แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าช่างตัดผม 1 คนจะสามารถให้ข้อคิดให้การทำงานกับผมได้ ผมเป็นครูอยู่โรงเรียนเอกปัญญา อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อวานนี้หลังจากเลิกงานที่โรงเรียนซึ่งผมเองก็เป็นครูเวรของสัปดาห์นี้
ช่างตัดผมถามผมว่าเพิ่งเลิกงานเหรอ ผมตอบว่าใช้ แล้วเค้าก็ถามว่าทำไมถึงเลิกค่ำจัง ผมเองก็เลยบอกว่า "วันนี้เป็นเวรของผม" แล้วช่างตัดผมถามต่อว่าโรงเรียนเลิกกี่โมง ซึ่งปกติแล้วโรงเรียนเลิก 15.30 น. สำหรับนักเรียนที่ไม่ได้เรียนพิเศษ 16.30 น. สำหรับนักเรียนที่เรียนพิเศษ ผมเองต้องอยู่กับนักเรียนรอผู้ปกครองมารับ จนกว่าผู้ปกครองจะมา ซึ่งผู้ปกครอบางคนก็มารับตรงเวลา บางคนก็มารับช้า บางคนถึงกลับทำงานจนลืมมารับลูกของตัวเอง
สายตาของนักเรียนที่รอผู้ปกครอง
ช่างตัดผมถามผมว่าทางโรงเรียนไม่มีระบบในการส่งนักเรียนเหรอ ทำไมถึงต้องรอผู้ปกครอง ไม่มีกฎ ระเบียบสำหรับการรับส่งนักเรียนเหรอ เค้าถามผมต่อว่า ถ้าพ่อแม่ลืมมารับลูกนานถึง 2-3 ทุ่มล่ะ ครูจะได้เงินตรงนี้เพิ่มไหม แล้วครูไม่เหนื่อยเหรอ ทำไมไม่ตั้งกฎระเบียบ เพียงแค่นี้ทำให้ผมคิดอะไรได้หลายอย่าง สิ่งที่เขาได้ถาม สิ่งที่เขาได้พูดมันสะท้องถึงระบบงานโรงเรียน ผมเองก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งที่จะต้องนำเอาเสียงเหล่านี้ไปคิด วิเคราะห์ แล้วเสนอแก้ไขต่อไป
การส่งนักเรียนเรื่องเดียวทำให้ผมคิดอะไนได้มากมาย นักเรียบนต้องมาเรียนหนังสือ เพื่อหาความรู้ แต่พ่อแม่ที่มารับช้า หรือแม้กระทั้งทำงานจนลืมมารับลูก มันจะส่งผลกระทบอะไรบ้างกับเด็ก เด็กจะมีความสุขไหม เด็กจะมีความอบอุ่นไหม ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันเป็นความต้องการเบื้องต้นที่ทุกคนต้องการ ไม่ใช่แค่เพียงเด็ก ผู้ใหญ่อย่างเราเราก็ต้องการความรัก ความอบอุ่นเช่นกัน
ถ้าหากเขาขาดความอบอุ่นล่ะ โตขึ้นเขาจะอยู่อย่างไร เขามองไปเห็นคนอื่นที่มีความสุข เขาจะรู้สึกอย่างไร
"นี้เป็นเพียงคำถามเพียงไม่กี่คำของช่างตัดผม และคือคำตอบจากใจของผู้ใช้บริการ"
...โดย...ชายชาวดิน...ครูของแผ่นดิน
เป็นข้อคิดที่ดีมากสำหรับคนที่มีลูก
เป็นข้อคิดที่ดีมาก สำหรับการวางกรอบระบบงานในโรงเรียน ขอบคุณมากค่ะ
ถ้าจะให้ทำระบบนี้ ส่งไปเรียน ที่โรงเรียนประจำดีกว่าไหมครับ ครูก้อเป็นคนนะครับก้อต้องมีลูกมีครอบครัวอยู่ทางบ้าน ถ้าผู้ปกครองลืมลูกทิ้งไว้คนผิดคือครูหรอครับ