จากการได้มางานทำบุญให้พี่นก หนูได้เห็นและได้คิดอะไรบ้าง


หนูได้เรียนรู้ว่า ถ้าเรามัวแต่กลัว แล้วไม่กล้าลงมือลองทำ เราก็ไม่รู้หรอกว่าเราทำได้รึเปล่า แต่พอได้ลงทำแล้ว ตอนแรก ๆ ก็จะยังทำได้ไม่ดีค่ะ แต่ใจจะสบายขึ้น มีความเชื่อมั่นมากขึ้น ก็จะทำได้ดีขึ้น แต่พอทำได้ดี ต้องใช้ความตั้งใจเพิ่มไปอีก เพราะจะมีความรู้สึกคิดว่าทำได้แล้ว อาจจะประมาท ใจหนูเปลี่ยนเร็วมาก ๆ

คำถามนี้เป็นคำถามของครูที่ท่าน เมตตาให้หนูทบทวนในตนเอง

                ตอนแรกที่หนูไปถึงหนูเองรู้สึกตื่น ๆ กลัว ๆ เพราะมีความคิดว่า งานหลายอย่างที่ได้รับมอบหมายยังทำไม่เรียบร้อย ทำให้มีความรู้สึกกลัวขึ้นมาในใจ แต่พอพี่ปุ๋มนิ่ง ๆ ก็ยิ่งมีความกังวล  พอเจอน้อง ๆ ที่ศูนย์ฟื้นฟูแรก ๆ ก็ยังวางตัวไม่ค่อยถูก ใจยังเกาะกับความเศร้าหมอง ขุ่นมัว ในอุปสรรคหลาย ๆ อย่างในการเดินทางที่ไม่เป็นอย่างที่คิด และรู้สึกว่าตนเองโดนตำหนิ พอนั่งล้อมวงทานข้าวกับน้อง แต่ละคนน่ารักมาก ๆ พูดเล่นสนุกสนานเป็นกันเอง ทำให้ใจหนูผ่อนคลายมากขึ้น พอทานเสร็จเด็กช่วยกันเก็บสำรับล้าง

                ติ๋วยืนมองแม่ชีและชาวบ้านยืนสาวไหมกันอย่างรู้สึกสนใจ พอพี่ปุ๋มเอ่ยว่า “ไปลองทำดูซิ ตอนนี้ไม่มีงานอะไรทำแล้ว” ตอนแรกหนูก็ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะก็ทำไม่เป็น แต่ก็บอกตนเองว่า “อะลองดู” พอเดินเข้าไปกราบแม่ชีและบอกว่า “มีอะไรให้หนูช่วยไหมค่ะ” ชาวบ้านยิ้มแล้วบอกว่า “มีเยอะเลย” หลังจากนั้นหนูก็เริ่มค่อย ๆ เรียนรู้ ว่า

“จะต้องทบเส้นไหมแยกเป็น 4 เส้น 2 กลุ่มเอามาหมุนด้วยใบพัดพัดลม เรียกไหม 8 เอาเส้นไหมที่ทำแบบเดียวกันนี้(ไหม 8) 2 เส้นมาหมุนรวมกันด้วยพัดลม ได้เป็นไหม 16 แล้วก็กวักไว้ในอัก"

ชาวบ้านบอกว่า "ส่วนนี้เอาไว้ทอ ทำผ้าคาดเอวถวายพระ" ฟังแล้วรู้สึกประทับใจในศรัทธาของชาวบ้าน มีแม่ท่านหนึ่งเอ่ยว่า

“มาไกลก็ตั้งไกลเหนาคุณหมอ แต่ก็ได้มาทำ ประคตเอวถวายหลวงปู่ด้วยกันเหนาะ จะถวายวันเกิดท่านนี่แหละ”

ได้ยินแล้วรู้สึกดีใจและประทับใจบอกไม่ถูก มันก็แปลกดี พอพี่ปุ๋ม เดินมาแนะนำว่า “คุณยายชี” ติ๋วเก้อ ๆ กัง ๆ ไหว้ พี่ปุ๋มจึงบอกว่า “ก้มลงกราบซิ” หนูจึงค่อยก้มลงกราบ พี่ปุ๋มเอ่ยต่อว่า “ลูกศิษย์ปุ๋มเอง” ติ๋วรู้สึกอุ่นใจขึ้นมา

รู้สึกว่าคุณยายชีท่านทำงานคล่องแคล่วปราดเปรียวมากค่ะ ทั้ง ๆ ที่ท่านก็อายุมากแล้ว เด็ดเดี่ยวห้าวหาญ รู้สึกได้ถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของท่าน และหนูก็รู้สึกคุ้นเคยกับท่านดี ทั้ง ๆ ที่พึ่งเจอกันครั้งแรก

 

หนูได้เรียนรู้ว่า ถ้าเรามัวแต่กลัว แล้วไม่กล้าลงมือลองทำ

เราก็ไม่รู้หรอกว่าเราทำได้รึเปล่า แต่พอได้ลงทำแล้ว ตอนแรก ๆ

ก็จะยังทำได้ไม่ดีค่ะ แต่ใจจะสบายขึ้น

มีความเชื่อมั่นมากขึ้น ก็จะทำได้ดีขึ้น

แต่พอทำได้ดี ต้องใช้ความตั้งใจเพิ่มไปอีก

เพราะจะมีความรู้สึกคิดว่าทำได้แล้ว

อาจจะประมาท ใจหนูเปลี่ยนเร็วมาก ๆ ค่ะ

ขณะที่เรียนรู้การทำเส้นไหมจากคุณยายชีและแม่ออกที่มาช่วยท่าน

    กราบขอบพระคุณครูค่ะที่ให้โอกาส

หมายเลขบันทึก: 320109เขียนเมื่อ 13 ธันวาคม 2009 22:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 11:20 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

เคยไปบรรยายที่ทัณฑสถานหญิงได้เห็นบรรยากาศความสงบความตั้งใจแล้วนึกชื่นชม

คิดให้เป็นโอกาสก็ได้เพราะได้ฝึกตนมองตนพิจารณาชีวิต

ได้ใคร่ครวญฝึกฝืนใจตัวบ้างก็ก่อให้เกิดปีติสุขแม้จะอยู่ในสถานที่ไม่มีอิสระ

สาธุเจ้าค่ะท่าน พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)

คุณครูท่านสอนหนูว่า

คนที่จะมาทำงานกับกลุ่มคนแบบนี้มีน้อย เพราะว่าเราทำงานกับคนที่มีต้นทุนติดลบ การได้รับการสนับสนุนก็น้อย งบที่จะมาดำเนินงานก็น้อย  แต่เราไม่ได้ทำเอาชื่อเสียง ไม่ได้ทำเอาอะไรทั้งนั้น ใครไม่ทำ เราก็ทำ ใครเห็นความสำคัญหรือไม่เห็นความสำคัญเราก็ทำ

จากที่ได้ร่วมกิจกรรมสุนทรียโสเหร่ พระอาจารย์ท่านเล่าว่า ช่วงนี้รัฐบาลเขาไม่มีเงินมาช่วยเหลือเพราะว่าเป็นช่วย จัดการเรื่องงบประมาณ แต่ในความเป็นจริง เด็ก ๆ ต้องกินต้องใช้ เราก็ต้องช่วยเขา

พอหนูมองย้อนกลับไปที่โครงการหลาย ๆ โครงการในระบบราชการ ที่ยังถูกใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก แต่กลับเกิดประโยชน์ได้น้อย ก็รู้สึกสะท้อนในใจเช่นกันค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท