นับถอยหลัง


เริ่มต้นปีใหม่ 2553  พยายามครับ ๆ ๆ ๆ  กับการลืมเรื่องไม่ดีงามต่าง ๆ ที่มีเหตุให้มี...งานเข้าน่าน  เป็นข่าวที่ไม่ดีแต่บอกตามตรงว่า ลืมค่อนข้างยากอยู่  ด้วยเป็นเรื่องส่วนรวม  ไม่ได้เอาความคิดตนเองเป็นที่ตั้ง  แต่ได้รับฟังจากพี่น้องสื่อและประชาชนหนาหู ( อันที่จริงบ้านเมืองน่านมีข่าวดี ๆ อยู่ไม่น้อย  แต่เมื่อเกี่ยวข้องกับผู้หลัก ผู้ใหญ่งานใหญ่ เลยเป็นประเด็นและยืดเยื้อ )

หัวหน้าส่วนราชการที่จะเกษียณ หรือที่ไม่ค่อยทัดทานนาย  จะพยายามเสวยสุขก่อนเกษียณ  เคยจำได้จาก ดร.สุวัฒน์  โชคสุวัฒนสกุล อดีต ผวจ.น่าน ได้กล่าวในที่ต่าง ๆ ว่า คนก่อนเกษียณนั้น  ต้องทำตัวเหมือนนั่งวิ่งในระยะสุดท้าย ต้องสปรินให้เต็มที่

ท่านกล่าวว่า  เพื่อเกียรติประวัติที่ดีในการรับราชการ  เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รู้สึกดีต่อเราว่าขณะเมื่อดำรงตำแหน่งได้ทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่  และที่สำคัญเป็นการทำคุณประโยชน์ต่อแผ่นดินชาติบ้านเมือง

การนับถอยหลังที่บันทึกไว้  ในยุคหลังดูจะผิดหรือแตกต่างจากหลายปี  เพราะในยุคนี้เท่าที่รับฟังและสังเกตดูจะสบาย ๆ  ไปเรื่อย ๆ ไม่ทราบผู้มีอำนาจคิดอะไรกับจังหวัดน่านอันเป็นที่รักของพวกเรากัน  อย่างไรก็ดี  สำหรับหัวหน้าส่วนราชการหรือที่อยู่ในวัยก่อนเกษียณ  ที่มานะตั้งใจดีที่สุดแล้วนั้น  เราขอกราบคารวะแสดงความชื่นชมอย่างยิ่งครับ

หมายเลขบันทึก: 326014เขียนเมื่อ 9 มกราคม 2010 08:10 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 11:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เช่นข่าวนี้  เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ งานมักจะเข้าแบบนี้  แม้เป็นวันหลังเกษียณไปแล้วครับ

สำเนาข่าว นสพ.มติชนรายวันออนไลน์

วันที่ 08 มกราคม พ.ศ. 2553 เวลา 20:12:20 น.  มติชนออนไลน์



กรมป่าไม้ชี้ "สุรยุทธ์" คืนพื้นที่เขายายเที่ยงให้จบ "อสส."แจงอดีตนายกฯไม่ผิดอาญา เหตุขาดเจตนา

อัยการสูงสุดแถลงคดีรุกเขายายเที่ยงของสุรยุทธ์สิ้นสุดแล้ว ไม่ผิด เพราะขาดเจตนากระทำผิด แจงเป็นเรื่องของกรมป่าไม้ดำเนินการต่อ อธิบดีกรมป่าไม้ เผยคืนที่ให้ทุกอย่างจบ คนสนิทอดีตนายกฯงงคืนที่ให้ในฐานะอะไรเหตุไม่ใช่เจ้าของ

อัยการแถลงคดีรุกเขายายเที่ยงของสุรยุทธ์สิ้นสุดแล้ว ไม่ผิด เพราะขาดเจตนากระทำผิด แจงเป็นเรื่องของกรมป่าไม้ดำเนินการต่อ อธิบดีกรมป่าไม้ เผยคืนที่ให้ทุกอย่างจบ คนสนิทอดีตนายกฯงงคืนที่ให้ในฐานะอะไรเหตุไม่ใช่เจ้าของ


คนสนิท"สุรยุทธ์"ให้รอกรมป่าไม้


พล.อ.นินนาท เบี้ยวไข่มุก ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก และในฐานะนายทหารคนใกล้ชิด พล.อ.สุรยุทธ์ กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงเรียกร้องให้ พล.อ.สุรยุทธ์ คืนพื้นที่เขายายเที่ยงที่ถือสิทธิอยู่ว่า ต้องไปดูคำวินิจฉัยของอัยการสูงสุด ซึ่งวินิจฉัยว่าคนที่ 1 ไม่ผิด คนที่ 2 ก็ไม่ผิด และคนที่ 3 คือ พล.อ.สุรยุทธ์ ก็ไม่มีความผิด ซึ่งคำวินิจฉัยระบุว่า พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่ใช่เจ้าของ แต่เป็นเรื่องของกรมป่าไม้ที่ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบว่าจะต้องทำอย่างไร ขณะนี้ยังไม่ได้ทำอะไรเลย


"ถามว่า พล.อ.สุรยุทธ์ จะต้องคืนในฐานะอะไร เพราะเจ้าของก็ไม่ใช่ ดังนั้น ต้องรอฟังมติจากคณะกรรมการของกรมป่าไม้ว่ากรณีเช่นนี้จะเป็นอย่างไร หากมีมติให้คืนต้องเรียกคืนจากทุกคนที่อยู่ข้างบนซึ่งมีเป็นร้อย แล้วกรณีเดียวกันอีกเป็นแสนคนทั่วประเทศ ก็ต้องเรียกคืนหมด ขณะนี้ต้องรอคณะกรรมการที่กำลังจะตั้งมาพิจารณาว่ามีมติอย่างไร คงไม่ใช่ทำเฉพาะกรณีของ พล.อ.สุรยุทธ์ เพียงคนเดียว สิ่งที่เกิดขึ้นคือสื่อเล่นตามเกมของเสื้อแดง ทุกคนต้องไปฟังคำวินิจฉัยและรอมติของคณะกรรมการ"


ไม่ใช่เจ้าของที่จะคืนในฐานะอะไร


พล.อ.นินนาทกล่าวว่า ความจริง พล.อ.สุรยุทธ์ ไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ท่านผู้หญิง (ภริยา พล.อ.สุรยุทธ์) เป็นผู้ซื้อสิทธิทำประโยชน์ในที่ดิน โดยจ่ายภาษี อบต.5 ทุกปี เพื่อเข้าหลวงไป สิทธิตรงนี้คือที่ดินเหล่านี้ก็ไปใช้สิทธิ ส่วนสิทธิที่ว่าคือการไปปลูกต้นไม้ ทำบ้านพักเล็กๆ ไว้พักผ่อนเวลาเดินทางมา ไม่ได้เป็นเชิงพาณิชย์ เป็นการใช้สิทธิในที่ดิน แต่ไม่ใช่ท่านเป็นเจ้าของ ดังนั้น ต้องมาศึกษาว่ากรณีนี้จะไปคืนสิทธิในฐานะอะไร เพราะไม่ใช่เจ้าของ แล้วกฎหมายก็ไม่มีการกำหนดให้ต้องคืน ดังนั้น เรื่องนี้ต้องรอคณะกรรมการพิจารณาว่าจะต้องทำอย่างไร


กรมป่าไม้ชี้หาก"สุรยุทธ์"คืนที่จบ


นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ขณะนี้กำลังรอหนังสือจากอัยการอยู่ ส่วนนายชลธิศ สุรัสวดี รองอธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยมีกรณีมอบคืนพื้นที่ให้กับกรมป่าไม้ในลักษณะพื้นที่อยู่ในข่ายไม่เป็นไปตามเงื่อนไข และไม่ชอบด้วยหลักการ แต่ต้องแยกเป็น 2 รูปแบบ คือ 1.หากฐานความผิดเดิมมีอยู่ต้องให้กระบวนการพิจารณาตัดสินจบก่อน เช่น ศาลหรืออัยการสั่งไม่ฟ้อง หากส่งพื้นที่คืนก็ถือว่าจบ จากนั้นกรมป่าไม้จึงจะเข้าไปดูแลพื้นที่ หากเสื่อมโทรมก็เข้าไปฟื้นฟู 2.ศาลมีความเห็นเป็นอย่างอื่นในรายละเอียด ในความจำเป็นอาจจะแจ้งเพื่อให้คืนพื้นที่ในภายหลัง เป็นต้น


นายชลธิศกล่าวว่า สำหรับกรณีบ้านพักเขายายเที่ยงของอดีตนายกฯ ที่ผ่านมามีการตัดสินจากอัยการสีคิ้วว่าไม่ฟ้อง เพราะไม่มีเจตนา หากจะคืนพื้นที่ก็จบ แต่เนื่องจากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่อยู่ในโครงการหมู่บ้านป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จึงต้องถามไปยังกรมอุทยานฯด้วยว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนอีก 150 แปลงที่เหลือและอาจเข้าข่ายเดียวกัน โดยหลักการจะใช้กระบวนการพิสูจน์การถือครอง ตามมติ ครม.หลายฉบับ


อธิบดีอุทยานฯขอดูให้แน่ชัดก่อน


นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กรมป่าไม้ระบุว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในโครงการหมู่บ้านป่าไม้ของกรมอุทยานฯว่า เพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง จึงต้องขอตรวจสอบให้แน่ชัดก่อนว่าโครงการดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานฯหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เป็นที่รับรู้โดยทั่วกันว่าพื้นที่เขายายเที่ยงอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาเตียน-ป่าเขาเขื่อนลั่น ซึ่งกรมป่าไม้ได้กำหนดโครงการปรับปรุงพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินในเขตพื้นที่ป่าไม้ และฟื้นฟูสภาพป่าที่เสื่อมโทรมให้คืนสู่สภาพเดิมในรูปของหมู่บ้านป่าไม้ ตั้งแต่ปี 2520 และดำเนินการมาจนถึงปี 2536 จึงยุติ เพราะไม่มีงบประมาณ ส่วนกรมอุทยานฯเพิ่งแยกออกมาจากกรมป่าไม้เมื่อปี 2545 กรมป่าไม้จึงดูแลพื้นที่นี้มาโดยตลอด และไม่ได้อยู่ในพื้นที่เขตอุทยานฯแน่นอน

 

โฆษก อสส.แถลง "สุรยุทธ์" รุกป่าเขายายเที่ยงไม่ผิดอาญา แต่ฝืนมติ ครม.

 

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 มกราคม ที่ห้องประชุม 100 ปี ชั้น 4 สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก นายธนพิชญ์ มูลพฤกษ์ อธิบดีอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด แถลง ชี้แจ้งกรณีอัยการสั่งไม่ฟ้อง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี กับพวก คดีบุกรุกเขายายเที่ยงว่า คดีนี้อธิบดีอัยการฝ่ายคดีเขต 3 มีคำสั่งไม่ฟ้องตามพนักงานสอบสวนไปเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2552 ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชศรีมา มีความเห็นชอบกับอัยการไปเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2552 ดังนั้นคดีจึงเสร็จเด็ดขาด

 

นายธนพิชญ์กล่าวว่า เหตุที่อัยการสั่งไม่ฟ้องเนื่องจาก ที่ดินบนเขายายเที่ยงแปลงที่ พล.อ.สุรยุทธ์  ครอบครองนั้น จากการสอบสวนของพนักงานสอบสวนมีหลักฐานว่า ที่ดินแปลงดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 67 (พ.ศ.2508) ออกตามความใน พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 ซึ่งกำหนดให้ป่าเขาเตียนและป่าเขาเขื่อนลั่น (เขายายเที่ยง) ในท้องที่ตำบลจันทึก อำเภอปากช่อง และตำบลลาดบัวขาว จังหวัดนครราชสีมา เป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ

 

แต่ก่อนที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จะเข้าครอบครองปลูกเป็นที่พักอาศัย ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของนายเบ้า สินนอก และบุตรเขย ซึ่งนายเบ้า ได้ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวโดยไม่มีเอกสารสิทธิ์จำนวน 10 ไร่ โดยไม่ทราบว่า เป็นที่ดินอยู่ในเขตป่าสงวนฯ แล้วเข้าไปทำไร่มันสำปะหลัง ละหุ่ง และข้าวโพด นอกจากนั้นที่ดินในเขตป่าสงวนเขายายเที่ยงยังมีราษฎรเข้าไปอยู่อาศัยทำกินเป็นจำนวนมาก


นายธนพิชญ์กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2518 เห็นชอบให้กรมป่าไม้ดำเนินการปรับปรุงป่าสงวนแห่งชาติเขายายเที่ยงเพื่อจัดสรรให้ราษฎรทำกินครอบครัวละไม่เกิน 15 ไร่ (ให้ทำกินครอบครัวละ 14 ไร่ 2 งาน และให้เป็นที่อยู่อาศัยอีก 2 งาน) โดยมีเงื่อนไขไม่ให้กรรมสิทธิ์ แต่ให้สิทธ์ครอบครองตกทอดดึงทายาทโดยธรรมได้เป็นการถาวร เพื่อป้องกันไม่ให้นายทุนมาครอบครองโดยวิธีกว้านซื้อ โดยกรมป่าไม้จะออกใบอนุญาตชั่วคราวให้ราษฎรเข้าอยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติดังกล่าวโดยจัดตั้งในรูปหมู่บ้านป่าไม้ นายเบ้า และบุตรเขย จึงได้รับการจัดสรรที่ดินคนละ 15 ไร่ รวม 30 ไร่ และได้มีการเสียภาษีบำรุงท้องที่ (ภ.บ.ท.5) ตลอดมา ตั้งแต่ปี 2520 – 2538


ต่อมานายเบ้า ได้ขายที่ดินของตนเองและบุตรเขต จำนวน 20 ไร่ ให้นายนพดล พิทักษ์วาณิชย์ เมื่อปี 2538  พร้อมมอบหลักฐานการแสดงภาษี ให้แก่นายนพดล ด้วย และนายนพดล ได้เสียภาษีบำรุงท้องที่ระหว่างปี 2538 – 2540

 

ต่อมา พ.อ.สุรฤทธ์ จันทราทิพย์ เป็นผู้เสียภาษีบำรุงท้องที่ในปี 2540 – 2545 และในวันที่ 6 กรกฎาคม 2543 พล.ต.สุรฤทธ์  เป็นผู้ไปยื่นขอออกเลขที่บ้าน เลขที่ 10 ตำบลคลองไผ่ (เดิมอยู่ในเขตตำบลลาดบัวขาว) อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของ พล.อ.สุรยุทธ์ ในปัจจุบัน และในวันที่ 4 กรกฎาคม 2546 พล.ต.สุรฤทธ์ เป็นผู้ขออนุญาตใช้ไฟฟ้าในบ้านหลังดังกล่าว

 

โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวว่า ในปี 2545 เป็นต้นมาถึงปัจจุบัน มีหลักฐานว่าผู้ยื่นเสียภาษีบำรุงท้องที่ ในที่ดินดังกล่าว คือ พ.อ.หญิง คุณหญิงจิตรวดี จุลานนท์ ภริยาของ พล.อ.สุรยุทธ์


โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมากรมป่าไม้และเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เคยดำเนินคดีข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติกับผู้ใดเลย ต่อมาวันที่ 10 ตุลาคม 2550 นายคุ้มพงษ์ ภูมิภูเขียว กับพวกรวม 12 คน ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ พล.อ.สุรยุทธ์ กับพวก ในข้อหาบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ เขายายเที่ยงดังกล่าว โดยพนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับ พล.อ.สุรยุทธ์ (ขณะเป็นนายกรัฐมนตรี) เป็นผู้ต้องหาที่ 1 นายธีระ สูตะบุตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ต้องหาที่ 2  ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รักษาราชการแทน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแหวดล้อม เป็นผู้ต้องหาที่ 3 และ นายวิชัย แหลมวิไล อธิบดีกรมป่าไม้ เป็นผู้ต้องหาที่ 4 ซึ่งพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 ในข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติและร่วมกันยึดถือครอบครอง ทำประโยชน์ในที่ดินฯ ตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 โดยส่งสำนวนให้กับพนักงานอัยการจังหวัดสี้คิ้วพิจารณาตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2551


พนักงานอัยการจังหวัดสี้คิ้วได้พิจารณาและสอบสวนเพิ่มเติมบางประเด็นและเสนอสำนวนให้อธิบดีอัยการเขต 3 มีคำสั่ง ซึ่งอธิบดีอัยการเขต 3 ได้มีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 เช่นเดียวกันกับพนักงานสอบสวนโดยเห็นว่า นายเบ้า และราษฎร มีสิทธิ์ครอบครองที่ดินโยชอบตามมติ คณะรัฐมนตรีดังกล่าว จึงเป็นการครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย การครอบครองต่อมาของ พล.อ.สุรยุทธ์ จึงเป็นการครอบครองโดยอาศัยสิทธิ์ของนายเป้า จึงขาดเจตนากระทำผิดตามข้อกล่าวหา ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมาได้ให้ความเห็นชอบกับคำสั่งไม่ฟ้องของอธิบีดอัยการเขต 3  เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2552


นายธนพิชญ์กล่าวว่า กรณีการครอบครองที่ดินผิดเงื่อนไขตามมติคณะรัฐมนตรี อัยการจังหวัดสีคิ้ว ได้มีหนังสือ เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2553 แจ้งให้ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 (นครราชสีมา) ดำเนินการให้เป็นไปตามเงื่อนไขของแผนงานจัดที่ดินให้แก่ราษฎรในรูปหมู่บ้าน ป่าไม้และสหกรณ์การเกษตร ตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว


นายธนพิชญ์ กล่าวย้ำว่า หนังสือที่อัยการแจ้งให้ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรนั้น เพียงแต่ ให้ดำเนินตามมติ ครม. ที่ให้นำที่ดินคืนแก่ผู้ครอบครอง หรือทายาทผู้ครอบครองที่ได้รับอนุญาตให้ถือกรรมสิทธิ์เท่านั้น ส่วนกรมป่าไม้ จะดำเนินการเอาที่ดินคืนจาก พล.อ.สุรยุทธ์ หรือไม่อย่างไรเป็นหน้าที่ของกรมป่าไม้ที่จะพิจารณาดำเนินการ อัยการไม่มีอำนาจหน้าที่ แต่ถ้าเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ละเว้นไม่ดำเนินการให้การครอบครองที่ดินเป็นไปตามเงื่อนไข มติ ครม. ปี 2518 ก็น่าคิดว่าอาจจะเป็นความผิดละเว้นปฏิบัติหน้าที่ได้เช่นกัน ซึ่งต้องติดตามต่อไปว่ากรมป่าไม้จะดำเนินการอย่างไร 


เมื่อถามว่า หากกรมป่าไม้จะต้องดำเนินการเอาที่ดินจาก พล.อ.สุรยุทธ์ แล้วจะต้องมีการฟ้องคืนขับไล่ที่ สามารถส่งให้อัยการดำเนินการได้หรือไม่ นายธนพิชญ์ กล่าวว่า  ก็ต้องมีขั้นตอนตามกฎหมาย อาจจะแจ้งความ ซึ่งกรมป่าไม้จะต้องเป็นผู้ดำเนินการ


เมื่อถามว่า อัยการยืนยันว่าพร้อมจะฟ้องขับไล่ที่กับ พล.อ.สุรยุทธ์ องคมนตรี หรือไม่หากกรมป่าไม้ขอให้ดำเนินคดี นายธนพิชญ์ กล่าวว่า อัยการจะพิจารณาตามกฎหมาย ซึ่งคดีการบุกรุกที่ดังกล่าวอัยการก็ดำเนินการตามที่พนักงานสอบสวนส่งสำนวน แต่คงตอบไม่ได้ว่าจะไม่พิจารณากรณีของ พล.อ.สุรยุทธ์


เมื่อถามว่า เหตุใดผู้ที่ครอบครองที่ดินเชิงเขาจึงถูกดำเนินคดี ไม่เหมือนกับกรณีของ พล.อ.สุรยุทธ์ นายธนพิชญ์ กล่าวว่า การครอบครองที่ดินเป็นคนละกรณีกัน โดยที่ดินบนเขาที่ พล.อ.สุรยุทธ์ สร้างบ้านไว้ เจ้าของเดิมได้รับการจัดสรรจากกรมป่าไม้ตามมติ ครม. ให้ชาวบ้านที่อยู่บนเขาถือครองได้คนละ 15 ไร่ แต่ไม่มีการจัดสรรที่ดินเชิงเขาให้ชาวบ้าน ดังนั้นผู้ที่เข้าไปยึดครองจึงมีความผิดฐานบุกรุก


เมื่อถามว่า การที่นายเบ้า ซึ่งได้รับจัดสรรที่ตามติ ครม. นำที่ดินมาขายต่อ ซึ่งฝ่าฝืนเงื่อนการครอบครองที่ดิน จะมีการดำเนินคดีได้หรือไม่ นายธนพิชญ์ กล่าวว่า มติ ครม. เป็นข้อห้ามการซื้อขาย แต่ไม่มีบทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน ดังนั้นนายเบ้าจึงไม่มีความผิด ส่วน พล.อ.สุรยุทธ์ ที่ซื้อที่ดินไปแม้จะไม่มีความผิดเช่นกันแต่ก็ไม่มีสิทธิ์ครอบครอง ซึ่งสิทธิ์ครอบครองที่แท้จริงต้องตกเป็นของทายาทนายเบ้า

ในฉบับเดียวกัน มีข่าวต่ออีกครับ

วันที่ 08 มกราคม พ.ศ. 2553 เวลา 21:30:54 น.  มติชนออนไลน์



"เสื้อแดง"โวยอัยการเปิดตลาดเสรีที่ดินป่าสงวนเหตุสั่งไม่ฟ้อง"บิ๊กแอ้ด"ปูด "สุรยุทธ์"เล็งเผาบ้านปิดฉาก

"จตุพร"ซัดอสส.ไม่สั่งฟ้อง"บิ๊กแอ้ด"กรณีเขายายเที่ยง สร้างความคับแค้นให้ปชช. ปูด"สุรยุทธ์"เล็งเผาบ้านตัวเอง หวังปิดฉากปัญหา ขู่ถ้าเพิกถอนประกันตัว เผชิญหน้าการชุมนุมใหญ่คนหลักล้านทันที โวเซทแกนนำรุ่น 2 ไว้แล้ว "เสื้อแดง"โวยอัยการเปิดตลาดเสรีที่ดินป่าสงวน"เขายายเที่ยง"

"จตุพร"ซัดอสส.ไม่สั่งฟ้อง"บิ๊กแอ้ด"สร้างความคับแค้นให้ปชช.

 

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 8 มกราคม ที่พรรคเพื่อไทย นายจตุพร  พรหมพันธุ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีที่อัยการสูงสุดมีมติไม่สั่งฟ้องพล.อ.สุรยุทธ์  จุลานนทร์ องคมนตรี กรณีบุกรุกเขตป่าสงวนเขายายเที่ยง ว่า นี่เป็นขบวนการอยุติธรรมที่สุด เพราะเมื่อคราวที่กรมป่าไม้และอัยการเป็นโจทย์ฟ้องราษฎรไม่เคยหยิบยกเหตุผลเหล่านี้ นำมาอธิบายความเพื่อคุ้มครองราษฎรผู้ยากไร้เหล่านั้น นอกจากนี้พล.อ.สุรยุทธ์ สมัยที่ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 เคยขับไล่ประชาชนที่บุกรุกในพื้นที่ป่าจนได้ดำรงตำแหน่งประธานมูลินธิพิทักษ์เขาใหญ่ ดังนั้นพล.อ.สุรยุทธ์ ย่อมรู้แก่ใจดีว่าความผิดของการบุกรุกป่าสงวนเป็นเช่นใด การจะกล่าวอ้างว่าไม่เจตนาเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น และยิ่งสำนักงานอัยการสูงสุดเอาสถาบันอัยการมาแลกเพื่อปกป้องพล.อ.สุรยุทธ์ ซึ่งเป็นอำมาตย์หมายเลข 2 เพียงคนเดียวนั้นเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง และตนทราบว่าอัยการคนที่แถลงก็มีความไม่สบายใจมาตั้งแต่เมื่อคืนนี้เพราะต้องแถลงในสิ่งที่สวนทางกับความรู้สึก แต่ว่าเมื่ออำมาตย์ต้องการให้เกมเป็นเช่นนี้ยิ่งไปสร้างความคับแค้นให้ประชาชนมากขึ้น


นายจตุพร กล่าวว่า การที่พล.อสุรยุทธ์ มีแนวคิดที่จะคืนที่ดินให้กับแผ่นดิน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รับฟังไม่ได้ เพราะพล.อ.สุรยุทธ์ ไม่ใช่เจ้าของที่มาตั้งแต่ต้นและครอบครองที่นี้โดยไม่ชอบ พล.อ.สุรยุทธ์ อย่าทำตัวเหมือนพันธมิตรฯยึดสนามบินสุวรรณภูมิและมาทำพิธีส่งมอบคืนมันไม่ง่ายไปหน่อยหรือ เพราะไม่เช่นนั้นหากโจรขโมยรถถูกตำรวจจับได้แต่เอารถและกุญแจไปคืนเจ้าของแปลว่าทุกอย่างต้องจบลงไปใช่หรือไม่ ที่พล.อ.สุรยุทธ์ บอกว่ามีชาวบ้านออกมาต่อต้านคนเสื้อแดงนั้น ตนบอกไว้เลยว่าชาวบ้านในหมู่บ้านเขายายเที่ยงเหนือ เขายายเที่ยงใต้ ไม่ได้อยู่ในสถานะเดียวกับพล.อ.สุรยุทธ์ เป็นหมู่บ้านที่ป่าไม้ได้จัดที่ให้ ไม่ได้บุกรุกพื้นที่ป่าสงวน ซึ่งพวกตนพร้อมด้วยส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อาทิ พ.ต.ท.สมชาย  เพศประเสริฐ และนายประเสริฐ  จันทรรวงทองได้เข้าไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านหมดแล้ว

 

"จุตพร"เปรียบ"สุรยุทธ์"ดื้อเหมือนเผาบ้านตัวเอง


นายจตุพร กล่าวว่า สายของตนรายงานมาว่า พล.อ.สุรยุทธ์จะปิดฉากที่เขายายเที่ยงด้วยการให้ไฟไหม้บ้านหลังนั้นทั้งหมด แล้วพล.อ.สุรยุทธ์จะเดินลงจากเขายายเที่ยงอย่างสง่างาม และโยนความผิดให้กับคนเสื้อแดงทำให้สังคมลืมไปว่าพล.อ.สุรยุทธ์ บุกรุกป่าสงวน ตนบอกไว้เลยว่าคนเสื้อแดงจะไม่มีวันที่จะเข้าไปในตัวบ้านของพล.อ.สุรยุทธ์ ถ้ามีเหตุการณ์ไฟไหม้เกิดขึ้นจะเกิดจากพวกของพล.อ.สุรยุทธ์เอง เพราะหากพล.อ.สุรยุทธ์ ดื้อดึงเอาบ้านหลังนั้นอยู่ปัญหาก็จะต้องลุกลามเมื่อบ้านเมืองเข้าสู่ระบบประชาธิปไตยตามปกติ


“เจ้าของสวนอาหารลุงพร ที่ร้านตั้งอยู่ตีนภูศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 10 ปี ยื่นอุทธรณ์ได้รับการลดโทษเหลือ 4 ปี ขณะนี้อยู่ในศาลฎีกา ซึ่งหากเจ้าของสวนลุงพรถูกจำคุก พล.อ.สุรยุทธ์ ที่อยู่ชั้นในป่าสงวนหนักเข้าไปกว่านี้อีก เพราะอยู่ต้นน้ำ ที่ถูกกำหนดว่าเป็นเขตลุ่มน้ำชั้น 1 เอ เพื่อไม่ให้ใครเข้าไปเพราะเทือกเขายายเที่ยงนั้นถือเป็นต้นน้ำของละคอง เลี้ยงคนทั้งจ.นครราชสีมา แต่พล.อ.สุรยุทธ์ เป็นอภิสิทธิ์ชนอยู่ในพื้นที่ต้นน้ำ ดังนั้นแม้พล.อ.สุรยุทธ์ จะคืนที่ไปแล้วก็ตามแต่ความผิดยังดำรงอยู่ คนที่อธิบายเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคือน.ต.ประสงค์  สุ่นศิริ”นายจตุพรกล่าว


นายจตุพร กล่าวว่า คนเสื้อแดงชุดแดงจะเดินทางไปเขายายเที่ยงตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม นำโดยนายสุภรณ์  อุตถาวงศ์ แกนนำคนเสื้อแดง เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยต่างๆ เพราะชุดที่จะมาสร้างสถานการณ์นั้นไม่ใช่ชาวบ้านที่นั่นอย่างแน่นอนเพราะพวกตนได้เคลียร์กับประชาชนแถวนั่นหมดแล้ว ส่วนที่มีการนำลวดหนามมาล้อมบริเวณเขายายเที่ยงนั้นพวกตนจะตัดลวดหนามเข้าไป ถ้าหากมีใครแสดงตนว่าเป็นเจ้าของลวดหนาม พวกตนก็จะดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติด้วย นอกจากนี้คนเสื้อแดงจะมีการเปิดเวทีปราศรัยที่บริเวณลานหน้าบ้านของพล.อ.สุรยุทธ์ด้วย


นายจตุพร กล่าวว่า หลังจากที่คนเสื้อแดงบุกเขายายเที่ยงแล้ว ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งที่คนเสื้อแดงจะบุกไปคือสนามกอล์ฟของธนาคารกรุงเทพ ที่อ. สอยดาว จ.จันทบุรี ซึ่งพล.อ.เปรม  ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษเป็นประธานในการเปิดสนามกอล์ฟดังกล่าว

 

ขู่ถ้าเพิกถอนประกันตัว เจอชุมนุมใหญ่แน่


นายจตุพร กล่าวถึงกรณีที่นายสุเทพ  เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงระบุว่าจะไม่ประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง ว่า เรื่องนี้นายสุเทพ ไม่ได้มีความเมตตาอะไรคนเสื้อแดง เพราะนายสุเทพ รู้อยู่เต็มอกว่าหากประกาศพ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อปกป้องคนบุกรุกป่าสงวนนั้นจะลามไปถึงตัวนายสุเทพ จึงมีความพยายามที่จะไปเพิกถอนหมายจับ เริ่มตั้งแต่นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง และแกนนำคนเสื้อแดงทุกคน จึงขอเตือนนายสุเทพ ไว้ว่าพวกตนไม่ได้กลัวการเพิกถอนประกันตัว แต่เราจะถือฤกษ์การชุมนุมใหญ่ของคนเสื้อแดงจะเป็นวันที่พวกตนทุกคนไปมอบตัวจากการถูกเพิกถอนประกันโดยเชื่อว่าวันนั้นจะมีผู้เข้าร่วมชุมนุมหลักล้านคน ซึ่งพวกตนพร้อมที่จะเข้าห้องขังเพราะขณะนี้ได้เซทแกนนำผู้ปฎิบัติหน้าที่รุ่นต่อไปไว้นำมวลชนเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้หากยังไม่มีการเพิกถอนหมายจับแกนนำคนเสื้อแดงจะมีการประชุมเพื่อกำหนดท่าทีการชุมนุมใหญ่อีกครั้ง หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่เขายายเที่ยง คาดว่าประมาณวันที่ 15 มกราคมนี้


“สาเหตุที่นายอริสมันต์ ถูกเพิกถอนหมายจับก่อนมาจากที่นายอริสมันต์ไปพูดที่จ.เชียงใหม่ ในเขตความรับผิดชอบพล.ต.ท.สมคิด  บุญถนอม ผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 5 ที่ในวันที่ 12 มกราคมนี้ ต้องลุ้นชะตากรรมตัวเองเหมือนกัน หากอัยการสูงสุดยังคงทำตัวเหมือนกับที่ทำในวันนี้โดยการไม่สั่งฟ้องพล.ต.ท.สมคิด และยังไม่มีการสั่งฟ้องจนกระทั่งเลยวันที่ 2 กุมภาพันธ์ไปคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจชาวซาอุดิอาระเบียที่มีภรรยาเป็นญาติเชื้อพระวงศ์ของราชวงศ์ซาอุฯทันที นอกจากนี้หากยังไม่สามารถนำตัวพล.ต.ท.สมคิดขึ้นศาลภายในวันที่ 12 กุมภาพันธ์คดีนี้ก็ขาดอายุความโดยอัตโนมัติเช่นเดียวกัน”นายจตุพรกล่าว


นายจตุพร กล่าวว่า ทราบว่าคนของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีที่เป็นรองนายกรัฐมนตรี 1คน รัฐมนตรีช่วยอีก 1 คนไปวิ่งเต้นไม่ให้สั่งฟ้องพล.ต.ท.สมคิด จึงขอเตือนว่าหากประเทศซาอุฯตัดความสัมพัน์กับประเทศไทยจะส่งผลให้คนไทยมุสลิมทั้งประเทศจะไม่ได้รับโควต้าการเข้าร่วมพิธีฮัจจ์และยังไม่สามารถเดินทางจากประเทศไทยไปประเทศซาอุฯโดยตรงได้ ทั้งนี้ในส่วนของอุปทูตซาอุฯมีความพยายามเต็มที่ที่จะรักษาความสัมพัฯธืที่ดีระห่างประเทศเอาไว้ โดยการพยายามไปที่กระทรวงยุติธรรม กระทรวงหมาดไทย หรือพบนายกรัฐมนตรี แต่หากประเทศไทยอุ้มคนเพียงคนเดียวจะแลกกับความสัมพันธ์ของไทยและประเทศซาอุฯ

 

"เสื้อแดง"โวยอัยการเปิดตลาดเสรีที่ดินป่าสงวน"เขายายเที่ยง"

 

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี ที่ถือครองที่ดินเขายายเที่ยง จ.นครราชสีมาว่า กรณีที่อัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ถือครองที่ดินป่าสงวนและขอให้คืนให้กลับกรมทรัพยากรธรรมชาตินั้นเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ ที่ว่าต่อไป ใครที่มีเงิน มีอำนาจสามารถซื้อต่อที่ดินที่อยู่ในเขตป่าสงวนได้ หากไม่มีใครรู้หรือไม่มีเรื่องกลับใครก็ครอบครองอยู่ได้ และเมี่อมีผู้ฟ้องร้องก็สามารถคืนให้กลับกรมทรัพยากรธรรมชาติได้หลังการถือครองมานับสิบปีก็จะทำให้ไม่มีใครผิด ซึ่งกรณีของพล.อ.สุรยุทธ์ นั้นอัยการจะต้องออกมาชี้แจงว่าแตกต่างอะไรกับกรณีที่เจ้าของร้านอาหารสวนเมิงพร ถูกศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก 4 ปี ในข้อหาบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน เพราะไปซื้อที่ดินต่อจากชาวบ้านในพื้นที่เขายายเที่ยง และทั้งๆที่ร้านอาหารสวนเมืองพร อยู่ห่างถนนมิตรภาพขึ้นไปบนเขายายเที่ยงเพียง 200 เมตร แต่บ้านพักตากอากาศของพล.อ.สุรยุทธ์นั้นอยู่ขึ้นไปบนเขายายเที่ยงกว่า 10 กิโลเมตร เพราะอีกคนหนึ่งติดคุกแต่อีกคนหนึ่งไม่มีความผิด 


"อัยการทำอย่างนี้เท่ากับเป็นการประกาศเปิดเสรีตลาดที่ดินในเขตป่าสงวนเลย เพราะต่อไปใครมีเงิน มีอำนาจเข้าถือครองที่ดินได้ โดยไม่มีความผิดหากมีการฟ้องร้องแล้วคืนให้กลับแผ่นดิน  ซึ่งการที่พล.อ.สุรยุทธ์ ซื้อที่ดินบุกรุกที่ป่าสงวน นั้นเท่ากับการซื้อที่ดินที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเทียบเคียงได้กับการรับของโจร ต่อไปใครที่ซื้อของต่อจากคนที่ไปขโมยของมาก็คงไม่มีความผิดเหมือนกัน และถ้าเทียบเคียงกับคดีที่ดินรัชดาภิเษก ที่คุณหญิงพจมาน ดามาพงษ์  อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประมูลซื้อที่ดินรัชดาฯ โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ลงนามให้ซื้อขายตามกฎหมาย และศาลก็พิพากษาว่าเป้นการวื้อขายที่ดินที่ถูกกฎหมายแล้วทำไมพ.ต.ท.ทักษิณ ถึงถูกพิพากษาให้ติดคุก" นายณัฐวุฒิ กล่าว

 

พท.เรียงหน้าถล่ม"บิ๊กแอ้ด"รุกเขายายเที่ยงซัดอัยการวินิจฉัยมิชอบ

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 8 ธันวาคม ที่พรรคเพื่อไทย นายกมล บันไดเพชร กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงนัดหมายบุกเขายายเที่ยง จ.นครราชสีมา เพื่อกดดันพล.อ.สุรยทุธ์ จุลานนท์ องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ตนเคยรับราชการในกรมป่าไม้และเป็นผู้เดินสำรวจพื้นที่เขายายเที่ยงทั้งหมดด้วยตัวเอง ซึ่งขณะนั้นมติ ครม.ประกาศให้เป็นที่ดินเพื่อการอนุรักษ์ พร้อมกับแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรและชาวบ้านที่ครอบครองที่บุกรุกที่ดินมาก่อน ด้วยการจัดสรรที่ดินทดแทนให้คนละ 14 ไร่ แต่ที่ดินฝั่งที่พล.อ.สุรยุทธ์ ครอบครองนั้น อยู่นอกเขตการจัดสรร แต่เป็นป่าลุ่มน้ำชั้นเอ ใครก็ครอบครองไม่ได้ อีกทั้งเมื่อครั้ง พล.อ.สุรยุทธ์ ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่สองนั้น ท่านมีตำแหน่งเป็นหัวหน้าชุดปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า ตนจึงขอถามว่าอย่างนี้หรือไม่ได้มีเจตนาครอบครอง ตามที่อัยการอ้างเป็นเหตุผลไม่สั่งฟ้อง ซึ่งตนเห็นว่าเป็นคำวินิจฉัยที่มิชอบ นอกจากนี้พล.อ.สุรยุทธ์ ยอมรู้ดีแก่ใจว่า ขณะที่ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคสอง ท่านได้ตัดถนนลาดยางขึ้นไปยังบ้านพักของตัวเองอีกด้วย ตนในฐานะที่เป็นคนบ้านเดียวกับพล.อ.สุรยุทธ์ จึงรู้สึกละอายแทนกับพฤติการณ์ดังกล่าว


ต่อมาเวลา 15.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะอดีตอธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แถลงว่า ที่ดินซึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ครอบครองนั้นเป็นเขตอนุรักษ์  ไม่อนุญาตให้ใครครอบครอง ตนจึงเห็นว่าการที่อัยการสั่งไม่ฟ้องนั้นผิดแบบแผนเดิม เพราะพล.อ.สุรยุทธ์ มีความผิดชัดเจนตามพ.ร.บ.ป่าสงวน รวมถึงผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ เพราะมีการแผ้วถางสร้างสิ่งปลูกสร้าง เมื่อเกิดความผิด สิ่งที่กรมป่าไม้ต้องดำเนินการมีสองทางคือ 1.จับกุม 2. หากเห็นว่าผู้ครอบครอง ไม่มีเจตนา กรมป่าไม้ต้องทำหนังสือแจ้งเจ้าของและยึดพื้นที่คืนมา จากนั้นจะดำเนินคดีหรือไม่ก็ได้ แต่ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะดำเนินคดี  


นายปลอดประสพ กล่าวว่า ส่วนตัวมีความเห็นว่ากรณีดังกล่าวควรดำเนินการสองอย่างคือชี้แจงกับกรมป่าไม้ถึงที่มาที่ไป และแสดงเจตนาที่จะคืนที่ดิน ส่วนอีกทาง กรมป่าไม้ต้องจับกุมและอัยการควรดำเนินส่งฟ้องต่อศาลเพื่อให้เป็นผู้วินิจฉัย  อย่างไรก็ตามหากพื้นที่ดังกล่าวเปลี่ยนแปลงจนคืนสภาพเดิมไม่ได้ ท้ายที่สุดกรมป่าไม้ก็สามารถเปิดให้เช่าได้   

  • จากบันทึก จากข่าวที่สำเนามาแบ่งปัน และจะมีต่ออีก
  • ความรู้ ความเข้าใจ ปัญญา ผู้รับสื่อต่าง ๆ  ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท