อาสามาเติมรัก


ความรักไม่ได้เกิดจากการซื้อหา แต่ให้ได้มาต้องช่วยกันทำ นี่แหละคือ อาสามาเติมรัก

อาสามาเติมรัก

 

เกริ่น บทความนี้เขียนไว้นานแล้วแต่ยังคิดถึงเพื่อนๆ อาสามาเติมรักที่เรายังติดต่อกันอยู่และน้องโรงเรียนวัดใหม่ช่องลมทุกคน ไม่รู้ตอนนี้น้องจะเป็นอย่างไรบ้างหนอ แต่ความรักที่เติมให้กันจากวันนั้นถึงวันนี้ผมไม่มีคลายลงไปจากใจได้ แล้วเจอกันใหม่อาสามาเติมรักทุกคน


"เสาร์เฮฮา อาสามาเติมรัก"
เป็นโครงการเปิดพื้นที่พาเหล่าอาสาสมัคร ผู้เปี่ยมล้นไปด้วยความรักในหัวใจ มาร่วมแบ่งปันให้กับน้องๆ ผู้รอคอยความรักจากคนรอบข้าง ณโรงเรียนวัดใหม่ช่องลม สร้างบรรยากาศแห่งความสุข เสียงพี่ร้อง น้องเต้น เสียงหัวเราะและความสนุกสนานให้เกิดขึ้น อบอุ่นไปทั่วบริเวณ

โครงการเสาร์เฮฮา อาสามาเติมรัก ในครั้งนี้จัดขึ้นโดยโครงการส่งเสริมการให้เพื่อสังคม (Give2all.com) มูลนิธิกองทุนไทย โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างคนในสังคมด้วยกัน รู้จักการให้และการแบ่งปัน โดยเฉพาะสิ่งที่เรียกว่า "ความรัก" ให้แก่กันและกัน โดยมีกลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จ กลุ่มคนทำงานจากบริษัท พีน่าเฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) กลุ่มอาชีพอิสระ และเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิกองทุนไทย อาสามาเป็นพี่เลี้ยงให้กับน้องๆ จากโรงเรียนวัดใหม่ช่องลม รวมผู้เข้าร่วมโครงการมากกว่า 30 คน

โรงเรียนเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้กำแพงวัดที่มีชื่อเดียวกันว่า "วัดใหม่ช่องลม" แห่งนี้ ตั้งอยู่ริมถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แถวสี่แยกอโศก มีเด็กกว่า 400 ชีวิต ใช้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในชุมชนริมคลองแสนแสบบริเวณหลังวัด ชุมชนก่อสร้างและสถานีรถไฟ ซึ่งความจริงแล้วก็ดูไม่ได้แตกต่างอะไรจากเด็กๆ ทั่วไป ที่เราเห็น แต่หลังกำแพงวัดที่แน่นหนา ลึกไปในแววตาที่ใสบริสุทธิ์นั้น ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่มองเห็นบางอย่างเป็นความบกพร่องซ่อนอยู่ ที่เราหรือคนในสังคมทุกคนต้องช่วยกันเติมให้เต็ม

"เพราะเราเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น"  ตู่ เจ้าหน้าที่โครงการส่งเสริมการให้เพื่อสังคม (Give2all.com) ของมูลนิธิกองทุนไทยกล่าว และอธิบายต่อว่า "เราเห็นว่าเด็กที่นี่ ขาดอะไรอยู่มาก ไม่ใช่เงิน ไม่ใช่สิ่งของ แต่เป็นความรักและความเอื้ออาทรจากคนในสังคมด้วยกันเอง

ทำไมเราเลือกโรงเรียนแห่งนี้ ผมคิดว่า การที่เราจะให้อะไร กับใครสักคน เราน่าจะเริ่มจากสิ่งที่อยู่ใกล้ๆ ตัวก่อน ซึ่งโรงเรียนวัดใหม่ช่องลม กับมูลนิธิกองทุนไทยก็เปรียบเสมือนเพื่อนบ้านกันอยู่แล้ว เพราะอยู่ใกล้กันแค่นี้เอง เดินไปก็ถึง

ครั้งที่แล้วก็มาร่วมกิจกรรมกัน ได้เห็นปัญหาอย่างหนึ่งว่า เด็กที่นี่ขาดต้นแบบบางอย่าง ถามเด็กว่า เด็กอยากเป็นอะไร มีเด็กผู้ชายหลายคนตอบไม่ได้ มีไม่กี่คนหรอกที่อยากเป็นครู เป็นหมอ เราเลยคิดว่าต้องทำอะไรบางอย่าง น่าจะเป็นกิจกรรมที่ให้เด็กๆ เหล่านี้ มาเจอกับนักศึกษา หรือกลุ่มคนทำงานอื่นๆ ได้เล่น สนิทสนม สัมพันธ์กัน เด็กจะได้มีมุมมองใหม่ เห็นว่าเออ มันยังมีอะไรที่หลากหลายนะ พี่เรียนอะไรเป็นยังไง พี่ทำงานแบบไหน ต้องจบอะไรมา"

บรรยากาศแห่งความสุข เริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนเช้า เด็กๆ กับพี่ๆ อาสามาพบกัน แนะนำตัวกันพอหอมปากหอมคอ ก่อนจะแบ่งกลุ่มทำกิจกรรม ร้อง เล่น เต้น กินขนม แล้วแลกเปลี่ยนของที่ระลึกระหว่างกัน ตุ๊กตาน่ารักหลากสีสัน กับขนมอร่อยๆ ได้มาจากคนใจดีขับรถเอามามอบให้แต่เช้า แต่ด้วยภารกิจจึงไม่อาจอยู่ร่วมงานได้ ก่อนจะมีการรับประทานอาหารร่วมกันในมื้อเที่ยงจากคุณครูใจดีของโรงเรียนวัดใหม่ช่องลม และคุยสรุปบทเรียนของบรรดาคนอาสาในตอนท้ายกิจกรรม

คุณทูน ภาษีธรรม อาจารย์วิทยาศาสตร์โรงเรียนวัดใหม่ช่องลม กล่าวว่า "เคยจัดกิจกรรมแบบนี้กับทางมูลนิธิกองทุนไทยแล้ว คราวที่แล้วก็ได้ผลตอบรับดีมาก เด็กสนุกมาก

เด็กที่นี่ส่วนใหญ่อาศัยอยู่บริเวณชุมชนคลองแสนแสบ ชุมชนก่อสร้าง แล้วก็ชุมชนติดรางรถไฟ (บริเวณแยกอโศก) ส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัดตามพ่อแม่มาหาเช้ากินค่ำในกรุงเทพฯ ไม่ใช่เด็กพื้นที่ ไม่ได้ร่ำรวยอะไร หลายครอบครัวไม่สมบูรณ์ บางคนไม่มีพ่อแม่เลยอาศัยอยู่กับยาย โดยเฉพาะเด็กบางคนมีแผลตามตัวมาตลอด

การมีกิจกรรมอะไรก็ได้ ที่ให้เด็กได้มีโอกาสทำร่วมกันกับคนในสังคม มันช่วยกระตุ้นจิตสำนึกได้ เป็นการพัฒนาศักยภาพเด็กด้วย ที่ผ่านมาจะมีโครงการปลูกป่า การให้ เห็นได้ชัดคือการออม เด็กจะกระตือลือล้นมาก โดยส่วนตัวถ้ามีคนเป็นต้นแบบให้แก่เด็กได้ก็ดี เราเป็นครูเห็นเด็กได้เรียนสูงๆ มีงานดีๆ ทำเราก็พอใจ ยินดีอยู่แล้วที่จะให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรม อะไรที่เด็กๆ จะได้รับ ไม่ได้มองว่าเป็นการรบกวนอะไรเลย

ดีใจที่เห็นแบบนี้ ส่วนใหญ่ถ้านักศึกษาทำกิจกรรม ผมจะนึกถึงการออกค่ายมากกว่า แต่น้องๆ เก่งกันทุกคน ชื่นชมมาก วันหยุดแท้ๆ แทนที่จะได้พักผ่อนหรือมีภาระกิจส่วนตัวที่จะต้องทำกลับต้องมาทำอะไรแบบนี้ เกมแต่ละเกมก็สร้างสรรค์ ทำให้เด็กมีพัฒนาการในการเรียนรู้ต่อไป น่าจะทำต่อไป"

คุณหัสพล พวงแก้ว หรือ หยุย อาสามัครที่เข้าร่วมกิจกรรมซึ่งปกติแล้ววันนี้จะเป็นวันหยุดให้เขาอยู่ที่บ้านพร้อมครอบครัว แต่วันนี้เขาก็เลือกที่จะมาร่วมกิจกรรม "โดยส่วนตัวเป็นคนรักเด็กอยู่แล้ว พอรู้ว่ามีกิจกรรมเกี่ยวกับเด็กก็มาร่วม ครั้งที่แล้วก็มา สำหรับผม ในฐานะผู้ใหญ่คนหนึ่ง แค่อยากรู้ว่าเด็กขาดอะไร เราจะได้เติมให้ถูก เด็กบางคนคนมีพ่อ มีแม่ มีเงิน แต่เขาอาขขาดอะไรบางอย่าง เช่นความรักความเอาใจใส่ ทีนี้เราก็มาดูว่าเราสามารถทำอะไรได้ ผมไม่มีเงินทอง ผมมีแต่ความรัก มีแต่เกมสนุกๆ กับเวลาเสาร์อาทิตย์เท่านั้น

เห็นเขามีความสุข เขาชอบเราก็พอใจ เท่าที่ผมสังเกต ของขวัญเด็กไม่ได้อยากได้เท่าไหร่ ให้เขาก็เอา ไม่ให้เขาก็ไม่อยากได้ สิ่งที่เด็กๆ เรียกร้องจะเป็น การได้เล่นเกมต่อ อยากเล่นมากกว่า เด็กกรุงเทพฯ ที่เล่นมันมีน้อย ผมเข้าใจ ถ้าเด็กไปเล่นกลางถนนก็ไม่ได้ เด็กร้องเพลงเต้นก็หาว่าเด็กบ้าบ้าง อะไรบ้างแต่วันนี้มีคนเห็นและเปิดพื้นที่ให้พวกเขา

เรื่องของเด็กมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน อยากให้ มีคนสนับสนุนเพราะเราทำคนเดียวไม่ได้ ถ้าเราสอนให้เขารู้จักการให้ เมื่อเติบโตขึ้นเขาก็จะเชื่อในเรื่องของการให้ มันเป็นลูกโซ่ที่ควรต่อให้ต่อเนื่อง หากวันหนึ่งเราแก่ตัวลง เราทำอะไรเพื่อสังคมแบบนี้ไม่ไหว จะได้มีเด็กพันธุ์มาใหม่ทำต่อ โดยไม่ได้คิดว่าเป็นภาระที่ผลักให้ใครคนใดคนหนึ่ง แต่มันคือความร่วมมือกันทางสังคมของคนทุกคน"

วรรณพ การะเกตุ หรือ ทศ ดีไซเนอร์ หนุ่มจาก พีน่าเฮ้าส์ อาสาสมัครอีกคน ที่มาร่วมงานได้เพราะโปสการ์ดหนึ่งใบข้อความเชิญชวนร่วมกิจกรมจากร้านอาหารแห่งหนึ่ง ทั้งๆ ที่ไม่เคยทำกิจกรรมมาก่อน กล่าวถึงความรู้สึกที่มาร่วมงานในครั้งนี้ว่า "สนุกนะ เราทำงานเครียด แต่พอมาเจอเด็กๆ เหมือนเจอผ้าขาว เด็กเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่เราปลูกไว้ มะม่วงที่เราปลูก มันก็คือต้นมะม่วง แต่มันจะเปรี้ยว จะมัน จะหวาน มันอยู่ที่สังคมเป็นตัวกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทบาทของรอบครัว บางครั้งสังคมก็ใจร้ายกับเด็กพวกนี้มาก จะให้อะไรแก่เด็กก็ไม่เคยกลั่นกรองเลย เด็กเขาไม่รู้หรอกว่าสิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดี บางครั้งก็ทำตามความคะนองของวัย ผมชอบคำพูดที่ว่า ‘เด็กสมัยนี้สำลักเสรีภาพ’ เด็กมีเสรีภาพมากจนไม่รู้จักคุณค่าของมัน

ในสมัยเรียนไม่ได้ทำกิจกรมแบบนี้เลย แต่ผมได้ทุนเรียนนะ ได้ทุนจากรัฐบาล มาจากภาษี เหมือนสังคมส่งเสียให้ผมได้เรียนพอมีโอกาสที่จะได้ทำอะไรเพื่อสังคมบ้าง อาจเป็นสิ่งเล็กๆ น้อยๆ แต่อย่างน้อยผมก็รู้สึกว่าผมได้ทำแล้ว และถ้ามีโอกาสก็อยากทำอีก"

น้องอัฐ เด็กนักเรียนชั้นป. 5 โรงเรียนวัดใหม่ช่องลมกล่าวถึงความรู้สึกหลังจากที่ได้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ว่า "รู้สึกดีใจครับ ที่เห็นพี่ๆ มา ได้ร้องเพลง ได้เล่นเกม ได้เต้นไปหลายเพลงเลย เหนื่อยครับ แต่สนุก เพราะผมชอบเต้น ได้กินขนม มีตุ๊กตา 'ชิ เหม่ โจ ได๋' กลับบ้านด้วย เสียดายแทนเพื่อนๆ ที่ไม่ได้มา

โตขึ้นเหรอ ผมอยากเป็นนักแสดงครับ ผมอยากเล่น อยากแสดง ผมชอบเวลาที่มีคนมามองผมทำอะไร แล้วเขามีความสุขกลับบ้าน เหมือนวันนี้ผมมีความสุขมาก อยากให้พี่ๆ มาอีก"

เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า ส่วนผู้ใหญ่ในวันหน้าจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับว่าเรา (ผู้ใหญ่วันนี้) ให้ความสำคัญกับเขามากน้อยแค่ไหน การสรรสร้างอนาคตของชาติเป็นสิ่งที่ทุกคนควรมีส่วนร่วม ไม่ใช่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง บรรยากาศทางสังคมเป็นสิ่งที่เราสร้างได้ หากวันนี้เราเห็นในส่วนที่ขาด ส่วนที่ไม่สมบูรณ์ของเด็ก ไม่ว่าตรงจุดไหน จะเล็กจะใหญ่ ขอเพียงเราไม่ดูดาย ช่วยกันเติม ช่วยกันแต่ง ปิดช่องว่างนั้น แล้วเด็กก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ และในที่สุดเป็นสังคมที่สมบูรณ์ ที่ทุกคนปราถนาและรอคอย

 ปล.แล้วคุณอยากมาร่วมกันเป็นอาสามาเติมรักไหมครับ คิดว่าอยากจะจัดอีกสักครั้งเพียงออกแรงมาร่วมกันเท่านั้นพอ

หมายเลขบันทึก: 327346เขียนเมื่อ 13 มกราคม 2010 08:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 2 พฤษภาคม 2012 02:32 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

สวัสดีครับ หมูแดง

งานอาสา เป็นงานที่ทำด้วยใจ ผู้คนที่เราได้เรียนรู้กับเขา ร่วมงานกับเขา ในบรรยากาศการให้แบบนี้ หลายๆคนมีเรื่องราวที่น่าสนใจรวมไปถึงมีวิธีคิดที่น่าสนใจ

โชคดีที่มีโอกาสเช่นนั้นครับ

 

555 ขอบคุณครับพี่เอกเป็นบทความที่เขียนนานแล้ว เอามาอีกครั้งหนึ่งเพราะคิดถึงเพื่อนๆมาก (ชาวอาสามาเติมรัก) สักครั้งคงไปร่วมกันอีกนะครับ กำลังวางแผนกันอยู่

* มาเยี่ยมชมนะคะ  น้องตู่  หมูแดงอวกาศ 
* เป็นกิจกรรมที่เติมเต็ม ความสุขให้น้องๆ ได้ดีจริงๆ
* พี่ Pually เพิ่งพาน้องๆไปทำกิจกรรมส่งรัก-ส่งยิ้ม ในเขตกันดารของที่นี่เช่นกัน  ยังอิ่มเอมใจอยู่เลยค่ะ
                  

                                        fairy animation

พี่ paully ไว้ว่างๆชวนด้วยนะครับ

สวัสดีครับ น้องหมูแดง

อาสาคือมาเติมรัก

เอารักมาช่วยเติมใจให้ชาวอาสาครับ

สวัสดีครับ บัง

วันที่ทำเนียบไม่ได้เจอกันเพราะผมยุ่งๆๆอยู่ กับเรื่องเอกสาร ไม่ทราบบังได้หนังสือสวัสดิการที่ผมและทีมงานเรียบเรียงหรือยังครับ แต่คำนำลงปีผิดไปขอโทษอย่างยิ่งเพราะต้องปั่นให้เสร็จใน 4 วันตามคำสั่ง.... 555

สวัสดีค่ะ

ขอขอบคุณที่ให้กำลังใจ ยินดีที่ได้รู้จัก

ขยันดีนะตู่ จะเข้ามาอ่านอีกเรื่อยๆ แก้เซ็งโรคจากการทำงาน

ขอบคุณมากดวง ไม่ได้ขยันแค่อยากเล่าเรื่องๆไปเรื่อยๆ เพื่อหลุดโรคเดียวกับดวงแหละครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท