เปรียบเส้นทางสู่เขาใหญ่..กับเส้นทางชีวิต (ตอนที่ 2)

จากตอนที่แล้วเราออกเดินทางเวลา 8 โมงเช้า เพื่อเดินทางสู่เขาใหญ่แต่พบอุปสรรคปัญหาของรถแต่ด้วยความพยายามของพวกเราที่ช่วยกันแก้ไขปัญหาแล้วแก๊งค์เราก็เริ่มออกเดินทางสู่เขาใหญ่ต่อไป ซึ่งเป็นเวลาสายมากแล้ว ระหว่างที่ขับรถขึ้นเขาใหญ่นั้นเราโชคดีมากอากาศแจ่มใส ไม่มีฝนตก มีฝนตกช่วงที่เราใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางซึ่งเป็นเวลาประมาณบ่าย3โมงกว่าแล้ว ฝนตกกระหน่ำอย่างหนักจนมองไม่เห็นถนน ผู้นำทางของเราคือสินชัยจึงตัดสินใจจอดรถชั่วคราวเพื่อให้ฝนซาก่อน ดิฉันได้ข้อคิดว่าผู้ไม่ประมาทย่อมพบทางสว่าง เพราะหลังฝนตกฟ้าก็ใสกระจ่าง สวยงามจริง ๆ ประมาณ15 นาทีฝนก็ซาลงเราจึงเดินทางต่ออีกจนถึงที่หมายปลายทางประมาณบ่าย 4 โมงกว่า สรุปว่าเราใช้เวลาเดินทาง ถึง 8 ชั่วโมงสู่เขาใหญ่ แต่..เราพบโจทย์ต่อไปที่เราต้องช่วยกันไขปัญหา....นั่นคือ เราได้จองตั๋วเพื่อไปส่องดูสัตว์ประมาณ 1 ทุ่ม แต่เราต้องออกเดินเท้าไปคอยรถที่ปากทางเข้าเวลา ประมาณ 18.45 น. เพราะฉะนั้นเรามีเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกับภารกิจ

     1. กางเต๊นท์เพื่อให้พวกเราได้นอนสูดดมกลิ่นไอดินธรรมชาติ (โอ้ว..โรแม้นติก..จิง ๆ)

            2. หุงข้าว+ทำกับข้าว (ไม่มีหม้อหุงข้าวไฟฟ้าด้วยนะ โอย...คิดถึงมาม้า)

ดังนั้นด้วยเวลาที่จำกัดกับภารกิจเพื่อที่เราจะได้ทำในสิ่งที่ทุกคนมีเป้าประสงค์ตรงกัน จึงต้องอาศัยกลยุทธ์การกระจายอำนาจและ Put the right job to the right man เราแบ่งทีม ออกเป็น 2 ทีม คือ ทีมที่1 รับผิดชอบกางเต๊นท์ เนื่องจากสินชัย+ไก่ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์และความสามารถในการกางเต๊นท์มาก่อนจึงเป็นหัวหน้าทีมโดยมีพี่ตุ้มและเราเองเป็นลูกน้องถึงแม้ว่าเราจะมีตำแหน่งเป็นส.ว.(สูงวัยจ้ะ) เราก็ต้องทำตามผู้นำ ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ความสำเร็จต้องมาก่อน (แล้วค่อยตามไปเอาคืนภายหลัง ฮิฮิฮิ)

 

สำหรับทีมที่ 2 กับภารกิจหุงข้าว+ทำกับข้าวจะมีพี่ปัท+บี เป็นแม่ทัพ โดยมีเล็ก(ตัวใหญ่พอดี)กับน้องฝน(ที่ตัวเล็กจริง ๆ) เป็นลูกทีม โดยมีเมนูอาหารคือ ไข่เจียว ผัดผักบุ้ง ต้มยำ หอยหวาน ฯลฯทั้ง 4 คนช่วยกันทำงานมือเป็นระวิง เล็กทำหน้าที่หุงข้าว ซึ่งผลออกมาข้าวที่หุงมามียศถาบรรดาศักดิ์เป็นข้าว 3 กษัตร คือข้างบนดิบ ตรงกลางสุก ข้างล่างไหม้ (-o-) พี่ปัทกับบีทำกับข้าวหน้ามันจนเจียวไข่ได้ สำหรับน้องฝนมีหน้าที่เป็น general เบ๊

 

ในขณะที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ของตนเองก็จะมีเสียงตะโกนแซวกันเป็นระยะ ๆ

" ....หุงข้าวเสร็จหรือยังอย่าให้ข้าวไหม้นะ "

" ...เนี่ยหาไม้มาดงข้าวไม่ได้เลย "

" ลองเอาไม้นี่ไปขัดฝาหม้อซี่จะได้สะดวก "

"เต๊นท์น่ะต้องนอนคืนนี้นะ กาง ๆ หุบ ๆ แล้วเมื่อไหร่จะเสร็จล่ะ"

" คู่มือกางเต๊นท์อยู่ไหน ใตรเห็นบ้าง? "    "....อยู่นี่ไง มิน่ากางไม่ถูกซะที " 

"งานเธอเสร็จหรือยัง งานเราใกล้เสร็จแล้วเดี๋ยวเราไปช่วยนะ "

" น้องฝนถ่ายรูปน้าๆ หรือยัง ถ้าไม่มีรูปนะน่าดู...ฮึ่ม..!!!!"   "น้องฝนเอานี่ไปล้างหน่อย"  อะไร อะไร ก็น้องฝน...น้องฝน

 

นับเป็นภารกิจที่ทุกคนเต็มอกเต็มใจและมีความสุขขณะทำงานจริง ๆ จนในที่สุดภารกิจของพวกเราก็สำเร็จทันเวลา 6 โมงเย็น ขณะที่พวกเรานั่งล้อมวงรับประทานอาหารกันเราเกิดความสุขในประสาทสัมผัสต่าง ๆ

ทางการมองเห็นเราอยู่ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงาม ประทับใจ เย็นตาเย็นใจ

    ทางจมูกได้กลิ่นหอมของดินหลังฝนตกใหม่ ๆ อากาศเย็นสดชื่น

        ทางหูได้ยินเสียงนกร้องกระจิ๊บ กระจิ๊บ จากบริเวณรอบๆ

            ทางปากได้รับประทานอาหารอร่อย ๆ จากฝีมือพวกเราเอง

                 ทางใจเราเกิดความสุขความเครียดจากงานจากสิ่งต่าง ๆ ที่เคยรุมเร้าหายไปหมดสิ้น

เส้นทางที่เราเดินทางสู่เขาใหญ่นั้นไม่ได้ราบเรียบหรือสะดวกสบายเราพบทั้งทางเรียบ ทางขึ้นเขา ทางโค้ง ทางลงเขา ขณะเดินทางมีอุปสรรคมากมาย มีภารกิจที่เราต้องช่วยกันแก้ไข เปรียบดังเส้นทางชีวิตของมนุษย์ทำงานทุกคนที่มิได้ราบเรียบดุจถนนที่ปูคอนกรีต ขณะที่เราทำงานจะมีปัญหาต่าง ๆ มาให้เราได้ขบคิดและรับการแก้ไขต่าง ๆ การ Put the right job to the right man รู้จักการปรับตัวทำงานให้ตรงกับงานเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้งานสำเร็จ  นอกจากนี้การรับผิดชอบและทำงานอย่างมีความสุข ก็จะทำให้เรามีความสุขมากขึ้น

เส้นทางสู่เขาใหญ่..กับเส้นทางชีวิตคนเราไม่ได้แตกต่างกันเลย