หนูมีโอกาสได้เข้าไปเรียนหลักสูตร Proactive Leader ซึ่งจัดเป็นอุปนิสัยที่ 1 จาก 7 อุปนิสัย โดยประเด็นหลัก สำนักงาน ก.พ. ปรารถนาให้ HiPPs มีความสามารถในการพัฒนาตนเอง อืมจะว่าไปต่อหัว นี่ราคาไม่น้อยทีเดียวค่ะ ฟังแล้วก็รู้สึกอึ้ง เพราะหนูรู้สึกว่าเป็นภาษีประเทศชาติ
พอเข้าไปฝึกอบรม เป็นหลักสูตรที่กระตุ้นให้เราทบทวนตนเองปรับแก้ที่ตนเองก่อน ถ้าอยากแก้ไขอะไรแก้ที่ตนเองก่อน ใช้สติ เป็นตัวนำความคิด แล้วตัดสินใจโดยใช้จิตสำนึกที่ปราศจากอารมณ์ครอบงำ นี่คือ เครื่องมือที่เขาให้มา สิ่งที่ได้มาจากการอบรมคือ หลักการพัฒนาตนเอง แต่ประเด็นคือ แต่ละคนต้องมาฝึกฝนตนเอง
เรื่องของเรื่องจากที่หนูพยายามฝึกฝนตนเอง พัฒนาใจตนเอง โดยมีครูท่านเมตตาสั่งสอนประคับประคองมาตลอดอย่างที่ครูท่านใช้คำว่า "พุทธวิธีเนียนไปกับวิถีชีวิต" ท่านอดทนสั่งสอนหนูมาตลอด ด้วยความเหนื่อยยาก อย่างที่หนูเคยเล่า ครูแทบจะเป็นคนจ้างหนูเรียน ท่านเลี้ยงข้าวหนู ขับรถพาหนูไปโน่นไปนี่ พาหนูไปในที่ต่าง ๆ แต่ท่านไม่ได้ค่าตอบแทนที่เป็นเงินจากหนูเลย ท่านไม่ต้องการอะไรจากหนูเลยด้วยซ้ำ หนูก็ยังพัฒนาตนเองมาได้เพียงลุ่ม ๆ ดอน ๆ
อาจจะด้วยโอกาสที่หนูได้จากการสอบทุนนี้ได้ ทำให้ได้เข้าคอร์สพัฒนาตนเอง พัฒนาศักยภาพภายในหลายคอร์ส
แต่ท่านรู้ไหมค่ะ หนูรู้สึกว่า หลักสูตรที่ฝรั่งทำ แล้วเขียนเป็นตำรา หนูรู้สึกว่า ไม่เจ๋งเท่าที่คนไทยทำ
ยิ่งเรียนหนูก็ยิ่งรู้สึกว่า พระพุทธเจ้าท่านมีเมตตามาก ๆ ท่านเป็นผู้ที่เลิศหล้า ในทุก ๆ ด้านสิ่งที่
ท่านค้นพบมากว่าสองพันห้าร้อยปี ฝรั่งพึ่งมาค้นพบและเผยแพร่ไม่นาน
ตอนนี้หนูเข้าใจแล้ว ทำไมเขาถึงบอกว่า
โชคดีแล้วที่ได้เกิดมาในแผ่นดินที่มีพระพุทธศาสนา โชคดีแล้วที่มีโอกาสได้ยินได้ฟังธรรมะ เหลือเพียงอย่างเดียวคือปฏิบัติ
หนูถามตนเองหนูทำรึยัง คำตอบคือ หนูพยายามอยู่ และก็สัญญากับตนเองว่า หนูจะไม่หยุด หนูจะอดทน จนกว่าการปฏิบัติของหนูจะถึงพร้อม
หนูได้เกิดในแผ่นดินที่มีพระพุทธศาสนาแล้ว ได้ฟังธรรมแล้ว เหลือเพียงปฏิบัติธรรม ให้สมควรแก่ธรรม นี่แหละ คือสุดยอดแห่งการเรียนรู้ สุดยอดแห่งการพัฒนาตนเอง
แวะมาทักทายค่ะ เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะสำหรับความคิดเห็นของคุณใบไม้ร้องเพลงนะคะ ทั้งในเรื่องความโชคดีที่เราได้เกิดมาเป็นคนไทย ได้อยู่ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และมีศาสนาพุทธที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้แนวทางแห่งการพ้นทุกข์ คือ อริยสัจ 4 แล้วได้นำมาเผยแผ่ให้แนวทางในการลงมือปฏิบัติเพื่อพ้นทุกข์ ซึ่งคนจะล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียรเท่านั้นค่ะ นั่งอยู่เฉยๆ ไม่ลงมือทำอะไรเลย ไม่ปฏิบัติก็ไม่พ้นทุกข์นะคะ เนาะ
ดิฉันเพิ่งอ่านธรรมนิยายอิงประวัติในพุทธกาล เรื่อง "พระอานนท์ พุทธอนุชา" ของอ.วศิน อินทสระ จบไปด้วยความอิ่มเอมใจมาก ซึ่ง Encyclopedia of World Literature in 20th Century ยกย่องให้เป็นวรรณกรรมของโลก จึงขอถือโอกาสนี้แลกเปลี่ยนนะคะ ทาง more of life publishing โดยบริษัท รักลูกกรุ๊ป จำกัด นำมาจัดพิมพ์เผยแพร่ตามคำแนะนำของ ท่านว.วชิรเมธี โดยได้ขออนุญาตอาจารย์วศิน ตัดทอนมาลงพิมพ์เฉพาะบางส่วนเพื่อให้ผู้อ่านทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย สามารถอ่านได้สะดวก โดยมีคุณอรสม สุทธิสาคร เป็นบรรณาธิการต้นฉบับ
ลองหาอ่านดูนะคะ
ขอบพระคุณค่ะคุณ แววรุ้ง ที่เมตตาแลกเปลี่ยน และให้ข้อมูล พระอานนท์เป็น สาวกองค์หนึ่งของพระพุทธเจ้าที่หนูเทิดทูนและศรัทธาท่านในหลาย ๆ ด้าน โดยเฉพาะการเป็น อุปฐากขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
กราบขอบพระคุณค่ะ ที่เมตตาแลกเปลี่ยน
ผมก็เห็นด้วยกับคุณใบไม้ร้องเพลง พุทธธรรมของชาวเราเป็นสิ่งที่เรียกได้ว่า ทันสมัย ใหม่เสมอ (อะกาลิโก)
การดำเนินชีวิตของเราในแต่ละวัน หากลองพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ล้วนแต่เป็นไปตามแนวพุทธธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า