ถึงเทศกาลปีใหม่แต่ละปี ดูทุกครอบครัวตั้งความหวังเพื่อให้มีความสุขกันถ้วนหน้า สังคมทุกวันนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปมากมาย ญาติพี่น้องต้องออกไปทำงานต่างพื้นที่ ต่างจังหวัด เทศกาลทุกคนจึงอยากกลับบ้านเพื่อเจอะเจอพี่น้องพ่อแม่ ได้เยี่ยมได้แสดงความกตัญญูต่อบุพการี ขณะเดียวกันคนที่อยู่บ้านก็รอการกลับมาของญาติพี่น้องลูกหลานด้วยความหวังความสุขที่จะได้พบหน้ากัน
ในสถาณการณ์ปัจจุบัน การทิ้งถิ่นฐานหางานทำเพื่อหารายได้ มีมากขึ้น เพราะค่าครองชีพที่มีความจำเป็นต้องจ่ายในหลาย ๆ เรื่อง เช่น ค่าเล่าเรียนของลูก หนี้สินดั้งเดิมที่ยังค้างคา เป็นปัญหาที่แต่ละครอบครัวต้องแก้กันอย่างต่อเนื่อง การจากบ้านจึงไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ และการกลับบ้านเพื่อเยี่ยมพ่อแม่พี่น้อง เป็นความสุขอย่างยิ่งยวดที่ทุกคนต้องการ แต่บางคนความสุขที่ว่าดับวูบลง ในวันที่น่าจะมีความสุขกลับกลายเป็นทุกข์สาหัส ของหลายคนที่เป็นญาติพี่น้อง ที่มีการสูญเสียในการเดินทาง
คิดแล้วใจหายเมื่อนึกถึงสภาพของผู้ที่ได้รับความสูญเสีย ในช่วงวันปีใหม่ อยากให้สังคมกลับไปเหมือนสมัยเก่าก่อนที่มีการเป็นอยู่แบบไทย ๆ ญาติพี่น้องอยู่พร้อมหน้า ปู่ ย่า ตา ยาย สั่งสอนดูแลหลานตัวเล็ก หุงข้าวไว้รอหลานโต ๆ กลับจากโรงเรียนวัด... ขณะที่ลูก ๆ ที่ออกเรือนแล้ว ออกไปทำไร่ ทำนา ทำสวนตามวิถีชีวิตและอาชีพดั้งเดิม เย็นกลับมา หิ้วปลาแบกฟื้น จูงวัว จูงควาย ต้อนเข้าคอก อาบน้ำกินข้าวพร้อมกัน เสร็จแล้วสอนการบ้านลูกหลาน ปู่ ย่า ตา ยาย เล่านิทานที่เป็นการสอนสั่งให้หลานฟัง ร้องเพลงกล่อมแฝงด้วยคำสอนที่ปลูกฝังความดี ให้เป็นคนดี จนหลับ สิ่งเหล่านี้ยังจะมีได้เห็นหรือเปล่าในยุคนี้
สวัสดีค่ะ
สวัสดีครับท่าน ชาญวิทย์ ปีใหม่หรือวันว่าง ลูกหลานมา ได้โอกาสสืบโยดสาวย่าน นับญาติเถือกเถาเหล่ากอให้ลูกหลานฟัง ดีครับ