สะเดาะเคราะห์ ตัดกรรม ช่วยเราลดบาป ?

หลายวันก่อนคุณพ่อบ้านนำใบปลิว การสะเดาะเคราะห์ ตัดกรรม บังสุกลตายมาให้ เพราะหลายวันฝันเห็นเด็ก 2 คน ลงจากโบสถ์ มาเฝ้าหน้าบ้านไม่ให้คนแปลกหน้าเข้าบ้าน ฝันก่อนวันพระ 1 วัน

ประจวบเหมาะเหลือเกิน เพราะในใบปลิวมีปีที่เราเกิดพอดี ต้องตัดกรรม งานเขาจะมีพรุ่งนี้แล้ว เราก็ไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไหร่ ตามหลักธรรมเขาสอนกันอย่างนี้หรือ จัดที่วัด โดยพระท่าน หยิบหนังสือธรรมะมาอ่านก็ตรงใจเราอยู่

เรามีกรรมของแต่ละคน พระท่านก็แนะนำ ตามประวัติพระพุทธเจ้าก็ไม่สามารถตัดกรรมได้ เราต้องมีกรรม และรับกรรมของเราที่กระทำไว้

สร้างกรรมดีให้กับตนเอง เป็นสิ่งที่ดี ควรกระทำ การสร้างกรรมดีมีหลายระดับ

ขั้นต้น...ก็ให้เรารู้จักการเสียสละ ให้ทาน

ขั้นกลาง...ก็ให้เราสำรวมกาย...วาจา ตั้งตนอยู่ในศีล ในธรรม

ขั้นสุดท้ายนั้น...ก็ให้เรารู้จักชำระจิตใจของเราให้สะอาดผ่องใส เจริญสติอยู่เป็นประจำ

เคยไปนั่งวิปัสสนากรรมฐานที่สวนเวฬุวรรณ จ.ขอนแก่น ได้แนวคิดมาหลายอย่างทีเดียวค่ะ

สวดสะเดาะเคราะห์ให้กับตนเอง

๑. ก่อนเจริญพระพุทธมนต์ สร้างบุญกุศลให้กับตนเองก่อน

ด้วยการนั่งทำสมาธิ เจริญสติให้กับตนเอง แล้วค่อยสวดมนต์

๒. ขณะที่เราเจริญพระพุทธมนต์นั้น จิตเรานอบน้อมบูชาระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย เป็นพุทธานุสสติ ธัมมานุสสติ สังฆานุสสติ ใจเราเป็นกุศลจิต บุญเกิดขึ้นในขณะนั้น

๓. ขณะที่เจริญพระพุทธมนต์ เราสำรวมกายวาจา นั่นหมายความว่า...
เรากำลังตั้งตนอยู่ในศีลในธรรม นี่ก็เป็นกุศล

๔. มีความตั้งใจในขณะเจริญพระพุทธมนต์ เป็นสมาธิจิต คือ...จิตมีสมาธิ

๕. ระลึกถึงบทสวดอยู่ตลอดเวลา เป็นการเจริญสติ นี่ก็เป็นบุญ เป็นกุศล

๖. เจริญพระพุทธมนต์เสร็จ แผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศล สร้างเมตตาจิตให้กับตัวเองทุกครั้ง อย่าให้ขาด

เพราะฉะนั้น ช่วงเวลาที่เราเจริญพระพุทธมนต์อยู่นั้น กุศลจิตเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และถ้าใครทำได้อย่างนี้บ่อย ๆ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นที่วัด ที่บ้านก็ได้ สวดมนต์เป็นนิจ อธิษฐานจิตเป็นประจำ หมั่นแผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศลอย่าให้ขาด นั่นเท่ากับว่า เราได้สร้างกรรมดีให้กับตัวเองแล้ว เป็นการสะเดาะเคราะห์ให้กับตัวเองตลอดเวลา

เมื่อเราสร้างกุศลให้กับตัวเอง เราก็ต้องหมั่นพิจารณาถึงการกระทำของตน อันไหนที่ไม่ดีก็แก้ไขให้ดี อันไหนที่ดีแล้ว ก็ทำให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป การสะเดาะเคราะห์ที่ดีที่สุดนั้น ก็คือ การเจริญพระกรรมฐาน เจริญสติแก้กรรมให้กับตัวเอง การเจริญกรรมฐานนั้น ทำให้เรามีสติระลึกถึงการกระทำของตน ทำให้เราอ่านตัวออก บอกตัวได้ ใช้ตัวเป็น เห็นตัวตาย อย่างที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อจรัญฯ ท่านได้บอกไว้

" เราจะได้ไม่สร้างกรรมชั่วที่ส่งผลให้เราต้องได้รับเคราะห์กรรม อันเป็นเหตุให้เราต้องมีความทุกข์กายทุกข์ใจในภายหลัง ถ้าเราใช้ชีวิตด้วยความไม่มีสติ ไม่เปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ดีของตน ไม่แก้ไขให้ดีขึ้น จะเข้าพิธีสะเดาะเคราะห์กี่ครั้งก็ไม่มีทางที่จะทำให้เคราะห์กรรมของเราหมดไปได้ ..."

*** ข้อความบางส่วนจากบทความธรรมะ ของ ศูนย์ปฏิบัติธรรมสวนเวฬุวัน จ.ขอนแก่น

เขียนใน GotoKnow โดย เพชรน้อย
ใน สุขได้ ถ้าคิดเป็น

คำสำคัญ (Tags): #ตัดกรรม#บังสกุลเป็น#ศุนย์ปฏิบัติธรรมเวฬุวรรณ จ.ขอนแก่น#สะเดาะเคราะห์

หมายเลขบันทึก: 321452เขียนเมื่อ 19 ธันวาคม 2009 15:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่าน

ความเห็น (15)

สีตะวัน

เขียนเมื่อ 19 ธันวาคม 2009 15:27 น. ()

สวัสดีค่ะคุณน้องเพชรน้อย

กรรมเก่าไม่มีใครตัด หรือแก้ได้
สร้างกรรมใหม่ที่ดีให้ตัวเองตลอดไปเนาะ
เมื่อเราสร้างกุศลให้กับตัวเอง เราก็ต้องหมั่นพิจารณาถึงการกระทำของตน อันไหนที่ไม่ดีก็แก้ไขให้ดี อันไหนที่ดีแล้ว ก็ทำให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป การสะเดาะเคราะห์ที่ดีที่สุดนั้น ก็คือ การเจริญพระกรรมฐาน
ขอบคุณเรื่องราวดี ๆ ค่ะ..^_^

ป้อม

เขียนเมื่อ 19 ธันวาคม 2009 15:41 น. ()

ขอบคุณค่ะคุณเพชรน้อย ที่นำธรรมมะมาให้อ่าน

ปกติก็ปัฏิบัติอยู่บอย ๆ ค่ะ และกำลังสนใจศึกษา

ไม่ได้ไปวัดค่ะสวดมนต์ในห้องพระเกีอบจะทุกวัน

พยายามทำจิตให้สงบไม่คิดสิ่งอื่น แต่บางครั้งเรื่องอื่น

เข้ามาแทรก ก็จะพยายามต่อไป

namsha

เขียนเมื่อ 19 ธันวาคม 2009 16:04 น. ()

สวัสดีค่ะ พี่เพชรน้อย

ครูอาจารย์ก็เคยสอนไว้ว่า "ตามประวัติพระพุทธเจ้าก็ไม่สามารถตัดกรรมได้ เราต้องมีกรรม และรับกรรมของเราที่กระทำไว้" ดังนั้นเกิดมาชาติหน้าให้หมั่นทำแต่กรรมดี

เดี๋ยวนี้เห็นหนังสือเกี่ยวกับการ "แก้กรรม" การ"ตัดกรรม" เยอะเหมือนกัน แต่ใจแคบไม่หยิบขึ้นมาอ่านเลย

ขอบคุณข้อคิดการดำเนินชีวิตที่ดีๆค่ะ

ขอให้พี่มีความสุขมากๆนะคะ