เพลงพื้นบ้านเยาวชนสุพรรณฯ ตอนที่ 4 จากห้องเรียนสู่เวทีการแสดงระดับประเทศ

เบื้องหลังของการออกจากห้องเรียนไปสู่เวทีการแสดงประกวดแข่งขันในระดับชาติด้วยความตั้งใจทุ่มเทกำลังแรงกายแรงใจเต็มอย่างที่

เพลงพื้นบ้านเยาวชนสุพรรณฯ

ตอนที่ 4 จากห้องเรียนสู่เวทีการแสดงประเทศ

(จากระดับท้องถิ่นถึงประดับประเทศ)

โล่รางวัลชนะเลิศ จาก รัฐสภา ปี 2552 

        สิ่งที่ผมกล่าวมา อาจเป็นประโยชน์ต่อการสานต่อภูมิปัญญา ด้านศิลปะการแสดงบ้าง ถ้าได้ช่วยกันคิดอย่างสร้างสรรค์และให้เกียรติผู้ที่เดินอยู่บนถนนเพลง บนเวทีการแสดง อย่าเพิ่งด่วนคิดว่า เยาวชนมีความรู้ความสามารถต่ำกว่าเรา เพราะเยาวชนบางกลุ่มเขาโลดแล่นอยู่บนเวทีการแสดงอาชีพมานานเกือบจะ 20 ปี

        การแสดงในระดับประเทศที่เพลงพื้นบ้านเยาวชนสุพรรณฯ ในนามวงเพลงอีแซว สายเลือดสุพรรณฯ วงเพลงฉ่อยสายเลือดสุพรรณฯ หรือเพลงพื้นบ้านของโรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1 ได้มีโอกาสไปนำเสนอผลงาน เป็นสถานที่ที่มีผู้ไปร่วมงานจำนวนมาก จัดในสถานที่โอ่อ่า มีมาตรฐาน ได้แก่ ในโรงแรมขนาดใหญ่ เช่น โรงแรมเซ็นทรัล ลาดพร้าว ที่โรงแรมรอยัล คลิฟฟ์ รีสอร์ท พัทยา  โรงแรมมิราเคิล หลักสี่ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติติ์ ที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย  ที่ศูนย์การแสดงผลงานไบเทค บางนา ที่อิมแพค เมืองทองธานี  ที่ ถนนคนเดินสีลม ที่หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ กรุงเทพฯ

       

       

       

        สถานที่ดังกล่าวเป็นที่จัดงานมหกรรมครั้งสำคัญของในแต่แต่ละปี หรือจัดการประชุมของหน่วยงานระดับ กรม กอง กระทรวง อีกทั้งกลุ่ม องค์กรใหญ่ ๆ ซึ่งมีสมาชิกเข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

        ในสถานที่ดังกล่าว วงเพลงพื้นบ้านเยาวชนสุพรรณฯ ได้มีโอกาสนำเสนอผลงานทั้งในรูปแบบของเพลงฉ่อย ลำตัด เพลงอีแซว และเพลงพื้นบ้านอื่น ๆ มาแล้วทุกสถานที่และหลายครั้ง อย่างเช่น ที่เมืองทองธานี ไปแสดงมาแล้ว 10 กว่าครั้ง ต่างกิจกรรมต่างวิธีการและต่างข้อมูลเนื้อหา บางครั้งเด็ก ๆ ก็ขึ้นไปแสดงบนเวทีที่สวยงาม บางครั้งก็แสดงในบูทจัดกิจกรรม บางครั้งก็แสดงในห้องโถงบนพื้นที่กว้างๆ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ในลักษณะใด เราทำหน้าที่เต็มที่เท่า ๆ กัน เพราะเป้าหมายของนักแสดงอยู่ที่คนดู การแสดงครั้งใดสามารถตรึงตาตรึงใจผู้ชมได้จำนวนมากและในเวลาที่ยาวนานนั่นคือ ความสำเร็จที่สุดที่ได้รับ นั่นหมายถึงความคุ้มค่า ที่ผู้ติดต่อนักแสดงของเราไปน่วมกิจกรรมนั้นๆ

        เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2552 คณะเพลงอีแซว โรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1 แสดงในงานออกบูท ของห้างสยามแม็คโคร ที่ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี รอบบ่ายเวลา 15.00-16.00 น. งานนี้มีท่านผู้ชมมาสนับสนุนการแสดงผลงานจำนวนหลายพันคน ที่หน้าเวทีมีเก้าอี้ตั้งเอาไว้ให้ท่านผู้ชมเข้ามานั่งชมจำนวนหลายร้อยตัว คิวการแสดงของเราอยู่ในช่วงท้าย ๆ ของการจัดงาน ใกล้เวลาที่จะปิดงานเพราะเป็นวันสุดท้ายแล้ว แต่ก็ยังได้รับความสนใจ ได้รับความกรุณาจากท่านผู้ชมเป็นจำนวนมาก (ได้รับรางวัลน้ำใจจากท่านผู้ชมหลายท่านด้วย)

       

       

       

        เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2552 คณะเพลงฉ่อยสายเลือดสุพรรณฯ จำนวน 10 คน ไปทำหน้าที่เป็นตัวแทนภาคกลางแข่งขันเพลงพื้นบ้าน ประเภทเพลงฉ่อย “เพลงพื้นบ้าน สานไทย สานใจ เยาวชน” หัวข้อ ส่งเสริมประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร รัฐสภา รอบชิงชนะเลิศ ระดับประเทศ  ที่ หอประชุมกรมประชาสัมพันธ์ ซอยอารีย์สัมพันธ์ ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ โดยมีสถานีโทรทัศน์ NBT (ช่อง 11) ถ่ายทอดสด งานนี้มีเรื่องเก็บเอามาเล่าขานเล็กน้อย ผมนะไม่ได้คิดอะไร นึกไม่ถึง พอรถยนต์ที่นำคณะนักแสดงไปถึงสถานที่ทำการประกวด ผมก็ไปประสานงานกับเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะขอจอดรถ ตรงที่ลานจอดรถของกรมประชาสัมพันธ์ในตอนนั้นมีรถเก๋ง รถกระบะ รถตู้จอดกันเต็มไปหมดแทบจะไม่มีที่ว่าง เจ้าหน้าที่เขาถามผมว่า “มาเชียร์เด็กๆ แข่งขันกันหรือครับ” ผมตอบไปว่า “มิใช่ครับ ผมพาเด็ก ๆมาร่วมแข่งขันประกวดเพลงพื้นบ้านที่ห้องประชุม กรมประชาสัมพันธ์” ความจริงก็น่าที่จะถามแบบนั้น เพราะรถที่นำนักเรียนไปแข่งขัน เป็นรถ 6 ล้อเก่า ๆ น่าที่จะใช้วิ่งรับ-ส่งคนในชนบทมากกว่าที่จะจ้างไปส่งนักแสดงของโรงเรียน (มีคันเดียวในงานนั้น)

                          

        กว่าที่จะมาถึงวันนี้ วันที่ 15 กันยายน 2552 วันที่วงเพลงฉ่อยสายเลือดสุพรรณฯ ได้รับโล่รางวัลชนะเลิศ จากการประกวดเพลงพื้นบ้าน ระดับประเทศ พร้อมกับเงินรางวัล 100,000 บาท เส้นทางสู่ความสำเร็จ ผมได้เขียนไว้ในบล็อกภูมิปัญญาท้องถิ่น 5 ตอน แต่ในบทความนี้ จะขอกล่าวถึงเวทีที่เด็ก ๆ ได้ไปแสดงและเก็บบรรยากาศที่ประทับใจเอามาเล่าให้ฟัง ในเวทีแข่งขัน ห้องประชุมใหญ่ กรมประชาสัมพันธ์ จุผู้ชมได้ประมาณ 700-800 คน ภายในห้องประชุมมีกล้องโทรทัศน์ติดตั้งเอาไว้เตรียมการที่จะถ่ายทอดสด 4-5 กล้อง นักแสดงนั่งประจำที่ ตามที่คณะกรรมการจัดให้ มองไปที่คณะกรรมการตัดสิน ส่วนหนึ่งท่านเป็นศิลปินแห่งชาติแขนงงานที่เกี่ยวข้องกับศิลปะการแสดง คณะกรรมการอีกส่วนหนึ่งเป็นนักวิชาการในระดับสูง จำนวน 14-15 ท่าน  คณะกรรมการจัดการประกวดได้กล่าวถึงกติกาในการแข่งขันอย่างชัดเจนทุกข้อทุกประเด็น  และกิจกรรมก็ดำเนินไปตามกฎเกณฑ์กติกา คณะกรรมการก็ตัดสินไปตามกติกา ไม่มีข้อเสนอแนะที่แสดงถึงความเห็นส่วนตัว หากได้ชมการถ่ายทอดสดจะเก็บรายละเอียดดังที่ผมกล่าวมาได้ทั้งหมด นับว่าเป็นความเที่ยงตรงที่มีมาตรฐานสูงครั้งหนึ่งของการประกวดในระดับประเทศ

       

       

        แต่เบื้องหลังของการออกจากห้องเรียนไปสู่เวทีการแสดง ประกวด แข่งขันในระดับชาติครั้งนี้ เป็นเวลาที่ยาวนานนับเดือน (3-4 เดือน) ที่เตรียมความพร้อมและต้องประชันความสามารถกับคู่แข่งที่มีระดับชั้นที่เหนือกว่า ทั้งหมดนั้นผมขอยกความดีให้กับเด็ก ๆ เยาวชนสุพรรณฯ กลุ่มหนึ่ง (10 คน) ของโรงเรียนบรรหารแจ่มใสวิทยา 1 ที่ทุ่มเทกำลังแรงกายแรงใจเต็มอย่างที่

ติดตามตอนที่ 5 จากห้องเรียนสู่การแสดงทางสถานีโทรทัศน์ (ชำเลือง มณีวงษ์ : 2552)

 

[พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)]

มาชมเด็กเก่งเด็กดีเมืองศิลปิน

[เด็กศิลปะ]

ขอแสดงความชืนชมด้วยใจจริง

เก่งมาก ๆ น่าภาคภูมิใจแทนเพื่อน ๆ

[ชำเลือง]

ตอบควงามเห็นที่ 1 พระมหาแล อาสโย

• ขอกราบนมัสกาลและขอขอบพระคุณท่านมาก ครับ ที่ให้กำลังใจ
• วันนี้ 11 ธันวาคม 2552 แสดงที่ตลาด 10 ปี สามชุก
• งานฉลองรางวัล UNESCO

[อาทิตย์]

ชื่นชม ตรงใจ การส่งเสริมเยาวชนเพื่อการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะเมืองสุพรรณเป็นเมืองศิลปินต้นแบบในหลาย ๆอย่างที่ผมเองชื่นชอบมานานแล้ว

[ชำเลือง]

ตอบความเห็นที่ 2 (เด็กศิลปะ)

• ขอรับกำลังใจเอาไว้เป็นพลังเดินหน้าต่อไป
• ศิลปะสร้างสรรค์ความงามและประโยชน์ต่อมนุษย์
• ขอบใจในความคิดเห็น ขอให้เป็นเยาวชนที่ดีชาติ

 

[ชำเลือง]

ตอบความเห็นที่ 4 คุณอาทิตย์

• ท่านเป็นอีกแรงหนึ่งที่ให้กำลังใจคนสร้างสรรค์งานเก่า ๆ
• ขอขอบคุณแทนคนสุพรรณฯ ที่ท่านให้เกียรติ ครับ
• ผมนำเอาความเป็นศิลปินนักแสดงอาชีพมาถ่ายทอดสู่เยาวชนจริง ๆ
• วันนี้ (11 ธ.ค.2552) เวลา 14.30 น. เยาวชนในวงเพลงส่วนหนึ่งจะไปร่วมทำขวัญนาคกับผมที่บ้านวังหว้า อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี