การเตี๊ยมกรรมการสถานศึกษา, ต้องเก็บข้อมูลผู้ใช้อินเตอร์เน็ต

การเล่นแชทควรบอกข้อมูลส่วนตัวหรือไม่, สถานศึกษาอาจถูกปรับไม่เกิน 5 แสนบาท

21 - 25  ธันวาคม  2552

         - สัปดาห์นี้ ขอนำการทำกิจกรรมท้ายบทในการอบรมทางไกล ( e-Training ) กับสถาบัน กศน.ภาคกลาง หลักสูตร “เรียนรู้เข้าใจทันภัยอินเตอร์เน็ต” มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับผู้ที่อบรมหลักสูตรเดียวกันหรือผู้สนใจทั่วไป อีก 1 บท คือบทที่ 6 ( บทสุดท้าย) เรื่อง การเฝ้าระวังภัยออนไลน์

           6.1 วิธีการป้องกันภัยออนไลน์ที่อาจเกิดขึ้นที่บ้าน

              1. ตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ไว้ในพื้นที่ส่วนรวมของบ้าน และตรวจสอบการใช้งานคอมพิวเตอร์ของลูก

              2. ไม่เล่นแชทกับคนที่ไม่รู้จัก  ไม่บอกข้อมูลส่วนตัวในการเล่นแชท

              3. ไม่นัดหมายไปพบเจอกับคนที่รู้จักกันทางอินเตอร์เน็ต

            6.2 วิธีการป้องกันภัยออนไลน์ของสถานศึกษา

              1.  ห้ามแชท

              2. ห้ามเปิดเว็บไซต์ลามก

              3. ห้ามเล่นเกม

              4. ใช้อินเตอร์เน็ตเพื่อการเรียนรู้และทำงานเท่านั้น

           6.3 ประโยชน์ในการใช้โปรแกรมป้องกันการเข้าเว็บไซต์ที่ไม่เหมะสม

               มีประโยชน์ในการสกัดกั้นเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม  และบางโปรแกรมสามารถจำกัดเวลาการใช้งานอินเตอร์เน็ต  เก็บประวัติการเรียกดูเว็บไซต์  บันทึกข้อความการแชท  เก็บภาพหน้าจอการใช้งานในแต่ละวัน ได้ด้วย

            6.4 การปฏิบัติเมื่อเสี่ยงภัยอินเตอร์เน็ต

               หากบังเอิญเข้าเว็บไซต์ไม่เหมาะสม ให้กดปุ่มย้อนกลับหรือปิดเว็บเบราเซอร์
              หากได้รับข้อความหยาบคายขณะกำลังแชท อย่าโต้ตอบ  ให้หยุดสนทนา และจดบันทึกข้อมูลต่าง ๆ นำไปแจ้งครู ผู้ปกครอง หรือไอเอสพี ทันที

            6.5 ตัวอย่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันภัยอินเตอร์เน็ต

               พรบ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
               มาตรา  5  เจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ผู้อื่น มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
               มาตรา 10  ส่งไวรัส หนอน หรือโปรแกรมอันตราย ให้คอมพิวเตอร์ผิดปกติ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
               มาตรา 26  ผู้ให้บริการหรือเจ้าของเว็บต้องเก็บข้อมูลผู้ใช้บริการอย่างน้อย 90 วัน  มิฉะนั้นจะถูกปรับไม่เกิน 500,000 บาท

         - 23 ธ.ค.52 อ.เอมอร จาก กศน.อ.พระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์มาบอกว่า โปรแกรม ITw51 ออกรายงานสรุปการลงทะเบียนตามกลุ่ม ( เมนู 1 - 3 - 7 - 1 ) มีเพียง 20 รายวิชา   ได้ตอบว่า ถ้ามีเกิน 20 รายวิชา รายงานจะแบ่งเป็น 2 บรรทัด  ถ้าไม่มี 2 บรรทัด ให้ลองแก้ไขโดยใช้เมนูพวก ซ่อมแฟ้มดัชนี-โอนย้ายข้อมูลโครงสร้างเก่า-ตรวจสอบข้อมูล
            ( ค่ำวันที่ 24 ธ.ค.52  ร่วมงานสังสรรค์ปีใหม่ของอำเภอผักไห่ )

         - วันศุกร์ที่ 24 ธ.ค.52  เวลา 13:30 น. ไปประชุมเรื่องโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร แทน ผอ.  ที่ ห้องประชุมท้องถิ่น ( ที่ว่าการอำเภอผักไห่ )
            ที่ประชุมกำหนดจัดโครงการสายใยรักแห่งครอบครัวฯ ปีงบประมาณ 2553 ที่ตำบลนาคู  และมอบให้ กศน. อำเภอผักไห่ จัดโครงการฝึกอบรมอาชีพแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรจำหน่าย กลุ่มเป้าหมายเป็นสมาชิกสายใยรักแห่งครอบครัวตำบลนาคู จำนวน 30 คน งบประมาณ 10,000 บาท ( หลักสูตร 30 ชั่วโมง ) โดยให้ส่งโครงการภายในช่วงเช้าวันจันทร์  แต่เนื่องจากวันจันทร์ บุคลากร กศน.อ.ผักไห่ทุกคน ต้องไปประชุมที่ สนง. กศน.จ.อย.  ข้าพเจ้าจึงรีปจัดพิมพ์โครงการส่งอำเภอตั้งแต่เวลา 16:00 น. วันนี้ ( 24 ธ.ค. ) เลย

         - ผอ.กศน.อ.มหาราช โทรศัพท์มาถามว่า เมื่อคณะกรรมการประเมินคุณภาพภายนอกมาประเมินที่ กศน.อ. ในวันแรก นายอำเภอและกรรมการสถานศึกษาที่มาร่วมต้อนรับควรพูดในประเด็นใด   ได้เสนอแนะว่า กรรมการสถานศึกษาควรพูดในประเด็น
            1. คุณูปการของ กศน.อ.นั้น ที่มีต่ออำเภอนั้น ( ชื่นชมงาน กศน. )
            2. ชื่นชม ผอ.กศน.อ. ( ความสามารถ-ข้อดี การเข้าถึง ของ ผอ.กศน.อ. )
            3. การมีส่วนร่วมดำเนินงาน กศน. ของกรรมการสถานศึกษา โดยต้องบอกว่ากรรมการสถานศึกษามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวางแผน วางนโยบาย พิจารณาให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติการ แผนงานต่าง ๆ หลักสูตรสถานศึกษา โครงการ/กิจกรรมพัฒนาคุณภาพ มีส่วนร่วมติดตามผลการดำเนินงาน พิจารณารายงานผลการปฏิบัติงาน ให้ข้อเสนอแนะ ฯลฯ

            สำหรับนายอำเภอ ก็พูดเฉพาะประเด็นที่ 1. - 2.

[นงนาท สนธิสุวรรณ]

มาให้กำลังใจค่ะ..

[เอกชัย กศน.ผักไห่]

เป็นเกียรติมากเลยครับ ที่พี่ใหญ่ มาให้กำลังใจ

[ครูบันเทิง]

[เอกชัย กศน.ผักไห่]

ขอบคุณครับคุณครูบันเทิง