ประวัติน้ำหนักของผม ตอนที่ 2
เมื่อเข้าเรียนที่ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ผมก็ยังคงเล่นกีฬาสม่ำเสมอ โดยเล่นฟุตบอลเป็นหลัก มีเล่นเทนนิส ปิงปอง และตะกร้อบ้างเป็นครั้งคราว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าเรียนหนักหรือเปล่าด้วยนะครับ ช่วงที่เรียนมากหรือมีความสนใจอย่างอื่นๆ การออกกำลังกายก็จะน้อยลงบ้าง ทำให้มีช่วงผอมๆ อวบๆ สลับกันไปบ้าง ความสูงคงที่ 173 ซม. น้ำหนักคงอยู่แถวๆ 72-75 กิโล แต่คิดว่าไม่เคยอ้วน นอกจากนี้ ผมจะเดินทุกครั้งที่มีโอกาส เดินไปเที่ยว เดินกลับบ้าน 2-3 กิโลก็พอเดินได้
ความอ้วนเริ่มมาเยือนครั้งแรกในวัยหนุ่มเมื่อเรียนจบป.ตรี แล้วกำลังรอจะไปเรียนต่อเมืองนอกครับ เรื่องมีอยู่ว่า ป.ตรีจบเดือนมีนา 2538 จะไปเมืองนอกเดือนตุลา ปีเดียวกัน มีเวลาว่างๆ 7 เดือนที่ไม่มีอะไรทำ แม้ว่าจะมาลงทะเบียนเรียนป.โท ที่จุฬาฯ แต่แก๊งค์เตะบอลก็หายไปหมดแล้ว บางครั้งก็ไม่มีแรงจูงใจที่จะออกจากบ้าน ผมจึงนั่งๆ นอนๆ กินๆ อยู่กับบ้าน แถมขนมสอดไส้ช็อคโกแลตทั้งหลายเป็นของโปรด เข้าใจว่าตอนนั้น น้ำหนักอาจพุ่งไปถึง 78 กิโลเลยทีเดียว
เมื่อไปเรียนเมืองนอก มีสองช่วงนะครับ คือช่วงแรกเป็นช่วงงกๆ รถเมล์ไม่เคยขึ้น ผมจะเดินเป็นหลัก ไปไหนมาไหนจะเผื่อเวลาไว้เดิน เดินๆๆๆๆ เดินแหลก เดินไปคิดไป บางทีคิดงานออกต้องหยุดเดินเอากระดาษกับปากกามาจดไอเดียเอาไว้ ช่วงนี้ยังเล่นกีฬามากเหมือนเคย โดยเล่นฟุตบอลอาทิตย์ละ 2 วัน ตีแบดก็อาทิตย์ละ 2 วัน กินข้าววันละ 2 มื้อ คือมื้อเที่ยง (เพราะตื่นสายมาก) กับมื้อเย็นครับ น้ำหนักก็จะคงที่อยู่ที่ประมาณ 75 กิโลครับ ในช่วงที่อยู่เมืองนอกนี้ แม้ว่าจะดื่มเบียร์แทนน้ำแทบทุกวันแต่น้ำหนักก็ไม่เคยขึ้นครับ
ความอ้วนมาเยือนอีกครั้งเมื่อใกล้จะเรียนจบป.เอกครับ มี 2-3 ปัจจัย อันแรกคือมีเงินเหลือเก็บเต็มบัญชี เงินเคยมีสูงถึงเกือบ 10,000 ปอนด์ (สมัยนั้นปอนด์ละ 50-60 บาทและเคยขึ้นไปสูงถึง 92 บาท) ถัดมาคือความสบายใจที่เรียนจะจบป.เอกซะที และปัจจัยที่สำคัญที่สุดคือได้เจอ "ว่าที่ภรรยา" และชวนกันกินแหลกครับ ตอนนี้น้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่เดือนและทะลุ 80 กว่ากิโลเป็นครั้งแรก จำได้ว่าตอนอยู่ม.ปลาย เอว 26 นิ้ว ตอนอยู่เมืองนอกเอวขยายเป็น 29-30 นิ้วครับ
อืมม์ ... ที่หมดแล้วครับ ถ้าติดลม ขอให้ท่านติดตามต่อตอนหน้าครับ
ความเห็น (1)
อาจารย์ยังเบากว่าผมอีก อิอิ
ขอบคุณครับ ;)