8 อุปนิสัยของผู้ทรงประสิทธิผล==>สู่ความยิ่งใหญ่==>นั่งอยูในห้วใจของผู้คนรอบข้างได้จริง ๆ

เรียนเพื่อน ๆชาวBlog ที่เคารพยิ่ง

วันนี้ขอเอาเรื่องเก่า ๆมาเล่าให้ฟังใหม่นะคะ ในเรื่อง“The 7 habits of highly effective people (7 อุปนิสัย สำหรับผู้ทรงประสิทธิผลยิ่ง) และ The 8 th Habit (อุปนิสัยที่ 8) จากประสิทธิผล==> สู่ ==>ความยิ่งใหญ่” เป็นแนวความคิดของ Stephen R. Covey ได้อ่านแล้ว คัดย่อมาจากหนังสือแปล 2 เล่ม ที่อาจจะดูเก่าไปแล้วนะคะ==>แต่คิดว่ายังไม่ล้าสมัยนะคะ โดยเขาบอกว่าพฤติกรรมของเรา(ทุกคน)ประกอยด้วยอุปนิสัยต่าง ๆในตัว==>ความคิดจะส่งผลให้เกิด==>การปฏิบัติและเมื่อปฏิบัติเป็นนิจก็จะกลายเป็น=>อุปนิสัย (Habit)และเมื่อมีอุปนิสัย==>ก็จะกลายเป็น คุณลักษณะ (Character)และในที่สุดจะกลายเป็นวิถีชีวิต(Lifestyle) อุปนิสัยเป็นปัจจัยสำคัญต่อชีวิต และเกิดขึ้นตลอดเวลา จนเราเกือบไม่รู้ตัว ==>แต่เราสามารถ "สร้าง”อุปนิสัยที่มีประสิทธิผล ให้เกิดขึ้นกับตัวเราได้ด้วย==>ความอดทน + ตั้งใจจริง==>โดยท่านลองอ่านConcept ของ Stephen R. Covey ซึ่งมีดังนี้นะคะ

อุปนิสัยที่ 1 : Proactive คือ มีความคิดริเริ่ม มีเสรีภาพที่จะเลือก รับผิดชอบต่อการเลือกของตนเอง เป็นผู้นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง=เป็นหลักการวิสัยทัศน์ส่วนบุคคล นั้นหมายถึงเป็นคนมีอิสระในการเลือก มีทางเลือกตนเองบนพื้นฐานค่านิยมที่ถูกต้อง รับผิดชอบต่อทางเลือกตนเอง อุปนิสัยที่ 1==>จะเป็นพื้นฐานของอุปนิสัยที่ 2 ถึง 7 ได้

อุปนิสัยที่ 2 : เป็นหลักการเป็นผู้นำในตนเอง หลังจากมีทางเลือกของเรา==>เราต้องสร้างภาพในใจขึ้นมา เหมือนแผนที่นำทางว่าอยากเห็นตนเองเป็นอย่างไร? อยากเห็นผลงานเป็นอย่างไร? จากนั้นลงมือปฏิบัติ สรุปคือ เริ่มต้นด้วยจุดหมายในใจ ไม่ดำเนินชีวิตไปวันๆ ไม่มีแผนการอะไรไม่ได้แล้วนะคะ

อุปนิสัยที่ 3 : ทำสิ่งที่สำคัญก่อน = หลักการบริหารส่วนบุคคล==>เป็นขั้นลงมือปฏิบัติ โดยเริ่มต้นจากเรื่องที่สำคัญก่อน “ทำในสิ่งที่สำคัญในชีวิตก่อน” ไม่ใช่ทำตามความเร่งด่วนและแรงผลักดันรอบตัว จะทำอย่างนั้นได้ต้อง“บริหารเวลา” สรุปสิ่งที่ต้องทำคือ“เรื่องสำคัญ”ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน หากทำได้ก็จะ==>สามารถพึ่งตัวเองได้

อุปนิสัยที่ 4 : คิดแบบ win: win (ชนะ:ชนะ) เป็นการคิดอย่างใจกว้าง มองโลกว่ามีโอกาสมากมายสำหรับทุกคน สรุปได้ว่าถ้าเราทำอะไรแล้วครอบครัวได้==>เราได้ด้วย....ถ้าองค์กรได้==>เราได้ด้วย Concept นี้ทำให้เกิดความร่วมมือกัน...แต่ถ้าคิดทางตรงข้ามแบบ..ตนเองชนะ==>คนอื่นแพ้ก็จะเกิดการแข่งขันกัน ไม่สร้างสรรค์เลยนะคะ

อุปนิสัยที่ 5 : เข้าใจผู้อื่นก่อน...แล้วจึงให้ผู้อื่นเข้าใจเรา=คือเป็นหลักการผู้นำระหว่างบุคคล ถ้าคิดแบบชนะ:ชนะ ==>เราจะไม่ยอมเข้าใจผู้อื่นก่อน==>การจะเข้าใจผู้อื่นก่อนได้ต้อง “ฟังใหมาก ๆ” เพื่อเรียนรู้และเข้าใจผู้ที่เราฟัง แต่ถ้าไม่ฟังและพูดอย่างเดียวก็จะไม่เข้าใจ เมื่อเข้าใจแล้ว...เขาก็จะเข้าใจเราเช่นกัน

อุปนิสัยที่ 6 : ผนึกพลังประสานความต่าง - หลักการร่วมมืออย่างสร้างสรรค์ = ผลึกกำลัง ผสานความต่าง เป็นทางเลือกใหม่ ไม่ใช่วิธีของฉัน วิธีของคุณ แต่เป็นวิธีที่สามซึ่งดีกว่า เป็นการร่วมมือกันอย่างสร้างสรรค์แบบ 1+1>2หรือมากกว่านั้น เกิดความร่วมมือกัน(synergy)เมื่อนั้นเราจะมี==>ชัยชนะ... หากเราสามารถพึ่งพากันได้

อุปนิสัยที่ 7 : ลับเลื่อยให้คมอยู่เสมอ = หลักการเติมพลังชีวิตให้สมดุล โดยปรับปรุงตัวเองอยู่เสมอ==>เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของเรา ทั้ง 4 ด้านแบบองค์รวม อย่างต่อเนื่องคือ ด้านร่างกาย ด้านสติปัญญา/อารมณ์ ด้านสังคม และจิตวิญญาณหรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า “ไคเซ็น” เมื่อตนเองมีประสิทธิผลสูงสุดแล้ว==>จะโยงมาถึงอุปนิสัยที่ 8 ที่จะมุ่งให้“ฟังเสียงของตนเอง” เข้าใจความต้องการที่แท้จริงของตนเองและเป็นแบบอย่างที่ดี(Role Model)==>เป็นแรงบันดาลใจ(Inspiration)ให้ผู้อื่นปฏิบัติตาม เขาจะค้นพบเหมือนที่เราค้นพบ และจะนำไปสู่ความยิ่งใหญ่ (The 8 th. Habit : From Effective to Greatness)

อุปนิสัยที่ 8 : ค้นหาศักยภาพที่แฝงอยู่ภายในตัวเรา==>พลังที่ยังไม่ได้รับการปลดปล่อยออกมา หรือที่ Covey เรียกว่า“เสียง” ภายในตัวเรา==>เพื่อนำมาสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ รอบตัว ==>ความสำเร็จที่แท้จริงนั้น ต้องก่อให้เกิด “ความภูมิใจและความสุขใจ” ซึ่งจะเป็นพลังในการโน้มน้าวจิตใจให้ผู้อื่น==>หันมาค้นหาของตนเองเช่นกัน

เพื่อน ๆอ่านแล้วพิจารณาดูนะคะว่าท่านทำได้....กี่ข้อ...ฝึกทำเรื่อย ๆนะคะแล้วท่านจะเป็น “ผู้ทรงประสิทธิผล” อย่างแน่นอนคะ...เราเชื่อว่าคุณทำได้แน่นอน..ใช่เลยละคะ

สมศรี นวรัตน์

รพ. บ้านลาด

จ.เพชรบุรี

เขียนใน GotoKnow โดย Dr. Ple
ใน สมศรี นวรัตน์ ศิษย์ ศ.ดร.จีระ หงส์ลดารมภ์

คำสำคัญ (Tags): #8 อุปนิสัยของผู้ทรงประสิทธิผล>สู่ความยิ่งใหญ่>นั่งอยูในห้วใจของผู้คนรอบข้างได้จริง ๆ

หมายเลขบันทึก: 328620เขียนเมื่อ 16 มกราคม 2010 23:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:15 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่าน