ข่าวดีและข่าวร้าย...............ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์


ข่าวดีและข่าวร้าย............ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ข่าวดีและข่าวร้าย...............ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ไปเห็นเวบบอร์ดนี้มาสนใจอยากนำเสนอท่านผู้อ่านหลายท่านน่าจะสนใจแต่เค้าไม่ให้ ment อ่ะนะเลยมานำเสนอความรู้เล็กน้อยเผื่อจะนำไปปฏิบัติและเสริมความรู้เพิ่มเติมได้อ่ะนะ จากบทความข้างล่างนี้

ความพอดี... คืออะไรที่ไม่มากเกินไปหรือน้อยจนเกินไป... คำนี้ช่างดูเป็นคำแนะนำที่ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย... พุทธศานาสอนว่า "จงเดินทางสายกลาง" ขณะที่ชาวโรมันโบราณกล่าวกันว่า "ทุกสิ่งทุกอย่างควรมีความพอดี" เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก็เช่นกันที่ต้องดื่มแต่พอดีในระดับที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายเท่านั้น หาไม่แล้วจะกลายเป็นพิษที่บ่อนทำลายสุขภาพของเราให้เสื่อมโทรมลง ดังข้อความจากคัมภีร์ไบเบิ้ลตอนหนึ่งที่ระบุว่า "ไวน์เป็นสิ่งที่ดีต่อชีวิต... ตราบเท่าที่เราดื่มมันแต่พอดี"

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีดีเหมือนกันแต่จะต้องดิ่มแต่พอดี ก็แล้วจะมีสักกี่คนที่จะดื่มแต่พอดี มีแต่จะเลยเถิดดื่มกันจนตับแข็งแล้วก็ยังไม่ยอมเลิก ดังนั้นหลายศาสนาที่รู้จุดอ่อนของมนุษย์ดีว่ามักจะหลงมัวเมาในอะไรได้ง่าย ๆ จึงกำหนดไว้เลยว่า "ห้ามดื่มสุรา" ห้ามซะเลยดีที่สุด ขนาดนักวิชาการทียอมรับว่าการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่เหมาะสม ช่วยส่งเสริมสุขภาพยังแนะนำว่า "ถ้าไม่เคยดื่มก็ จงอย่าดื่มดีกว่า" เพราะมันคือวิธีรักษาสุขภาพให้ปลอดภัยจากพิษของแอลกอฮอล์ได้ดีที่สุดครับ

ข่าวดีของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

มีงานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่า การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณน้อย ๆ โดยเฉพาะการดื่ม ไวน์แดง ร่วมไปกับการกินอาหารที่มีประโยชน์ จะช่วยป้องกันการเป็นโรคหัวใจ ข้อมูลจากการศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่า อัตราส่วนการเป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือด ในคนที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอดี ๆ นั้นต่ำมาก... กลุ่มคนเหล่านั้นคือคนที่ดื่มไวน์แดงเพียงวันละ 1 - 2 แก้ว เหตุผลก็คือแอลกอฮอล์ปริมาณน้อย ๆ จะทำให้ความดันเลือดต่ำลงเล็กน้อย เพราะแอลกอฮอล์ทำให้หลอดเลือดขยายตัว จึงลดแรงด้านทานของเลือด นอกจากนี้ยังเป็นเพราะไวน์ ทำให้การเกาะกันของเกล็ดเลือดลดลง ผลก็คือเลือดไม่หนืดเหนียวจนเกินไป... นพ.เดวิด วิทเท่น เตือนว่า "จะต้องดื่มแต่พอดีจริง ๆ คือไวน์ไม่เกิน 2 แก้ว และเบียร์ไม่เกิน 2 กระป๋องต่อวัน และในผู้หญิงควรดื่มเพียงวันละ 1 แก้วเท่านั้น" จากการศึกษาค้นคว้าเชื่อว่า ไวน์แดงที่ทำจากองุ่นแดง ช่วยป้องกันโรคหัวใจได้ก็ด้วยเหตุผลที่กล่าวไปแล้ว ผู้วิจัยเขาทำการทดลองในหนู โดยเปรียบเทียบระหว่างไวน์แดงจากองุ่นแดง ไวน์ขาวจากองุ่นขาว และเอทธานอลจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่น ๆ พบว่าทุกตัวทำให้เลือดแข็งตัวช้าลง แต่ในไวน์แดงฤทธิ์จะอยู่นานกว่าเพื่อน ซึ่งเขาเชื่อว่า คงจะเป็นเพราะ สารแทนนินหรือโพลีฟีนอลในองุ่นแดง ดังนั้นหากดื่มไวน์เพื่อป้องกันโรคหัวใจ จึงควรเป็นไวน์แดง


ข่าวร้ายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ดิฉันบอกข่าวดีไปว่าการดื่มแอลกอฮอล์แต่น้อยหรือพอดี ๆ จะทำให้ความดันโลหิตลดลง แต่ข่าวร้ายก็คือหากดื่มแอลกอฮอล์มากไป แม้เพียงเล็กน้อยกลับจะเป็นเหตุให้ความดันโลหิตสูงขึ้น และร่างกายจะขาดสารอาหารหลายตัว ซึ่งทำให้มีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคหัวใจ ซึ่งก็มีงานวิจัยหลายชิ้นเช่นกัน ที่แสดงให้เห็นว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีความสัมพันธ์กับโรคความดันโลหิตสูง อย่างเช่นการศึกษาถึงรูปแบบการดำเนินชีวิต กับความดันโลหิตในคนเบลเยี่ยมซึ่งเป็นผู้ชาย 405 คนและผู้หญิง 3790 คน พบว่าคนที่ดื่มแอลกอฮอล์มาก ความดันโลหิตก็จะสูงมากด้วย ผู้วิจัยแนะนำว่า... การลดปริมาณการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ลง จะช่วยลดการเป็นโรคความดันโลหิตสูง ซึ่งก็หมายถึงช่วยป้องกันการเป็นโรคหัวใจด้วย

คนที่ติดสุราจะมีความเสี่ยงสูงต่อการเป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือด ยิ่งคนที่ติดสุราเรื้อรังร่างกายมักจะขาดธาตุ "แมกนีเซียม" ซึ่งในงานวิจัยหลายชิ้นระบุว่ามันน่าจะเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ เพราะมันเป็นตัวช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว หลังจากหดตัว และมีบทบาทต่อความคงทนของเซลล์ การขาดแมกนีเซียมจึงน่าจะทำให้หน้าที่การทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจเสื่อมลงด้วย

มีงานวิจัยของญี่ปุ่นชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่า การขาดแมกนีเซียมมีผลต่อการเกร็งตัวของหลอดเลือดหัวใจ และโรคหัวใจขาดเลือด และงานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งระบุว่า คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณที่น้ำแมกนีเซียมสูงจะไม่ค่อยตายเพราะโรคหัวใจ... แหล่งที่สำคัญของแมกนีเซียม ได้แก่ พวกธัญพืชโดยเฉพาะ ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต และข้าวสาลี, พวกถั่วฝักทั้งหลาย, รำข้าว, อัลมอนด์, ถั่วลิสง และบร็อคโคลีค่ะ

เมื่อพูดถึงการติดสุราแล้ว ดิฉันก็ขอพูดถึงโรคพิษสุราเรื้อรังหรือที่ เรียกกันว่า "แอลกอฮอลิซึม" (Alcoholism) เสียหน่อย

โรคพิษสุราเรื้อรัง คือการติด "เอทธิล แอลกอฮอล์" อาจเป็นการติดทางด้านร่างกาย หรือจิตใจ หรือทั้ง 2 อย่างรวมกัน ซึ่งเป็นได้ทั้งในผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ และคนแก่ ความจริงผลของแอลกอฮอล์ต่อแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนมีอาการเป็นพิษเกิดขึ้นตั้งแต่แก้วแรกบางคนอาจได้ถึง 4 - 5 แก้วจึงจะแสดงอาการ ในคนที่เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง จะมีอาการอยากดื่มแก้วต่อไปเรื่อย ๆ โรคนี้เกิดจากการค่อยเป็นค่อยไป โดยอาจเริ่มจากการดื่มเพื่อสังคมจนกลายเป็นดื่มมันทุกอารมณ์ ไม่ว่าจะทุกข์ สุข สนุก เศร้า เหงา เงียบ หรือเพื่อฉลองในทุกโอกาส คือมีข้ออ้าง และข้อยกเว้นที่จะดื่มได้ตลอด... ที่สุดก็ถูกควบคุมโดยสิ้นเชิงจากความอยากแอลกอฮอล์ของตัวเอง

ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่เกิดจากแอลกอฮอล์ยังมีอีกมากมาย ได้แก่

- แอลกอฮอล์จะทำลายเซลล์สมองไปเรื่อย ๆ คนที่ต้องการลืมเรื่องราวที่ทำให้รู้สึกเจ็บปวด จึงมักจะพึ่งสุรา ซึ่งมันก็ช่วยให้ลืมได้จริง ๆ แต่นานวันความจำก็เสื่อม การควบคุมประสานงานของกล้ามเนื้อเสียไป และระบบประสาทส่วนปลายก็ถูกทำลาย ความรู้สึกที่มือและเท้าจะค่อย ๆ เสียไป คนที่มีอาการมาก ๆ มือจะสั่น และเดินไม่ตรงทาง

- แอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากทำให้ตับอ่อนอักเสบ ผลที่ตามมาคือความสามารถในการย่อย และการผลาญสารอาหารลดลง สุดท้ายจะกลายเป็นโรคเบาหวานด้วย

- คนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาก ๆ จะมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคความดันโลหิตสูง

- มีโอกาสที่จะเป็นมะเร็งในช่องปาก ลำคอ ลำไส้ และตับ
- ในหญิงตั้งครรภ์เป็นอันตรายมาก เพราะแอลกอฮอล์จะผ่านจากแม่ไปสู่ลูกทารก มันจึงไปทำลาย อวัยวะต่าง ๆ ของลูก ทั้งสมอง ตับ หัวใจ หลอดเลือด ฯลฯ ตั้งแต่ลูกกำลังจะก่อร่างสร้างอวัยวะต่าง ๆ ขึ้นมา โอกาสที่ลูกจะพิการ แท้ง คลอดก่อนกำหนด และเด็กน้ำหนักตัวน้อยจึงสูงมาก... คำแนะนำคือ ห้ามหญิงตั้งครรภ์ดื่มสุราโดยเด็ดขาด


ข้อนี้สำคัญสุดครับ
- สำหรับระบบสืบพันธุ์เพศชาย แอลกอฮอล์จะทำให้ ประสิทธิภาพในการสร้างเชื้ออสุจิลดลง เชื้ออสุจิอ่อนแอ และมีจำนวนน้อย มีน้ำอสุจิน้อย และมักมีปัญหาอวัยวะเพศไม่แข็งตัว

- แอลกอฮอล์กดการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน จึงทำให้ติดเชื้อโรคได้ง่าย ร่างกายอ่อนแอ เป็นโรคภูมิแพ้ และอีกสารพัดโรค เพราะร่างกายไม่มีทหารที่เข็มแข็ง ไว้ปกป้องตัวเอง
- นอกจากนี้แอลกอฮอล์ยังทำให้เกิดปัญหาครอบครัว... สภาพ จิตใจ อารมณ์ และจิตวิญญาณของสมาชิกในครอบครัวถูกทำลาย โดยทั่วถึงกัน เกิดปัญหาสังคม... ปัญหาสัมพันธภาพกับผู้อื่น มีเรื่องทะเลาะ เบาะแว้ง มีการทำร้ายร่างกาย ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง และที่สำคัญยิ่งอีกอย่างหนึ่งคือปัญหาสาธารณสุข... นั่นคือปัญหาการจราจร และอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากคนขับรถ

แต่เอาเหอะนักวิทยาศาสตร์เค้าค้นพบได้โดยบังเอิญมาหลายๆปีแล้ว จนเกิดการพัฒนาและเกิดการผลิตที่ถูกกระบวนการมีประโยชน์ในเชิงอุตสาหกรรมมากมาย เกิดธุรกิจขึ้นแบบหลากหลาย เศรษฐกิจมีสภาพคล่อง(เกี่ยวป่าว) จะเห็นได้ว่าเศรษฐีอันดับต้นๆก็มาจากการค้าขายน้ำเมานี้แหละ ร้านกับแกล้ม กับข้าวก็ได้ขาย น้องเชียร์เบียร์ เด็กเสริฟก็มีงานทำ เด็กล้างจานก็ได้ทำงาน เด็กๆขายพวงมาลัย ขนม ผลไม้ ปลาหมึก ก็ขายกัน เห็นไหมการกระจายรายได้สู่สังคมแบบนี้ย่อมเห็นได้ทั่วไปในโลกใบนี้ ห้ามไม่ได้หรอกครับเพราะมันเกิดการหมุนเวียนในตลาด เข้าสู่กระแสเลือดไปแล้ว แค่เพียงเราเองต้องการแค่ไหน เป็น ข่าวดี หรือ ข่าวร้าย ก็แค่นั้น

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 327197เขียนเมื่อ 12 มกราคม 2010 15:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 11:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ขอบคุณค่ะที่ช่วยกันเตือนๆ..การสร้างความสมดุลย์ในชีวิต..ต้องทำอย่างสม่ำเสมอนะค่ะ ..

 

สวัสดีครับ

  • แวะมารับความรู้เรื่องข่าวดีและข่าวร้าย...ของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • ทุกวันนี้ครูจ่อยเลิกดื่มแล้ว
  • มีผลเสียมากมาย  อยากเชิญชวนให้ทุกคน ลด ละ เลิก นะครับ
  • โชคดีมีสุขนะครับ 

มีผลเสียมากมาย

ก็ลด ละ เลิก ซะนะ

จะได้ดีต่อสุขภาพ...

งานวิจัยชี้ ไม่มีปริมาณที่ปลอดภัยในการดื่มแอลกอฮอล์ https://thestandard.co/global-alcohol-study/Google ด้วย No Amount Of Alcohol Is Safe For Overall Health มีข่าวทั่วโลกมากทีเดียว ทั้ง CNN. BBC. Time ฯลฯhttp://ow.ly/dGuC30lyyjR

งานวิจัยนี้ เป็นแบบ Systemic review (เป็นแบบแผนที่น่าเชื่อถือที่สุด) จาก๖๐๐งานวิจัย จาก ๑๙๕ประเทศ ใช้เวลาเกือบ ๓๐ปี จึงถือว่า เป็นผลวิจัยดีที่สุดในปัจจุบัน และลงในThe Lancet ซึ่งหมอทั่วโลก ยอมรับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท