วิธีส่งความสุขยุค2010


ยุค 2010 แล้ว มีวิธีการส่งความสุขหลายแบบ

ช่วงเฉลิมฉลองปีใหม่ 2553  ที่ผ่านมาได้รับคำอวยพร “สุขสันต์วันปีใหม่” ในรูปแบบต่างๆ ที่น่าประทับใจหลายอย่าง ขอเล่าสู่กันฟังดังนี้

 

  1. ส่ง ส.คส.  - การ์ดทางไปรษณีย์  - เขียนเสร็จดูเชยๆ ยังงัยไม่รู้ เวลาเปลี่ยนรูปแบบการส่งเปลี่ยนไป ได้รับส.ค.ส ลดลง เพราะดูเหมือนว่า การส่งการ์ดนี่เป็นทางการเหลือเกิน เหมาะสำหรับนักศึกษาส่งหาอาจารย์ที่นับถือ ส่งให้เจ้านายที่อยู่ห่างๆ  ประมาณ 7 ชั้น  - ความรู้สึกประมาณนี้ เหมือนเดินตามเพื่อนใน office มารับโทรศัพท์ 6 ตัว

  2. ส่งคำอวยพรแบบสรุปให้ฟังว่าปีที่ผ่านมาทำอะไรไปบ้าง – แบบนี้ professor ใหญ่ๆ ชอบทำ เหมือนสรุปงานทั้งปี เราอ่านเสร็จก็เอ๋อไปเลย.....ทำไม่เค้าทำงานได้มากขนาดนี้ ส่วนเราก็ไม่อาจนับได้...เพราะน้อยมาก

  3. ส่ง e-card –บางปีได้รับเยอะ โดยเฉพาะตอนที่อายุยังไม่ใกล้ 40 แบบนี้ ตอนนี้หายไปมาก เพราะอายุคนรับและคนส่งสูงขึ้น ไม่มีเวลาไปนั่งประดิดประดอยทำแบบนั้นอีกแล้ว มีอย่างอื่นทำมากกว่า แต่ e-card ก็ดีได้ทั้งภาพและเสียงเพลง

  4. ส่งคำอวยพรมาพร้อมรูปตัวเองและครอบครัว – ให้เพื่อนรับรู้ว่าตอนนี้เปลี่ยนไปมากแค่ไหน อ้วนขึ้นไหม ผอมลงไหม ราศีจับไหม งามสมวัยไหม บางคนถือโอกาสนี้แนะนำสามี-ภรรยา ให้ดูหน้าลูก วัยประมาณไหน ส่งแบบนี้ก็ดี เพราะวันหลังเจอกันจะได้คุยกันยาว- เรื่องครอบครัว 

  5. ส่ง SMS – ความถี่ที่ได้รับจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่วันที่  31 ธค. จะไป peak สูงสุดหลังเที่ยงคืน เพราะเริ่มเข้าปีใหม่ วันนั้นสัญญานส่งถี่มาก คนกำลังจะหลับ ขออ่านรวบยอดตอนเช้าแล้วกัน 

SMS จะมีข้อความสองแบบเหมือนกัน คือ แบบคนอื่นสร้างเป็น template อันไหนตรงความต้องการของเราก็เอามาส่งต่อให้เพื่อน  อันนี้พอได้รับก็อ่านแล้วอ่านอีก คนเขียนเขียนได้ไหงหนอ  มีแต่คำดีๆ ทั้งนั้นเลย เลยขออนุญาตเพื่อนที่ส่งมา (ในใจ) ขอส่งต่อให้คนอื่นๆ แล้วกัน คงไม่ว่ากัน  อีกกลุ่มก็เขียนเอง...สั้นๆ แต่ได้ใจความ – เหมือนทำข้อสอบอัตนัย – ส่งให้เพื่อน อันนี้ได้รับแล้วก็อ่านซ้ำเหมือนกัน เพราะอยากรู้ว่าเพื่อนคิดอะไรอยู่ สำหรับปีใหม่นี้ จะได้จับอารมณ์ถูก เพราะที่เพื่อนส่งมาเนื้อๆ ทั้งนั้น พอคุยกันต่อวันหลังจะได้ไปทิศทางเดียวกัน

อีกอย่างใครที่ส่ง SMS บอกชื่อมาด้วยก็ดีนะ ในกรณีที่เราไม่ได้ติดต่อกันนานๆ เพราะผู้รับไม่รู้ว่าใครส่งมา แต่ผู้ส่งนะรู้ว่าส่งให้ใคร ทำให้คนรับเข้าใจไขว้เขว...เข้าข้างตัวเอง

6. บางคนส่ง email มาอวยพรเพื่อน โดยแนบธรรมะสั้นๆ มาด้วย บางทีเป็นรูปการ์ตูนธรรมะสอนใจ ให้ข้อคิดติดมา บางทีเป็นสนทนาธรรม  ดีไปอีกแบบ เพราะอ่านไปด้วย คิดไปด้วย สอนตัวเองไปด้วย  

7. บางคนส่ง email อวยพรปีใหม่แบบ how to  - การคิดดี คิดทางบวก การทำจิตใจให้สบาย เป็นต้น

 

ไม่ว่าเราจะได้รับคำอวยพรในรูปแบบใด แต่ช่วงประมาณสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเราอยู่กับคำพูดที่เป็นสิ่งดีๆ ซ้ำๆ กันหลายคำ; มีความสุข, สุขภาพดี, ร่ำรวยเงินทอง, คิดอะไรให้ได้สมปรารถนา, หน้าที่การงานก้าวหน้า

  คำพูดเหล่านี้ฟังครั้งเดียวแล้วอาจผ่านไป แต่พอได้ฟังบ่อยๆ รับรู้บ่อยๆ ทางสื่อทั้ง 7 ด้าน ข้างต้น ต้องกลับมาคิดว่าเราจะทำอะไรให้เป็นจริงได้บ้างละนี่ หลายเรื่องเหลือเกิน คิดกลับไปกลับมาเรียงความสำคัญใหม่เองแล้วกัน

1……………….

2………………………

3……………..

เอาสามข้อพอ แค่นี้ก็มากเกินไปแล้วสำหรับปีเสือ – คิดแบบคนขี้เกียจ – แถมลึกๆ ยังหวั่นใจว่าจะทำได้ไหมเนี่ย จึงขออธิษฐานต่อหน้าฝนดาวตก....ที่ไม่เห็นเลย เพราะเมฆมาก ......ขอให้ฝันเป็นจริง สาธุ สาธุ..........


ขอลงท้ายด้วยสำนวนที่ได้ยินเป็นประจำเสมอมาว่า

.......สุขสันต์วันปีใหม่คะ..........

หมายเลขบันทึก: 324879เขียนเมื่อ 4 มกราคม 2010 06:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 11:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบคุณค่ะ โชคดีปีใหม่ และตลอดไปค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท