อุปสรรคในการขอ(ตอนที่ 1) "ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์"


Appreciative Inquiry : อุปสรรคในการขอ "ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์"

วันนี้ก็วันที่ 30 ธันวา ใกล้ปีใหม่เข้าไปทุกวินาที หลายๆท่านอาจจะไปเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัว

หลายๆท่านอาจจะยังคงทำงานอยู่ และก็มีอีกหลายท่านอาจจะกำลังเดินทางเพื่อไปพบกับสิ่งที่ปรารถนา

วันหยุดสบายๆแบบนี้ ผมได้มีโอกาสอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ( อ.โย แนะนำมา )
ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการขอที่ผมสนใจอยู่พอดี หนังสือเล่นนี้ชื่อว่า "กล้าที่จะขอThe Aladin Factor


ข้างในมีเนื้อหาที่น่าสนใจมากมายหลายอย่างครับ วันนี้ผมจะมานำเสนอแง่มุมหนึ่งในหนังสือเล่มนี้

ทุกท่าน เคยตั้งคำถามกับตัวเองไหมครับ ว่าทำไมเราถึง "ไม่กล้าที่จะขอ" โดยเฉพาะคนไทยอย่างเราด้วยแล้ว

การข้อนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้น เพราะคนไทยส่วนใหญ่มีนิสัยขี้เกรงใจครับ

หนังสือเล่มนี้ได้ สรุปประเด็นที่เป็นอุปสรรคในการขอของคนเราไว้ 5 ประการ ดังนี้ครับ

1.ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
2.ความเชื่อที่จำกัด และไม่ถูกต้อง
3.ความกลัว
4.ความเคารพตัวเองต่ำ
5.ความหยิ่งยโส

จากนี้ต่อไปอีก 5 วัน เราจะมาวิเคราะห์กับอุปสรรคซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เราไม่กล้าที่จะขอกันครับ

วันนี้มาเริ่มกันที่ข้อที่ 1 ครับ >>> ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์


ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หมายถึงความไม่รู้ หรือการขาดประสบการณ์ในสิ่งที่จะขอครับ ( ไม่รู้ว่าอะไรที่เราขอได้บ้าง )

คือไม่รู้ว่าสิ่งนี้เราสามารถทำได้อยู่แล้ว เป็นสิ่งที่เราขอและได้แน่นอน แต่ติดที่เราไม่รู้ เราเลยไม่ได้ขอครับ


ยกตัวอย่างง่ายๆ จากประสบการณ์ของผมเอง ตอนผมยังเป็นเด็กครับ ผมได้ไปงานเลี้ยงฉลองที่หรูหรามากงานหนึ่ง

ที่งานได้มีการจัดซุ้มอาหารไว้มากมาย ซึ่งในตอนนั้นผมไม่กล้าที่จะไปหิบของมารับประทาน เพราะคิดว่ามันเสียตัง

ที่ร้ายไปกว่านั้น ผมไม่ได้เอาเงินไปเลยสักบาท เลยต้องทนนั่งหิวอยู่อย่างนั้นเกือบตลอดงาน

จนผมสังเกตว่าทำไมคนที่ได้อาหารออกมานั้น เค้าไม่ได้จ่ายเงินเลยสักบาท แค่ไปต่อคิวและเดินถืออกมาเฉยๆ

ผมจึงลองเข้าไปถามพนักงานที่คุมซุ้มดูครับ เขาก็บอกว่าอาหารนี้รับประทานได้ฟรี และสามารถเติมได้ตลอดเวลา

อึ้งกันไปเลยครับ เพราะความไม่รู้ขอผมแท้ๆ นั่งหิวอยู่ได้ตั้งนาน เพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์แท้ๆครับ   - -"


อีกตัวอย่างครับ สำหรับคนขอนแก่นโดยเฉพาะ หลายๆท่านอาจจะไม่ทราบว่า ร้าน ชาบูชิ ( ร้านอาหารญี่ปุ่น บุฟเฟ่ จับเวลา !!! )

เราสามารถขอหลายๆอย่างที่เราอยากกินแต่มันไม่ไหลมาตามสายพานได้จากพนักงานโดยตรงเลยนะครับ

อย่างเช่น เห็ดเข็มทอง เห็ดหูหนู หรือพุงปลาแซลม่อน (ชอบไหลมาแต่หัว) อะไรพวกนี้ อยากกินเมื่อไหร่บอกพนักงานเลยครับ

เพราะมันไม่ไหลมาให้กินง่ายๆแน่นอน ผมก็เพิ่งรู้ตอนที่ได้ดูเมนูว่าอะไร บุฟเฟ่บ้าง ละก็ลองสั่งดูครับ ซึ่งก็ไม่เสียค่าใช่จ่ายเพิ่มใดๆ ^^


ตัวอย่างสุดท้ายครับ ประกันชีวิต เชื่อว่าหลายๆท่านคงมี และส่วนใหญ่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าประกันที่ทำอยู่คุ้มครองอะไรบ้าง

วันนี้ถ้ามีเวลา ลองกลับไปอ่านรายละเอียดดูนะครับ แล้วจะรู้ว่า เราเสียสิทธิที่พึงได้จากประกันมากมายนัก

เพราะเราไม่ทราบว่าเราขอได้ไงครับ มันคุ้มครองมาตั้งแต่เราจ่ายเบี้ยประกันแล้วละครับ ^^


ครับ... จาก 3 ตัวอย่างนี้ จะเห็นได้ชัดว่า ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ทำให้เราไม่กล้าที่จะขอ และเสียสิทธิที่พึงได้มามากมายเพียงใดแล้วในชีวิตนี้

เพราะฉะนั้นอย่าให้มันเกิดขึ้นกับเราอีกหลังจากได้อ่านบทความนี้ครับ "จงรู้เท่าทันในสิ่งที่เราต้องการจะขอครับ"


พรุ่งนี้มาต่อกับอุปสรรคในการขอประการที่ 2 ครับ "ความเชื่อที่จำกัด และไม่ถูกต้อง"

อ่านบทความนี้จบ แล้วคุณละคิดยังไง ???

หมายเลขบันทึก: 324102เขียนเมื่อ 30 ธันวาคม 2009 15:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:09 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่เกรงใจไปทุกเรื่อง จึงไม่กล้าที่จะขอ หรือถาม เมื่ออ่านบทความนี้แล้วจะเปลี่ยนแปลงตัวเองใหม่ให้กล้าขอและกล้าที่จะถามในสิ่งที่ไม่รู้ จะรออ่านบทความตอนต่อไปคะ ขอบคุณคะ

ขอบคุณ คุณเวียงฟ้า มากครับ เป็นกำลังใจที่ดีในการเขียนตอนต่อไปของผมเลยครับ

ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาครับ และก็ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็น

สวัสดีปีใหม่ครับ ^^

มีเพลงเกี่ยวกับการขอเยอะมาก ผมชอบเพลงนึง

ขอ ให้รักต่อจากนี้ ให้รักเราผลิบาน ให้ฟ้าช่วยประทานพร

จริงๆแล้ว ผมว่า ประเทศไทย น่าจะเหมาะกับการขอเป็นอย่างมากนะครับ

อ่ะ ดูอย่าง ศาลเจ้า วัด หรือ แม้แต่โบสถ์คริสต์ ไม่เว้นแม้ต้นไม้ที่ออกลูกประหลาดๆ

คนไทย ช่างขอครับ แต่ผมว่านะ ขอผิดคน

เราไม่ขอคน แต่เราไปขอฟ้า ขอเทพ ขอพระ ขอเจ้า

ว่าไหมครับ น้องไพรัชช์

หวัดดีจ้า น้องไพรัชต์

จริงอย่างที่ว่า การขอ ต้องดูสถานการณ์

มีหลายครั้ง ที่หลายคนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เกิดอยากขอ

ในเวลาที่ไม่เหมาะ ไม่ควรจะขอ

หรือเวลาที่สามารถขอได้แล้ว กลับอายที่จะขอ

สิ่งที่พี่พูด มันรวมไปหมด 3 ข้อแรก (ยังไม่ค่อยเกี่ยวกับข้อ 4 และ 5)

การขอ เราควรจะต้องรู้ว่า ขอใครได้

นั่นคือ ขอกับคนที่พร้อมจะหยิบยื่นความช่วยเหลือทั้งด้านความคิดหรือการกระทำ

และจงขอ ในสถานการณ์ที่เรามีความพร้อมในตัวและผู้ให้ได้ให้โอกาสพอดี

คำนี้เป็นคติสำหรับตัวพี่เสมอว่า

"Luck is what happened when preparing meets opportunity"

"ความโชคดีเกิดแล้วเมื่อความพร้อมประสบพบกับโอกาส"

สวัสดีวันเด็กจ้า น้องเอิร์ท พี่เป็นกำลังใจให้ สำหรับการสรรค์สร้างบล็อกนะคะ

มีอะไรแนะนำพี่ด้วยจะดีมากๆ

พี่แจ๋วแหวว

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท