เกณฑ์การพิจารณาความดีความชอบ
ผมรับราชการครูเพียงไม่กี่ปีครับ
แต่ผมมีเรื่องอยากขอความกระจ่างหรือข้อคิดเห็นกับทุกท่านครับ
เรื่องความดีความชอบครับอาจเป็นเรื่องที่ฟังดูน่าเบื่อใช่ไหมครับ
สำหรับผม ผมว่ามันเป็นเรื่องแปลกครับ ที่โรงเรียนใดจะได้ 2 ขั้นกีคน ขึ้นอยู่กับเปอร์เซนต์เม็ดเงินเดือนของครูในโรงเรียนนั้น นั่นหมายความว่าโรงเรียนใดจะได้สองขั้นกี่คนถูกกำหนดโดยเงินเดือนของครูโรงเรียนนั้นอยู่แล้ว จะทำงานเต็มที่หรือไม่ปีนั้นก็ได้2ขั้นตามเกณฑ์(เช่น 3 คนเป็นต้น)
แต่อีกโรงเรียน ครูทำงาน จน สพท.ชื่นชม แต่เม็ดเงินมีน้อยได้ 1.5 ขั้นก็ได้ไม่ทุกคน (เป็นบุญหน่อยก็ 3 ปีมานี้แหละที่เฉลี่ยได้ทุกคน)
ท่านคิดว่าการจัดสรรความดีความชอบของกระทรวงฯทำได้ถูกต้องหรือยังครับ
(แค่ความรู้สึกของครูคนหนึ่งนะครับ..อาจมีความรอบรู้น้อยจึงอยากได้คำชี้แนะครับ)
ความเห็น (7)
อิอิ.อิ........ว่าไรดีเอ่ย ผมว่าแบบนี้มาจนเกษียณ แล้วก็....ไม่มีใครได้ยิน เราว่ามันไม่เข้าท่า แต่ข้างบนเขาว่าดีแล้ว ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งบอกผมว่า ถ้า เราตกฟากดี มีวาสนา ฟ้าบันดาล ทั้งดีและชอบ ก็จะลอยมาเองบ่อยๆ ตั้งใจสอนเด็กๆไปอย่างมีความสุขดีกว่า ทำงานด้วยใจแล้วผลงานจะไปเข้าตาผู้ใหญ่เองแหละครับ เป็นกำลังใจให้นะครับ สวัสดีปีใหม่ครับ
สวัสดีค่ะคุณครู
เอ่อ ไม่ทราบเกณฑ์ของแต่ละกระทรวงและแต่ละจังหวัดจะเหมือนหรือต่างกันนะคะ
ร่วมแสดงความคิดเห็น ของ สธ.และที่จังหวัดเหมือนจะถูกจัดสรรตามรายหัวบุคลากรที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ถ้าหน่วยใดมีบุคลากรมากก็จะถูกจัดสรรให้มากตามเปอร์เซนไท แล้วแต่ละพื้นที่(ระดับพื้นที่)มาจัดสรรอีกครั้งหนึ่ง ว่า 2 ขั้นและ 1.5 จะได้จำนวนเท่าใด แล้วส่งแจ้งให้ต้นสังกัดจังหวัดทราบ
ความคิดเห็นของคนต่างกระทรวงค่ะ (แบบว่าไม่รู้ลึก แต่คล้ายๆจะเป็นแบบนี้ กลัวจะหาว่าฟังไม่ได้ศัพท์ฯค่ะ)
ขอให้มีความสุขในเทศกาลปีใหม่นะคะ ความสุขที่ใจสำคัญค่ะ
ขอบคูณครับท่าน
ท่านคิดว่าการจัดสรรความดีความชอบของกระทรวงฯทำได้ถูกต้องหรือยังครับ
* ผมว่าคงต้องให้ความเป็นธรรมกับกระทรวงฯ นะครับ ผมว่ากระทรวงฯ คิดออกมาให้มีข้อบกพร่องน้อยที่สุด เมื่อมองในภาพรวม ทีนี้ อาจมีปัญหาตามมาบ้าง เช่น โรงเรียนเล็ก การจัดสรรตามจำนวนครู ก็เป็นไปตามเกณฑ์ครับ ครูน้อยก็ได้น้อย
* ผมคิดว่าเกณฑ์ของกระทรวงฯก็ไม่ได้ถูกต้องทั้งหมดหรอกครับ แต่ก็มีส่วนที่ดีมากกว่าส่วนที่ไม่ดีครับ
ท่านคิดว่าการจัดสรรความดีความชอบของกระทรวงฯทำได้ถูกต้องหรือยังครับ
คำตอบเรื่องนี้ อยู่ที่ การคิดเชิงระบบ ครับ
เข้ามาเพิ่มเติมอีกครับ
ผมคงให้ความเห็นที่เจาะลึกลงไปไม่ได้หรอกครับ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของแต่ละเขตพื้นที่ ซึ่งจะมีคณะกรรมการอยู่
ทีนี้ผมคงออกความคิดตามความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ผมว่าเกณฑ์ที่ออกมาก็ยุติธรรมดีครับ จะมีปัญหาในแนวปฏิบัติ เพราะ "เม็ดเงิน" ที่ให้มา เขาให้มาในภาพรวมทั้งจังหวัด หรือ ทั้งเขต ครับ ตามหลักการจริง ๆ โรงเรียนใหญ่อาจได้แค่สองสามคนก็ได้ หรือ โรงเรียนเล็ก อาจได้ทุกคนก็ได้ นี่ว่ากันตามหลักการ แต่เชิงปฏิบัติจริงๆแล้ว ก็วัดกันยากครับ ระหว่างโรงใหญ่และโรงเล็ก ว่าใครควรจะได้ความดีความชอบ ถ้ามองในภาพรวม ก็เลยต้องจัดสรรให้เม็ดเงินไปตามโควต้าจำนวนคนแต่ละโรงเรียน
มีบางที่ครับ เขายืนพื้นให้โรงเรียนเล็กไว้เลยก่อน 1 คน และ คณะกรรมการเขตที่พิจารณาเม็ดเงิน เขาไม่ค่อยทิ้งโรงเรียนเล็กหรอกครับ แต่ครูน้อย เม็ดเงินน้อย คงต้องทำใจบ้าง
ทีนี้ ลองมามองอีกมุมหนึ่งนะครับ ถ้าให้โรงเรียนเล็กได้โควต้าความดีความชอบเท่ากับโรงเรียนใหญ่ ผมว่าก็คงจะเกิดปัญหาตามมามากมายเลยนะครับ
ตามความคิดส่วนตัวของปผม ปผมว่าระบบเขาค่อนข้างดีอยู่แล้วครับ
อุดมศิลป์
จะมีหลักเกณฑ์แบบใดก็แล้วแต่ ถ้าเราอยู่กับความอยากๆมากๆ เราก็จะทุกข์มาก คนที่ได้2ขั้นเพราะโลภ เพราะเป็นพวกของผู้บริหารพวกพูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่นได้มาก็เป็นทุกขลาภ หาความสุขไม่ได้ ครอบครัว บริวารหนี้สินรุมเร้า คนที่ยึดมั่นในหน้าที่ หัวใจการทำงานของเขาคือเด็กนักเรียน สังคมส่วนรวม ได้หรือไม่ได้เขาก็มีความสุข ครอบครัว ลูกๆเป็นคนดีมีคุณธรรม เป็นที่รักของศิษย์ เป็นที่ยอมรับนับถือของคนในชุมชน ชีวิตครอบครัวมีแ่ต่ความสงบสุข เป็นครูคนขอให้มีความสุขในการเป็นครู เป็นสุขในการทำหน้าที่....การเป็นผู้ให้สุขใจกว่าการเป็นผู้รับนะจ๊ะ..........