สอบบรรจุครูผู้ช่วย 53


สอบบรรจุครู 53

สพฐ.เตรียมเปิดสอบบรรจุครูเม.ย. 53 นี้ พร้อมดันวิชาสังคมให้มีความเข้มข้นขึ้น ส่งเสริมนักเรียนทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม


สพฐ.เตรียมเปิดสอบบรรจุครูเม.ย. 53 นี้ พร้อมดันวิชาสังคมให้มีความเข้มข้นขึ้น ส่งเสริมนักเรียนทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม .....   

สพฐ.เตรียมเปิดสอบบรรจุครูเม.ย. 53 นี้ พร้อมดันวิชาสังคมให้มีความเข้มข้นขึ้น ส่งเสริมนักเรียนทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคม

(15ธ.ค.)นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวภายหลังประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ว่า สพฐ. เตรียมเปิดสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุข้าราชการครูตำแหน่งครูผู้ช่วยในเดือน เม.ย. 2553 โดยขณะนี้ สพฐ.ได้สำรวจความต้องการและพบว่า มีสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) 28 เขต ที่มีตำแหน่งว่างรวมทั้งหมด 535 ตำแหน่ง 33 กลุ่มวิชา ซึ่ง สพท.ทั้ง 28 แห่งนี้ ประสงค์ที่จะเปิดสอบคัดเลือกครูทันที

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมผู้บริหาร สพฐ. ได้หยิบเรื่องนี้ขึ้นมาหารือ และเห็นว่า สพฐ.ยังมีบัญชีสอบคัดเลือกครูที่ขึ้นบัญชีไว้ 2 บัญชี โดย บัญชีแรก เปิดสอบในปี 2551 ซึ่งมีผู้ผ่านการสอบคัดเลือกและขึ้นบัญชีไว้ทั้งหมด 7,345 คน บัญชีครบกำหนด 2 ปีในเดือนพ.ค. 2553 หรืออีกประมาณ 5 เดือน อีกบัญชี ที่เปิดสอบในปี 2552 มีผู้ผ่านการสอบคัดเลือกและขึ้นบัญชีไว้ 16,660 คนบัญชีจะครบ 2 ปีในเดือน มิ.ย. 2554

เพราะฉะนั้น ที่ประชุมจึงเห็นว่า ยังไม่จำเป็นต้องเปิดสอบครูในปี 2552 อีก เป็นครั้งที่ 2 เพราะทั้ง 2 บัญชีที่มีอยู่เพียงพอสำหรับเรียกบรรจุในโรงเรียนที่มีตำแหน่งว่าง ประกอบกับโรงเรียนเอกชนไม่อยากให้มีการเปิดสอบบรรจุครูบ่อย ๆ โดยเฉพาะช่วงกลางภาคเรียน เพราะครูโรงเรียนเอกชนมักจะลาออกเพื่อมาสอบเป็นครูโรงเรียนรัฐ ทำให้โรงเรียนเอกชนต้องเผชิญปัญหาการขาดแคลนครู ดังนั้น สพฐ.จึงรอรวบสอบบรรจุครูอีกครั้งในปี 2553

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงผลงานวิจัยที่ สพฐ. ที่ให้คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ให้คิดวิธีวิจัยและศึกษาเรื่องการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ใน 4 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน และไทย ซึ่งได้ข้อสรุปว่าทุกประเทศล้วนแต่เห็นความสำคัญของการให้เด็กทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ซึ่งจะทำให้นักเรียนเกิดจิตสาธารณะ ในหลายประเทศกำหนดเรื่องการทำกิจกรรมเพื่อสังคมไว้ในหลักสูตรด้วย รวมถึงยังมีการสอนการปลูกฝังค่านิยมรักชาติ และการสอนเรื่องหน้าที่พลเมืองด้วย เพราะฉะนั้นจะให้มีการเพิ่มความเข้มข้นการเรียนการสอนวิชาสังคมศึกษา ทำให้วิชานี้เป็นวิชาที่น่าสนใจ และบูรณาการวิชาอื่น ๆ มาสอนด้วยกัน เช่น วิทยาศาสตร์ ศิลปะ รวมทั้งให้การทำกิจกรรมเพื่อสังคมเป็นส่วนหนึ่งของวิชานี้ด้วย โดยมีกิจกรรมจูงใจ เช่น ให้มีการนำคะแนนของการทำกิจกรรมเพื่อสังคมมาใช้ในการศึกษาต่อระดับสูงขึ้น ซึ่งจะมีการทำเรื่องนี้ให้เป็นประโยชน์ต่อไป
 

 เตรียมยกเลิกสอบบรรจุครูเหลือปีละครั้ง เอาใจร.ร.เอกชนหลังครูแห่ลาออกเป็นขรก.

 

 

 “ชินภัทร” เผยเขตพื้นที่ 28 เขต พบอัตราครูว่าง 535 ตำแหน่ง ยันโรงเรียนขาดครูเรียกบรรจุผู้ขึ้นบัญชี 2 บัญชีเพียงพอ ไม่ส่งผลกระทบ เตรียมยกเลิกสอบบรรจุเดือน ก.พ. หลัง ก.ค.ศ. กำหนดสอบปีละครั้งในเดือน เม.ย.เท่านั้น เอาใจ ร.ร.เอกชน เหตุมีเสียงบ่นสอบหลายครั้งทำครูแห่ลาออกสอบเป็นข้าราชการเพียบ พร้อมมอบ สพร.ทำข้อมูล หาแนวทางจัดการ บริหารตัวบุคคลในอีก 5-7 ปีข้างหน้า
       
       วันนี้(15 ธ.ค.) ดร.ชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(กพฐ.) กล่าวภายหลังการประชุมผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ว่า ที่ประชุมมีการหารือถึงการสอบแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ในตำแหน่งครูผู้ช่วยในครั้งที่ 2/2552 ซึ่งขณะนี้มีเขตพื้นที่การศึกษาอย่างน้อย 28 เขตที่มีอัตราว่างอยู่จำนวน 535 ตำแหน่ง ใน 33 กลุ่มวิชา ทั้งนี้ที่ผ่านมามีการสอบแข่งขันและขึ้นบัญชีเพื่อรอการบรรจุอยู่แล้ว 2 บัญชีคือ ครั้งที่ 1/2551 ที่มีผู้ขึ้นบัญชีรอการบรรจุอยู่ 7,345 คน และจะครบกำหนดขึ้นบัญชี 2 ปีในเดือน พ.ค. 2553 นี้ ขณะที่อีกบัญชีในครั้งที่ 2/2552 มีผู้ขึ้นบัญชีรอการบรรจุอยู่จำนวน 16,660 คน และจะครบกำหนดในเดือน มิ.ย.2554 นี้ ที่ประชุมจึงเห็นว่าทั้ง 2 บัญชีนี้ยังเพียงพอกับการที่หน่วยงาน หรือ โรงเรียนที่มีอัตรา ตำแหน่งว่างสามารถที่จะเรียกมาบรรจุได้ โดยไม่ส่งผลกระทบใดๆ
       
       ทั้งนี้ต่อไปคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) จะมีการกำหนดให้การสอบบรรจุมีขึ้นปีละครั้งในเดือนเม.ย. ซึ่งจะทำให้มีผู้สำเร็จการศึกษารุ่นจบใหม่สามารถเข้าสอบได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามมีเสียงเรียกร้องมาจากโรงเรียนเอกชนว่า การสอบหลายครั้งเหมือนที่ผ่านมาโดยเฉพาะการสอบกลางปีมีผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากครูจะลาออกมาเพื่อสอบเป็นข้าราชการ ดังนั้นเพื่อให้สมประโยชน์ในหลายฝ่าย และสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของ ก.ค.ศ.ที่จะออกมาในอนาคต ที่ประชุมจึงเห็นว่าจากเดิมที่มีการวางแผนให้จัดสอบในเดือน ก.พ.นี้ ให้รอไปก่อน โดยมาสอบในเดือนเมษายนตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด เพื่อให้เกิดผลดี ไม่ส่งผลต่อโรงเรียนเอกชนตามที่ร้องขอมา
       
       “โรงเรียนที่มีตำแหน่งว่างก็สามารถใช้บัญชีที่ขึ้นอยู่แล้วได้เลย อย่างไรก็ตามเรื่องการบริหารบุคคลสำคัญที่ผ่านมามีประเด็นเรื่องครูกระจุกตัว ครูเกิน บางเเห่งขาดครู ซึ่งการบรรจุยังไม่สอดคล้องตามแผนของโรงเรียน บางแห่งบรรจุในตำแหน่งที่มีครูอยู่แล้ว และเขตพื้นที่เองก็มีการบริหารงานกรอบอัตรากำลังที่ไม่ตรงไปตรงมา มีการบริหารไม่ชัดเจน ซึ่งภาพรวมที่มองเห็นคือยังไม่มีการเตรียมการเท่าที่ควร และจากข้อมูลพบว่าในอีก 5-7 ปีข้างหน้า จะมีครูเกษียณอายุราชการกว่าแสนคน ดังนั้นการควบคุมกรอบอัตรากำลังภาครัฐ เพื่อการกระจายครูในพื้นที่ที่ขาดแคลนหากยังไม่มีประสิทธิภาพ จะก่อให้เกิดปัญหาได้” เลขาฯ กพฐ. กล่าว
       
       นายชินภัทร กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ส่วนกลาง เขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา ต้องร่วมกันดำเนินการ โดยส่วนกลางได้มอบให้สำนักงานพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ(สพร.) เป็นผู้จัดเตรียมข้อมูล พร้อมทั้งหารือร่วมกับ คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) และ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(กพ.) รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อศึกษาการบริหารบุคลากรครูเพื่อให้เป็นรูปธรรม ในการเตรียมการอีก 5-7 ปีข้างหน้าด้วย ทั้งนี้ เขตพื้นที่การศึกษา และ โรงเรียนจะต้องมีแผนการจัดการอัตรากำลัง เพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการกำหนดการแต่งตั้ง บรรจุ ซึ่งจะเป็นไปตามแผนมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนอาจนำไปสู่ช่องทางในการหาผลประโยชน์ในการบรรจุอัตรากำลังได้
       
       “ทางสพร.ต้องสรุป วิเคราะห์แนวโน้มประชากรวัยเรียน และครู ให้สอดคล้องกัน ซึ่งเมื่อประชากรวัยเรียนเพิ่มขึ้นจำนวนของครูก็ต้องขึ้นตามในจำนวนที่ใกล้เคียงกัน แต่ตอนนี้จำนวนประชากรวัยเรียนเท่าเดิม แต่ครูกลับมีอัตรากำลังที่ลดลง ซึ่งต้องเสนอ คปร.ให้รับทราบถึงสภาพปัญหา เพื่อช่วยในการวางแผนบริหารตัวบุคคลในอนาคต และเชื่อว่าจะได้มาตรการที่ดีที่สุดต่อไป” เลขาฯ กพฐ.กล่าว

 

หมายเลขบันทึก: 328901เขียนเมื่อ 18 มกราคม 2010 11:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 พฤษภาคม 2012 20:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร (มน.) ให้คิดวิธีวิจัยและศึกษาเรื่องการจัดกิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ใน 4 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน และไทย ซึ่งได้ข้อสรุปว่าทุกประเทศล้วนแต่เห็นความสำคัญของการให้เด็กทำกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์ ซึ่งจะทำให้นักเรียนเกิดจิตสาธารณะ

....

เอารายละเอียดมาลงบ้างสิครับ

เป็นข้าราชการครูอยู่แล้ว สอบเพื่อย้ายได้บ่

ผมไม่แนใจนะครับ น่าจะได้นะคับ เพิ่งบรรจุเหรอครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท