เริ่มต้น KM (Knowledge Management) แบบง่ายๆ


http://www.trainerpatt.com

“ความรู้ที่ถ่ายทอดออกมา อาจจะสูญสลายได้ทุกเมื่อ

ถ้าไม่มีการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ดี

ที่กล่าวขึ้นมานั้น เล็งเห็นว่า

ความรู้ หากไม่มีการเก็บรวบรวมให้เป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว

ความรู้ต่างๆ ก็อาจจะสูญหายไปตามกาลเวลาได้

 

หลายองค์กรบ่นกันหนาหูเหลือเกิน...

“เวลาพนักงานลาออก ต้องมีการสอนงานพนักงานใหม่ เสมอๆ”

เรียกว่าเกิดอาการเบื่อหน่ายกับการสอนงานคนใหม่ๆ

โดยที่คนเดิมๆ ไม่ทิ้งข้อมูลใดๆ ไว้ให้เลย...

จึงจำเป็นที่ต้องมีการเก็บรวบรวมหรือการจัดการความรู้ภายในองค์กร

 

ความรู้ในที่นี้ คือความรู้ในกระบวนการทำงาน...

หลายคนคิดว่าเป็นความรู้เรื่องการเรียนการสอนเท่านั้น...!!!

ดังเช่นเคยปรากฏเมื่อครั้งอดีตกาล การถ่ายทอดความรู้

จากการท่องจำ เมื่อเนิ่นนานมากขึ้น ก็ย่อมีการกร่อนคำ หรือผิดเพี้ยนออกไปจากเดิม...

 

แม้ว่าความรู้หรือการถ่ายทอดนั้น จะเป็นการถ่ายทอดอย่างใกล้ชิดก็ตามแต่

หากไม่มีการจัดทำให้เป็นระเบียบแบบแผน ในภายภาคหน้า

ก็ย่อมมีโอกาสสูญสลายไป พร้อมกับการเปลี่ยนถ่าย...โยกย้ายบุคลากร

 

ความรู้ภายในองค์กร เป็นความรู้ที่สำคัญอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะความรู้ความสามารถในตัวของบุคลากร (Tacit Knowledge)

 

เราควรหาส่วนกลาง หรือ Center ในการเก็บข้อมูลไว้...

เพื่อที่จะได้สามารถให้ผู้ที่พลาดข่าวสาร...ได้ศึกษาย้อนหลัง...

 

Center ที่ว่านี้...คือฐานข้อมูลทางคอมพิวเตอร์!!!

หรือการใช้ Website ในการเก็บรวบรวมข้อมูล และความรู้ต่างๆ...ของบุคลากรในองค์กร

อาจจะเป็น Website ขององค์กรเอง...

หรือ Website กลาง ที่แต่ละองค์กรกำหนดขึ้นมา...

ข้อดีของ Web คือ ข้อมูลไม่สูญหาย แม้ว่าเครื่องคอมพิวเตอร์จะดับ...

เครื่องคอมฯ จะ Hang ก็ตาม ไม่ต้องกังวลใจว่า ข้อมูลต่างๆ จะหายไป

หรือแม้กระทั่งเกิดความกังวลใจ...เมื่อบุคลากรลาออก!!!

 

เพราะกลัวว่าข้อมูลหรือความรู้เกี่ยวกับการทำงานจะสูญหายไปด้วย...

หากองค์กรใดๆ กล้าหรือยอมที่จะลงทุนด้าน IT อย่างเต็มประสิทธิภาพ...

โดยมิต้องกลัวว่า...พนักงานจะเอาเวลางาน...มาท่อง Internet!!!

 

เพราะหากผลการทำงานบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่องค์กรตั้งเป้าไว้...

เรื่องปลีกย่อยเช่นนี้...ไม่ใช่เรื่องใหญ่ที่จะต้องนำมาขบคิดและแก้ไข

อย่าตึงเกินไป...อย่าหย่อนเกินไป...

แต่ให้บุคลากรได้มีโอกาสในการหายใจหายคอบ้าง...ก็จะดีไม่น้อย...

 

การเริ่มต้นอย่างง่ายๆ คือ...

การเปิดโอกาสให้บุคลากรรู้จักการแลกเปลี่ยนประสบการณ์...

อาจจะนัดประชุมแบบไม่เป็นทางการ...

ผมอาจจะขอยึดแนวตามหลักของ SECI Model

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนในเบื้องต้นขององค์กรที่คิดหรือกำลังจะทำ KM…

หลัก SECI โมเดล เป็นแนวทางในการพัฒนาองค์กร พัฒนาบุคลากร...

ให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน (Knowledge Sharing)

และผลักดันจนกลายเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization)

สามารถแบ่งได้เป็น

1. Socialization

เป็นขั้นตอนของการนำเอาความรู้ของแต่ละคน

ทำการพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ต่อกัน อย่างไม่เป็นทางการ

เช่น การพูดคุย บอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์ต่างๆ ระหว่างกัน

อย่างการซุบซิบนินทา ที่พวกเราชอบๆ ก็ถือเป็นขั้นตอนนี้

(ขั้นตอนการแลกเปลี่ยนความรู้จากภายในคนสู่ภายในคน

หรือ Tacit Knowledge to Tacit Knowledge)

 

2. Externalization

ขั้นตอนนี้ เป็นขั้นตอนของการกลั่นกรองประสบการณ์ที่ได้รับมา

ให้ออกมาเป็นตัวหนังสือ คือการใช้ภาษาเขียน

ที่มีคนอ่านแล้วสามารถเข้าใจได้

ผู้ที่ถ่ายทอดต้องมีความเข้าใจถ่องแท้ในเรื่องนั้นๆ

หรือเข้าใจที่จะเขียนถ่ายทอดสู่ผู้อื่นๆ

(ขั้นตอนการแปรเปลี่ยนความรู้จากคนสู่ภายนอก

หรือ Tacit Knowledge to Explicit Knowledge)

อย่างเช่นที่ผมเขียนบทความนี้ให้พวกเราได้อ่านกัน

ก็เป็นการรวบรวมข้อมูลจากความรู้ที่ได้

มาเขียนด้วยภาษาของตัวเอง ให้ผู้อื่นเข้าใจว่า เนื้อหาที่ได้คืออะไร

 

3. Combination

ขั้นตอนของการส่งข้อมูลจากภายนอกสู่ภายนอก

ก็เหมือนๆ กับการส่งอีเมล์ไปยังเพื่อนๆ จากจุดนี้ ไปอีกจุดหนึ่ง

จากอีเมล์ A ไปอีเมล์ B

(ขั้นตอนการเคลื่อนผ่านข้อมูลจากภายนอกสู่ภายนอก

หรือ Explicit Knowledge to Explicit Knowledge)

 

4. Internalization

เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการรับข้อมูลข่าวสารจากภายนอกสู่ตัวคน

เมื่อเพื่อเปิดอีเมล์ที่เราส่งให้ ก็คือการรับข้อมูลแล้ว

จากนั้นเพื่อนของเราก็จะมีการแปรผลและคิดวิเคราะห์

ให้เป็นแนวความคิดของตัวเองต่อไป

(ขั้นตอนการเคลื่อนผ่านข้อมูลจากภายนอกเข้าสู่ภายในตัวคน

หรือ Explicit Knowledge to Tacit Knowledge)

 

หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการดังกล่าว...

ผู้ที่ได้รับทราบข่าวสารก็จะกระจายข่าวสารนั้นๆ ต่อไป...

หรือแปรเปลี่ยนต่อยอดทางความคิดแล้วส่งกลับหาเพื่อนๆ อีก...

กระบวนการ SECI Model นี้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

เกิดการกระจายความรู้ไม่มีหยุด

กลายเป็น เกลียวความรู้ (Knowledge Spiral) อย่างตลอดเวลา...

 

เพื่อเป็นการป้องกันความรู้ทั้งหลายจะหมดไป...

ต้องพยายามสร้างสรรค์ให้บุคลากรเกิดความคิดและรู้จัก

การถ่ายทอดความคิดด้วยการเขียน...

เพื่อแพร่กระจายข่าวสารหรือเรื่องที่ตัวเองคิดให้ผู้อื่นได้รับรู้...

ดีกว่าเก็บความรู้นั้นๆ ไว้เพียงคนเดียว...

KM อย่างง่ายๆ เกิดขึ้นแล้วในองค์กร...เพียงแต่ว่า...

จะเริ่มลงมือเมื่อไหร่?...เดี๋ยวนี้เลยดีไหม?

นำแนวความคิดนี้ไปใช้กัน...เชื่อแน่ว่าเมื่อเริ่มต้นดีแล้ว...

สิ่งดีๆ ก็จะตามเข้ามา...

 

ปลูกฝังพลังความคิด...

เปลี่ยนความคิดเป็นตัวอักษร...

เรียงร้อยกระจายข่าว...

เก็บเอามาวิเคราะห์...

หมายเลขบันทึก: 321662เขียนเมื่อ 20 ธันวาคม 2009 13:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มาจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบคุณมากๆครับพี่ ผมจะเอาไปใช้กับงานของผม

ABC Club : http://abcclub.ning.com

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท