ประวัติย่อเครื่องสำอางดัง - DHC


ประวัติย่อเครื่องสำอางค์ดัง - DHC

เราให้คำมั่นว่า เราจะเป็น มิตรต่ออิสตรีทั่วโลก

เราจะเผยแพร่ ประวัติบริษัทเครื่องสำอางระดับโลกและของไทย

เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้หญิงทั้งหลาย

หลายสิบปีก่อนหน้านั้น ได้มีการใช้เครื่องสำอางที่ผสมสารเคมีกันอย่างแพร่หลาย โดยมีข้อกังขาในส่วนผสมที่อาจไปซ้ำเติมผิว เมื่อปี ค.ศ.1975 บริษัท DHC  ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของเครื่องสำอางปลอดสารเคมี จึงเริ่มต้นทำการวิจัยและค้นคว้า เพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ ที่มีสารประกอบจากธรรมชาติ และศึกษาวิธีช่วยให้สารประกอบเหล่านี้ ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีที่สุด

วันนี้บริษัท DHC เป็นบริษัทที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับการตอบรับอย่างดีมาก จากผู้ใช้ในประเทศญี่ปุ่น ว่าเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและอาหาร เพื่อสุขภาพชั้นยอด ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของ DHC ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ผลิตภัณฑ์ที่สกัดจาก Olive Oil 100% ซึ่งได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ในการบำรุงโดยไม่ระคายเคืองต่อผิว จึงเป็นสินค้าคุณภาพที่ได้รับการยอมรับให้เป็นมาตรฐานใหม่ ในอุตสาหกรรมบำรุงผิวของประเทศญี่ปุ่น

ลักษณะเฉพาะในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัท DHC คือการส่งสินค้าให้ถึงมือผู้รับโดยตรง และมีระบบขนส่งสินค้า ที่สามารถรักษาสภาพหีบห่อ ของสินค้าให้ดีที่สุดจนถึงมือลูกค้า ระบบการขนส่งสินค้าดังกล่าว ได้ถูกถ่ายทอดวิทยาการ และความชำนาญแก่สาขาต่างประเทศ อาทิอเมริกา ไต้หวัน เกาหลี ฮ่องกง และเซี่ยงไฮ้ ทำให้ธุรกิจของ DHC ประสบความสำเร็จ อย่างสวยงามในประเทศเหล่านี้

 

ปรัชญาของ DHC

"ผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงทัดเทียมกับตลาด แต่ขายในราคาที่ถูกกว่า หรือผลิตภัณฑ์ DHC จะต้องมีคุณภาพที่เหนือกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับสินค้าที่มีราคาเท่ากัน และถ้าทำไม่ได้ตามเงื่อนไขดังกล่าวข้างต้น บริษัทก็จะไม่ผลิตสินค้านั้น"

เคล็ดลับการผลิตสินค้าคุณภาพสูง ในราคาย่อมเยากว่า คือเน้นการลดต้นทุนการผลิต โดยสั่งซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพจำนวนมาก ประกอบกับการใช้เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัย

บริษัท DHC มีนโยบายการขายโดยไม่ผ่านระบบพ่อค้าคนกลาง และได้ใช้ระบบส่งเสริมการขาย ที่เปิดโอกาสสำหรับผู้ที่สนใจได้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวของ DHC และทุกครั้งที่คุณสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ จะได้รับสิทธิ์เลือกสินค้าทดลองใช้อื่นๆ นอกจากนี้สมาชิกจะได้รับ Olive Club นิตยสารรายเดือน ที่ให้ทั้งสาระเกี่ยวกับความงามและสุขภาพ ทั้งให้ความสะดวกในการเลือกผลิตภัณฑ์

ตลอด 30 ปีที่ DHC มุ่งมั่นทุ่มเทในการค้นคว้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ในการดูแลผิวพรรณ

ความลับอยู่ที่การพิถีพิถันคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ เช่นผลมะกอก (Olive) ที่เปี่ยมด้วยพลังในการต้านอนุมูลอิสระและฟื้นฟูสภาพผิวได้ดีที่สุด DHC เลือกใช้มะกอก จากแคว้นอันดาลูเซีย ประเทศสเปน ซึ่งมีกำลังการผลิตมากที่สุด และคุณภาพดีที่สุด

การเก็บผลมะกอก จะใช้เครื่องจักรเขย่า หรือใช้ไม้ตีให้ผลมะกอก ร่วงลงมาครั้งละมากๆ

แต่สำหรับ DHC คนงานจะมาถึงไร่มะกอกตั้งแต่เช้ามืด และเลือกเก็บผลมะกอก ทีละลูก ใส่ตะกร้าที่ห้อยคอ การทำเช่นนี้เพื่อคัดผลมะกอกที่มีคุณภาพ เพราะเนื้อมะกอกในช่วงนี้ มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระสูงสุด และเป็นวิธีทำให้ผลมะกอกไม่ช้ำ เพื่อคงความมีชีวิตชีวาของผลผลิต ที่จะดูแลผิวของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

โดยทั่วไปในการผลิตน้ำมันมะกอก จะนำผลมะกอกที่เก็บแล้ว มาสกัดเป็นน้ำมันมะกอกภายใน 3 วัน

แต่สำหรับ DHC เมื่อเด็ดผลมะกอกจากต้นแล้ว ต้องสกัดเป็นน้ำมันภายใน 6 ชั่วโมง เพื่อให้ได้น้ำมะกอกที่มีคุณภาพดีที่สุด เพราะยิ่งเวลาผ่านไป ความสดใหม่ของผลมะกอก จะลดลง วิตามินลดลง และทำให้กลิ่นหอมของมะกอกหายไป

โดยทั่วไปน้ำมันมะกอก 1 ลิตร จะใช้ผลมะกอกประมาณ 5.5 กิโลกรัม

DHC มุ่งมั่นที่จะค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้ผลิตภัณฑ์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ผลิตภัณฑ์ของ DHC ล้วนต้องผ่านการวิจัยอย่างเข้มงวด และการทดสอบนับครั้งไม่ถ้วน

DHC ทุ่มเทให้กับการค้นคว้า โดยมีศูนย์วิจัยหลายแห่ง อีกทั้งให้ความสำคัญในการร่วมมือกับศูนย์วิจัยต่างๆ หลายแห่งในญี่ปุ่น มีการวิจัยที่สร้างชื่อเสียงให้ DHC ทั้งในระดับประเทศและในระดับนานาชาติ

เป็นหนึ่งในศูนย์วิจัยของ DHC ตั้งอยู่ใน Translation Research Information Center (TRI) ซึ่งเป็นองค์กรของรัฐบาลที่รู้จักในนามของ เมืองแห่งอุตสาหกรรม เพื่อสุขภาพใน Kobe

DHC Basic Research Institute of the Skin
DHC BRIS เป็นศูนย์วิจัยแห่งแรกๆ ในประเทศญี่ปุ่น ที่ค้นคว้าเกี่ยวกับรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) และผลเสียของรังสี UV ต่อเซลล์ผิวหนัง ซึ่งพบว่านอกเหนือจากกระบวนการตามธรรมชาติ ที่เกิดกับร่างกายและผิวพรรณตามอายุที่เพิ่มขึ้นแล้ว แสงแดดเป็นปัจจัยภายนอก ที่ทำลายผิวได้มากที่สุด และมีผลกระทบกับสภาพและสุขภาพของผิว เพราะรังสี UV จะทำปฏิกิริยากับผิวหนัง (Photo-aging) รังสี UV ทำให้โมเลกุลของเซลล์อ่อนแอลง โดยทำให้เซลล์เม็ดเลือดขาวปล่อยอิเลคตรอนออกมากระทบกับโครงสร้างของผิว จึงทำให้เกิดริ้วรอย กระ และจุดหมองคล้ำ ผิวหยาบและผิวแก่ก่อนวัย

ใช้เทคนิคการวิเคราะห์ผิวจาก
"Regenerate Skin" หรือผิวหนังที่ได้รับการ "ปลูก" จากเซลล์ผิวหนังของคนในห้องทดลอง ซึ่งปัจจุบันมีการนำมาใช้ในวงการแพทย์ อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในการรักษาแผลไหม้

ทว่า "Regenerate Skin" ไม่มีโครงสร้างเหมือนกับผิวหนังทั่วไปเสียทีเดียว เช่น ไม่มีเซลล์ที่ก่อให้เกิดเส้นผม ต่อมเหงื่อ หรือเส้นประสาท เนื่องจากผิวหนังของคนเรา จะมีการเปลี่ยนสภาพตามอุณหภูมิ ความชื้นในอากาศ และระดับไขมันในร่างกาย การค้นคว้าของ DHC จึงมีเป้าหมายที่จะสร้าง "Regenerate Skin" ที่มีต่อมต่างๆ ให้ใกล้เคียงกับผิวหนังจริงมากที่สุด การใช้ "Regenerate Skin" ที่มีปฏิกิริยาต่อความเปลี่ยนแปลงต่างๆ จะทำให้เราสามารถวิเคราะห์ถึง ความปลอดภัยและประสิทธิภาพของสูตรต่างๆ ในผลิตภัณฑ์ Anti-aging Care หรือ Whitening ที่มีต่อผิวที่ใกล้เคียงกับผิวจริงได้

DHC ให้ความสำคัญต่อการศึกษาในเรื่องของ Photo-aging ซึ่งนำมาสู่การคิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อป้องกันรอยเหี่ยวย่น และหมองคล้ำในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ Anti-aging Care และ Sun Screen

DHC ต้องการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดียิ่งๆ ขึ้น เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด เพื่อให้คนทั้งโลกมีผิวสวยค่ะ

หมายเลขบันทึก: 324331เขียนเมื่อ 31 ธันวาคม 2009 20:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท