หน้าที่ครูกับเด็กสมาธิสั้น


ครูที่มีใจต่อเด็กพิเศษ เป็นอีกหนึ่งที่ต้องขอบคุณและยกย่องอย่างมาก

วันนี้วันครู เป็นวันที่ลูกศิษย์ทุกคนจะแสดงความรักและนึกถึงพระคุณของครู ที่เสียสละและทุ่มเท เพื่อสร้างอนาคตที่ดีให้แก่เรา และเช่นกันในฐานะครูก็ต้องทบทวนบทบาทด้วยเช่นกัน เห็นว่าครูที่มีใจต่อเด็กพิเศษ เป็นอีกหนึ่งที่ต้องขอบคุณและยกย่องอย่างมาก เพราะมีความยากลำบากและอดทนอย่างมาก ด้วยปัญหาที่ยุ่งยากซับซ้อนของเด็ก วันนี้ได้รวบรวมบทบาทของครูที่สามารถช่วยเด็กสมาธิสั้นได้ เพื่ออนาคตที่ดีของเด็กต่อไป

  1. จัดเด็กให้นั่งหน้าชั้น หรือใกล้ครูให้มากที่สุด เพื่อครูจะได้เตือนเด็กให้กลับมาตั้งใจเรียนเมื่อสังเกตว่าเด็กเริ่มขาดสมาธิ นอกจากนี้ควรให้เด็กนั่งอยู่ในตำแหน่งที่พูห้อมล้อมด้วยเด็กเรียบร้อยที่ไม่คุยในระหว่างเรียน
  2. จัดให้เด็กนั่งอยู่กลางห้อง หรือให้ไกลจากประตูหน้าต่าง เพื่อลดโอกาสที่เด็กจะถูกทำให้วอกแวกโดยสิ่งต่างๆ ที่อยู่ในและนอกห้องเรียน
  3. เมื่อเด็กหมดสมาธิจริงๆ ควรจัดกิจกรรมที่เปลี่ยนอิริยาบถและเป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ให้เด็กทำ เช่น มอบหมายหน้าที่ให้ช่วยครูเดินแจกสมุดให้เพื่อนๆ ให้ห้อง ลบกระดานดำ เติมน้ำใส่แจกัน เป็นต้น ก็จะช่วยลดความเบื่อของเด็กลง และทำให้เรียนได้นานขึ้น
  4. ให้คำชมเชย หรือรางวัลเล็กๆ น้อยๆ เมื่อเด็กปฏิบัติตัวดี หรือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์
  5. คิดรูปแบบวิธีเตือนหรือเรียกให้เด็กกลับมาสนใจบทเรียนโดยไม่ทำให้เด็กเสียหน้า เช่น เคาะที่โต๊ะเด็ก แตะไหล่เด็ก เป็นต้น
  6. เขียนการบ้าน หรืองานที่เด็กต้องทำในชั้นเรียนให้ชัดเจนบนกระดานดำ พยายามสั่งงานด้วยวาจาให้น้อยที่สุด
  7. หากจำเป็นต้องสั่งงานด้วยวาจา ควรหลีกเลี่ยงการสั่งพร้อมกันทีเดียวหลายๆ คำสั่งควรให้เวลาให้เด็กทำเสร็จทีละอย่างก่อนให้คำสั่งต่อไป หลังจากให้คำสั่งแก่เด็ก ควรถามเด็กด้วยว่า ครูต้องการให้เด็กทำอะไร เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าเด็กรับทราบและเข้าใจคำสั่งอย่างถูกต้อง
  8. ตรวจสมุดงานของเด็กเพื่อให้แน่ใจว่าเด็กจดงานได้ครบถ้วน
  9. ในกรณีที่เด็กมีสมาธิสั้นมาก ควรลดระยะเวลาการทำงานให้สั้นลง โดยให้เด็กพยายามทำงานให้เสร็จทีละอย่าง และแต่ละอย่างใช้เวลาไม่นานมากนัก พยายามเน้นในเรื่องความรับผิดชอบทำงานให้เสร็จ
  10. หลีกเลี่ยงการใช้วาจาตำหนิ ประจาน ประณาม ที่ทำให้เด็กอับอายขายหน้า และไม่ลงโทษเด็กด้วยความรุนแรง (เช่น การตี) หากเป็นพฤติกรรมจากโรคสมาธิสั้น เช่น ซุ่มซ่ามทำของเสียหาย หุนหันพันแล่น เพราะเด็กมีความลำบากในการคุมตัวเองจริงๆ แต่ควรจะเตือน และสอนอย่างสม่ำเสมอว่าพฤติกรรมใดไม่เหมาะสม และพฤติกรรมที่เหมาะสมคืออะไร เปิดโอกาสให้เด็กได้แก้ไขตัวเอง เช่น เก็บของเข้าที่ใหม่ ชดใช้ของที่เสียหาย
  11. ใช้การตัดคะแนน งดเวลาพัก ทำเวร หรือยู่ต่อหลังเลิกเรียน (เพื่อทำงานที่ค้างอยู่ให้เสร็จ) เมื่อเด็กทำความผิด

 

12. พยายามมีทัศนคติเชิงบวกต่อเด็ก มองหาจุดดีของเด็กและสนับสนุนให้เด็กได้แสดงออกถึงข้อดี หรือความสามารถของตัวเอง

13.พยายามสร้างบรรยากาศที่เข้าใจและเป็นกำลังใจให้เด็กพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดี ขึ้น

14.ให้ความช่วยเหลือด้านการเรียนเป็นพิเศษ เนื่องจากเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นมักจะมีปัญหาการเรียนร่วมด้วย

15.เด็กเป็นโรคสมาธิสั้น ควรได้รับการสอบแบบ “ตัวต่อตัว” เนื่องจากครูสามารถคุมให้เด็กมีสมาธิ และสามารถยืดหยุ่นการเรียนการสอนให้เข้ากับความพร้อมของเด็กได้ดีกว่า

16ฝึกให้จัดระเบียบการเรียน การทำตามคำสั่ง การตรวจทบทวนผลงาน การจดบันทึกและการใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพ

17.ครูควรให้เวลาที่ใช้ในการสอน สำหรับเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นนานกว่าเด็กปกติ

18.เด็กอาจมีปัญหาการปรับตัวเข้ากับเพื่อน เพราะเด็กมักจะใจร้อน หุนหัน เล่นแรง ในช่วงแรกอาจต้องอาศัยคุณครูช่วยให้คำตักเตือน แนะนำด้วยท่าทีที่เข้าใจ เพื่อให้เด็กปรับตัวได้ และข้าใจกฎเกณฑ์การอยู่ร่วมกับผู้อื่น

19.เด็กที่มีสมาธิสั้นบางครั้งเพียงใช้การบอก เรียกหรืออธิบายอย่างเดียวเด็กอาจไม่ฟังหรือไม่ทำตาม คุณครูควรเข้าไปหาเด็กและใช้การกระทำร่วมด้วย เพื่อให้เด็กมีพฤติกรรมตามที่คุณครูต้องการ เช่น เมื่อต้องการให้เด็กเข้ามาในห้องเรียน หากใช้วิธีเรียกประกอบกับการโอบหรือจูงตัวเด็กให้เข้าห้องด้วย จะได้ผลดีกว่าเรียกเด็กอย่างเดียว

20.ในกรณีที่แพทย์จ่ายยาเพิ่มสมาธิให้เด็กรับประทานในมื้อเที่ยง เด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นมีโอกาสสูงที่จะลืมรับประทานยา ครูสามารถช่วยได้โดยคอยเตือนเด็กให้รับประทานยา หรือให้เด็กฝากยาไว้กับครูและกำชับให้เด็กมารับยาจากครูไปรับประทาน

21.ติดต่อกับผู้ปกครองของเด็กอย่างสม่ำเสมอเพื่อรายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็ก

หมายเลขบันทึก: 328512เขียนเมื่อ 16 มกราคม 2010 11:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 22:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ขอบคุณครับครูอ้อย ดีใจแทนเด็กๆที่นั่นนะครับ และน่าเห็นใจครูและเด็กของเรามากนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท