การเลือกตั้ง อ.ก.ค.ศ.เขตฯ ระบุที่ผ่านมาจับมือลงขันเลี้ยงขอคะแนนกันเกร่อ

         การเลือกตั้ง อ.ก.ค.ศ.เขตฯ  บทพิสูจน์ศักดิศรีของใคร

       เผยแนวโน้มเลือกผู้แทนครูใน อ.ก.ค.ศ.เขตฯมีการใช้ระบบหัวคะแนนเหมือนเลือก ส.ส.มากขึ้น ระบุที่ผ่านมาจับมือลงขันเลี้ยงขอคะแนนกันเกร่อ ปลัด ศธ.เตรียมชงที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูฯ หาทางออกก่อนเลือกชุดใหม่แทน 178 เขต ที่จะหมดวาระกลางเดือนหน้า เลขาฯก.ค.ศ.แนะดัดหลัง ให้ น.ร.ช่วยแจ้งข้อมูลครูซื้อสิทธิ-ขายเสียง

     ความคืบหน้ากรณีมีการระบุในวงเสวนาเรื่อง "องค์กรครู : องค์กรเพื่อการพัฒนาครูและการศึกษาของชาติจริงหรือ?" จัดโดยสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา  (สกศ.) เมื่อเร็วๆ นี้ ว่ามีการจ่ายเงินหลายแสนบาทเพื่อแลกกับการเข้ามาเป็นผู้แทนครูในคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (อ.ก.ค.ศ.) เขตพื้นที่การศึกษา และคาดว่าจะมีการทุ่มเงินกันอีกครั้งหลังจากที่ อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษาชุดปัจจุบันหมดวาระในวันที่ 19 มิถุนายนนี้

 การเลือกตั้งผู้แทนทุกระดับและทุกครั้งมักมีเสียงสะท้อนกลับมาเสมอว่า “การเลือกตั้งดังกล่าวมีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงเกือบทุกครั้ง” ...ต่างฝ่ายต่างก็กล่าวหาว่าฝ่ายตรงข้าม คือ คนซื้อสิทธิ์ ตนเองเป็นคนบริสุทธิ์ หากมีใครจับได้ว่าตนเองทุจริตก็จะยืนยันว่าตนเองบริสุทธิ์ล้านเปอร์เซ็น....แถมบางครั้งยังมีการท้าสาบานสารพัดรูปแบบด้วยซ้ำทั้งๆ ที่มีกรรมการกลาง หรือ กกต. ซึ่งมีหน้าที่ดูแลการเลือกตั้งอย่างยุติธรรมเป็นคนชี้ขาด

            อ.ก.ค.ศ. หรือ อนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา คือผู้แทนครู มีอำนาจหน้าที่ในการโยกย้าย เลื่อนตำแหน่ง และพิจารณาความดีความชอบของ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เป็นต้น

            มีหลายครั้งหรือแทบทุกครั้งการเลือกตั้งมักจะมีอิทธิพลต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องเสมอ ไม่ว่าจะเป็นอิทธิพลของผู้มีอำนาจ อิทธิพลด้านการเงิน หรืออิทธิพลด้านอื่นๆ ที่คาดไม่ถึง การเลือกตั้ง อ.ก.ค.ศ. ครั้งนี้ก็เช่นกัน มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างค่อนข้างดังๆ ว่า หากใครอยากเป็นผู้แทนครูเพื่อเข้าไปนั่งใน อ.ก.ค.ศ. ต้องลงทุน 1.5 - 3 แสน บาท

            ไม่น่าเชื่อว่าวงการครูซึ่งได้ชื่อว่าเป็นปูชนียบุคคลจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น แต่ถามครูหลายๆ คน จากระดับปฏิบัติถึงระดับบริหารยืนยันว่าพฤติกรรมดังกล่าวมีจริงๆ ...ทำไม....ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น...แล้วครูที่คนดังกล่าวเอาเงินมาจากไหน...เพราะเงินเดือนครูก็ไม่มากนัก....คำตอบ คือ ส่วนมากยืมมาจากแหล่งเงินต่างๆ เช่น ธนาคาร สหกรณ์ออมทรัพย์ครู เป็นต้น เมื่อได้เป็น อ.ก.ค.ศ. สมใจแล้วก็หาทางถอนทุนจากครู...ครูซึ่งเป็นเพื่อนร่วมอาชีพเดียวกัน จากการโยกย้าย การเลื่อนตำแหน่ง  และการพิจารณาความดีความชอบ เป็นต้น     

    ทั้งนี้ สำหรับกรรมการในอ.ก.ค.ศ.เขตฯ มีทั้งหมด 12 คน ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิที่จะต้องสรรหามา 4 คน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ผอ.สพท.) 1 คน ผู้แทน ก.ค.ศ. 1 คน ผู้แทนคุรุสภา 1 คนและผู้แทนครูผู้สอนสายประถมศึกษา 1 คน สายมัธยมศึกษา 1 คน ผู้แทนผู้บริหารสายประถมศึกษา 1 คนและมัธยมศึกษา 1 คนและผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่น 1 คน ซึ่งผู้แทนครูทั้งหมดนี้จะต้องให้ครูลงคะแนนเลือกตั้งเข้ามา

    ความมัวหมองที่ปรากฎในวงการครูจะต้องตอกย้ำเรื่องจรรยาบรรณ การใช้สำนึกแห่งความเป็นแม่พิมพ์ของชาติคัดกรองคนดีเข้ามาเป็นผู้แทนครูกันมากๆ และที่สำคัญครูไม่ควรเกี่ยวข้องกับการซื้อสิทธิ-ขายเสียง ไม่เช่นนั้น ก็จะอายลูกศิษย์ลูกหาได้ ซึ่งในการเลือกผู้แทนครูคราวนี้ อยากให้คณะกรรมการสถานศึกษา และโดยเฉพาะนักเรียน เข้ามาช่วยกันสอดส่อง หากพบว่ามีการซื้อเสียงหรือกระทำสิ่งที่ไม่ดีก็ให้ร้องเรียนมายัง ศธ.หรือ ก.ค.ศ.ได้" เลขาฯก.ค.ศ.กล่าว   

      แหล่งข่าวระดับสูงใน ศธ. กล่าวว่า การเลือกผู้แทนครูที่ผ่านมามีเสียงสะท้อนจากครูในเขตพื้นที่ฯหลายแห่งว่าผู้สมัครเป็นผู้แทนในอ.ก.ค.ศ.เขตฯ เช่น ผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา ผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่น และผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ลงขันกันจัดเลี้ยงขอคะแนนจากครูในพื้นที่ แต่ว่าในการเลือกผู้แทนครูชุดใหม่ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้านี้ คาดว่าแนวทางจะเปลี่ยนไปหลังจากที่ ก.ค.ศ.ได้เพิ่มสัดส่วน อ.ก.ค.ศ.เขตฯเพิ่มเติมทำให้ผู้สมัครจะต้องดำเนินการด้วยตนเองและมีแนวโน้มว่าจะมีการแจกเงินซื้อเสียงโดยใช้ระบบหัวคะแนนเช่นเดียวกับการเลือกตั้งส.ส. ซึ่งยากต่อการแก้ไขแม้จะมีการเสนอแก้กฎหมายการศึกษาโดยให้การลดวาระดำรงตำแหน่ง อ.ก.ค.ศ.เขตฯจาก 4 ปี เหลือ 2 ปี รวมทั้งให้มีคณะกรรมการตรวจสอบถอดถอนและเอาผิดทางวินัยและอาญาที่เชื่อว่าจะช่วยลดปัญหาลงได้ ก็เริ่มมีกระแสต่อต้านจากองค์กรครูแล้ว  

        การเลือกตั้ง อ.ก.ค.ศ. ทั่วประเทศทั้ง 178 เขตพื้นที่การศึกษา และส่วนราชการตามมติที่ประชุม ก.ค.ศ.  ซึ่งหมายถึง สำนักงาน กศน. สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการด้วย  กำหนดให้มีขึ้น ในวันที่   14   ธันวาคม 2552

        การเลือกตั้ง อ.ก.ค.ศ. ครั้งนี้ เป็นการพิสูจน์ศักดิ์ศรีของครูไทย...เป็นการพิสูจน์ว่าระหว่างอิทธิพลของผู้มีอำนาจ อิทธิพลของการซื้อเสียง หรืออิทธิพลอื่นใดกับครูดีมีฝีมือมีความรู้ความสามรถมีประวัติที่งดงาม ไม่มีอิทธิพลใดๆ มาเกื้อหนุน...อะไรจะเหนือกว่ากัน

         การเลือกตั้ง อ.ก.ค.ศ. ครั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยแต่งตั้งคณะกรรมการชุดหนึ่งขึ้นมาดูแล เรียกว่า  " คณะกรรมการติดตามดูแลการสรรหา"....ฉะนั้น ในวันที่  14 ธันวาคม 2552 ครูไทยทุกคนที่มีสิทธิเลือกตั้ง  อ.ก.ค.ศ. ต้องรวมพลังพร้อมใจกันขจัดอิทธิพลทั้งหลายแหล่ที่จะทำให้วงการครูไทยต้องเสื่อมเสียให้หมดไป....โดยเลือกครูที่เป็นตัวแทนครูได้อย่างแท้จริงและสนิทใจเพราะการเลือกตั้ง อ.ก.ค.ศ. ครั้งนี้เป็นบทพิสูจน์ศักดิ์ศรีของครูไทย