ผมเดินทางเข้า กทม. ได้สองสามวันเพื่อเตรียมตัวไปประชุมร่วมกับผู้ประสานงานของ ปปช. ในวันพรุ่งนี้ (ไม่ได้ต้องคดีการทุจริตใดๆนะครับแต่คงมีข่าวดีกลับไปในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้บ้าง อินชาอัลลอฮฺ) วันนี้ระหว่างนั่งทานโจ๊กตอนเ้ช้าที่บ้านพักพี่สาวก็เลยสงสัยถึงคนที่มาช่วยล้างจานที่ร้านครับว่าทำไมถึงมีสองคนทั้งที่คนเดียวก็น่าจะไหวแล้วก็ได้คำตอบตามนี้ครับ
(ข้อมูลภาพอ้างอิง : http://www.chaoprayanews.com)
มิตรภาพที่ผมกำลังจะพูดถึงนี่แหละครับ คือ เรื่องราวของคำตอบ...
โต๊ะมุ (โต๊ะ คำเรียกชื่อยายของคนมุสลิม) เป็นหญิงชราที่เป็นคนมาขอล้างจานที่ร้านขายโจ๊กของพี่สาวย่านประชาอุทิศ ๖๒ ฝั่งทุ่งครุ ด้วยความสงสารพี่สาวเลยรับไว้เพื่อจะได้ช่วยเหลือจุนเจือในการใช้จ่ายหลังจากนั้นไม่นานโต๊ะมุก็เกิดอาการเมื่อยล้าตามประสาคนชราจึงได้บอกกับที่บ้านว่าให้เพื่อนมาช่วยล้างได้ไหม๊ คำตอบ คือที่บ้านก็อนุญาต โต๊ะมุก็เลยชวนยายเวียนมาช่วยล้างจานเป็นประจำทุกวันตอนเช้า ด้วยความสงสัยของผมจึงถามพี่สาวว่าทำไมถึงต้องมีคนล้างจานสองคนแล้วทั้งสองคนรู้จักกันได้อย่างไรเหมือนเป็นเพื่อนซี้กันมานานตามประสาการพูดคุยของคนวัยร่วมจะ ๖๐ กว่าๆ ก็ได้รับคำตอบจากพี่สาวว่า (เกริ่นซะยาวไม่เข้าเรื่องซะที อิอิ)
"เมื่อก่อนโต๊ะมุจะเป็นคนขายโรตีนั่งรถเมล์มาขายโรตีแถวตลาดทุกวันใช้ชีวิตอยู่แบบนี้ร่วมสิบปี และรถเมล์คันที่โต๊ะมุขึ้นก็จะเป็นคันเดิม รถเมล์สายเดิม เวลาเดิมแทบทุกวัน เมื่อเวลาผ่านไปความรู้จักมักคุ้นก็ก่อเกิดเป็นมิตรภาพให้โต๊ะมุกับยายเวียนได้รู้จักกัน (ยายเวียน ณ ตอนนั้นก็คือกระเป๋ารถเมล์ที่โต๊ะมุขึ้นไปขายโรตีที่ตลาดแทบทุกวัน) พอยายเวียนเริ่มแก่ตัวลงเกษียณอายุก็ต้องออกจากการเป็นกระเป๋ารถเมล์ อย่กับลูกหลานแต่สุดท้ายการใช้ชีวิตในเมืองกรุงก็คงหนีไม่พ้นเรื่องค่าครองชีพ เมื่อโต๊ะมุเห็นเพื่อนลำบากก็เลยชักชวนเพื่อนมาช่วยล้างจานที่ร้านแล้วแบ่งเงินค่าจ้างกัน ด้วยความสงสารพี่สาวเลยให้ทั้งสองคนมาช่วยล้างจานที่ร้าน..." ผมถึงได้คำตอบในที่มาที่ไปของยายเวียนกับโต๊ะมุที่มาช่วยล้างจานที่ร้านบ้านพี่สาว
ผมมองว่าบางครั้งในสังคม ณ ปัจจุับันกับเมืองกรุงที่หลายคนมองว่ามันวุ่นวายแต่สุดท้ายอาจมีอีกหลายแง่มุม หลายหลากเรื่องราวที่สะท้อนออกมาให้เราได้ประทับใจอีกมาก แค่เพียงเราเปิดใจยอมรับและเรียนรู้กับสิ่งรอบตัว บางครั้งมุมเล็กๆของเมืองกรุงอาจสร้างรอยยิ้มและความสุขให้แก่เราในวันอันแสนวุ่นวายก็เป็นได้ เฉกเช่นเรื่องราวแห่งมิตรภาพของเพื่อนแท้ต่างศาสนาของโต๊ะมุกับยายเวียนที่ผมเจอ ณ เมืองกรุงแห่งนี้
บันทึกแห่งความสุขของผมวันนี้ในเมืองกรุง...
มิตรภาพมีอยู่ทุกที่เพียงแค่เรามองหาด้วยรอยยิ้ม และแบ่งปันความสุขให้กันและกัน
ขอบคุณมากครับสำหรับอีกหนึ่งมุมคิดดีๆครับ
hasang
ขอบคุณมากครับอาจารย์
เรื่องราวดีๆมีไว้แบ่งปันครับ
"โต๊ะมุ กับ ยายเวียน" เป็นมิตรภาพที่ผมประทับใจกับการมาเมืองกรุงในรอบ ๕ ปีนี้มากครับ
วาอาลัยกุมุสลามฯครับบัง...
ครับพี่สาวเปิดร้านขายโจ๊กหน้าซอยประชาอุทิศ 72 ครับแวะไปทานได้ครับ อิอิ