Dust&Dream ในเนปาลกับฝันแรกแห่งดวงตาเห็นธรรม


หลัวจากวันนี้ทริปของเราจะหนักไปทางมรดกทางวัฒนธรรม ชมธรรมชาติแล้วก็มาชมสถาปัตยกรรมของชาวเนวารีที่ยังคงอยู่ และเป็นของล้ำค่าที่เชิญชวนให้คนจากทุกมุมโลกมาเยี่ยมเยือน

เนปาล คือเมืองที่เป็น Dust & Dream เพราะเนปาลฝุ่นเยอะ โดยเฉพาะในกรุงกาฐมัณฑุ แต่ความงามที่เป็นดั่งฝันก็เหมือนสิ่งล้ำค่าที่ทำให้เนปาลมีความสำคัญในการมาเยี่ยมเยือน ไม่ว่าจะเป็นเทือกเขาที่มีหิมะปกคลุมอยู่ตลอดปี แสงอาทิตย์สะท้อนหิมะที่เชิญชวนให้ผู้คนไปสัมผัสแม้ว่าจะไม่ได้ปีนเอง...(ใช้บริการ Mountain flight ได้) และความงามของสถาปัตยกรรมที่คงอยู่สืบเนื่องมาจากยุครุ่งเรือง พุทธสถาน เทวาสถานและความเชื่อศรัทธา

เหมือนฝันค่ะที่เราย้อนยุคไปในเมืองที่มีลมหายใจ ไม่ใช่พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดง

หลังจากที่เต็มอิ่มกับธรรมชาติและความเงียบสงบแห่งสรังก๊อตและโพคาราวันที่เหลืออีก 4 วัน เราจะอยู่กับสิ่งเหล่านี้  บ๊ายบายโพคารา

  • ระหว่างรอเครื่อง และบรรยากาศในการเดินทางกลับสู่กาฐมัณฑุ

เพื่อประหยัดเวลา TKT จัดให้เราใช้บริการสายการบินภายในประเทศกลับสู่กาฐมัณฑุ หากไปเองมีหลายสายการบินให้เลือกใช้ Buddha Air, Yeti Air ถามราคากับ Agency แล้วจำเป็นรูปี หรือดอลล่าห์ไม่ได้ น่าจะประมาณ 3xxx บาท ราคาต่อรองได้ถ้าจำไม่ผิดน่า 95 US$ น่าจะได้ ควรถามถึงบริการรถรับ-ส่งที่สนามบินด้วย...น่าจะได้ฟรี

 

เครื่องช้าไปประมาณ 1 ชม. แต่พอเห็นเทือกเขาแนวยาวแล้วก็ไม่หงุดหงิด

 

  •  Buddha eye แห่งสถูปโพธินาถ

 

ลงเครื่องเสร็จเราไปชมสถูปโพธินารถหรือบางทีเรียกว่า สถูปโบดะนาถ  อลังการงานสร้างค่ะ ยิ่งเมื่อมองเห็นดวงตาเห็นธรรม(Buddha eye) ทั้ง 4 ด้านขององค์สถูปแล้ว ความนิ่งสงบจะมาเยือนโดยทันที Buddha eye นี้เป็นสัญลักษณ์ในหลายศาสนา โดยเฉพาะศาสนาฮินดูและศาสนาพุทธ ถือเป็นดวงตาที่สามที่เสมือนเป็น Wishdom eye ที่นี่มีค่าเข้าชมด้วย รู้สึกว่าจะ 250 รูปีนะคะ ถ้าจำไม่ผิด

ที่นี่เห็นผู้มาแสวงบุญมากมาย มีผู้คนที่กราบแบบอัษฏางคประดิษฐ์ ที่ต้องให้อวัยวะในร่างกายสัมผัสพื้นถึง 8 จุด จึงพบภาพการสักการะโดยนอนราบไปกับพื้น เพื่อให้หน้าผาก และเข่าสัมผัสพื้นด้วย

 

  •  กำแพงรอบสถูปเจาะเป็นช่องสำหรับเก็บกงล้อมนตรา ว่ากันว่ามีถึง147 ช่อง แต่ละช่องมีกงล้อถึง 5 อัน...

 

เพลงสวด โอม มณี ปัทเม หุม ทำให้ที่นี่ดูเป็นสถานที่แห่งศาสนาจริงๆ

 

สถูปแห่งนี้มีขนาดใหญ่ที่สุดในเนปาล เป็นสถูปสีขาวทรงส้มโอผ่าครึ่งบนฐานสี่เหลี่ยม ที่ผู้ไปกราบไหว้บูชาสามารถเดินทักษิณารอบองค์สถูปได้  กำแพงด้านนอกแบ่งเป็นช่องๆ ตกแต่งด้วยผ้าจีบสีแดงสีเขียว ที่ข้างในเป็นกงล้อภาวนา หรือกงล้อมนตรา (Prayer's wheel) ให้ผู้คนได้อธิษฐานและฝึกจิตในขณะที่แสวงบุญด้วยการทำสมาธิรอบองค์สถูป ซึ่งกงล้อมนตราจำลองก็เป็นของฝากที่นิยมซื้อกัน

  

  • บริเวณหน้าวัดธิเบต

ระหว่างทางเป็นร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก ที่น่าดู น่าชม คือ ภาพวาดทังกา (Thanka)  เป็นภาพวาดแนวพุทธศิลป์ขั้นสูงใช้การวาดด้วยมือ ในเนปาลและธิเบต นิยมกันมาก ที่เนปาลนี้จะพบเห็นโรงเรียนสอนการวาดภาพทังกาอย่างเป็นจริงเป็นจังเลยที่เดียว ผู้ที่วาดได้นอกจากมีฝีมือแล้ว สมาธิยังต้องดีสุดๆ จึงไม่ว่ากันเมื่อราคาจะแพงหูฉี่...เห็นเนื้องานแล้วจะบอกว่า...สมราคา

 

  • Rooftop resturant จะมีป้ายเชิญชวนอยู่ด้านล่าง ส่วนใหญ่ต้องเดินเข้าไปในอาคาร เงยหน้าดูจะเห็นร่มสีๆ กางเป็นทิวแถว 

นอกจากร้านจำหน่ายสินค้า และอาคารบ้านเรือนที่ดูสวยงามแล้ว ยังมีวัดธิเบตอยู่ในบริเวณนี้ด้วย

ร้านอาหารก็มีหลากหลายสไตล์ให้เลือก ในบรรยากาศแบบ Rooftop Resturant ก็มีหลายร้านให้เลือก TKT โดยน้องพจน์จัดให้เราทานเข้าเที่ยงที่ร้าน Bhuddha Resterant ท่ามกลางแสงแดดอ่อนๆ พร้อมกับแกล้มบรรยากาศสถูปโพธินารถในมุมสูง....ชอบ ชอบ

 

  • บรรยากาศบน Buddha Resturant รูปในช่องด้านล่างเป็นร้านขายอาหารและชาในซอกตึก
  • ใกล้กับวัดธิเบตมีแผนที่ท่องเที่ยวในบริเวณสถูปวาดไว้ที่ผนังตึกด้วย

    ยังมีร้านเล็กๆ ในซอยระหว่างอาคาร เราแอบไปกินชากัน 3 ถ้วย ราคา 75 บาท...ก็ OK นะ

     

    มาที่นี่ต้องเผื่อเวลาไว้หลายชั่วโมงหน่อย 1 ใช้ในการแสวงบุญ โดยการเดินรอบองค์สถูปอย่างเป็นจริงเป็นจัง  อีกชั่วโมงในการนั่งจิบชาอุ่นๆ มองผู้คนที่ผ่านไปมา...จะได้รู้ซึ้งว่า อ้อ นี่แหละมุมนึงแห่งเนปาล...และเวลาในการชมและช้อปสินค้า น่าจะอยู่ที่นี่ครึ่งวันเป็นอย่างต่ำ..อิอิ...

 

หมายเลขบันทึก: 322834เขียนเมื่อ 25 ธันวาคม 2009 10:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:07 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

แวะมาชมภาพงามๆ ของนางแบบงามๆจ้าพี่ตุ่น..^^

(ชื่นชมฝีมือถ่ายภาพของพี่ตุ่นจ้า..เยี่ยมเลยพี่เรา)

P คุณครูแอ๊ว...น้องพจน์ Tour Leadder บอกว่า

มาเนปาล...คนถ่ายรูปไม่เป็นยังถ่ายอะไรก้อสวย

ดังนั้นฝีมือที่ว่าจึงพอ เหรอๆ ก๊าบๆ เท่านั้นจ้า

 

สวัสดีครับ...

ผมเคยไปเนปาลเมื่อสามปีก่อน

ต้ังใจจะไปอีกคร้ังเร็ว ๆ นี้ เพื่อพาเฌวา (ลูกสาว) ไปแก้บนกับกุมารีครับ

เนปาลเป็นความประทับใจมาก ๆ ของผมครับ

สวัสดีค่ะ P คุณหนานเกียรติ...ขอบคุณที่มาเยี่ยมชม สิริพรก็โชคดีที่ได้พบกุมารีเชนกัน เผอิญหรือปล่าวไม่รู้ จนนึกว่าเป็นคนเดียวกัน กับคุณ ฝนเสน่หา ที่ชื่อทายาทแห่งความรักมีที่มาที่ไปจากเนปาล และไปเมื่อ 3 ปีก่อนเช่นกันค่ะ
P ฝนแสนห่า
 Post เมื่อ ศ. 25 ธ.ค. 2552 @ 13:08

เป็นประเทศเล็กๆที่น่ารักครับ ผมไปโพคารากับภรรยาเมื่อสามปีที่แล้ว บรรยากาศสงบเงียบ อากาศเย็นสบาย มีทะเลสาปเฟวา ที่สวยงาม   ช่วงยุค 60 พวกเหล่าบรรดา ฮิปปี้ มาพำนักอาศัยกันอยู่รายรอบทะเลสาปแห่งนี้ ใช้ชีวิตอิงแอบกับธรรมชาติ แบบที่ไม่สามารถหาได้ในสังคมตะวันตก เจ้าลูกสาวตัวน้อยของผมก็ให้ชื่อเล่นว่า น้องเฟวา ตามชื่อของทะเลสาปแห่งนี้ ทะเลสาปที่เป็นเงาสะท้อนความยิ่งใหญ่ของหิมาลัย เธอเองก็เป็นเงาสะท้อนของควารักที่ผมมีต่อภรรยาเช่นกัน...

(ถ่ายตอนรอเครื่องจาก โพคารา กลับ กาฎมัณฐุ ปล.เครื่องdelay นาน ม๊ากๆๆๆ)

สวัสดีค่ะ

แวะมารับความรู้ค่ะ

ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ

ขอบคุณในคำอวยพรของคุณ P krutoiting

โชคดี มีสุข รับปีใหม่นะคะ

 

 

ตามมาเที่ยวเนปาลด้วยครับ

หลานมามาเที่ยวด้วย และสวัสดีปีใหม่ครับ

สวัสดีค่ะ

เคยไปทริปเนปาลเมื่อปี 2549 ติดใจมาก ๆ ค่ะ

เสียดายไม่ได้ขึ้นเครื่องชมยอดเขาเอฟเวอร์เรส เพราะอากาศไม่อำนวย

ขอบคุณค่ะ

(^___^)

ขอบคุณการมาเยี่ยมเยือนและคำอวยพรจากทุกท่านนะคะ

P คุณ Small Man

P คุณตาประจักษ์และหลานม่อน

P  คุณนงนาท

Pคุณคนไร้ราก

 

ขอให้มีความสุขเช่นกันค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท