เด็กมักจะบอกว่า   เขามีความทุกข์เพราะผู้ใหญ่ไม่สนใจใยดี  ไม่มีความรักให้เขา  ไม่ให้การยอมรับเขา  แถมยังดุด่าว่ากล่าวเขาอีก

 

 

 

     เขาก็เลยต้องหาทางออกด้วยวิธีการที่ผิด  เพื่อให้เขาสบายใจ

 

     แต่ผู้ใหญ่มักจะโยนความผิดให้เด็กครับ  ว่าเป็นเพราะเด็กไม่รักดีเอง 

 

      ผมเองก็เข้าไปพูดคุยเท่าที่จะพอทำได้ครับ  คงเข้าไปเปลี่ยนแปลงผู้ใหญ่ไม่ได้มาก   เพราะไปแค่วันเดียว  คุยแค่พอรู้เรื่อง

 

     แต่อย่างน้อย  ก็พอได้ทราบปัญหาบ้างครับ  ว่าส่วนใหญ่ผู้ใหญ่มักจะสื่อสารแบบ   I  in me    

 

     เมื่อผู้ใหญ่ไปไม่ถึง   I in you ในตัวเด็ก   ปัญหาก็ยากที่จะเยียวยาแก้ไขครับ 

   

หมายเลขบันทึก: 328948เขียนเมื่อ 18 มกราคม 2010 15:32 น. ()แก้ไขเมื่อ 26 พฤษภาคม 2012 10:02 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (28)

การที่ผู้ใหญ่เป็นเช่นนี้ เพราะถูกปนเปื้อนมายาวนาน รักษาและเยียวยาอยากค่ะ

เป็นห่วงเด็กมากกว่าค่ะ

Pขอบคุณคุณเบดูอินมากครับ

Pคุณbeger0123ครับ

*   การที่ผู้ใหญ่เป็นเช่นนี้ เพราะถูกปนเปื้อนมายาวนาน รักษาและเยียวยาอยากค่ะ

       (ครับ ก็น่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆนะครับ)

 *   เป็นห่วงเด็กมากกว่าค่ะ

        ครับ เด็กน่าเป็นห่วงมากๆเลยครับ

                      ขอบคุณมากครับ

               

 

  

สวัสดี ครับ อาจารย์smallman

ชอบคำที่อาจารย์ใช้ นะครับ

i in me. i in you.

ประเด็นหลังหากมองให้ลึกซึ้งแล้ว  หนักแน่น นะครับ

การเอาใจเขามาใส่ใจเรา มิใช่การนำใจเรามาใส่ใจตัวเรา

ขอบพระคุณบันทึกทางการศึกษาบันทึกนี้ นะครับ

แวะมาทักทายค่ะ ครอบครัวดีมีสุข เด็กก็จะเป็นเด็กดี .....ฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกๆ คนเลยนะคะ

จริงๆครับ... ปัญหาของเด็กหลายๆคนที่ชีวิตเปลี่ยน สาเหตุหลักๆมาจากผู้ปกครองไม่เข้าใจ

และบางทีไม่ยอมรับในสิ่งที่เด็กเป็นครับ

การขีดกรอบให้กับเด็กเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่อย่าให้กรอบนั้นกลายเป็นกรงที่ปิดกั้นความคิดความรู้สึกของพวกเขา

อย่าไปพยายามกำหนดทางเดินชีวิตให้เขาไปซะทุกอย่าง เพราะนั้นคือการบังขับเขา ( I in ME ) ครับ

ลองมองในมุมมองของเด็กๆดูบ้าง แล้วท่านจะเข้าใจครับ ว่าเขากำลังคิด และรู้สึกอย่างไร ^^

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับอาจารย์ ^^

Pคุณแสงแห่งความดีครับ

*  การเอาใจเขามาใส่ใจเรา มิใช่การนำใจเรามาใส่ใจตัวเรา

  (ผมว่าถ้าผู้ใหญ่เป็นแบบนี้นะครับ  ปัญหาเด็กแก้ได้ง่ายมากเลยครับ)

               ขอบคุณมากครับ

  

ผู้ใหญ่กับเด็กมักคิดคนละมุม

ผู้ใหญ่ต้องลองมองในมุมของเด็กบ้างนะคะ

แต่ผู้ใหญ่มักจะลืมมองในมุมนี้ จึงเกิดช่องว่างขึ้น

Pคุณนุชรีครับ

*  ครอบครัวดีมีสุข เด็กก็จะเป็นเด็กดี

 *  ฝากคุณพ่อคุณแม่ทุกๆ คน

        ขอบคุณมากครับที่เข้ามาเสริมเติมเต็ม

 

Pคุณเอิร์ทครับ

*  ปัญหาของเด็กหลายๆคนที่ชีวิตเปลี่ยน สาเหตุหลักๆมาจากผู้ปกครองไม่เข้าใจ และบางทีไม่ยอมรับในสิ่งที่เด็กเป็น

   (เท่าที่ผมทำงานด้านนี้มา ส่วนใหญ่เป็นอย่างนี้จริงๆครับ)

*  การขีดกรอบให้กับเด็กเป็นสิ่งที่ดีครับ แต่อย่าให้กรอบนั้นกลายเป็นกรงที่ปิดกั้นความคิดความรู้สึกของพวกเขา

   (ส่วนใหญ่เป็นกรอบที่ปิดกั้นความคิดความรู้สึกครับ จึงทำให้เด็กมีปัญหา)

*  อย่าไปพยายามกำหนดทางเดินชีวิตให้เขาไปซะทุกอย่าง เพราะนั้นคือการบังคับเขา ( I in ME )

    (ผู้ใหญ่ชอบอ้างว่ารักลูก อยากให้ลูกได้ดี)

*  ลองมองในมุมมองของเด็กๆดูบ้าง แล้วท่านจะเข้าใจครับ ว่าเขากำลังคิด และรู้สึกอย่างไร

     ( I    in    you   ครับ)

 

             ขอบคุณคุณเอิร์ทมากครับ

  

Pคุณมณีวรรณครับ

*  ผู้ใหญ่ต้องลองมองในมุมของเด็กบ้าง

*  ผู้ใหญ่มักจะลืมมองในมุมนี้ จึงเกิดช่องว่างขึ้น

    (ครับ เลยเกิดเป็นปัญหาขึ้นมาครับ)

                     ขอบคุณมากครับ

 

 

สวัสดีครับอาารย์

เห็นด้วยที่สุดเลยครับ...

..บางครั้งผู้ใหญ่ก็ต้องรับผิดชอบในทุกๆด้านของเด็ก..แต่ผู้ปกครองส่วนใหญ่ ณ.ปัจจุบันนี้ เอาเวลาส่วนใหญ่อยู่กับการทำงาน วันหยุดก็นัดกับเพื่อนบ้าง บ่อยให้เด็กอยู่บ้านตามลำพัง ผลที่ตามมา เด็กจะเรียกร้องความสนใจจากการกระทำของเขา เพื่อให้ผู้ปกครองหันมาสนใจเขาบ้างก็เท่านั้น..

Pขอบคุณคุณหนานเกียรติครับ

Pคุณสายลมที่หวังดีครับ

*  ผู้ปกครองส่วนใหญ่เอาเวลาส่วนใหญ่อยู่กับการทำงาน วันหยุดก็นัดกับเพื่อนบ้าง บ่อยให้เด็กอยู่บ้านตามลำพัง ผลที่ตามมา เด็กจะเรียกร้องความสนใจจากการกระทำของเขา เพื่อให้ผู้ปกครองหันมาสนใจเขาบ้างก็เท่านั้น..

     (ครับ เป็นอย่างนั้นจริงๆครับ  สำหรับเรื่อง เวลา ที่ลูกต้องการ)

               ขอบคุณมากครับ

  • สวัสดีครับ
  • วัฒนธรรมปกครองนักเรียนแบบครูยึดอำนาจยังมีมากมากในโรงเรียนในระบบ ดังนั้นควรเหลือเกินที่จะมีระบดูแลช่วยเหลือครู (ที่ดูแลนักเรียน) ด้วยเช่นกัน

ใช่ค่ะ บ่อยครั้งที่ครูนกได้ยินเสียงดุเด็ก...โดยยังไม่ทราบความเป็นไปเป็นมา ณ ตอนนี้เองครูนกก็มีปัญหารอสะสางเกี่ยวกับเด็กอยู่สองคน โทรศัพท์หาแม่ไม่เคยรับสาย หรือปิดเครื่อง.....แล้วจะร่วมกันแก้ปัญหาได้อย่างไร

Pอาจารย์จักรกฤษณ์ครับ

  • วัฒนธรรมปกครองนักเรียนแบบครูยึดอำนาจยังมีมากมากในโรงเรียนในระบบ
  •   (เท่าที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบที่ว่ามาครับ)

  • ดังนั้นควรเหลือเกินที่จะมีระบดูแลช่วยเหลือครู (ที่ดูแลนักเรียน) ด้วยเช่นกัน
  •     (ระบบดูแลช่วยเหลือครู -  เข้าท่าดีเหมือนกันนะครับ)

                    ขอบคุณครับ

     

    Pครูนกครับ

      * การแก้ปัญหาเด็ก   เป็นเรื่องใหญ่มากๆๆๆๆ เลยครับ  เพราะเป็นปัญหาที่หมักหมมและสะสมมานาน

     *  ก็คงทำในส่วนที่พอจะทำได้ละครับ   และ ที่จะทำได้ที่ที่สุดอีกอย่าง คือ "ทำใจ" ครับ

      * เพราะบางปัญหามันก็เกินกำลังครับ  ซึ่งต้องใช้ทั้งแรงกาย แรงใจ  และ ใช้เวลา

      * ผมเอง ก็ทำในส่วนที่พอทำได้ครับ

               ขอบคุณมากครับ

    สวัสดีค่ะ ท่านรองฯวิชชา ที่เคารพ

    • ปัญหาการแสดงออกที่ไม่พึงประสงค์ของเด็ก มักมาจากการที่ผู้ใหญ่มองข้ามความสำคัญของพวกเขา
    • ขณะที่พวกเขาเองอยากที่จะแสดงพลังความคิด แสดงศักยภาพที่มีอยู่ให้ผู้ใหญ่ได้เห็นว่าเขาทำได้
    • ให้เขาทำเถอะค่ะ ผู้ใหญ่เรามีหน้าที่ในการประคับประคองมิให้เขาหลุด.. คอยแนะยามที่เขาต้องการ ให้กำลังใจยามเขาล้ม.. ด้วยความเมตตาจริงใจ
    • ค่อยปรับค่อยเปลี่ยน.. (เปรียบดั่งกรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จวันเดียวฉันนั้นค่ะ .. )

    Pครูแป๋มครับ

  • ปัญหาการแสดงออกที่ไม่พึงประสงค์ของเด็ก มักมาจากการที่ผู้ใหญ่มองข้ามความสำคัญของพวกเขา
  •   (นี่แหละครับ สาเหตุของปัญหาที่แท้จริง)

    และทางแก้ก็คงอยู่ที่

  • ให้เขาทำเถอะค่ะ ผู้ใหญ่เรามีหน้าที่ในการประคับประคองมิให้เขาหลุด.. คอยแนะยามที่เขาต้องการ ให้กำลังใจยามเขาล้ม.. ด้วยความเมตตาจริงใจ
  •                 ขอบคุณมากครับ

     

     

    อ.วรภัทร์ ออกเจาะใจ คืนพฤหัสนี้ค่ะ ตอน 22.30 อย่าลืมดูค่ะ

    ผมสอนระดับมัธยมเด็กส่วนมากเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น

    เด็กต้องการมากที่สุดคือการยอมรับในทุกๆเรื่องแล้วแต่ความสามารถของเด็กว่าจะทำอย่างไรให้เด็กได้รับการยอมรับ

    บางคนก็ต้องทำตามแบบที่เคยเห็น..ดังนั้นหากมีแบบดีๆเด็กก็จะทำแต่สิ่งดีๆ หากมีแต่แบบไม่ดีเด็กก็จะทำไม่ดี

    แล้วนิสัยเด็กก็จะเปลี่ยนยากเมื่อโตขึ้น

    ผมว่า พ่อ แม่ ครู นั่นแหละครับที่จะเป็นแบบให้กับเด็กๆๆๆ คือเราต้องเป็นแบบอย่างที่ดีครับ

    ห้ามเด็กดื่มสุรา แต่ครู/ผู้ปกครองกลับใช้เด็กซื้อสุรา ห้ามเด็กสูบบุหรี่แต่ใช้เด็กไปซื้อให้

    ห้ามเด็กมาโรงเรียนสาย ครูกลับมาสายซะเอง

    เมื่อเด็กทำเป็นนิสัยแล้วแก้ยากมากนะครับ...แล้วครูก็โทษว่าเด็กไม่ดี..ทั้งๆที่เป็นเรื่องน่าคิดครับว่าเหตุคืออำไร

    ขอบคุณครับที่มีพื้นที่ให้แสดงความคิดเห็นครับ

    จากครู(น้อยๆครับ และน้อยประสบการณ์ครับ)

    Pคุณbeger0123ครับ

        ขอบคุณมากครับที่ส่งข่าว จะตามไปดูครับ

    Pคุณหนุ่มนาสวรรค์ครับ

    *  หัวใจที่สำคัญของเด็กอยู่ที่ตรงนี้ครับ

    *  เด็กต้องการมากที่สุดคือการยอมรับในทุกๆเรื่องแล้วแต่ความสามารถของเด็กว่าจะทำอย่างไรให้เด็กได้รับการยอมรับ

    *  การสอนเด็กที่ดีที่สุด คือ "แบบ ดีกว่า บอก" ครับ

                     ขอบคุณมากครับ

     

    สวัสดีคะท่าน small man

    วันนี้ได้คุยกับครูบางท่านเรื่องพฤติกรรมเด็ก...พบว่า  ครูยังคงมีพฤติกรรม

    แบบที่ท่านรองว่าค่ะ  คือ   I  in me      อยู่บ้านก็ไม่สุข  มาโรงเรียนก็ทุกข์

    ทางออกคือเพื่อน...ทำตามเพื่อน ทำๆตามๆกันไป...ให้ได้รับการยอมรับ...

    ไม่ว่าเด็กเก่งหรือเด็กอ่อน...คงต้องการความรัก ความสำคัญ ความเข้าใจ

    จากผู้ใหญ่อย่างเราๆ...ถ้าต่างฝ่ายต่าง  i  in  you...ปัญหาต่างๆคงลดลง

    และเข้าสู่จุดสมดุลที่ยอมรับได้ร่วมกันนะคะ ^_^

     

     

    ท่านรองตอบเร็วมาก(ดีจัง)

    ขอนอกเรื่องนิดครับ

    คือผมอยากทราบว่าเกณฑ์ประเมินครูผู้สอนชำนาญการมีหรือยังครับ

    แบบเป็นข้อๆและมีระดับ เหมือน สมศ.หนะครับ

    มีรองท่านหนึ่งบอกว่า "ครูไม่มีสิทธิรู้เกณฑ์การประเมิน"(ผมว่าไม่น่าจะใช่ครับ ครูแหละควรจะรู้เกณฑ์ประเมินอย่างยิ่ง)

    ท่านรองช่วยตอบผมด้วยนะครับ

    ผมกำลังส่งคำขอครับ

    หรือมีไรแนะนำบ้างก็จะเป็นพระคุณมากๆครับ

    ขอบคุณครับ

    พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
    ClassStart
    ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
    ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
    ClassStart Books
    โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท