สวัสดีครับกลับมาแล้วตามคำเรียกร้อง (ใครเรียกร้องหรอ อิอิ...) ก็ใจมันร่ำร้องอยู่ว่าต้องเขียนบันทึกให้ได้เพราะอาจมีบางคนที่กำลังรอลุ้นอยู่ว่าเมื่อไหร่น่าจะมีบันทึกใหม่ออกมาสักที แล้ว วันนี้ก็มาถึงอิอิ... หายไปนานต้องมีอะไรใหม่มาฝากทุกท่านแน่นอน ของฝากวันนี้ก็คือนาฬิกาครับ อะไรกันแค่นาฬิกาหรอ ใครเขาก็มีแล้วไม่ต้องก็ได้มั้ง
แต่เดี๋ยวก่อนครับ นาฬิกาที่ว่านี้มีความสำคัญกับชีวิตของเราเลย อะไรก็แค่นาฬิกาก็แค่มีไว้บอกเวลา ว่าตอนนี้เวลาเท่าไหร่แล้วจะมีอะไรมากไปกว่านี้ล่ะบางท่านอาจนะเคยได้ยินหรือได้อ่านแล้วก็ต้องขออภัยด้วยแต่ผู้เขียนอยากเอามานำเสนอจริงๆครับ (อ่านแล้วก็อ่านอีกได้นะ อิอิ...ไม่คิดเงินเพิ่มครับ)
อ้อมค้อมมาตั้งนานแล้วนาฬิกาที่ว่านี้คืออะไรกันล่ะ มันก็คือ นาฬิกาชีวิต ไม่คิดล่ะซิว่าคนเราก็มีกับเขาเหมือนกัน ทุกเวลาเกี่ยวข้องกับการทำงานของอวัยวะภายในของเราทั้งนั้นเลย รู้ไว้ใช่ว่า.... อิอิ.... เริ่มกันเลยนะครับ
ในช่วงเวลา 1.00-3.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของตับ ควรหลับพักผ่อนให้สนิท ตับจะได้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในการกำจัดของเสียหรือพิษต่างๆ ใครที่นอนดึกก็ระวังนะครับอิอิ...(ผู้เขียนเองแหละครับ ต้องปรับตัวแล้ว)
เวลา 03.00-05.00 น. เป็นช่วงเวลาการทำงานของปอด ควรตื่นมาสูดอากาศสดชื่น ให้ปอดได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ไปเลย วันนี้ลองตื่นเวลา 05.00 น. พอตกบ่ายมาหลังทานข้าวเสร็จ ง่วงอย่างมากเลยอาจเป็นเพราะตื่นเช้ากระมั่ง อิอิ...
เวลา05.00-07.00 น.เป็นช่วงการทำงานของ ลำไส้ใหญ่ครับ ควรขับถ่ายอุจจาระ อย่างนี้ต้องฝึกให้เป็นนิสัยเพื่อสุขภาพของเรา วันไหนที่ไม่ได้ขับถ่ายนี้จะเป็นเช้าที่ไม่สดชื่นเอาซะเลย เหมือนว่าขาดอะไรไปอย่างนั้นเลย อิอิ...
เวลา 07.00-09.00 น.เป็นช่วงการทำงานของกระเพาะอาหาร เมื่อมีออกแล้วก็ต้องมีทานเข้าไป ครับอิอิ... อาหารเช้าสำคัญมากต้องทานให้ได้เพราะจะมีผลระยะยาวกับความทรงจำนะ ขอรับ
เวลา 09.00-11.00 น.เป็นช่วงการทำงานของม้าม ควรพูดน้อย กินน้อย ซึ่งม้ามทำหน้าที่ในการดึงเอาธาตุเหล็กจากฮิโมโกลบินของเซลล์เม็ดเลือดแดง นำมาใช้ในร่างกายและยังทำหน้าที่เอาของเสียออกจากกระแสเลื่อในรูปของน้ำปัสสาวะเช่นเดียวกับตับ (ไม่มีปัญหาผู้เขียนพูดน้อยอยู่แล้ว แต่เรื่องกินนี้อาจจะนะ มีบ้าง อิอิ...)
เวลา 11.00-13.00 น.เป็นช่วงการทำงานของหัวใจ ควรเลี่ยงการใช้ความคิด ความเครียด ระงับอารมณ์ตื่นเต้นตกใจ (อย่างนี้คงลำบากหน่อยเพราะคิดอยู่ตลอดเวลา แต่จะพยายามครับอิอิ...)
เวลา 13.00-15.00 น.เป็นช่วงการทำงานของลำไส้เล็ก ควรงดกินอาหารทุกประเภท ลำไส้เล็กทำหน้าที่ย่อยอาหารตั้งแต่ คาร์โบไฮเดรต ไขมัน และโปรตีน และยังดูดซึมตรงนี้ด้วย (อย่างนี้ก็อดของหวานซิครับ อิอิ...)
เวลา 15.00-17.00 น.เป็นช่วงการทำงานของกระเพาะปัสสาวะ ควรทำให้เหงื่อออก อย่างนี้ก็ต้องไปออกกำลังกายกันหน่อยแล้ว แค่ขยับชีวีก็สดใสแล้ว ถ้าจะให้ดีควรวิ่งซัก 10 รอบสนาม อิอิ... มากไปหรือเปล่าเนี่ย (ผู้เขียนยังจะแย่เลยครับ เอาที่เหมาะสมกับตัวเราก็แล้วกัน)
เวลา 19.00-21.00 น.เป็นช่วงการทำงานของเยื่อหุ้มหัวใจ ควรทำใจให้สงบ ทำสมาธิและสวดมนต์ไหว้พระกันดีกว่า จะได้รู้ซึ้งถึงรสพระธรรมก็งานนี้แหละครับ อิอิ...
เวลา 21.00-23.00 น.เป็นช่วงการทำงานของระบบความร้อน ห้ามอาบน้ำเย็น ตากลม และควรทำให้ร่างกายให้อบอุ่น หากใครยังไม่อาบน้ำก็ต้องรอไปจนถึงเช้าเลย อิอิ... ช่วงนี้ยิ่งอากาศเย็นลงแล้วก็ต้องหาผ้าห่มหนาๆมาซัก สอง สามผืน จะได้หายหนาวกันไปเลย
เวลา 23.00-01.00 น.เป็นช่วงการทำงานของถุงน้ำดี ควรดื่มน้ำก่อนเข้านอน สวมชุดนอนผ้าฝ้าย เพราะผ้าสังเคราะห์จะดูดน้ำในร่างกาย หน้าที่ของถุงน้ำดีคือช่วยเก็บสะสมน้ำดีเพื่อใช่ในการแตกตัวของไขมันที่ลำไส้เล็กนั้นเอง อิอิ...
สำหรับวันนี้ก็มีนาฬิกาที่ไม่เหมือนใครมาให้ได้อ่านกัน ก็อยากให้ทุกท่านลองนำไปปรับประยุกต์ใช้กันดู ผู้เขียนเชื่อว่าทุกท่านสามารถทำได้อย่างแน่นอน และก็ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลดีๆ http://health.kapook.com/view7421.html ที่ทำให้ได้เรียนรู้
มีอะไรอีกมากที่เรายังไม่รู้ อิอิ...
ชอบนาฬิกาชีวิต สบายดีไหม เรียนเป็นอย่างไรบ้างครับ ดูนาฬิกาแล้ว จะไปนอนดีกว่าฮ่าๆๆๆๆ
ขอบคุณมากครับ อ.ขจิต ฝอยทอง
ที่แวะมาเยี่ยมครับ สบายดีครับ แล้ว อ.สบายดีนะครับ
ส่วนเรื่องเรียนก็ปวดหัวดีครับ อิอิ...
เคยเห็นในไดอารีไทยรัฐ ปี2553 จะเป็นวงกลมเหมือนนาฬิกา บอกช่วงเวลาตามที่ท่านว่าครับ
มีประโยชน์กับสุขภาพจริง ๆ ครับ
ขอบคุณที่แนะนำครับ
บ่อยครั้งที่ติดหน้าจอจีทีเค จนนาฬิกาชีวิตเพี้ยน อิ อิ
กะจะเปลี่ยนไม่อ่าน กลัวคิดเงินเพิ่ม มีความสุขกับการเรียนนะคะ
ขอบคุณครับ คุณพรชัย
ที่แวะมาเยี่ยม และดีใจกับที่เป็นประโยชน์กับท่านครับ อิอิ...
ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะครับ
สวัสดีครับคุณpoo
ไม่คิดเงินเพิ่มครับ อ่านได้ตามสบาย (คิดตังค์ที่หลัง อิอิ...)
และขอบคุณครับสำหรับคำอวยพร น้อมรับด้วยความยินดีครับ