กระทรวงการคลังเร่งรัดช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบ


หนี้นอกระบบ

กระทรวงการคลังเร่งรัดช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบ

นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง สั่งการให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือลูกหนี้
นอกระบบโดยเร่งด่วน  โดยให้กรมบัญชีกลางเร่งดำเนินการคัดแยกลูกหนี้ให้ธนาคารเพื่อให้การช่วยเหลือเกี่ยวกับ
การประนอมหนี้ และให้สินเชื่อเพื่อชำระหนี้ให้เร็วที่สุด

              นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์   เปิดเผยจำนวนผู้เข้าโครงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ  รอบแรก ณ วันที่
30 ธันวาคม 2552  มีผู้ลงทะเบียนจำนวน 990,588 ราย  คิดเป็นมูลหนี้ 104,974.13  ล้านบาท อยู่ในกรุงเทพฯ จำนวน  67,362 ราย มูลหนี้ 6,254.70 ล้านบาท และทางภูมิภาค จำนวน 923,226 ราย  มูลหนี้ 98,719.43 ล้านบาท   โดยเฉลี่ยรายละ 100,000 บาท  โดยการช่วยเหลือในเบื้องต้น ทางคณะกรรมการเจรจาประนอมหนี้ได้วางแนวทางกรณีมูลหนี้ไม่ถึง 50,000 บาทต่อราย  ทางธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)  และธนาคารออมสิน   สามารถเจรจาประนอมหนี้เจ้าหนี้ได้โดยไม่ต้องผ่านคณะกรรมการประนอมหนี้ระดับจังหวัด ซึ่งจะทำให้เกิดการช่วยเหลือรวดเร็วขึ้น    และยังได้มอบนโยบายให้แก่กรมบัญชีกลางเร่งดำเนินการในขั้นตอนการคัดแยกประเภทหนี้และส่งให้ธนาคารที่เกี่ยวข้องโดยเร็วที่สุดแล้ว โดยมีการแบ่งการดำเนินงาน ดังนี้  ธนาคารออมสินดูแลลูกหนี้ประชาชนทั่วไป  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ดูแลลูกหนี้ภาคเกษตร  ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยดูแลลูกหนี้ในเขตชายแดนภาคใต้  ธนาคารอาคารสงเคราะห์ดูแลลูกหนี้อสังหาริมทรัพย์  ธนาคารเพื่อวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ดูแลลูกหนี้ SME

    นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์  กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ลงทะเบียน ยังสามารถลงทะเบียนได้ที่ธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ โดยได้มีการขยายระยะเวลาการลงทะเบียนออกไปอีกจนถึงวันที่
 31 มกราคมนี้  และได้มอบหมายให้กรมบัญชีกลางสรุปรายงานผลการลงทะเบียนภายในสัปดาห์นี้  ในส่วนของการคัดแยกประเภทลูกหนี้นั้น  ทางสำนักงานคลังจังหวัดทั่วประเทศ จะเป็นผู้เข้าไปดูข้อมูลในระบบจากที่ได้ลงทะเบียนไว้กับ ธ.ก.ส. และธนาคารออมสิน  ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะส่งให้คณะกรรมการเจรจาประนอมหนี้ในระดับจังหวัดพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง  ว่าลูกหนี้รายใดสามารถเรียกมาเจรจาประนอมหนี้กันได้  หรือรายใดประสงค์จะเข้าระบบของธนาคารต่อไป

โดยธนาคารจะชดใช้หนี้ให้ก่อนและจ่ายผ่อนชำระคืนธนาคารพร้อมดอกเบี้ยในราคาต่ำ ซึ่งอาจมีบางรายที่ลงทะเบียนแล้วแต่ไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ต่อได้ คือทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ไม่มาติดต่อเลย  

 สำหรับผู้ที่ผ่านการเจราจาหนี้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดสามารถรับเงินกู้โดยมีเงื่อนไขดังนี้

1. วงเงินกู้สูงสุด 200,000 บาท

2. อัตราดอกเบี้ย

     - อัตราดอกเบี้ยไม่เกินร้อยละ 12 ต่อปี ใน 3 ปีแรก

    - สำหรับธนาคารออมสินใช้อัตราดอกเบี้ยคงที่ไม่เกินร้อยละ 0.75 ต่อเดือน ตลอดระยะเวลาการกู้

3. ระยะเวลาการผ่อนชำระไม่น้อยกว่า 8 ปี เว้นแต่ผู้กู้สมัครใจทำสัญญากู้น้อยกว่า 8 ปี ผู้กู้สามารถชำระหนี้ก่อนกำหนดได้โดยไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม

4. หลักประกันการโอนหนี้

           - วงเงินกู้ไม่เกิน 100,000 บาท ใช้ผู้ค้ำประกัน 1 คน

           - วงเงินกู้ตั้งแต่ 100,001 – 200,000 บาท ใช้ผู้ค้ำประกัน 2 คน

           - ผู้ค้ำประกันต้องมีรายได้รวมไม่น้อยกว่าร้อยละ10 ของวงเงินกู้ หลักประกัน

กรณีของ ธ.ก.ส. ที่เป็นเกษตรกรค้ำประกัน

           - วงเงินกู้ไม่เกิน 100,000 บาท ใช้ผู้ค้ำประกัน 2 คน

           - วงเงินกู้ตั้งแต่ 100,001 – 200,000 บาท ให้ใช้หนังสือรับรองรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม อย่างน้อย 5 คน

“สำหรับรายที่เข้าระบบของธนาคารและเป็นไปตามเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือนั้น คาดว่าจะจ่ายเงินให้ภายใน 1 สัปดาห์”  นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์   กล่าว

 

หมายเลขบันทึก: 327159เขียนเมื่อ 12 มกราคม 2010 13:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 11:56 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ขอบคุข่าวความเคลื่อนไหวครับ...

รบกวนติดต่อกลับพร้อมรายละเอียดในการรายงานตัว/กระทำนิติกรรมอันเกี่ยวกับลงทะเบียนลูกหนี้นอระบบด้วยนะคะ... ขอบคุณมากค่ะ

ตอบ

ขั้นตอนการดำเนินการ

1. ตรวจสอบว่าต้องเจรจากับธนาคารใด สาขาใด ตรวจสอบได้ที่กรมบัญชีกลาง สำนักงานคลังจังหวัดหรือธนาคารของรัฐ

2. ส่วนกลางให้ไปติดต่อที่ธนาคาร/สาขา ตามข้อ 1 เลย เนื่องจากสำนักงานเขตใน กทม. สิ้นสุดระยะเวลาการเจรจาแล้ว

(10 พค.53)

3. ส่วนภุมิภาคให้ไปที่ว่าการอำเภอที่ปรากฏตาม ข้อ 1 เพื่อเจรจาประนอมหนี้

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท