วันนี้ผู้เขียนได้มีโอกาสพูดคุยกับนักเรียนหญิงชั้น ม.๔ คนหนึ่ง เด็กคนนี้ท่าทางสุภาพเรียบร้อย แม้ไม่ได้สอนเธอแต่เธอก็หมั่นทักทายด้วยกิริยามารยาทอันงดงามเสมอ
ผู้เขียนมักชอบหาโอกาสคุยกับเด็ก ๆ เพื่อคลี่คลายทางความคิด ทุกคร้้งที่คุยกับผู้อื่นมักได้รับบทเรียนชีวิต ความคิดที่งอกงามเพิ่มขึ้น
สิ่งที่ได้รับรู้ในวันนี้ก็คือ เด็กคนนี้อยู่กับพ่อและน้องเพียงสามคน ส่วนแม่เลิกกับพ่อมาห้าปีแล้ว แม่ไปมีครอบครัวใหม่ แล้วไม่เคยหวนกลับมาหาเธอและน้องอีกเลย
เธอบอกว่า เธอไม่เคยรู้สึกว่าขาดแม่ เพราะพ่อเป็นทั้งพ่อและแม่ ทุกวันพ่อจะคอยดูแลเรื่องอาหารให้เธอกับน้อง หลังอาหารเย็นครอบครัวเธอมักจะเล่นกอดคอกันบ้าง ขี่คอกันบ้างก่อนนอนเสมอ....
ในวันหยุดพ่อจะถามลูก ๆ ว่าจะทำอะไรกันดี แล้วก็ชวนทำด้วยกัน บางทีก็ปลูกต้นไม้ บางทีก็ตกแต่งบ้าน บางทีก็ชวนกันไปตกปลาแล้วแข่งกันว่าใครตกปลาได้ตัวใหญ่กว่ากัน... ปีใหม่นี้เราสัญญากันว่าจะไปเที่ยวแล้วก็หาของกินอร่อย ๆ กินกัน...
ถามว่า "หนูเคยคิดถึงแม่ไหม ?" เด็กตอบว่า "ใหม่ ๆ หนูก็คิดถึงและฝันถึงแม่
บ่อย ๆ พอหนูบอกพ่อ" พ่อบอกว่า "ให้คิดถึงคนที่ควรคิดถึง คนทึ่ไม่ควรคิดถึงเราก็อย่าไปคิดถึง".....
ทุกวันนี้พวกเราสัญญากันว่าจะอยู่ด้วยกันตลอด พ่อบอกว่าจะไม่มีแม่ใหม่ หนูก็จะอยู่กับพ่อตลอดไป พ่อไม่อยากให้หนูมีครอบครัว บอกมีแล้วจะลำบากเหมือนพ่อ สิ่งที่พ่อบอกพวกเราเสมอก็คือ "ให้พยายามพึ่งตนเองให้ได้" "เวลาชีวิตเหลือน้อยให้อยู่ด้วยกันมาก ๆ"
ไม่น่าเชื่อว่าชายวัยสี่สิบปีเศษ ๆ มีอาชีพเกษตรกร เรียนจบเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่สี่จะมีความคิดที่แยบยล มีปรัชญาในการดำเนินชีวิต และสอนลูก ๆ ด้วยความรักความเอาใจใส่ จนทำให้ลูกมีความสุขและมีสุขภาพจิตที่ดี ช่างน่าชื่นชมจริง ๆ
สิ่งที่ผู้เขียนประทับใจที่สุดก็คือคำว่า "ให้คิดถึงคนที่ควรคิดถึง คนทึ่ไม่ควรคิดถึงเราก็อย่าไปคิดถึง"..... ฟังแล้วเกิดปัญญาจริง ๆ เพราะบางครั้งเราก็อาจหลงคิดถึงใครก็ได้ที่เขาอาจไม่เห็นคุณค่าในตัวเรา แล้วมันจะเกิดประโยชน์อ้นใดเล่า... ดัง
บทกวีจากหนังสือ ไม้ ตะปู และหัวใจ ที่ว่า
" ... ขณะคุณคิดถึงใครคนหนึ่ง
ด้วยรู้สึกลึกซึ้งประมาณไม่ได้
ใครอีกคนที่คุณวางไว้ห่างใจ
อาจนอนน้ำตาไหลห่วงใยคุณ..."
(จันทร์ วรลักษณ์)
เราคุยกันนานพอสมควร จนเด็กเดินจากไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข และความภาคภูมิใจในตัวพ่อ ผู้เขียนเองก็มีความสุขที่รับรู้เรื่องราวดี ๆ ของพ่อคนหนึ่ง แล้วผู้อ่านละคะคิดอย่างไรกับ "พ่อ" คนนี้
http://www.bloggang.com/data/gewoonleven/picture/1127243948.jpg
"ให้คิดถึงคนที่ควรคิดถึง คนทึ่ไม่ควรคิดถึงเราก็อย่าไปคิดถึง".....
เวลาที่จะอยู่ด้วยกันมีน้อยลงทุกที...ต้องทำดีต่อกันไว้ดีที่สุดนะคะ
ขอบคุณสาระดีๆ ให้ได้คิดก่อนนอนค่ะ
สวัสดีครับอาจารย์วราภรณ์
ขอบคุณครับที่เข้าไปเม้นท์ที่บล็อกเสมอๆ เหมือนเป็นเพื่อนบ้านกัน
ใช่แล้วครับ คนที่ไม่เห็นคุณค่าในตัวเรา จะไปคิดถึงให้ปวดใจทำไม
แต่เราจะรู้ได้อย่างไรล่ะว่า คนคนนั้นเห็นคุณค่าในตัวเราหรือไม่
นอกจากใช้กาลเวลาพิสูจน์
ผมเองก็มีคนที่ผมคิดถึงแล้วยิ้มได้โดยไมรู้ตัว
เพราะท่านเหล่านั้นมีความดีให้ผมคิดถึงท่านอยู่เสมอ
และในทางกลับกัน ผมก็ได้เจอกับคนที่ดีกับเราเพราะเราให้คุณให้โทษเขาได้ เมื่อเราไม่มีประโยชน์สำหรับเขาแล้ว เขาก็ไม่เหลียวแลเรา
ซึ่งเรื่องนี้ผมไม่ซีเรียสอะไร เพราะมันเป็นสัจธรรมของมนุษย์
ดังนั้น คนที่เสมอต้นเสมอปลายกับผม ผมก็จะเสมอต้นเสมอปลายกับเขาบ้าง
รักไม่ยอมเปลี่ยนแปลง
เพราะรักแล้วบายใจ คิดถึงแล้วสบายสมอง
ครับผม
เห็นด้วยทุกประการค่ะ..."จงคิดถึงคนที่ควรคิดถึง"
เห็นพวกนักร้องชอบบอกว่า คิดถึงทุกโคนนนน.. รักทุกโคนนนน.. อิอิอิ
ขอบคุณมาย้ำเตือน ค่ะครูพี่ ... คิดถึงประโยคหนึ่งกัลยาณมิตร
... เราไม่มีวันเหงา เพราะมีคนให้คิดถึง ...
ว่าแล้วก็คิดถึง คุณแผ่นดิน ... มีความสุขทุกโมงยามค่ะ
สวัสดีค่ะน้องวราภรณ์
จะเก็บความทรงจำที่งดงาม จะสอบถามถึงสิ่งดีที่สร้างสรรค์
ขอเพียงพ่อกับลูกรักผูกพัน ครอบครัวนั้นสุขใจหาใดปาน
เวลาทุกนาทีมีคุณค่า อย่ารอช้าเร่งสนองพรเสนอ
หนึ่งบิดา-มารดาผู้บำเรอ ท่านปรนเปรอให้ชีวิตแก่เรามา
สวัสดีค่ะอาจารย์
อยาก "กราบ" พ่อคนนี้จัง
หายากนะคะ ที่พ่อคนเดียวจะเลี้ยงดูลูก
โดยไม่คิดมีภรรยาใหม่ เห็นแต่พ่อที่
วิ่งหาแม่ใหม่..มาช่วยเลี้ยงลูก
หลานม่อนมาคิดถึงคนที่ควรคิดถึง....อิอิ.อิ ก็คุณป้าธรรมทิพย์ นี่แหละครับ
มีความสุขในปีใหม่ที่ใกล้จะมาถึง ขอให้จงมีแต่สิ่งที่ดีๆ เข้ามาครับ
มาตามหาคนที่ควรคิดถึงค่ะ คุณธรรมทิพย์ไงค่ะ ขอบคุณกำลังใจที่มีให้ค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ
สวัสดีค่ะ
อ่านแล้วอมยิ้มอย่างมีความสุขค่ะและชอบมาก ๆ เช่นกันที่ว่า
"ให้คิดถึงคนที่ควรคิดถึง คนทึ่ไม่ควรคิดถึงเราก็อย่าไปคิดถึง"
ขอบคุณบันทึกที่ให้ข้อคิดมากมายค่ะ
(^___^)
ชอบจังเลย!!!!!
ถึงแม้ว่าเราจะมีพ่ออยู่แค่คนเดียวแต่หนูคิดว่าพ่อคงรักเราไม่แพ้คนอื่น
ความคิดถึงมันไม่มีขีดจำกัดและไม่มีข้อยกเว้นใดๆ
ทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวเราเป็นบทเรียนได้เสมอ จากคำพูดของพ่อที่สอนลูกแสดงให้เห็นถึงการใช้ชีวิตแบบพอเพียง แม้กระทั่งในความคิด แสดงถึงความเป็นคนดีมีศีลธรรม มีหลักในการใช้ชีวิต คนเราถ้ารู้จักพอแล้วชีวิตก็มีความสุขค่ะ เช่น พอแล้วไม่คิดถึงแล้ว คิดถึงไปก็ไม่เกิดประโยชน์ เอาเวลามาให้กำลังใจลูกๆดีกว่า นี่คือการพอเพียงในความคิด ถูกไหมคะ เรามาช่วยกันเตือนตัวเองด้วยในบางครั้งที่เผลอใจ ไปตามวิสัยของมนุษย์ที่ยังตัดกิเลสไม่ได้
... ขณะคุณคิดถึงใครคนหนึ่ง
ด้วยรู้สึกลึกซึ้งประมาณไม่ได้
ใครอีกคนที่คุณวางไว้ห่างใจ
อาจนอนน้ำตาไหลห่วงไยคุณ...
ทันทีที่อ่านจบก็ทำให้อยากเข้าไปกราบขอโทษ " คนที่เราวางไว้ห่างใจ" เสียแล้ว
หลงคิดถึงคนอื่นตั้งนาน เพิ่งคิดได้เมื่อมาอ่านบทความของอาจารย์ ขอบคุณอาจารย์ที่มีข้อคิดดีๆให้กับอีกหลายๆคน